venlafaxine scaled

Venlafaxine (เวนลาฟาซีน)

ยา เวนลาฟาซีน (Venlafaxine) เป็นยารักษาโรคซึมเศร้าในกลุ่ม Serotonin-norepinephrine reuptake inhibitors (SNRIs) ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทเซโรโทนิน สารนอร์อิพิเนฟริน ในสมอง ช่วยปรับสมดุลสารสื่อประสาทในสมอง มีส่วนทำให้อารมณ์ดีขึ้น ช่วยให้มีพลังงานในการทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น

Venlafaxine อาจนำมาใช้นอกเหนือข้อบ่งใช้ข้างต้น เช่น ใช้รักษาอาการร้อนวูบวาบที่เกิดขึ้นในหญิงวัยหมดประจำเดือน หรือใช้รักษามะเร็งเต้านม อาการปวดปลายประสาทเนื่องจากเบาหวาน โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ อาการปวดศีรษะไมเกรน ปวดศีรษะจากความเครียด กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง รวมไปถึงภาวะซึมเศร้าในโรคอารมณ์สองขั้ว และโรคสมาธิสั้น

สรรพคุณของยา Venlafaxine

Venlafaxine หรือเวนลาฟาซีน เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคกลัวการเข้าสังคม และโรคตื่นตระหนก

  • รักษาโรคซึมเศร้า: ใช้ในการบรรเทาอาการซึมเศร้า เพิ่มพลังงานและความรู้สึกดี ๆ
  • รักษาโรควิตกกังวลทั่วไป: ใช้ในการลดความวิตกกังวลและความเครียดที่มากเกินไป
  • รักษาโรคแพนิค: ใช้ในการลดความถี่และความรุนแรงของอาการแพนิค
  • รักษาโรคกลัวการเข้าสังคม: ใช้ในการลดความกลัวและความวิตกกังวลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางสังคม

กลไกของยา Venlafaxine

Venlafaxine ทำงานโดยการยับยั้งการดูดกลับของสารสื่อประสาท serotonin และ norepinephrine ในสมอง ซึ่งช่วยเพิ่มระดับของสารสื่อประสาทเหล่านี้ในสมอง ส่งผลให้เกิดความสมดุลของอารมณ์และลดอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวล

ปริมาณการใช้ยา Venlafaxine

Venlafaxine มีวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบยาเม็ดออกฤทธิ์ทันทีและยาเม็ดออกฤทธิ์ช้า

  • ยาเม็ด Venlafaxine ออกฤทธิ์ทันทีมีปริมาณยาหลายขนาด ได้แก่ 25 มิลลิกรัม  37.5 มิลลิกรัม  50 มิลลิกรัม 75 มิลลิกรัม และ 100 มิลลิกรัม
  • ยาแคปซูล Venlafaxine แบบออกฤทธิ์ช้ามีขนาด 37.5 มิลลิกรัม 75 มิลลิกรัม 150 มิลลิกรัม และ 225 มิลลิกรัม

หากคุณรับประทานยาในรูปแบบยาเม็ดออกฤทธิ์ทันที ปริมาณยาที่ใช้มักจะแบ่งเป็น 2-3 มื้อต่อวัน โดยรับประทานพร้อมอาหาร และหากคุณรับประทานยาในรูปแบบยาแคปซูลออกฤทธิ์ช้า ควรรับประทานยาในมื้อเช้าหรือเย็น และควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันของทุกวัน โดยยาแคปซูลไม่สามารถบด เคี้ยว แบ่ง หรือละลายน้ำได้ ต้องรับประทานโดยกลืนลงไปทั้งแคปซูล หากไม่สามารถกลืนแคปซูลได้ ให้แกะแคปซูลและโรยผงยาลงบนอาหารนิ่มๆ หรืออาหารเหลว เช่น ขนมพุดดิ้ง หรือน้ำแอปเปิ้ล และรับประทานพร้อมอาหารทันที แล้วดื่มน้ำตามอย่างน้อย 1 แก้ว

โดยทั่วไป แพทย์มักให้ผู้ป่วยเริ่มต้นใช้ยา Venlafaxine ปริมาณระหว่าง 37.5-75 มิลลิกรัมต่อวัน หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ปรับเพิ่มปริมาณยาจนถึงขนาดยาสูงสุดที่สามารถใช้ได้ คือ 225 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งนี้ คุณอาจต้องใช้ระยะเวลาถึง 2 เดือน จึงจะเห็นผลการรักษาอย่างเต็มที่ และไม่ควรหยุดรับประทานยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากการหยุดยาโดยทันทีอาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวล หงุดหงิด อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และมีอาการสั่นได้

คำเตือนในการใช้ยา Venlafaxine

องค์การอาหารและยากำหนดให้มีคำเตือนสำคัญสำหรับยา Venlafaxine เนื่องจากมีการศึกษาหลายงานพบว่ายานี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงให้กลุ่มผู้ป่วยเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น มีความคิดและพฤติกรรมฆ่าตัวตาย แพทย์จึงต้องติดตามอาการของผู้ป่วยเป็นระยะๆ ในขณะที่ใช้ยา รวมทั้งต้องขอความร่วมมือจากญาติผู้ป่วยในการเฝ้าดูอาการและพฤติกรรมผิดปกติต่างๆ เพื่อป้องกันผู้ป่วยทำร้ายตนเอง และห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 18 ปี

นอกจากนี้ คุณควรระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ยา Venlafaxine ดังนี้

  • แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังรับประทานยารักษาโรคซึมเศร้าอื่นๆ ได้แก่ ยากลุ่ม Selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) เช่น พาร็อกซีทีน (Paroxetine) เซอร์ทราลีน (Sertraline) ยากลุ่ม SNRIs อื่นๆ เช่น ดูล็อกซีทีน (Duloxetine) หรือเดสเวนลาแฟ็กซีน (Desvenlafaxine) และยาในกลุ่ม Monoamine oxidase inhibitors (MAOIs) เช่น เฟนเทอร์มีน (Phentermine) หรือไอโซคาร์บอกซาซิด (Isocarboxazid) หรือหากคุณเพิ่งหยุดรับประทานยาในกลุ่ม MAOI มาไม่ถึง 14 วัน ก่อนเริ่มรับประทานยา Venlafaxine
  • แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังใช้ยารักษาโรคอื่นๆ วิตามิน อาหารเสริม หรือสมุนไพรชนิดใดก็ตาม โดยเฉพาะยาเหล่านี้
    • ยากลุ่มทริปแทน (Triptans) ได้แก่ ซูมาทริปแทน (Sumatriptan) ที่ใช้รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน
    • ยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น ลีเนโซลิด (Linezolid)
    • ยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น ลีเนโซลิด (Linezolid)
    • สารต้านพิษเมธิลีน บลู (Methylene blue) ที่ใช้ฉีดเข้าเส้นเลือด เพื่อรักษาภาวะเลือดผิดปกติ (Methemoglobinemia)
    • สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต (St. John’s wort) ซึ่งอาจเพิ่มระดับสารเซโรโทนินในสมอง เมื่อรับประทานควบคู่ไปกับ Venlafaxine จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะเซโรโทนินซินโดรม ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็พบได้น้อย
    • กลุ่มยาละลายลิ่มเลือด ได้แก่ วาร์ฟาริน (Warfarin) ยาแอสไพริน และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เป็นต้น
    • ยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น ลีเนโซลิด (Linezolid)
  • แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณมีโรคประจำตัวหรือภาวะเจ็บป่วยต่อไปนี้
    • แพ้ยา Venlafaxine หรือแพ้ยาที่มีส่วนประกอบคล้ายกับ Venlafaxine
    • กลุ่มอาการของการหลั่งฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะไม่เหมาะสม
    • มีระดับคอเลสเตอรอลสูง
    • มีระดับโซเดียมในเลือดต่ำ
    • เสี่ยงมีเลือดออกสูง
    • เสี่ยงต่อการมีเลือดออกสูงขึ้นจากการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ
    • ร่าเริงและเคลื่อนไหวมากผิดปกติ
    • มีอาการคุ้มคลั่งที่ไม่รุนแรง
    • มีความคิดฆ่าตัวตาย
    • เป็นกลุ่มอาการเซโรโทนิน (Serotonin syndrome)
    • เป็นต้อหินมุมปิด หรือเสี่ยงต่อการเป็นต้อหินมุมปิด
    • ความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรงที่ควบคุมไม่ได้
    • มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
    • ตับแข็ง เป็นโรคตับ
    • ไตทำงานบกพร่อง
    • มีอาการชัก
    • น้ำหนักลด
  • ยา Venlafaxine อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอน หรือส่งผลต่อการใช้ความคิดและการตอบสนองอัตโนมัติ ไม่ควรขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล จนกว่าคุณจะทราบว่ายานี้ส่งผลต่อคุณอย่างไร
  • โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ยา Venlafaxine ในผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่หากจำเป็นต้องใช้ แพทย์จะติดตามอาการใช้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการศึกษาหลายงานแนะนำว่ายานี้อาจส่งผลให้การเจริญเติบโตของเด็กล่าช้า มีภาวะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดความคิดฆ่าตัวตาย
  • ผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยที่รับประทานยาขับปัสสาวะ ควรใช้ยานี้อย่างระมัดระวัง เพราะมีความเสี่ยงเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำมากกว่าคนทั่วไป

การใช้ยา Venlafaxine ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตร

Venlafaxine อาจเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของตัวอ่อนในครรภ์มารดา โดยมีข้อมูลรายงานว่าเด็กที่คลอดออกมาจากแม่ที่รับประทานยา Venlafaxine ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ อาจมีปัญหาในการดื่มนม ปัญหาทางเดินหายใจ มีอาการชักตัวสั่น กระวนกระวาย และร้องไห้ตลอดเวลาหลังคลอด และข้อมูลจากองค์กรพันธมิตรผู้ป่วยโรคทางจิตแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (The national Alliance on mental illness) ระบุว่าหญิงตั้งครรภ์ที่รับประทานยารักษาโรคซึมเศร้าในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์นั้นจะมีความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด

Venlafaxine ไม่ผ่านทางน้ำนมไปสู่ทารก แต่ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาเพียงพอที่จะรับรองถึงความปลอดภัยของการใช้ยานี้ต่อทารก ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่กำลังให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้

อาการถอนยา Venlafaxine

การหยุดรับประทานยา Venlafaxine โดยทันที หรือลดปริมาณยาที่ใช้อยู่กะทันหัน อาจทำให้เกิดอาการถอนยาได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง อาการถอนยาที่เกิดขึ้นจากการใช้ยา Venlafaxine ได้แก่

  • วิตกกังวล รู้สึกสับสน หรือกระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
  • สูญเสียการทรงตัว หรือรู้สึกบ้านหมุน
  • คลื่นไส้ ท้องเสีย หรืออาเจียน
  • นอนไม่หลับ หรือฝันร้าย
  • ปวดศีรษะ
  • ปากคอแห้ง
  • อ่อนเพลีย
  • รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตในสมอง

อาการเหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะสูญเสียการรับรู้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือทำงานอื่นๆ ที่เสี่ยงอันตราย หากคุณต้องการหยุดใช้ยาหรือปรับลดปริมาณยาจึงควรปรึกษาแพทย์ โดยแพทย์จะพิจารณาว่าสมควรหยุดยาหรือไม่

อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Venlafaxine

อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย

  • ฝันร้าย
  • นอนไม่หลับ
  • สมรรถภาพทางเพศลดลง
  • ง่วงซึม ไม่มีแรง หรืออ่อนเพลีย
  • วิงเวียนศีรษะ มองเห็นไม่ชัดเจน
  • เบื่ออาหาร
  • จุกเสียด แน่นท้อง
  • เหงื่อออกมากผิดปกติ
  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ท้องผูก
  • ท้องเสีย
  • ปากคอแห้ง
  • หนาวสั่น
  • เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารหรือปวดท้อง
  • น้ำมูกไหล
  • อาการสั่นเฉพาะบางส่วนของร่างกาย ตัวสั่น หรือหนาวสั่น
  • รู้สึกเสียวและเหน็บชาตามร่างกาย
  • น้ำหนักตัวลดลง

คุณควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการข้างเคียงเหล่านี้ในระยะเวลานานหรืออาการที่เกิดขึ้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณเป็นอย่างมาก

อาการข้างเคียงที่รุนแรง

หากมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงดังต่อไปนี้ คุณควรรีบไปพบแพทย์หรือเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน

  • อาการแพ้ยา เช่น หายใจขัด ใบหน้า ลิ้น ตา หรือปากบวม ผื่นขึ้น คัน ลมพิษ หรือตุ่มพุพอง ซึ่งอาจเกิดขึ้นร่วมกับการมีไข้ หรืออาการปวดข้อ
  • เกิดอาการของภาวะเซโรโทนินซินโดรม (Serotonin syndrome) ได้แก่ อาการอยู่ไม่นิ่ง ประสาทหลอน หมดสติ กล้ามเนื้อบิดพลิ้ว หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ ความดันโลหิตสูงขึ้นหรือต่ำลง เหงื่อออกมากผิดปกติ หรือเป็นไข้
  • ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
  • เกิดต้อหินมุมแคบ หรือม่านตาขยาย
  • ระดับโซเดียมในกระแสเลือดต่ำกว่าปกติ
  • มีอาการชัก หรือกล้ามเนื้อเกร็ง
  • มีเลือดออกผิดปกติ หรือเกิดรอยจ้ำเลือดเพิ่มขึ้น
  • แน่นหน้าอก หรือหายใจขัด

ภาวะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากการใช้ยา Venlafaxine

เช่นเดียวกับยารักษาโรคซึมเศร้าตัวอื่นๆ การใช้ยา Venlafaxine อาจทำให้คุณมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากยานี้อาจทำให้เกิดภาวะน้ำคั่งในร่างกาย ขาดการออกกำลังกาย ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น หรืออาจเป็นปัจจัยอื่นๆ ดังนั้น คุณควรหมั่นออกกำลังกาย รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูงให้น้อยลง เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวในระหว่างรับประทานยา Venlafaxine หรือยารักษาโรคซึมเศร้าตัวอื่นๆ

การใช้ยา Venlafaxine ร่วมกับยาชนิดอื่นๆ

การใช้ Venlafaxine ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

คุณไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างที่ใช้ยา Venlafaxine เนื่องจากยานี้มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้มีอาการง่วงนอนมากขึ้น

ปฏิกิริยาระหว่าง Venlafaxine กับยาตัวอื่น ๆ

คุณควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงการใช้ยาทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นยาที่แพทย์สั่งใช้ หรือยาที่หาซื้อเอง รวมถึงวิตามิน สมุนไพร สารเสพติด หรือกลุ่มยาที่ใช้เพื่อผ่อนคลาย และผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักหรืออาหารเสริม ซึ่งอาจมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา Venlafaxine ได้ และในทางกลับกันยานี้ก็อาจมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาอื่นๆ

ตัวยาต่อไปนี้สามารถเกิดปฏิกิริยาเมื่อใช้ร่วมกับยา Venlafaxine จึงไม่ควรรับประทานยาร่วมกัน หรือใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

  • ยาในกลุ่ม Monoamine oxidase inhibitors (MAOIs) ได้แก่ ฟีเนลซีน (Phenelzine sulfate) ทรานิลซัยโปรมีน (Tranylcypromine sulfate) ไอโซคาร์บอกซาซิด (Isocarboxazid) ราซาจิลีน (Rasagline) และเซเลกิลีน (Selegeline)
  • ยารักษาโรคซึมเศร้า เช่น อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) ไซตาโลแพรม (Citalopram) ฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) พาร็อกซิทีน (Paroxetine) เซอร์ทราลีน (Sertraline) ฟลูวอกซามีน (Fluvoxamine)
  • ยากลุ่มทริปแทน (Triptans) เช่น ซูมาทริปแทน (Sumatriptan) เป็นต้น
  • ลีเนโซลิด (Linezolid)
  • ไซเมทิดีน (Cimetidine)
  • คีโตโคนาโซล (Ketoconazole)
  • ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
  • นาพรอกเซน (Naproxen )
  • วาร์ฟาริน (Warfarin)
  • แอสไพริน (Aspirin)
  • ลิเทียม (Lithium)
  • ทรามาดอล (Tramadol)
  • ทริโตเฟน (Tryptophan)
  • สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต (St.John’s wort)

การรับประทานยา Venlafaxine เกินขนาด

หากคุณรับประทานยา Venlafaxine ในปริมาณมากเกินกว่าปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ หรือโทรเรียกรถฉุกเฉิน 1669 ทันที

อาการที่สังเกตได้จากการรับประทานยา Venlafaxine เกินขนาด ได้แก่

  • อาเจียน
  • หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  • มองเห็นภาพไม่ชัดเจน
  • อ่อนเพลียอย่างมาก
  • ชัก

ทำอย่างไรเมื่อลืมรับประทานยา Venlafaxine

ในกรณีที่ลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงเวลารับประทานยามื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป แล้วรับประทานยามื้อถัดไปตามปกติ ไม่ต้องรับประทานยา Venlafaxine เป็น 2 เท่า และไม่ควรรับประทานยาชนิดแคปซูลออกฤทธิ์ช้า หรือยาชนิดเม็ดธรรมดาเกินกว่า 1 ครั้งต่อวัน

คำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับยา Venlafaxine

คำถาม: ยา Venlafaxine มีผลต่อน้ำหนักตัวหรือไม่

คำตอบ: ฉลากยา Venlafaxine อาจทำให้มีความอยากอาหารมากขึ้นและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ อาจเกิดจากผู้ป่วยมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อน้ำหนักตัวร่วมด้วย ได้แก่ อาการเครียดเรื้อรัง ระดับไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ นอนหลับไม่เพียงพอ และการเลิกสูบบุหรี่ เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น คุณควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเลือกรับประทานอาหารไขมันต่ำ หากมีความกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงไป คุณควรปรึกษาแพทย์

อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วยานี้ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับยารักษาโรคซึมเศร้าอื่นๆ บางชนิด และมีรายงานว่ายานี้สามารถทำให้น้ำหนักตัวลดลง และมีอาการอาเจียนได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วยที่แตกต่างกันในแต่ละราย

คำถาม: ปัจจุบันกำลังรับประทานยา Venlafaxine ขนาด 75 มิลลิกรัมต่อวัน ปริมาณยาเท่านี้เหมาะสมในการรักษาโรควิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้าหรือไม่

คำตอบ: เราไม่สามารถตอบได้ว่าขนาดยาดังกล่าวเหมาะสมที่สุดหรือไม่ เนื่องจากการตอบสนองของแต่ละคนต่อยานั้นแตกต่างกันออกไป หากคุณใช้ยานี้ไม่ได้ผล หรือเกิดอาการข้างเคียงจากการใช้ยา ทางที่ดีที่สุดคือควรปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ผู้รักษาเพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนชนิดของยาหรือไม่

คำถาม: ปัจจุบันฉันรับประทานยา Venlafaxine พร้อมอาหาร โดยรับประทานวันละ 2 ครั้ง หากต้องงดน้ำและอาหารเพื่อตรวจเลือด ฉันสามารถรับประทานยา Venlafaxine โดยไม่พร้อมมื้ออาหารในตอนเช้าได้หรือไม่

คำตอบ: Venlafaxine ออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อรับประทานในเวลาเดียวกันของแต่ละวัน และรับประทานพร้อมอาหาร หากคุณไม่สามารถรับประทานยาพร้อมอาหาร คุณควรรับประทานยาพร้อมน้ำอย่างน้อย 1 แก้วในตอนเช้าอย่างที่คุณเคยรับประทานตามปกติ และควรรับประทานยานี้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม

คำถาม: ผู้ป่วยแต่ละรายสามารถรับประทานยา Venlafaxine ได้นานเท่าไหร่ และจะมีอันตรายหรือไม่ หากรับประทานยาปริมาณ 75 mg เป็นเวลานานกว่า 10 ปี

คำตอบ: ในการใช้ยา Venlafaxine รักษาระยะยาว แพทย์จะประเมินผลการรักษาเป็นระยะ และอาจต้องมีการพิจารณาปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาในระยะยาว เช่น การมีระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดสูง แพทย์อาจให้คุณเข้ารับการตรวจเพื่อติดตามระดับคอเลสเตอรอลเรื่อยๆ

คำถาม: อาการข้างเคียงต่างๆ จากการใช้ยา Venlafaxine ที่เกิดขึ้นกับฉัน ดูเหมือนว่าจะเลวร้ายกว่าอาการซึมเศร้าที่เป็นอยู่ด้วยซ้ำ แบบนี้ถือว่าผิดปกติหรือไม่

คำตอบ: อาการข้างเคียงจากการใช้ยา Venlafaxine นั้นมีความคล้ายคลึงกับยารักษาโรคซึมเศร้าชนิดอื่นๆ โดยผู้ป่วยมักเกิดอาการข้างเคียงเมื่อเริ่มต้นใช้ยาเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของการรักษา แต่เมื่อรับประทานยาต่อไป ผู้ป่วยจะสามารถทนต่ออาการข้างเคียงเหล่านี้ อาการข้างเคียงต่างๆ จะค่อยๆ ดีขึ้น และในสัปดาห์ที่ 3 ของการรักษาก็จะเริ่มเห็นประสิทธิภาพของยามากขึ้น

อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการใช้ยา Venlafaxine ได้แก่ ง่วงซึม อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ วิตกกังวล นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ปากและคอแห้ง หากอาการเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรบกวนการใช้ชีวิต คุณควรปรึกษาแพทย์ โดยคุณอาจได้รับคำแนะนำให้ปรับลดปริมาณยาและลองเปลี่ยนไปใช้ยาชนิดอื่น ไม่ควรหยุดใช้ยาเองทันทีโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะการหยุดรักษาด้วยยา Venlafaxine ที่ถูกต้องจำเป็นต้องค่อยๆ ปรับลดปริมาณยา เพื่อหลีกเลี่ยงอาการถอนยา

คำถาม: จะรับประทานยา Venlafaxine ขนาด 75 mg ร่วมกับยาลอราซีแพม (Lorazepam) ได้หรือไม่

คำตอบ: Venlafaxine เป็นยาที่แพทย์สั่งใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคตื่นตระหนก ส่วนยา Lorazepam เป็นยาสำหรับรักษาโรควิตกกังวล ยาทั้งสองชนิดนี้ออกฤทธิ์โดยการเปลี่ยนแปลงสารเคมี โดยทั่วไปแพทย์มักสั่งใช้ร่วมกันในการรักษาโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล ซึ่งอันตรกิริยาจากการใช้ยาร่วมกันนั้นอาจเกิดขึ้นได้ โดยอาจทำให้มีอาการง่วงซึมมากกว่าปกติ ดังนั้น ระหว่างที่ใช้ยานี้ คุณควรระมัดระวังในการขับรถหรือการทำงานที่ต้องเสี่ยงอันตราย

คำถาม: ตอนนี้อยู่ในช่วงที่กำลังค่อยๆ ปรับลดปริมาณยา Venlafaxine และค่อยๆ ปรับเพิ่มปริมาณยาบูโพรพิออน (Bupropion) จะทำให้เกิดอาการข้างเคียงอะไรขึ้นบ้าง โดยก่อนหน้านี้เคยมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน และได้ยินเสียงในหูจากการใช้ยา Venlafaxine

คำตอบ: หากอาการดังกล่าวที่คุณให้รายละเอียดมานั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ และเกิดขึ้นพร้อมกับการปรับเปลี่ยนปริมาณยาที่ใช้อยู่ คุณควรแจ้งให้แพทย์ทราบ โดยคุณควรพิจารณาการปรับเปลี่ยนยาร่วมกับแพทย์ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาให้กับคุณได้อย่างเหมาะสมที่สุด

คำถาม: ก่อนหน้านี้รับประทานยา Venlafaxine มาเป็นระยะเวลาหลายปี เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เริ่มรู้สึกเฉื่อยชาและมีพลังลดลงอย่างมาก และรู้สึกเหมือนมีภาวะเสพติดยา โดยจะรู้สึกหน้ามืด เวียนหัว และปวดหัว หากไม่ได้รับประทานยา พอจะมีทางเลือกอื่นๆ ในการรักษาหรือไม่

คำตอบ: อาการทนต่อยา Venlafaxine อาจเกิดขึ้นได้เมื่อใช้ยาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ปัญหาต่างๆ ที่ประสบในชีวิตก็มีผลต่อความสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งขึ้นอยู่กับความไวในการตอบสนองต่อยาของคุณ คุณควรพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนปริมาณยาที่ใช้ ซึ่งโดยทั่วไปแพทย์จะปรับเพิ่มปริมาณยาจนถึงขนาดที่ได้ผลในการรักษาเหมือนในช่วงเริ่มต้นรักษา แต่แพทย์บางท่านอาจให้เปลี่ยนไปใช้ยาชนิดอื่น ได้แก่ ยากลุ่ม SSRIs เช่น ไซตาโลแพรม (Citalopram) หรือฟลูออกเซทีน (Fluoxetine) และอาจแนะนำวิธีอื่นที่สามารถช่วยปรับสภาวะอารมณ์ของคุณให้ดีขึ้นได้ เช่น การทำสมาธิทุกวัน การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันอันตรายและน้ำตาล

คำถาม: สามีของฉันรับประทานยา Venlafaxine แล้วยามีผลต่อความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ มียาชนิดใดที่สามารถใช้แทนยานี้ได้บ้าง

คำตอบ: ยา Venlafaxine สามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ได้ เช่น ถึงจุดสุดยอดช้าเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ความต้องการทางเพศลดลง และการแข็งตัวของอวัยวะเพศผิดปกติ สำหรับทางเลือกอื่นๆ ในการจัดการอาการข้างเคียง ได้แก่ การรับประทานยาชนิดอื่นเพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นควบคู่กันไป หรือเปลี่ยนตัวยาที่ใช้รักษาไปเป็นชนิดอื่นๆ สิ่งสำคัญคือไม่ควรหยุดใช้โดยทันทีด้วยตนเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้ยาของคุณ

คำถาม: การนำยา Venlafaxine มาใช้รักษาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือนอายุ 30 ปี ที่ผ่านการผ่าตัดมดลูกทั้งสองข้าง และอยู่ในช่วงกำลังปรับลดปริมาณเพื่อหยุดใช้ยาฮอร์โมนทดแทน Premarin จะเป็นการรักษาที่ได้ผลหรือไม่

คำตอบ: ยา Venlafaxine ไม่ได้รับอนุญาตโดยองค์การอาหารและยาให้นำมาใช้ในการรักษาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือน การนำมาใช้จะอยู่นอกเหนือจากข้อบ่งใช้ที่ระบุไว้ในเอกสารกำกับยา คุณควรปรึกษาผู้ให้การรักษาเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาด้วยยา Venlafaxine

คำถาม: ยา Venlafaxine ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้หรือไม่

คำตอบ: หากผู้ป่วยรับประทานยานี้แล้วเกิดอาการของภาวะสมองเสื่อม ควรรีบพบแพทย์โดยทันที เนื่องจากอาจเป็นอาการที่บ่งบอกถึงอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงอย่าง Hyponatremia หรือภาวะระดับโซเดียมในเลือดต่ำกว่าปกติ อาการของภาวะโซเดียมในเลือดต่ำกว่าปกติที่พบได้ ได้แก่ ปวดศีรษะ ไม่มีสมาธิ รู้สึกสับสน อ่อนเพลีย และเสียการทรงตัว

Scroll to Top