รีวิว ตรวจสเปิร์ม ตรวจภาวะมีบุตรยากสำหรับผู้ชาย ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2

หลังจากแต่งงานมาได้ 3 ปีกว่า ผมกับภรรยาก็ยังไม่มีลูกสักที จนเราสองคนตัดสินใจปรึกษาแพทย์ และตรวจภาวะมีบุตรยาก เพื่อหาความผิดปกติ และเตรียมความพร้อมที่จะมีน้องกันอย่างจริงจังที่โรงพยาบาลพญาไท 2 กันครับ

ผมได้ยินว่า โปรแกรมนี้จะตรวจสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการมีบุตรอย่างละเอียด ตรวจสเปิร์มและได้ปรึกษากับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ด้วย ผมกับภรรยาเลยตัดสินใจจองคิวทำนัดผ่าน HDmall.co.th เข้ามาเลยครับ

ถึงแม้ตัวโปรแกรมจะแยกหญิงชายกัน แต่เวลาตรวจ ผมกับภรรยาสามารถตรวจไปพร้อมกัน และเข้าพบคุณหมอได้พร้อมกันเลยครับ

รีวิว ตรวจภาวะมีบุตรยาก สำหรับผู้ชาย

ในบทความนี้ ผมจะขอลงลึกรายละเอียดการตรวจสุขภาพสำหรับผู้ชายเยอะหน่อยครับ แต่ภรรยาผมก็มีเขียนรีวิวแยกไปอีกบทความสำหรับผู้หญิงเหมือนกัน คุณผู้หญิงคนไหนสนใจอยากอ่าน สามารถคลิกได้ที่ลิงก์นี้เลยครับ (อ่านรีวิว ตรวจภาวะมีบุตรยาก จากคนที่เคยผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์)

ศูนย์ตรวจสำหรับผู้ที่มีบุตรยากจะอยู่ที่ชั้น 8 อาคาร B ของโรงพยาบาลพญาไท 2 ครับ เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาลเราก็ลงทะเบียนแล้วก็ขึ้นลิฟต์ไปที่ศูนย์ตรวจได้เลย

การจองคิวผ่าน HDmall.co.th ทำให้เราไม่ต้องวุ่นวายกับการทำประวัติใหม่ครับ เพียงแค่ยื่นคูปองที่ได้จากอีเมลก็รอเข้ารับบริการได้เลยครับ

เจ้าหน้าที่จะให้กรอกข้อมูลในเอกสารเล็กน้อย เพื่อเป็นการยินยอมเข้ารับบริการตรวจทุกขั้นตอน จากนั้นผมกับใหม่ก็ไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันเลือด และเจาะเลือดกัน ทุกขั้นตอนมีเจ้าหน้าที่พยาบาลและเจ้าหน้าที่เจาะเก็บตัวอย่างเลือดดูแลทั้งหมดครับ อุ่นใจมากๆ

เมื่อเจาะเลือดเสร็จแล้ว เราก็เข้าไปพบคุณหมอเพื่อพูดคุยซักประวัติสุขภาพกันต่อครับ

ขั้นตอนที่ 1 ซักประวัติและโรคประจำตัวโดยละเอียด

การซักประวัติของคุณหมอจะค่อนข้างละเอียดและใช้เวลาเล็กน้อยครับ แต่คุณหมอใจดีมากๆ น้ำเสียงนุ่มนวล และมีการอธิบายอยู่ตลอดว่า ถามคำถามนี้ทำไม? ข้อมูลตรงนี้สำคัญอย่างไร? แล้วมันนำไปสู่ขั้นตอนอะไรต่อจากนี้?

ซึ่งในการซักประวัติส่วนมากจะเน้นไปหนักไปทางภรรยาของผมครับ เนื่องจากเขาเคยมีประวัติสุขภาพเป็นช็อกโกแลตซีสต์จนต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้ง ระยะเวลาที่ผ่าตัดไปก็นานหลายปีแล้วครับ แต่ก็ยังจำเป็นต้องเล่าประวัติการรักษาให้คุณหมอฟังอย่างละเอียด

ส่วนข้อมูลที่ผมได้พูดคุย คุณหมอสอบถามประวัติโรคประจำตัวของผม ซึ่งส่วนตัวผมมีอาการภูมิแพ้นิดหน่อยครับ แค่คัดจมูก มีน้ำมูกในตอนเช้า แต่ไม่ถึงกับอาการหนักอะไร แล้วก็สอบถามเกี่ยวกับประวัติการผ่าตัด ซึ่งผมไม่เคยผ่าตัดเลยครับ

ต่อด้วยการซักประวัติโรคประจำตัวในผู้ใกล้ชิดทางสายเลือด เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง หรือญาติสนิทของเรา ซึ่งในส่วนของครอบครัวภรรยาของผมนั้นไม่มี แต่คุณพ่อของผมท่านมีประวัติโรคความดันโลหิตสูง แต่คุณหมอบอกว่าไม่ได้กระทบอะไรกับภาวะมีบุตรยากครับ

นอกจากนี้คุณหมอก็สอบถามพฤติกรรมส่วนตัวว่าดื่มเหล้าสูบบุหรี่มั้ย ซึ่งส่วนตัวผมก็ดื่มบ้างเป็นครั้งคราว และเลิกบุหรี่มาได้ 4-5 ปีแล้ว ถัดมาก็พวกประวัติปัสสาวะเป็นเลือด ความผิดปกติเกี่ยวกับอัณฑะ ซึ่งผมก็ไม่มีความผิดปกติเหล่านี้ครับ

ขั้นตอนที่ 2 เก็บตัวอย่างสเปิร์ม

หลังจากพูดคุยกับคุณหมอเสร็จแล้ว ผมต้องแยกกับภรรยาเพื่อลงไปเก็บสเปิร์มที่ชั้น 3 ครับ ส่วนภรรยาจะไปอัลตราซาวด์อยู่ที่ชั้น 8 เหมือนเดิม

เมื่อลงไปถึงชั้น 3 เป็นชั้นของห้องคลอดครับ ในโซนนี้มีมาตรการปลอดเชื้อค่อนข้างสูงเลยครับ พยาบาลจะให้ผมสวมชุดเสื้อคลุมทับอีกชั้น และให้เปลี่ยนรองเท้าเป็นอีกคู่แทนครับ

เมื่อใส่เสื้อกับรองเท้าเสร็จแล้ว พยาบาลก็กลับมาพร้อมกับกระติกใบเล็กๆ ครับ บนกระติกมีชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดที่ผมจะต้องทวนให้พยาบาลฟังอีกครั้งเพื่อความแม่นยำของข้อมูลที่ต้องตรงกับอุปกรณ์เก็บสเปิร์ม

จากนั้นพยาบาลก็อธิบายเกี่ยวกับการเก็บเสื้อคลุมและรองเท้าหลังจากเก็บเชื้อสเปิร์มเสร็จว่า จะต้องนำไปวางไว้ที่ห้องไหนบ้าง แล้วก็พาผมเดินเข้าไปที่หน้าห้องเก็บสเปิร์มครับ

เมื่ออธิบายเสร็จ พยาบาลก็ให้ผมเข้าไปในห้อง พอเข้ามาในห้องเก็บสเปิร์มรู้สึกเหมือนอยู่คนละโลกกับข้างนอกเลย เป็นห้องเล็กๆ มีไฟสีส้มๆ สลัวๆ มีโซฟาและทีวีสำหรับเปิดหนังผู้ใหญ่ แต่จะดูหรือไม่ดูก็ได้นะครับ แล้วแต่คนเลย พยาบาลจะสอนวิธีเปิดทีวีไว้ให้ แล้วจะปล่อยให้ผมเก็บสเปิร์มตามลำพังครับ

ผมใช้เวลาเก็บสเปิร์มใส่อุปกรณ์ เปลี่ยนเสื้อผ้า นำส่งกระติกไว้ตามที่พยาบาลบอกประมาณ 30 นาทีได้ครับ จากนั้นก็กลับขึ้นมาหาภรรยาบนชั้น 8 อีกครั้ง ตอนนั้นใหม่เพิ่งอัลตราซาวด์เสร็จเหมือนกัน เราสองคนเลยลงไปกินข้าวกลางวันด้วยกันเพราะต้องรอผลตรวจทั้งหมดอีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งครับ

ขั้นตอนที่ 3 ฟังผลตรวจสเปิร์มและผลตรวจสุขภาพ

สำหรับผลตรวจสุขภาพในเบื้องต้นผมของ ไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ ความเสี่ยงโรคต่างๆ นั้นไม่มี ส่วนผลตรวจสเปิร์มออกมาว่า ปริมาณสเปิร์มที่ผมเก็บได้อยู่ที่ 4.5 ซีซี เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ต้องมากกว่า 1.5 ซีซี ถือว่าเยอะดีมากครับ

ส่วนความเข้มข้นของเชื้อสเปิร์มที่ต้องมากกว่า 1.5 ล้านตัวต่อ 1 ซีซี ความเข้มข้นของเชื้อสเปิร์มผมอยู่ที่ 20 ล้านซีซี จัดว่าผ่านเกณฑ์เช่นกันครับ

แต่คุณหมอก็แจ้งต่อว่า สเปิร์มของผมมีตัวที่ตายเยอะ ไม่ถึงเกณฑ์สเปิร์มที่จะต้องมีชีวิตมากกว่า 40% ของปริมาณที่เก็บได้ และผมมีสเปิร์มที่แข็งแรง ว่ายไปข้างหน้า สามารถเข้าไปเจาะผสมกับไข่ได้เพียง 10% เท่านั้นครับ ซึ่งตามเกณฑ์แล้วมันต้องมากกว่า 32%

หลังจากฟังผลตรวจคุณหมอก็สรุปสั้นๆ ในส่วนนี้ว่า เมื่อเราไม่มีสเปิร์มปกติที่แข็งแรงพอจะไปเจาะกับไข่ได้ ทีนี้โอกาสท้องมันก็จะยากขึ้นครับ เพราะไข่มีโอกาสปฏิสนธิกับเชื้อสเปิร์มได้น้อยลง

คุณหมอยังได้คลายข้อสงสัยที่คู่รักหลายคู่มักจะถามคุณหมอด้วยครับว่า ถ้าสเปิร์มไม่มีคุณภาพแบบนี้ ลูกจะพิการมั้ย คำตอบคือ ไม่ครับ เพราะมีแต่สเปิร์มที่แข็งแรงเท่านั้นที่จะเข้าไปผสมกับไข่จนเกิดเป็นทารกได้

สำหรับผลตรวจสุขภาพของภรรยาจะค่อนข้างยาวครับ แต่เมื่อฟังผลตรวจกันครับทั้ง 2 คนแล้ว คุณหมอก็ให้คำแนะนำในการปรับปรุงสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น เพื่อให้ผมผลิตสเปิร์มที่แข็งแรงได้มากขึ้น และเพื่อให้ภรรยาผมได้ผลิตไข่ที่มีคุณภาพได้หลายใบมากขึ้นครับ

หลักๆ ที่เราต้องทำมีอยู่ 3 อย่าง คือ กินดี นอนดี ออกกำลังกายดี และต้องดการเข้าซาวน่า แช่น้ำร้อน หรือสปาอุณหภูมิสูงๆ ไปสักระยะครับ เพราะความร้อนมันส่งผลต่อทั้งสเปิร์มและไข่อย่างมากจริงๆ

สำหรับใครที่อยากตรวจภาวะมีบุตรยากเหมือนอย่างผมและภรรยา เข้าไปจองคิวทำนัดได้ที่เว็บไซต์ HDmall.co.th เลยนะครับ ราคาที่ซื้อเป็นแบบได้ส่วนลดด้วย และมีแอดมินคอยตอบคำถามเมื่อมีข้อสงสัยต่างๆ ด้วยครับ

ข้อมูล ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร โรงพยาบาลพญาไท 2

ขยาย

ปิด

• วันเวลาทำการ: วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 07.00-16.00 น.
• วิธีการเดินทาง: BTS สถานีสนามเป้า (ทางออก 1) ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
• สถานที่ตั้ง: ชั้น 10 อาคาร B เลขที่ 943 ถ. พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 ดูแผนที่
• ดูแพ็กเกจจาก โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ที่นี่

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

• Semen analysis (การตรวจความสมบูรณ์น้ำอสุจิ) คืออะไร?
• รวมเทคโนโลยีแก้ปัญหามีบุตรยาก IVF, IUI, ICSI, IMSI