สีของประจำเดือนมีหลายสี หนึ่งในสีที่มีคนถามเข้ามาบ่อย คือ ประจำเดือนสีน้ำตาลดำ พร้อมอาการบางอย่างที่ชวนสงสัยว่าต้องพบแพทย์หรือไม่
สารบัญ
ประจําเดือนสีน้ำตาล กะปริบกะปรอย
ประจำเดือนมาเป็นสีน้ำตาล กินยาคุมมาเป็นระยะเวลา 10 ปีได้คะ ตอนนี้เลิกกินแล้วคะ ทีแรกเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วก่อนที่จะกินยาคุมเช่น 2 เดือนมาที3 เดือนมาที พอมานี้ก็เป็นอาทิตย์ถึงจะหาย แต่พอกินยาคุมก็ปกติทุกอย่าง พอปีที่ 10 เลิกกินยาคุม 3 เดือนแรก นับได้ 33 วันประจำเดือนจะมา แต่พอเดือนที่ 4 นับจาก33วัน+เลื่อนไปอีก 16 วันรวมเป็น 49 วันถึงประจำเดือนจะมา พอประจำเดือนมาก็มาน้อยเป็นสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นใดๆเหมือนประจำเดือนเลย และมาน้อย กระปิดกระปอย ใช้แค่ผ้าอนามัยชิ้นเล็กชิ้นเดียวต่อวันมาได้ประมาณ 3-4 วันแล้วคะ อย่างอันตรายไหมคะจะมีลูกได้ไหมคะ
ประจำเดือนสีน้ำตาลหรือสีคล้ำกว่าปกติอาจเกิดจากการที่เลือดประจำเดือนไหลออกมาแล้วไปติดค้างอยู่ที่บริเวณช่องคลอดนานเกินไปค่ะ หรือเลือดประจำเดือนที่มีปริมาณน้อยก็ทำให้เป็นสีน้ำตาลหรือคล้ำได้เช่นกันเนื่องจากเลือดจะใช้เวลานานในการไหลออกมา ทำให้เลือดสัมผัสกับอากาศนานและเลือดเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับออกซิเจนในอากาศจึงกลายเป็นสีน้ำตาลนั่นเอง ซึ่งไม่เป็นอันตรายอะไรค่ะ
อย่างไรก็ตาม ต้องมั่นใจว่าเป็นเลือดจากประจำเดือนจริง คือ เลือดไม่ได้ออกกะปริบกะปรอย เลือดมานาน 3-7 วัน ใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น แต่ถ้าเลือดที่ออกไม่ได้อยู่ในช่วงที่ประจำเดือนควรจะมา ออกกะปริบกะปรอย ออกเพียงวันเดียวหรือไม่กี่วัน ลักษณะไม่เหมือนเลือดประจำเดือน อาจเป็นเลือดผิดปกติจากสาเหตุต่างๆ เช่น เลือดล้างหน้าเด็กจากการฝังตัวของตัวอ่อน จากการอักเสบติดเชื้อในช่องคลอด เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว เลือดจากการใช้ยาฮอร์โมน จากมะเร็งปากมดลูก เป็นต้นค่ะ กรณีที่ต้องการจะทราบว่ามีลูกได้หรือไม่นั้นหมอแนะนำให้พบสูตินารีแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายและตรวจภายในเพิ่มเติมดูนะคะ
ตอบโดย พญ. นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์
ประจําเดือนสีน้ำตาล มาน้อย
ถ้าฝังยาคุมกำเนิดแล้วมีเลือดออกเปนสีน้ำตาลหลังจากมีประจำเดือนทุกวันจะเป็นอันตรายอะไรไหม
ยาฝังคุมกำเนิด มีผลข้างเคียงเด่น ๆ เป็นอาการเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ และไม่มีประจำเดือนค่ะ
หากเลือดกระปริบกะปรอยที่ออกมาไม่ได้เกิดขึ้นติดต่อกันนานมากจนสร้างความรำคาญหรือลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน และไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวปริมาณมากผิดปกติ, ตกขาวสีผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะผลข้างเคียงดังกล่าวจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายเองได้
แต่ถ้าผู้ถามมีเลือดประจำเดือนออกมากผิดปกติ (ต้องใช้ผ้าอนามัยมากกว่า 3 แผ่นต่อวัน) หรือนานผิดปกติ (มากกว่า 7 วัน) หรือถี่กว่าปกติ (เป็นมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน) หรือมีเลือดกะปริบกะปรอยติดต่อกันนานมาก อาจเสี่ยงต่อการเสียเลือดมากจนเกิดภาวะซีด
หรือหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย อาจหมายถึงความผิดปกติอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผลข้างเคียงจากยาคุม เช่น อาจมีการติดเชื้อ ซึ่งอาจลุกลามและรุนแรงยิ่งขึ้นหากไม่รักษา
ดังนั้น หากมีเลือดออกมาก/นาน/ถี่เกินไป หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสมนะคะ
ถ้ากินยาปรับฮอร์โมนจะช่วยได้ไหมคะ
ขึ้นอยู่กับว่าความผิดปกตินั้น เกิดจากสาเหตุที่ฮอร์โมนรักษาได้หรือไม่ค่ะ และต่อให้เกิดจากสาเหตุดังกล่าวจริง ทางเลือกในการรักษาก็มีหลายทาง ซึ่งมีประสิทธิภาพและข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน จึงไม่ควรซื้อยามาใช้เองนะคะ
ดังนั้น หากผู้ถามทนผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดไม่ได้ หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมว่าอาการดังกล่าวเกิดจากยาคุมเองหรือเกิดจากสาเหตุใด แล้วคุณหมอจะพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมให้เองค่ะ
ตอบโดย ภกญ. จินตนา แสงโพธิ์
ประจําเดือนสีน้ำตาล มาน้อย หลังฉีดยาคุม
ตั้งแต่ฉีดยาคุมกำเนิด ก็มีเลือดไหลกะปริบกะปรอยสีน้ำตาลดำมาตลอดค่ะ พอหลังมีเพศสัมพันธ์ เลือดไหลสีน้ำตาลดำออกมาเยอะมาก และวันต่อไปก็จะมาน้อยลงๆ พอมีเพศสัมพันธ์ก็มีเลือดไหลเยอะอีก ตอนนี้ไม่ได้ฉีดมา1เดือนแล้วก็ยังเป็นอยู่เป็นเพราะอะไรคะ
เลือดออกกระปริบกระปรอยเป็นผลจากยาฉีดคุมกำเนิดได้ครับ ถ้าฉีดชนิดที่ฉีดทุกสามเดือน จะมีเลือดออกกระปริบกระปรอย หรือประจำเดือนขาดไม่มาตามรอบได้ 9-12 เดือนเลยครับ กว่าประจำเดือนจะมาปกติ เเบบนี้ไม่ได้อันตรายอะไรครับ ยกเว้น ถ้าเลือดออกมากชุ่มผ้าอนามัยหลายเเผ่น ปวดท้องน้อย มีหน้ามืดใจสั่น เเบบนี้ผิดปกติควรไปพบเเพทย์ครับ
การฉีดยาคุม
หลักๆจะมียาฉีดสองเเบบคือ เเบบสามเดือน(ฮอร์โมนเดี่ยว) กับแบบหนึ่งเดือน(ฮอร์โมนรวมครับ)
- กรณีเป็นฮอร์โมนเดี่ยว (โปรเจสเตอโรน)ส่วนใหญ่ฉีดทุกสามเดือนครับ อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอย ประจำเดือนไม่มา น้ำหนักขึ้นได้ หากหยุดฉีดกว่าจะกลับมาตกไข่ มีลูกได้ใช้เวลาประมาณ10-12เดือนครับ
- ส่วนฮอร์โมนรวม (เอสโตรเจน+โปรเจสเตอโรน) จะฉีดทุก1เดือน หลังฉีด วันที่21เป็นต้นไป จะมีเลือดประจำเดือนตามรอบได้ครับ (คล้ายกินยาคุมแบบเเผง)
เเบบฮอร์โมนรวมถ้าหยุดฉีด เดือนถัดไป ไข่ตก มีลูกได้ตามรอบครับ
การเริ่มฉีด
- เริ่มใช้เข็มแรกภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้เลย มีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในได้ไม่ต้องใช้ถุงยางครับ
- เริ่มใช้เข็มแรกหลังจากช่วง 7 วันเเรกของประจำเดือน ต้องมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ (เช่น หลังจากมีประจำเดือนล่าสุดจนถึงวันที่จะฉีดยา ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์) หลังฉีดจะยังไม่มีผลคุมกำเนิด ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนหรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปอีก 7 วันหลังฉีดยาครับ
- การฉีดยาคุมรายสามเดือน ซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ เลือดประจำเดือนออกกระปริบกระปรอยครับ บางคนฉีดไปนานๆ ประจำเดือนจะหายไปได้ ครับ หลังหยุดฉีดยา กว่าไข่จะตกมีประจำเดือนปกติได้ จะประมาณ 9-12 เดือนครับ(ดังนั้นหลังหยุดฉีด จะกลับมาท้องได้ช้ากว่าชนิดฉีดทุก 1 เดือน
หรือ ถ้าเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฉีดทุกหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นฮอร์โมนรวม ก็จะมีผลข้างเคียงเหมือนยาคุมเเบบเเผงรายเดือนครับ เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดเต้านม เวียนหัว เเต่จะมีประจำเดือนตามรอบ หยุดฉีดเเล้วกลับมาตกไข่ มีประจำเดือนได้เร็วครับ
ตอบโดย นพ. วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก
- ประจำเดือนมามาก เกิดจากอะไร
- ประจำเดือนมาน้อย สัญญาณเตือนภัยที่ไม่ควรมองข้าม
คำถามที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจฉี่ไม่ท้อง แต่ประจําเดือนไม่มาเพราะอะไร ?
- เมนส์มาช้า 1 อาทิตย์ เพราะอะไร ?
- ประจําเดือนไม่มา แต่มีตกขาว ท้องไหม ?
- ประจำเดือนมา 2 ครั้งใน 1 เดือน ท้องไหม ?
- ประจำเดือนเป็นก้อน เหมือนตับ อันตรายไหม ?
- ยาแก้ปวดประจำเดือน มีอะไรบ้าง ข้อควรระวัง
คำถามสุขภาพที่พบบ่อย