สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- การทำ ICSI เป็นขั้นตอนพิเศษที่เพิ่มเข้ามาจากขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกให้สำเร็จสูง โดยการคัดเอาอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเจาะเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง
- การทำ ICSI สามารถฉีดตัวอ่อนเข้าไปได้พร้อมกัน 2 ตัว ถ้าหากตัวอ่อนทั้ง 2 ตัวที่ฉีดเข้าไปติดทั้งคู่ก็จะทำให้เราตั้งครรภ์ลูกแฝด ช่วยลดระยะเวลาการตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์ครั้งเดียวได้ลูก 2 คนเลย
- คนที่สนใจอยากทำลูกแฝดด้วยวิธี ICSI อันดับแรกจะต้องเข้ามาตรวจร่างกายก่อน ว่าสุขภาพดีพอสำหรับที่จะตั้งครรภ์ลูกแฝดรึเปล่า คุณแม่จะต้องมีสุขภาพที่ดี มีลักษณะของมดลูกที่ปกติ ไม่มีเนื้องอก และไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการอุ้มครรภ์ลูกแฝดไว้ด้วย
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับข้อมูลและการสปอนเซอร์จากทาง Beyond IVF ทั้งนี้ผู้รับบริการชำระค่าบริการด้วยตัวเอง
- ดูรายละเอียด ราคาทำ IVF หรือ ICSI (เด็กหลอดแก้ว) ที่ Beyond IVF
- ดูโปรแกรมทั้งหมดจาก Beyond IVF บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
รีวิวประสบการณ์จริงจากคุณปีโป้และคุณแคทตี้ กับการทํา ICSI แล้วได้ลูกแฝด ที่ Beyond IVF อธิบายครบทุกรายละเอียดในรีวิวนี้ที่เดียว
เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่เราสองคนแต่งงานกันมาสักพักนึงแล้วครับ ซึ่งก่อนแต่งงานก็ได้มีการวางแผนครอบครัวกันไว้ว่าหลังจากแต่งงานเสร็จปุ๊บก็อยากจะมีลูกเลยทันที โดยที่คิดไว้คืออยากมีลูกทั้งหมด 3 คน
หลังจากที่แต่งงานไปแล้ว พวกเราก็พยายามมีลูกกันด้วยวิธีทางธรรมชาติมาโดยตลอด จนเวลาผ่านไปสักระยะนึงก็เริ่มเอะใจว่าทำไมปล่อยตามธรรมชาติแล้วถึงยังไม่มีลูกอีก
ผมกับแคทตี้เลยคิดว่าร่างกายของพวกเราน่าจะมีปัญหาอะไรบางอย่างที่ทำให้มีลูกยาก เลยให้แคทตี้ลองไปเสิร์ชหาข้อมูล และหาสถานที่ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการปรึกษาเรื่องภาวะมีบุตรยากดู
และเราก็ได้มาเจอกับ Beyond IVF ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่โดดเด่นในด้านการแพทย์รักษาผู้มีบุตรยาก และมีคุณหมอผู้ชำนาญการด้านนี้เป็นคนคอยดูแลอยู่ตลอดด้วย พวกเราเลยตัดสินใจเลือกที่จะเข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่นี่ครับ
รีวิวประสบการณ์ทําลูกแฝด ที่ Beyond IVF
จุดเริ่มต้นของการมารักษาภาวะมีบุตรยากและทำให้ได้ลูกแฝดกลับไปนั้น เริ่มจากการที่พวกเราได้เข้าไปปรึกษาและตรวจร่างกายกับคุณหมอต้น นายแพทย์พูนศักดิ์ สุชนวณิช แพทย์เฉพาะทางด้านรักษาผู้มีบุตรยาก ที่ Beyond IVF นั่นเองครับ
หลังจากที่ตรวจร่างกายแล้ว ผลสรุปก็ออกมาว่าแคทตี้เป็น PCOS หรือภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มีลูกยาก
PCOS คืออะไร?
จากที่คุณหมออธิบายให้ฟัง PCOS หรือภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ เป็นความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อหรือฮอร์โมนในร่างกายที่ทำให้พบถุงน้ำหลายใบในรังไข่ และเมื่อถุงน้ำเข้าไปเบียดรังไข่ก็จะทำให้การทำงานของรังไข่มีความผิดปกติ จนทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้
แต่ด้วยความที่แคทตี้ไม่ได้เป็น PCOS ที่อยู่ในเกณฑ์อันตรายมาก เลยไม่จำเป็นต้องทำการรักษาโรค PCOS แต่คุณหมอจะแนะนำให้รักษามีบุตรยากด้วยวิธี ICSI แทน
การทำ ICSI คืออะไร?
สำหรับการทำ ICSI หรือ Intracytoplasmic sperm injection เป็นขั้นตอนพิเศษที่เพิ่มเข้ามาจากขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกให้สำเร็จสูง
โดยวิธีการก็คือคุณหมอจะใช้เครื่องมือพิเศษช่วยให้ไข่กับอสุจิผสมกันโดยที่ไม่ต้องรอให้อสุจิว่ายเข้าไปปฏิสนธิในรังไข่เอง แต่จะเป็นการคัดเอาอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเจาะเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง
หลังจากที่ไข่กับอสุจิผสมกันแล้ว ก็จะนำไปเลี้ยงในห้องแล็บจนเป็นตัวอ่อน พอเลี้ยงตัวอ่อนจนโตถึงระยะนึง ก็จะย้ายตัวอ่อนกลับสู่โพรงมดลูกเพื่อให้เติบโตในครรภ์ต่อไป
และอย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเราทั้งคู่มีแพลนที่จะมีลูกทั้งหมด 3 คน คุณหมอเลยแนะนำเพิ่มเติมว่าการทำ ICSI สามารถฉีดตัวอ่อนเข้าไปได้พร้อมกัน 2 ตัว ถ้าหากตัวอ่อนทั้ง 2 ตัวที่ฉีดเข้าไปติดทั้งคู่ก็จะทำให้เราตั้งครรภ์ลูกแฝด
ซึ่งการตั้งครรภ์ลูกแฝดนี้ก็มีข้อดีสำหรับพวกเราคือ ตั้งครรภ์ครั้งเดียวแต่ได้ลูก 2 คน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาตั้งครรภ์หลายๆ รอบ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตั้งครรภ์ลูกแฝดก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างเหมือนกัน เนื่องจากการตั้งครรภ์ลูกแฝดถือว่าเป็นความผิดปกติอย่างนึงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ทั้งในช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอด
คุณหมอเลยแนะนำว่าถ้าหากเราสนใจอยากจะทำลูกแฝดจริงๆ ก็จะต้องมีร่างกายที่พร้อมและต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดด้วย
หลังจากได้ฟังแนวทางการรักษาจากคุณหมอต้นไปแล้ว เราทั้งคู่เลยตัดสินใจที่จะทำ ICSI ที่ Beyond IVF และเลือกลองฉีดตัวอ่อนเข้าไป 2 ตัวเลย เพื่อจะได้ลดเวลาการตั้งครรภ์ไปได้ด้วย
ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้ก็ทำให้เราได้ลูกชายฝาแฝดที่น่ารักและความประทับใจต่างๆ กลับมาครับ
ทำไมถึงเลือกทำ ICSI ที่ Beyond IVF?
ก่อนหน้านี้เราทั้งคู่ลองดูมาหลายที่แล้วเหมือนกันค่ะ แต่พอได้เข้ามาปรึกษาที่ Beyond IVF แคทกับปีโป้ก็รู้สึกเลยว่าที่นี่แหละที่เราจะมาทำ ICSI กัน เพราะทุกๆ อย่างทั้งด้านการให้บริการและสถานที่ของเค้ามันน่าประทับใจไปหมดเลย
พนักงานทุกคนให้การต้อนรับและเอาใจใส่ดีมาก สำหรับคนที่มีปัญหามีลูกยาก แคทเข้าใจอย่างนึงเลยค่ะว่าเราจะต้องมีข้อสงสัยเยอะแยะเต็มไปหมด แต่พนักงานที่นี่ก็น่ารักมากๆ ไม่ว่าเราจะถามไปเยอะแค่ไหนเค้าก็เต็มใจตอบให้ทุกข้อสงสัย โดยที่ไม่เหวี่ยงหรือวีนแม้แต่นิดเดียวเลยค่ะ
ที่สำคัญ สาเหตุที่ทำให้เราทั้งคู่ตัดสินใจเลือกทำ ICSI ที่ Beyond IVF ก็เพราะคุณหมอค่ะ คุณหมอต้นเป็นคุณหมอที่เก่งและน่ารักมากๆ ให้คำปรึกษา ดูแลเอาใจใส่เราดีมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเลย ทำให้รู้สึกว่าเค้าดูแลเราเหมือนกับเป็นครอบครัวจริงๆ
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราทั้งคู่เลือกทำ ICSI ที่ Beyond IVF เพราะการได้รับคำแนะนำ คำปรึกษา และการดูแลเอาใจใส่ที่ดี ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่มีลูกยากแล้วต้องการทำลูกจริงๆ เลยค่ะ
ความรู้สึกการทำ ICSI ที่ Beyond IVF
สำหรับความรู้สึกระหว่างทำ ICSI ช่วงแรกๆ ก็จะมีความกังวลในหลายเรื่องเลยค่ะ โดยเฉพาะช่วงที่ใส่ตัวอ่อนเข้าไปแล้ว และต้องรอให้ตัวอ่อนฝังตัวอยู่ประมาณ 14 วัน
ช่วงนั้นแคทก็จะรู้สึกกังวลมากๆ ว่าเราจะต้องเดินยังไง ขยับตัวได้มากน้อยแค่ไหน กลัวว่าถ้าขยับตัวหรือบิดตัวแรงแล้วลูกจะไม่ติดขึ้นมา ทำให้ช่วงนั้นแคทเลยจะคอยโทรไปปรึกษากับคุณหมออยู่บ่อยๆ
คุณหมอก็แนะนำมาว่าให้ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องคิดมาก เพราะถ้าหากเรายิ่งคิดมากจนมีความเครียด หรือมีความกังวลเยอะ ก็จะทำให้เราพักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดความเครียดสะสม และทำให้ลูกติดยากขึ้น
แคทกับปีโป้เลยคิดว่าช่วงระยะเวลา 14 วันที่รอให้ตัวอ่อนฝังตัวนั้น เป็นช่วงที่ยาวนานที่สุด กังวลสุด และเครียดมากสุดเลยค่ะ
แต่พอผ่านระยะเวลานี้ไปได้จนถึงวันที่เราได้รู้ว่าตัวอ่อนที่ฝังไปติดหมดทั้ง 2 ตัว พวกเราก็รู้สึกดีใจมากๆ จนร้องไห้ออกมากันเลย
ซึ่งน้องแฝดของเรา หลังจากที่คุณหมอตรวจอัลตราซาวด์ดูแล้ว ก็พบว่าน้องสมบูรณ์แข็งแรงดี และฝังตัวอยู่ในพื้นที่ที่สวยมากๆ พอพวกเรารู้แบบนี้ก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจและมีความสุขมากๆ ค่ะ
อุ้มท้องแฝดลำบากไหม?สำหรับช่วงระหว่างทางที่แคทอุ้มท้องน้องแฝด ถามว่าเป็นช่วงที่ลำบากมั้ย เอาจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันลำบากอะไรขนาดนั้นค่ะ
จะมารู้สึกว่ามันหนักจนไม่ไหวจริงๆ ก็คือตอนช่วงใกล้คลอดเลย เพราะช่วงนั้นท้องของแคทใหญ่มาก ทำให้รู้สึกหนักและใช้ชีวิตลำบากขึ้นนิดนึง คุณหมอเลยมีคำแนะนำเพิ่มเติมว่าควรนอนบนเตียงนานๆ อย่าพยายามเดินมากประมาณนี้ค่ะ
อีกอย่างตอนที่อุ้มท้องแคทก็ไม่ได้มีภาวะเสี่ยงอะไรเลยค่ะ เนื่องจากเราทั้งคู่เป็นคนขี้กังวลอยู่แล้ว พอเกิดอะไรขึ้นนิดหน่อยก็จะรีบโทรไปปรึกษากับคุณหมอทันที
ซึ่งคุณหมอก็น่ารักมากๆ ไม่ว่าเราจะโทรไปกี่โมง โทรดึกแค่ไหน คุณหมอจะคอยรับสาย และเต็มใจให้คำปรึกษาอยู่ตลอด ทำให้เราสามารถแก้ไขตรงจุดนั้นได้ทัน และไม่มีความเสี่ยงอะไรค่ะ
ตอนนี้ลูกชายฝาแฝดของเราก็อายุ 1 ขวบ 8 เดือนแล้วค่ะ ชื่อน้องคูเปอร์ กับ น้องคอปเปอร์ ตอนที่คลอดออกมาน้องก็มีน้ำหนักตัวที่ไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่ เราเลยแอบกังวลไปเองว่าน้องจะแข็งแรงมั้ย
แต่พอมาตอนนี้ก็หายกังวลไปเลยค่ะ เพราะน้องเป็นเด็กที่แข็งแรง สมบูรณ์ ฉลาด และมีพัฒนาการที่รวดเร็วมาก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นผลพลอยได้ที่มาจากการทำ ICSI ด้วยนั่นเองค่ะ
เพราะการทำ ICSI ก็เหมือนกับเราได้คัดเลือกโครโมโซมและตัวอ่อนที่ดีที่สุดมาก่อนแล้ว มีการตรวจเช็กดูก่อนว่าตัวไหนมีปัญหา ตัวไหนติดดาวซินโดรมมั้ย
ซึ่งตอนนั้นที่ตรวจก็มีตัวอ่อนที่ติดดาวซินโดรมมาด้วยเหมือนกันนะคะ แคทเลยคิดว่าถ้าเกิดเราไปมีลูกกันเองโดยไม่ได้ทำวิธี ICSI ก็คงจะมีสิทธิ์ที่ลูกจะออกมาเป็นดาวซินโดรมได้เหมือนกัน
นี่เลยเป็นข้อดีอย่างนึงของการทำ ICSI เลยค่ะ ที่เราจะได้มีโอกาสคัดเอาโครโมโซมที่มีปัญหาออกไป และเลือกตัวที่ดีที่สุดเข้ามา
สำหรับความรู้สึกหลังจากที่ได้มีลูกชายฝาแฝดเข้ามาในชีวิต เราก็รู้สึกเหมือนกับได้รับการเติมเต็มความสุขเข้ามาแบบล้นๆ เลยค่ะ เพราะเวลาได้เห็นเค้าเล่นกัน จับมือกัน รักกัน มันทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากๆ
อีกอย่างคือเหมือนเค้าเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของเราด้วย ทำให้คนในครอบครัวทั้ง ปู่ ย่า ตา ยาย ได้กลับมาเที่ยวด้วยกันบ่อยขึ้น และมีกิจกรรมร่วมกันมากขึ้นด้วย
ความประทับใจการทําลูกแฝด ที่ Beyond IVF
ความประทับใจในการทํา ICSI แล้วได้ลูกแฝด ที่ Beyond IVF ถ้าจะให้บรรยายความรู้สึกทั้งหมดที่มีก็บรรยายไม่หมดจริงๆ ครับ
เอาตรงๆ คือคุณหมอต้นเหมือนกับเป็นคนในครอบครัวของเราไปแล้วคนนึงเลย เพราะนอกเหนือจากการทำ ICSI ที่คุณหมอเข้ามาคอยดูแลแล้ว เวลาที่ปีโป้ป่วย หรือแคทป่วย คุณหมอก็จะคอยมาเยี่ยม คอยมาดูแลเราอยู่ตลอด
ส่วนการทำ ICSI คุณหมอก็คอยดูแลให้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน จนทำให้เราทั้งคู่ได้มีลูกชายฝาแฝดที่น่ารักมาอยู่ในครอบครัว และตอนนี้ก็ได้สมาชิกใหม่เป็นลูกสาวเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ซึ่งเป็นความตั้งใจของเราตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าอยากจะมีลูกทั้งหมด 3 คน
สำหรับลูกสาวคนนี้ผมก็ได้ให้คุณหมอต้นมาช่วยจัดการดูแลทำ ICSI ให้อีกเหมือนกันครับ เพราะว่าผมกับแคทไว้วางใจและประทับใจคุณหมอ และที่ Beyond IVF มากจริงๆ เลยมาฝากให้คุณหมอต้นดูแลอีกครั้ง
ภาวะมีบุตรยาก ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคู่รักหลายๆ คู่ที่พยายามมีลูกด้วยวิธีทางธรรมชาติ แต่ยังไม่สำเร็จ ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหานี้มักจะเกิดจากปัญหาสุขภาพ และพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุเฉลี่ย 35 ปีขึ้นไป
การทำ ICS จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคู่รักที่มีลูกยาก วิธีการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จสูงที่สุดถึง 60-70% เลย อีกทั้งยังสามารถเพิ่มโอกาสในการทำลูกแฝด ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ตั้งใจอยากจะมีลูกหลายคนแล้วไม่ต้องการตั้งท้องหลายๆ รอบอีกด้วย
HDmall.co.th ร่วมกับ Beyond IVF โดยนายแพทย์พูนศักดิ์ สุชนวณิช หรือหมอต้น แพทย์เฉพาะทางด้านรักษาผู้มีบุตรยาก จะมาเจาะลึกเกี่ยวกับการทําลูกแฝดด้วยวิธี ICSI พร้อมให้คำแนะนำ ข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำลูกแฝด เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนมาปรึกษาภาวะมีบุตรยากที่นี่
ทำไมทำ ICSI แล้วถึงมีโอกาสมีลูกได้?
ปกติแล้วถ้าเป็นวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะเป็นการคัดเลือกเซลล์ไข่กับอสุจิให้มาผสมกันเองในอุปกรณ์ทดลองทางการแพทย์ ซึ่งวิธีนี้ก็จะต้องมานั่งลุ้นกันว่าเซลล์ไข่กับอสุจิจะปฏิสนธิสำเร็จหรือไม่ หรือถ้าปฏิสนธิกันแล้วจะเป็นตัวอ่อนที่ดีที่สุดหรือไม่
ในขณะที่การทำ ICSI จะเป็นการคัดเอาอสุจิมา 1 ตัว ซึ่งเป็นตัวที่ทางห้องแล็ปเลือกแล้วว่าดีที่สุด มีลักษณะรูปร่างดี เคลื่อนไหวดี และมีความแข็งแรง โดยจะนำอสุจิตัวที่ได้ไปตัดเอาเฉพาะส่วนหัว และนำไปบรรจุในหลอดแก้วเล็กๆ พร้อมกับเจาะแท่งแก้วนี้เข้าไปในส่วนของเซลล์ไข่
เพราะฉะนั้นเมื่อเรานำเอาอสุจิที่ได้คัดเลือกอย่างดีไปปฏิสนธิ และทำกระบวนการเจาะเข้าไปแล้ว ก็เลยจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิที่สำเร็จขึ้น แถมยังได้ตัวอ่อนที่คุณภาพดีไปด้วย การทำ ICSI จึงเป็นทางเลือกที่ทำให้โอกาสในการสำเร็จของการตั้งครรภ์สูงขึ้น
คำแนะนำสำหรับคนที่อยากทำลูกแฝดด้วยวิธี ICSI
สำหรับคนที่อยากมีลูกแฝด แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง หมอต้นแนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อน ซึ่งที่ Beyond IVF เป็นศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากที่มีมาตรฐาน เชี่ยวชาญด้านการทำ IVF และ ICSI
และหากใครที่อยากมีลูกแฝด ควรตรวจร่างกายก่อนเป็นอันดับแรก ว่าสุขภาพแข็งแรงพอสำหรับที่จะตั้งครรภ์ลูกแฝดรึเปล่า
เนื่องจากการตั้งครรภ์ลูกแฝด คุณแม่จะต้องมีสุขภาพที่ดี มีลักษณะของมดลูกที่ปกติ ไม่มีเนื้องอก และไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการอุ้มครรภ์ลูกแฝดไว้ด้วย
ส่วนการตรวจร่างกายก่อนทำ ICSI ให้ได้ลูกแฝด แพทย์จะตรวจพื้นฐานเหมือนกับคนที่มีบุตรยากทั่วไป คือการเช็กฮอร์โมนคุณแม่เพื่อดูคุณภาพไข่ เช็กคุณภาพอสุจิของคุณพ่อ และดูว่าเรามีตัวอ่อนเยอะพอที่จะคัดเลือกมาทำลูกแฝดรึเปล่า
ถ้าหากว่ามีตัวอ่อนหลายตัวแล้วไม่มีข้อบ่งชี้ที่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์แฝด ท่านใดที่มีความประสงค์อยากจะมีลูกแฝดก็สามารถใส่ตัวอ่อนเข้าไป 2 ตัว และมีโอกาสที่จะมีลูกแฝดได้
ทำเด็กหลอดแก้ว IVF หรือ ICSI ที่ Beyond IVF
สำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว ที่ Beyond IVF แพทย์จะแนะนำให้ผู้มารับบริการเลือกทำ ICSI ในคนไข้ทุกๆ เคส เพราะการทำ ICSI จะช่วยให้อัตราการปฏิสนธิสูงขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสที่จะได้ตัวอ่อนที่ดีที่สุด
โดยหลักการการทำ ICSI ที่ Beyond IVF ก็จะเลี้ยงตัวอ่อนไปจนถึงระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst Culture) ซึ่งเป็นระยะของตัวอ่อน 5-6 วัน
เมื่อเลี้ยงตัวอ่อนมาจนถึงระยะบลาสโตซิสต์แล้ว สามารถตัดเอาบางส่วนของเซลล์รกโดยที่ไม่รบกวนเซลล์ลูกไปส่งตรวจหาความผิดปกติของพันธุกรรมด้านโครโมโซม และทำให้ทราบโครโมโซม XY หรือทราบเพศได้อีกด้วย
จากนั้นแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับคุณภาพของตัวอ่อนในแต่ละตัว ตัวไหนที่เหมาะสำหรับฝังเข้าไปสู่โพรงมดลูกที่สุด
เมื่อเข้าสู่กระบวนการฝังตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก ตัวอ่อนจะใช้เวลาประมาณ 14-15 ในการฝังตัวลึกลงไปจนกระทั่งไปเชื่อมกับเส้นเลือดของคุณแม่
ซึ่งช่วง 14-15 วันนี้ ที่ Beyond IVF จะมองว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด โดยเจ้าหน้าที่จะนัดผู้รับบริการให้เข้ามาตรวจติดตามผล และเช็กระดับฮอร์โมนในทุกๆ 3 วัน เพราะหากเกิดมีปัญหา เช่น คุณแม่มีภาวะฮอร์โมนผิดปกติ ก็จะได้วางแผนการดูแลตัวเองให้คุณแม่ต่อไป
รับบริการปรึกษาและรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำ IVF หรือ ICSI ที่ Beyond IVF หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางไลน์ @HDcoth เพื่อให้ความฝันในการมีลูกประสบผลสำเร็จ ควรดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
