ริดสีดวง เป็นโรคไม่ร้ายแรงแต่สร้างความรำคาญหรือมีผลต่อความมั่นใจของผู้ป่วย แนวทางการรักษาริดสีดวงขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ว่าเป็นริดสีดวงภายในทวารหนัก (ในลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย) หรือเป็นริดสีดวงภายนอก (ใต้ผิวหนังรอบๆ รูทวารหนัก) และพิจารณาร่วมกับความรุนแรงของริดสีดวงที่เป็น
การรักษาริดสีดวงแบ่งออกเป็น 2 แนวทางใหญ่ๆ ได้แก่ การรักษาริดสีดวงแบบผ่าตัด กับ การรักษาริดสีดวงแบบไม่ผ่าตัด
รู้จัก ริดสีดวงทวาร มีแบบไหนบ้าง อาการเป็นอย่างไร มีกี่ระยะ คลิกอ่านต่อ
การรักษาริดสีดวงแบบผ่าตัด
ทางเลือกในการรักษาริดสีดวงแบบผ่าตัด ได้แก่ ผ่าตัดแบบดั้งเดิม (ตัดแล้วเย็บแผล) ผ่าตัดรักษาริดสีดวงด้วยเครื่องตัดเย็บอัตโนมัติ มักใช้รักษาริดสีดวงขนาดใหญ่หรือระยะที่เป็นมาก
การผ่าตัดริดสีดวงแบบดั้งเดิม
เป็นวิธีที่ใช้รักษาริดสีดวงภายในตั้งแต่ระยะที่เมื่อขับถ่ายอุจจาระแล้วหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักโดยไม่หดกลับเข้าไปเอง รวมถึงใช้รักษาริดสีดวงภายนอกที่มีขนาดใหญ่
การผ่าตัดรักษาริดสีดวงแบบดั้งเดิมจำเป็นต้องทำในสถานพยาบาล มีการใช้ยาระงับความรู้สึกโดยอาจเป็นยาสลบหรือใช้วิธีบล็อกหลัง แพทย์จะกรีดเปิดผิวหนังบริเวณรูทวารหนักเพื่อขยายพื้นที่ให้เห็นก้อนริดสีดวงภายในได้ชัดเจน จากนั้นเข้าผ่าตัดนำก้อนริดสีดวงออก แล้วเย็บปิดแผล
ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิมคือความเจ็บปวดและความเสี่ยงที่จะติดเชื้อที่มากกว่าการรักษาริดสีดวงวิธีอื่นๆ อีกทั้งการผ่าตัดเปิดบริเวณทวารหนักยังกระทบกับกล้ามเนื้อหูรูด ทำให้อาจมีปัญหากลั้นอุจจาระได้ในอนาคต
หลังผ่าตัด ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 2 สัปดาห์ หรือ 3-6 สัปดาห์หลังผ่าตัดจึงจะกลับมาเป็นปกติ
การผ่าตัดรักษาริดสีดวงด้วยเครื่องตัดเย็บอัตโนมัติ
เป็นวิธีที่ใช้รักษาริดสีดวงภายในตั้งแต่ระยะที่เมื่อขับถ่ายอุจจาระแล้วหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักโดยไม่หดกลับเข้าไปเอง โดยจะซ่อมแซมให้หัวริดสีดวงกลับเข้าไปอยู่ในช่องทวารหนัก แล้วตัดทางไหลเวียนของเลือด ไม่ให้มาเลี้ยงที่ริดสีดวง ส่งผลให้เนื้อเยื่อริดสีดวงฝ่อลงในที่สุด
การผ่าตัดนี้ระงับความรู้สึกผู้ป่วยด้วยยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบ
ผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดริดสีดวงด้วยเครื่องตัดเย็บอัตโนมัติมักใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าผ่าตัดแบบเปิด อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานแสดงว่าหลังรักษาริดสีดวงด้วยวิธีนี้แล้ว ผู้ป่วยกลับมาเป็นริดสีดวงซ้ำ หรือมีหัวริดสีดวงยื่นออกจากรูทวารได้อีก
การผ่าตัดริดสีดวงแบบจี้ไฟฟ้า
การผ่าตัดริดสีดวง แบบจี้ไฟฟ้า (บางครั้งแรกว่าการผ่าตัดริดสีดวงแบบ LigaSure ตามชื่อยี่ห้ออุปกรณ์จี้ไฟฟ้า) เป็นการผ่าตัดรักษาริดสีดวงด้วยอุปกรณ์ที่สามารถตัดริดสีดวงออกพร้อมเย็บด้วยเลยในครั้งเดียว รักษาริดสีดวงได้ทั้งภายใน ภายนอก และทุกระยะความรุนแรงของริดสีดวง
โดยเฉพาะผู้เป็นริดสีดวงภายในระยะที่เมื่อขับถ่ายออกมาแล้วหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกรูทวารหนัก โดยไม่สามารถหดกลับได้เอง เนื่องจากเมื่อเป็นริดสีดวงในระยะนี้ การรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ผ่าตัดริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA จะใช้ไม่ได้ผล
รักษาริดสีดวงแบบไม่ผ่าตัด
การรักษาริดสีดวงแบบไม่ผ่าตัดเหมาะกับผู้มีริดสีดวงขนาดเล็ก หรือเป็นระยะไม่รุนแรง การรักษามักตัดทางเดินเลือดที่มาเลี้ยงริดสีดวง ทำให้ริดสีดวงค่อยๆ ฝ่อลงจนหายหรือหลุดออกไปในที่สุด
การรักษาริดสีดวงด้วยการเหน็บยา
การรักษาริดสีดวงด้วยการเหน็บยา เป็นหนึ่งในวิธีพื้นฐานที่เหมาะสำหรับรักษาผู้ป่วยในระยะเริ่มแรก ที่อาการยังไม่รุนแรงนัก
ยาเหน็บทวารจะมีลักษณะเป็นเม็ดนิ่ม รูปร่างคล้ายกระสวย สอดเข้าไปที่รูทวาร ออกฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการคัน บวม แดงของโรคริดสีดวง และเป็นยาระบาย ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก
แต่หากเหน็บยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีรักษาอื่นๆ ต่อไป
การรักษาริดสีดวงด้วยวิธีฉีดยา
วิธีนี้ใช้รักษาริดสีดวงภายในที่มีขนาดเล็ก ตั้งแต่ระยะต้นจนถึงระยะที่เมื่อขับถ่ายอุจจาระแล้วหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักแต่หดกลับเข้าไปได้เอง
แพทย์จะฉีดยาซึ่งมีคุณสมบัติทำให้ริดสีดวงฝ่อ และไม่มีเลือดมาเลี้ยง ผู้ป่วยมักเจ็บปวดเล็กน้อยจากการฉีดยาหรือไม่เจ็บปวดเลย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เพราะไม่มีความเสี่ยงที่เลือดจะออก
การใช้ยางรัดหัวริดสีดวง
วิธีนี้ใช้รักษาริดสีดวงภายใน ตั้งแต่ระยะต้นจนถึงระยะที่เมื่อขับถ่ายอุจจาระแล้ว หัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักและไม่หดกลับเอง ต้องใช้นิ้วดันถึงจะกลับเข้าไป
แพทย์จะใช้ยางชนิดพิเศษรัดหัวริดสีดวง เพื่อตัดการไหลเวียนของเลือดเข้ามาเลี้ยงริดสีดวง โดยปกติมักต้องรักษาอย่างน้อย 2 ครั้ง ระยะเวลาห่างกันประมาณ 2 เดือน
ผู้ป่วยมักไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่จะรู้สึกถึงความตึงของยางในทวารหนักได้ ทำให้ไม่สบายตัว
การรักษาริดสีดวงด้วยการรัดยางไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเลือดไม่แข็งตัว เพราะมีความเสี่ยงจะเกิดเลือดออกและเกิดอันตรายขึ้นได้
วิธีการรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA
วิธีนี้จัดเป็นการรักษาริดสีดวงแบบไม่ผ่าตัด ไม่มีการกรีดเปิดแผลใดๆ (แต่จะมีการทำหัตถการในห้องผ่าตัด ซึ่งบางครั้งอาจเรียกวิธีการรักษานี้เป็นการผ่าตัดก็ได้) เป็นวิธีการรักษาริดสีดวงที่เจ็บน้อย หายเร็ว ใช้สำหรับรักษาริดสีดวงภายในที่ขนาดไม่ใหญ่มาก หลังรักษาแล้วกลับบ้านได้ในวันนั้น ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
การรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA คืออะไร
คลื่นความถี่สูง RFA (Radiofrequency Ablation) คือ คลื่นความถี่วิทยุที่ใช้ในทางการแพทย์มาตั้งแต่ทศวรรษ 1990s เพื่อรักษาอาการปวดเรื้อรังบริเวณหลัง คอ ข้อต่อ รวมถึงใช้รักษาเส้นเลือดขอด
สำหรับการรักษาริดสีดวง คลื่นความถี่สูง RFA จะทำให้ก้อนริดสีดวงหดตัว และทำลายเนื้อเยื่อริดสีดวงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด
ขั้นตอนการรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA
ขั้นตอนที่ 1 แพทย์ทาเจลหล่อลื่นที่อุปกรณ์สำหรับส่องช่องทวารหนัก (Anoscape) แล้วสอดเข้าไปทางทวารหนักของผู้ป่วย
ขั้นตอนที่ 2 แพทย์ฉีดยาชาเฉพาะที่ บริเวณก้อนริดสีดวงที่จะทำการรักษา
ขั้นตอนที่ 3 แพทย์ใช้อุปกรณ์ซึ่งปลายมีลักษณะเป็นเข็มขนาด 2 มิลลิเมตร จี้ที่ก้อนริดสีดวง แล้วปล่อยพลังงานความร้อนออกไป โดยความร้อนจะไปทำลายเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงริดสีดวงทวาร ทำให้ก้อนริดสีดวงฝ่อและยุบลง ขณะทำจะเห็นว่าเนื้อเยื่อริดสีดวงเปลี่ยนสี แสดงว่าการรักษาได้ผล
ขั้นตอนที่ 4 แพทย์ทำความสะอาดและประคบเย็นบริเวณที่ทำการรักษาริดสีดวงด้วยผ้าก๊อซเปียก จากนั้นนำอุปกรณ์ส่องช่องทวารหนักออก
การรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่เป็นริดสีดวงภายในระยะที่ 2-3 หรือระยะที่เมื่อขับถ่ายอุจจาระแล้วหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักและหดกลับเข้าไปได้เอง จนถึงระยะที่เมื่อขับถ่ายแล้วหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักแล้วต้องใช้นิ้วดันจึงจะหดกลับเข้าไปได้
ข้อดีของการรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA
- การรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไม่มีแผล เจ็บน้อย ความเสี่ยงที่จะเสียเลือดหรือติดเชื้อน้อยกว่าการรักษาริดสีดวงแบบผ่าตัด
- ไม่มีแผล ไม่กระทบกระเทือนกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก ทำให้มีความเสี่ยงเกิดปัญหาเกี่ยวกับการกลั้นอุจจาระในอนาคต
- เมื่อเทียบกับการรักษาริดสีดวงแบบไม่ผ่าตัดอื่นๆ เช่น แบบรัดยาง วิธีนี้ผู้ป่วยจะสบายตัวมากกว่า เพราะไม่มีอะไรค้างอยู่ภายในทวารหนัก
- ใช้เวลารักษาสั้น เพียง 15 นาที
- สามารถใช้รักษาก้อนริดสีดวงจำนวนมากได้ภายในการทำหัตถการครั้งเดียว
- ไม่ต้องระมัดระวังแผลหลังการรักษา
- เป็นวิธีรักษาที่มีอัตราความสำเร็จ 90%
ข้อจำกัดของการรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA
เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ สำหรับ ริดสีดวงภายใน ที่ขนาดไม่ใหญ่นัก และอยู่ในระยะ 2-3 (ระยะที่เมื่อขับถ่ายอุจจาระแล้วหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักและหดกลับเข้าไปได้เอง จนถึงระยะที่เมื่อขับถ่ายแล้วหัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักแล้วต้องใช้นิ้วดันจึงจะหดกลับเข้าไปได้)
หากเป็นระยะที่ 4 ซึ่งริดสีดวงมีขนาดใหญ่ อาจจะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำสูง
ราคาการรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA
ค่าใช้จ่ายในการรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA นั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ค่าแพทย์และค่าบริการของแต่ละสถานพยาบาล แต่โดยทั่วไปการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนจะอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท ขึ้นไป
หากอยากทราบราคาที่แน่ชัด สามารถทักมาถาม HDcare ช่วยเช็กราคา ประเมินค่าผ่าตัดให้คุณได้ทันที พร้อมนัดคิวกับคุณหมอเฉพาะทาง สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องคอยนาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
การรักษาริดสีดวงด้วยคลื่นความถี่สูง RFA เป็นวิธีรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลหลังทำ ผู้ป่วยมักเจ็บน้อยหรือไม่เจ็บเลยระหว่างรักษาและหลังรักษา ทั้งยังเป็นวิธีรักษาริดสีดวงที่ได้ผลดี
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เป็นการรักษาริดสีดวงที่มีข้อจำกัด ถ้าริดสีดวงมีขนาดใหญ่มากอาจใช้วิธีนี้ไม่ได้ หรืออาจทำได้เพียงช่วยลดขนาดริดสีดวง และทำให้อาการทุเลาลง
ดังนั้นถ้าสงสัยว่าตัวเองอาจเป็นริดสีดวง และต้องการรักษาโดยใช้คลื่นความถี่สูง RFA ควรปรึกษาความเป็นไปได้จากแพทย์ และสอบถามถึงทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นไปได้ให้ครบถ้วน
ข้อสำคัญคือ ยิ่งพบว่าเป็นริดสีดวงเร็ว โดยอาการยังไม่รุนแรง ทางเลือกในการรักษาก็ยิ่งมีมาก
วิธีนี้ดีที่สุดสำหรับเราจริงมั้ย? อยากขอความเห็นที่สอง จากคุณหมอเฉพาะทาง เพื่อเลือกวิธีรักษาที่เหมาะกับเรามากที่สุด ติดต่อทีม HDcare ช่วยทำนัดเข้าปรึกษาคุณหมอ ดูแลกันตั้งแต่ต้นจบ ทำให้การผ่าตัดไม่ยุ่งยากและไม่น่ากลัวอย่างที่คิด คลิกเลย