gabapentin scaled

Gabapentin (กาบาเพนติน)

ยา กาบาเพนติน (Gabapentin) จัดเป็นยากันชัก (anticonvulsant หรือ antiepileptic drug) เพื่อป้องกันและควบคุมอาการชัก นอกจากนี้ยังใช้บรรเทาอาการปวดเส้นประสาทที่เกิดจากโรคงูสวัด และโรคที่มีผื่น มีอาการปวดแสบปวดร้อน ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ herpes zoster

สรรพคุณของยา Gabapentin

  • รักษาโรคลมชัก ยากาบาเพนติน มีสรรพคุณพัฒนาเพื่อรักษาโรคลมชัก ต้านอาการชัก เป็นหลัก สามารถใช้รักษาโรคอื่นได้ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์
  • บรรเทาอาการปวดเส้นประสาท ปวดปลายประสาท จากโรคเบาหวาน งูสวัด และสาเหตุอื่นๆ
  • อาการอื่นๆ ในบางครั้งจะใช้บรรเทาอาการโรควิตกกังวลทั่วไป, บรรเทาอาการขากระตุก, โรคเกี่ยวกับเส้นประสาทหรือบรรเทาอาการเจ็บปวด

เนื่องจากยานี้อาจมีผลข้างเคียงและอาจมีปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ ที่ผู้ป่วยใช้อยู่ จึงควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยา

วิธีใช้ยา gabapentin

ยากาเบเพนตินที่ใช้ ที่นิยมใช้จะเป็นแบบ gabapentin 100 mg และ gabapentin 300 mg (มีขนาดอื่น เช่น 400mg, 600 mg ขึ้นกับอาการผู้ป่วย)

ขนาดยา สำหรับต้านอาการชัก ประมาณวันละ 900-3,600 มก. แบ่งทาน 3 ช่วง ตามแพทย์และเภสัชกรสั่ง หากใช้บรรเทาอาการปวดปลายประสาทอาจใช้เพียงไม่เกิน 300 มก. ต่อวัน

  • อ่านคำแนะนำในการใช้ยาที่ได้รับจากเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ และในทุกครั้งที่มารับยาซ้ำ หากมีคำถามใดๆ ให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกร
  • รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ โดยขนาดยาที่ได้รับจะขึ้นกับสภาวะโรคและการตอบสนองต่อการรักษาของคุณ ในเด็กขนาดยาจะคำนวณตามน้ำหนักตัว
  • ถ้าคุณได้รับยา gabapentin เป็นยาเม็ด และแพทย์สั่งให้คุณรับประทานยาครึ่งเม็ด คุณจะต้องหักแบ่งเม็ดยาเพื่อรับประทานครั้งละครึ่งเม็ด โดยเก็บยาอีกครึ่งเม็ดที่เหลือไปรับประทานในมื้อถัดไป ทั้งนี้หากแบ่งเม็ดยาไปแล้ว แต่ไม่ได้รับประทานครึ่งเม็ดส่วนที่เหลือเป็นเวลาหลายวัน ให้ทิ้งครึ่งเม็ดที่เหลือนั้นไป  หากคุณได้รับยา gabapentin ในรูปแบบแคปซูล ให้กลืนยาทั้งแคปซูลและดื่มน้ำตามมากๆ
  • สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องปฏิบัติตามวิธีการใช้ยาที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ในช่วงไม่กี่วันแรกของการใช้ยา แพทย์อาจค่อยๆ ปรับขนาดยาขึ้นเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวกับยา เพื่อลดการเกิดอาการข้างเคียงจากยาให้รับประทานยานี้ก่อนนอนในช่วงแรกของการใช้ยา
  • ให้รับประทานยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาเต็มที่ ยา gabapentin จะออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดเมื่อมีระดับยาในเลือดคงที่ ดังนั้นจึงให้รับประทานยาด้วยช่วงระยะเวลาที่ห่างเท่าๆ กัน โดยแนะนำให้รับประทานยาในเวลาเดียวกันของทุกวัน หากคุณใช้ยานี้วันละ 3 ครั้งเพื่อควบคุมอาการชัก อย่าเว้นระยะห่างของการรับประทานยาแต่ละมื้อเกิน 12 ชั่วโมง เพราะอาจเกิดอาการชักขึ้นได้
  • ห้ามรับประทานยานี้บ่อยกว่าที่แพทย์สั่ง หรือปรับเพิ่มขนาดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เพราะไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นเร็วกว่าเดิม อีกทั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงอีกด้วย
  • ห้ามหยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เพราะอาการบางอย่างอาจแย่ลงหากหยุดยากะทันหัน ซึ่งอาจจำเป็นต้องค่อยๆ ปรับลดขนาดยาลงก่อนหยุดยา
  • ยาลดกรดที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียม (aluminium) หรือ แมกนีเซียม (magnesium) อาจรบกวนการดูดซึมยา gabapentin ได้ ดังนั้นถ้าคุณต้องรับประทานยาลดกรดร่วมด้วย ให้รับประทานยาหลังจากยาลดกรดอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  • ยา gabapentin รูปแบบต่างๆ เช่น รูปแบบออกฤทธิ์ทันที, รูปแบบออกฤทธิ์ช้า จะมีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายที่แตกต่างกัน ดังนั้นห้ามเปลี่ยนรูปแบบยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์

แจ้งแพทย์หากอาการของคุณไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง

ผลข้างเคียงของยา gabapentin

  • อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากยา gabapentin คือ ง่วงนอน, เวียนศีรษะ, สูญเสียการประสานงานกันของร่างกาย, อ่อนเพลีย, ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน, การเคลื่อนไหวของตาผิดปกติ หรือมีอาการสั่น ถ้าอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
  • โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
  • แจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง ได้แก่ มีอาการบวมที่มือ ข้อเท้า และเท้า
  • มีผู้ป่วยจำนวนไม่มากนักที่ใช้ยากันชักสำหรับรักษาโรคใดๆ ก็ตาม (เช่น อาการชัก, โรคไบโพล่าร์, อาการปวด) อาจพบว่ามีอาการซึมเศร้า, มีความคิดฆ่าตัวตาย/พยายามฆ่าตัวตาย, หรือมีปัญหาทางจิตใจ/อารมณ์ระหว่างใช้ยาได้ ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณ หรือคนในครอบครัว หรือผู้ดูแล สังเกตเห็นว่าคุณมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ/มีการเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใดเกี่ยวกับอารมณ์ ความคิด พฤติกรรม มีอาการซึมเศร้า มีความคิดฆ่าตัวตาย/พยายามฆ่าตัวตาย หรือคิดทำร้ายตนเอง
  • ไปพบแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงมาก ได้แก่ หายใจช้า หายใจตื้น
  • ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ มีไข้, ต่อมน้ำเหลืองโต, ผื่น, คัน บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ), เวียนศีรษะรุนแรง, หายใจลำบาก

อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อควรระวังในการใช้ยา gabapentin

  • ถ้าคุณแพ้ยา gabapentin หรือ gabapentin enacarbil หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
  • ก่อนการใช้ยา gabapentin ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นโรคไต, มีปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์ จิตใจ เช่น ซึมเศร้า มีความคิดฆ่าตัวตาย, ใช้สารเสพติด หรือติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, มีปัญหาในการหายใจ
  • ยา gabapentin อาจทำให้วิงเวียนศีรษะ หรือง่วงนอน หรือตาพร่ามัว โดยแอลกอฮอล์จะทำให้อาการวิงเวียนศีรษะและอาการง่วงนอนเป็นมากขึ้น ห้ามขับรถ, ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องอาศัยการตื่นตัวหรือการมองเห็นที่ชัดเจน จนกว่าคุณจะทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย แนะนำให้จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
  • ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรที่กำลังใช้อยู่
  • ผู้สูงอายุอาจเกิดผลข้างเคียงจากยามากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะอาการบวมที่มือ ข้อเท้า เท้า, หายใจช้า หายใจตื้น, เวียนศีรษะ หรือสูญเสียการประสานงานกันของร่างกาย ซึ่งอาการเวียนศีรษะและการสูญเสียการประสานงานกันของร่างกายจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มได้
  • เด็กอาจเกิดผลข้างเคียงจากยามากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ จิตใจ พฤติกรรม เช่น การต่อต้าน, ปัญหาในการมีสมาธิจดจ่อ, กระสับกระส่าย
  • ระหว่างการตั้งครรภ์ ยานี้ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นจริงๆ โดยให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับจากยานี้ขณะตั้งครรภ์
  • ยา gabapentin ผ่านไปยังน้ำนมได้ โดยให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร

การใช้ยา gabapentin ร่วมกับยาอื่น

การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์

ยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา gabapentin เช่น

  • Orlistat
  • Sodium oxybate

แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรถ้าคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ทำให้มีอาการง่วงนอน เช่น

  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ยาต้านอีสตามีน เช่น cetirizine, diphenhydramine
  • ยาสำหรับช่วยให้นอนหลับ หรือรักษาอาการวิตกกังวล เช่น alprazolam, diazepam, zolpidem
  • ยาคลายกล้ามเนื้อ
  • ยาแก้ปวดกลุ่มที่ทำให้เสพติดได้ เช่น codeine, morphine

แนะนำให้อ่านฉลากยาทุกชนิดก่อนใช้ยา เช่น ยาแก้แพ้ หรือยาแก้ไอ-แก้หวัด เพราะอาจมีส่วนประกอบของยาที่ทำให้ง่วงนอน โปรดสอบถามเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีในการใช้ยานี้อย่างปลอดภัย

ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่นที่มีส่วนประกอบของยา gabapentin รวมถึง gabapentin enacarbil

ยา gabapentin อาจรบกวนผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจโปรตีนในปัสสาวะ ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์และเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการทราบว่าคุณกำลังใช้ยานี้อยู่

การได้รับยา gabapentin เกินขนาด

  • หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา gabapentin เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
  • อาการของการได้รับยาเกินขนาดอาจได้แก่ ง่วงนอนอย่างรุนแรง, พูดไม่ชัด, อ่อนแรง

หมายเหตุ: ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้

หากลืมรับประทานยา gabapentin

ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า

ถ้าคุณรับประทานยา gabapentin วันละ 3 ครั้ง เพื่อควบคุมอาการชัก ห้ามเว้นระยะห่างระหว่างยาแต่ละมื้อเกิน 12 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เกิดอาการชักขึ้นได้ โดยให้ปรึกษาแพทย์ทันทีหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

การเก็บรักษายา gabapentin

เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องอาบน้ำ เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก

Scroll to Top