ภูมิแพ้อาหารแฝง ภัยเงียบของอาการผิดปกติในร่างกาย scaled

ภูมิแพ้อาหารแฝง ภัยเงียบของอาการผิดปกติในร่างกาย

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง ปวดหัวไมเกรน หรือเกิดสิวอักเสบอยู่เป็นประจำโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีไหนก็ไม่หายขาดเสียที นั่นอาจเป็นสัญญาณของ “ภูมิแพ้อาหารแฝง”

ในบทความนี้ HDmall.co.th ร่วมกับ นายแพทย์ณัฐพล สุวรรณ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน เวชศาสตร์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ จาก Bangkok Anti-Aging Center จะพามารู้จักกับโรคภูมิแพ้อาหารแฝง ภัยเงียบจากการรับประทานอาหารที่อาจจะกำลังทำร้ายคุณอยู่

เจาะลึกตั้งแต่โรคภูมิภูมิแพ้อาหารแฝงคืออะไร? อาการของภูมิแพ้อาหารแฝงเป็นอย่างไร? ภูมิแพ้อาหารแฝงอันตรายไหม? ไปจนถึงภูมิแพ้อาหารแฝงรักษาได้อย่างไร? หากพร้อมแล้ว ก็มาคลายทุกข้อสงสัยในบทความนี้กันเลย!

สารบัญ

ภูมิแพ้อาหารคืออะไร? มีกี่ชนิด?

ภูมิแพ้อาหาร (Food Allergy) คือ กลไกของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ตอบสนองต่อโปรตีนบางชนิดมากผิดปกติ โดยหลังรับประทานอาหารร่างกายจะถูกกระตุ้นให้สร้างแอนติบอดี้ (Antibody) ออกมาเพื่อจัดการกับสารอาหารที่แพ้ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตราย

เมื่อผู้ที่มีอาการแพ้ได้รับสิ่งกระตุ้นเดิมซ้ำๆ ก็อาจทำให้ร่างกายพยายามตอบสนองหนักขึ้นด้วยการหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) จากเม็ดเลือดขาว ทำให้เราสามารถสังเกตถึงอาการแพ้ได้ชัดเจนมากขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว ภูมิแพ้อาหารแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ภูมิแพ้อาหารฉับพลัน และภูมิแพ้อาหารแฝง

ภูมิแพ้อาหารแฝงคืออะไร?

ภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance) คือ ภาวะหรืออาการที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันชนิด IgG (Immunoglobulin G) ขึ้นมาต่อต้านอาหารบางชนิดที่รับประทานเข้าไป เพราะเข้าใจว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายและค่อยๆ อักเสบอย่างช้าๆ

ภูมิแพ้ที่เกิดจาก IgG จะไม่รุนแรงหรือแสดงอาการแพ้ในทันที แต่กระบวนการจะค่อยๆ ดำเนินไป หากยังรับประทานอาหารชนิดนั้นอยู่ ก็จะทำให้เนื้อเยื่อของอวัยวะบางส่วนโดนทำลายไปเรื่อยๆ จนเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติได้

อาการภูมิแพ้อาหารแฝงมีอะไรบ้าง?

อาการภูมิแพ้อาหารแฝงเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจง ทำให้แต่ละคนมักมีอาการที่ต่างกัน แต่ส่วนมากจะไม่แสดงให้เห็นอาการแพ้ในทันที รวมถึงอาการแพ้ที่สังเกตได้จะไม่รุนแรงมาก จึงมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการผิดปกติที่มาจากสาเหตุอื่นๆ

โดยอาการทั่วไปที่อาจพบได้เมื่อมีภาวะภูมิแพ้อาหารแฝง มีดังนี้

  • อาการปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดไมเกรน
  • อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและกระดูกข้อต่อ
  • อ่อนเพลียเรื้อรัง
  • เหนื่อยง่าย
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่น
  • สิวอักเสบเรื้อรังบริเวณใบหน้า ลำตัว แขน และขา
  • น้ำหนักขึ้นต่อเนื่องอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ในผู้ที่มีอาการปวดศีรษะหรืออ่อนเพลียเรื้อรังจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือผู้ที่มีสิวอักเสบเรื้อรังที่รักษาด้วยวิธีต่างๆ แล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในอนาคต รวมถึงอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางชนิดได้

ภูมิแพ้อาหารแฝงแตกต่างจากภูมิแพ้อาหารทั่วไปอย่างไร?

ภูมิแพ้อาหารแฝงแตกต่างจากภูมิแพ้ทั่วไปตรงที่ภูมิแพ้อาหารแฝงเป็นอาการแพ้แบบเรื้อรัง ทำให้มีอาการไม่รุงแรง ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่อาจก่อให้เกิดความกังวลได้ในระยะยาว โดยอาการจะไม่แสดงออกมาอย่างฉับพลัน 

การสังเกตอาการภูมิแพ้อาหารแฝง จะสังเกตได้หลังจากรับประทานอาหารราวๆ 2-4 ชั่วโมง หรือในบางรายอาจเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารไปแล้วนานถึง 24 ชั่วโมง

ในขณะที่ภูมิแพ้อาหารทั่วไป จะเป็นอาการแพ้ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีหรืออาจใช้เวลาเพียง 5-30 นาทีหลังรับประทานอาหารที่แพ้เข้าไป

นอกจากนี้การแพ้อาหารแบบทั่วไปยังมีอาการรุนแรงกว่าภูมิแพ้อาหารแฝง โดยผู้ที่แพ้อาหารอาจมีอาการหน้าบวม ปากบวม ตาบวม ผื่นคัน ลมพิษ ความดันตก บางคนอาจรุนแรงถึงขั้นช็อก หมดสติ หรือเสียชีวิตได้

ภูมิแพ้อาหารแฝงมีความสัมพันธ์กับการเกิดสิวและอาการท้องอืดเรื้อรังอย่างไร?

เนื่องจากภูมิแพ้อาหารแฝงเกิดจากการที่ร่างกายต่อต้านกับอาหารที่รับประทานเข้าไป ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันชนิด IgG ออกมาเพื่อป้องกัน ซึ่ง IgG นี้เองที่เป็นต้นเหตุของการเกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อในระบบต่างๆ ของร่างกาย

โดยผู้ที่มีอาการสิวอักเสบเรื้อรัง จะเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อในระบบผิวหนัง ในขณะที่ผู้ที่มีอาการท้องอืดเรื้อรัง จะเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อในระบบในทางเดินอาหาร

อาการตัวแดงเมื่อดื่มแอลกอฮอล์เกี่ยวข้องกับภูมิแพ้อาหารแฝงหรือไม่?

อาการตัวแดงเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภูมิแพ้อาหารแฝง แต่เป็นผลมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้หลอดเลือดมีการขยายตัว เลือดไหลเวียนมากขึ้น และความดันต่ำลง จนมีอาการหน้าแดง ตัวแดงได้

ภูมิแพ้อาหารแฝงสามารถเป็นได้ตั้งแต่ตอนไหน?

ภูมิแพ้อาหารแฝงสามารถมีอาการได้ตั้งแต่ในวัยแรกเกิด โดยอาจมีปัจจัยมาจากการส่งต่อทางพันธุกรรมและความผิดปกติของเซลล์หรืออวัยวะ

แต่ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่สังเกตอาการภูมิแพ้อาหารแฝงได้ยาก เนื่องจากการสังเกตภูมิแพ้อาหารแฝงจะเน้นไปที่การติดตามอาการที่เกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารหลากหลายชนิด ในขณะที่เด็กวัยแรกเกิดอาจยังเลือกรับประทานอาหารได้ไม่มากนัก

ซึ่งอาการภูมิแพ้อาหารแฝง จะสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้นเมื่อเด็กมีอายุ 4-5 ปี เพราะเป็นวัยที่เริ่มรับประทานอาหารได้หลากหลายและสามารถสังเกตได้จากการมีผื่นขึ้นเรื้อรังหรือมีอาการหอบหืด

นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นอาการได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีอายุมากขึ้น เพราะอาการของภูมิแพ้อาหารแฝงเป็นอาการเรื้อรังที่รุนแรงขึ้นเมื่อปล่อยไว้เป็นระยะเวลานาน

ภูมิแพ้อาหารแฝงอันตรายถึงชีวิตไหม?

ภูมิแพ้อาหารแฝงไม่ส่งผลอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต เพียงแต่อาจสร้างความรำคาญจากอาการที่ไม่พึงประสงค์เรื้อรัง ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้

ภูมิแพ้อาหารแฝงรักษาอย่างไร?

การรักษาภูมิแพ้อาหารแฝง ทำได้โดยการงดรับประทานอาหารที่ต้องสงสัยว่าจะแพ้ เพื่อให้ร่างกายไม่ถูกกระตุ้นจากอาหารชนิดนั้นและระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะไม่ถูกทำลาย เมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ดีขึ้น ทำให้อาการจากการเกิดภูมิแพ้อาหารแฝงลดลงได้

ส่วนหลายๆ คนที่กำลังทานยาแก้แพ้เพื่อรักษาภูมิแพ้อาหารแฝงอยู่ ภูมิแพ้อาหารแฝงไม่สามารถทานยาแก้แพ้เพื่อรักษาได้ เนื่องจากกลไกของการเกิดภูมิแพ้อาหารแฝงนั้นแตกต่างจากการเกิดภูมิแพ้แบบทั่วไปโดยสิ้นเชิง การรักษาภูมิแพ้อาหารแฝงจึงเน้นไปที่การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นหลัก

และความเชื่อที่ว่าถ้าเราแพ้อะไรให้รับประทานอาหารชนิดนั้นเข้าไปเยอะๆ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด โดยเฉพาะอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ฉับพลัน เพราะอาจทำให้ความดันตก หายใจลำบาก และหมดสติได้

การเตรียมตัวก่อนตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง

ก่อนเข้ารับบริการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง ผู้รับบริการสามารถปฎิบัติตนได้ตามปกติ ยกเว้นในผู้ที่ทานยาแก้แพ้อยู่ ควรงดการทานยาแก้แพ้อย่างน้อย 7-10 วันก่อนวันนัดหมาย เพื่อลดการเกิดปฏิกิริยาแทรกซ้อน ซึ่งอาจทำให้ผลตรวจคาดเคลื่อนได้

ผลตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงสามารถใช้ได้ตลอดชีวิตหรือไม่?

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงอาจไม่สามารถตรวจเพียงครั้งเดียวแล้วใช้ผลตรวจเดิมตลอดชีวิตได้ เพราะถ้าหากเรามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้จนได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแล้ว แนะนำให้เข้าตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงอีกครั้ง โดยเว้นระยะจากการตรวจครั้งแรกอย่างน้อย 1 ปี แต่ไม่ควรเกิน 5 ปี

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงอีกครั้งจะช่วยให้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงในการตอบสนองของร่างกาย เพราะอาหารบางชนิดที่เดิมเคยมีอาการแพ้ แต่เมื่อตรวจใหม่อาจไม่มีอาการแพ้แล้ว ในขณะที่อาหารบางชนิดที่ไม่เคยแพ้ อาจมีอาการแพ้เกิดขึ้นได้

ขั้นตอนการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง

การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงจะเริ่มจากการซักประวัติสุขภาพเบื้องต้นพร้อมกับตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างการวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก และวัดส่วนสูงก่อน

หลังจากนั้นแพทย์จะเจาะเลือดและเก็บตัวอย่างเลือดในปริมาณหนึ่งไปแปรผลแล้ววิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ก่อนจะนัดหมายให้กลับมาฟังผลตรวจพร้อมกับอธิบายวิธีการรักษาที่เกี่ยวข้องอีกครั้งภายใน 7-14 วัน

การอ่านผลตรวจ

ในวันฟังผลตรวจ ผู้เข้ารับบริการจะได้รับสมุดรายงานผลตรวจที่ระบุรายการอาหารที่แพ้แฝงมา โดยระดับอาการภูมิแพ้อาหารแฝงจะแบ่งออกเป็น 3 สี ตามระดับความรุนแรง ดังนี้

  • สีแดง (ระดับสูง) หมายถึง อาหารชนิดนั้นมีผลในการกระตุ้นร่างกายให้สร้าง IgG ได้ในระดับสูง 
  • สีเหลือง (ระดับปานกลาง) หมายถึง อาหารชนิดนั้นมีผลในการกระตุ้นร่างกายให้สร้าง IgG ได้ในระดับปานกลาง
  • สีเขียว (ระดับต่ำ) หมายถึง อาหารชนิดนั้นมีผลในการกระตุ้นร่างกายให้สร้าง IgG ได้ในระดับต่ำ

การดูแลตนเองหลังทราบผลตรวจ

เมื่อได้รับผลตรวจแล้วสิ่งที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ อาหารที่อยู่ในกลุ่มสีแดงและสีเหลือง เนื่องจากเป็นอาหารที่มีผลในการกระตุ้นร่างกายให้สร้าง IgG จึงควรรับประทานให้น้อยลง แต่ไม่จำเป็นต้องงดรับประทานอาหารชนิดนั้นตลอดชีวิต

โดยแพทย์จะขอความร่วมมือให้งดรับประทานอาหารที่อยู่ในกลุ่มสีแดงติดต่อกัน 3-6 เดือน และรับประทานอาหารที่อยู่ในกลุ่มสีเหลืองเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในปริมาณที่พอเหมาะ ร่วมกับการสังเกตอาการแพ้ควบคู่ไปด้วย

หากอาการแพ้ดีขึ้น สามารถกลับมารับประทานอาหารชนิดนั้นได้ แต่ควรรับประทานทีละน้อยๆ เพื่อป้องกันโอกาสที่จะเกิดการแพ้อีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอาหารจะอยู่ในกลุ่มใดก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพราะการรับประทานอาหารเดิมติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการแพ้ฉับพลันได้

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าอาการที่ตนเองมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบเรื้อรัง แน่นท้อง น้ำหนักตัวขึ้นผิดปกติ หรืออ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้จนต้องทานยาอยู่เป็นประจำ 

HDmall.co.th ขอแนะนำการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง อีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้อาการเรื้องรังเหล่านี้ดีขึ้น รวมทั้งยังเป็นวิธีการตรวจที่ไม่เจ็บตัว ทำได้ง่าย ไม่ซ้ำซ้อน เพียงแค่เจาะเลือด รอผลตรวจ และกลับมาพบแพทย์เพื่อรับแนวทางการดูแลตัวเองกลับไป เพียงเท่านี้ก็เตรียมโบกมือลาอาการแพ้ที่น่ารำคาญใจไปได้เลย

หากยังไม่รู้ว่าจะตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงที่ไหนดี? ให้ Bangkok Anti-Aging Center เป็นหนึ่งในทางเลือกของคุณ! เพราะ Bangkok Anti-Aging Center เป็นศูนย์ดูแลสุขภาพที่เน้นการหาสาเหตุของปัญหาสุขภาพ มากกว่าการรักษาตามอาการ มีให้เลือกถึง 3 สาขา ได้แก่ สาขาสุทธิสาร, สาขาสยาม และสาขาบางนา

เช็กราคาและเลือกซื้อแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง ที่ Bangkok Anti-Aging Center ได้ในราคาพิเศษผ่านทาง HDmall.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @hdcoth

Scroll to Top