สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- โบว์ตรวจวิตามินกับ N Health เพราะราคาไม่แพงเลย เทียบกับลิสต์รายการวิตามินและแร่ธาตุที่จะได้ตรวจอย่างครอบคลุมถึง 19 รายการ
- หลังจากเจาะเก็บตัวอย่างเลือดเสร็จก็กลับบ้านได้เลย ส่วนระยะเวลารอผลเลือดจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นไฟล์ผลตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุจะถูกส่งไปให้โบว์ผ่านทางอีเมล ส่วนรูปเล่มก็จะส่งมาที่บ้านผ่านทางไปรษณีย์
- ผลตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุจาก NHealth อ่านง่ายมากๆ โดยจะเป็นแถบสี 3 สีค่ะ เหนือแถบสีก็จะมีข้อความเขียนว่า “You” ถ้าเจ้าข้อความคำว่า You นี้ไปปรากฎอยู่ตรงแถบสีไหน นั่นก็คือระดับวิตามินนั้นๆ ในร่างกายของคุณ
- ภาพรวมผลการตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุเสริมของโบว์ไม่ได้ดูแย่มากนะคะ แต่จะมี 4 รายการวิตามินที่ต่ำถึงขั้นอยู่ขีดแดงเลย คือ วิตามินอี (gamma-Tocopherol) สารไลโคปีน (Lycopene) แร่ธาตุทองแดง (Copper) และวิตามินดี (25-OH Vitamin D2/D3)
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ N Health (เอ็นเฮลท์)
- ดูรายละเอียด ราคาตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ 19 รายการ (Micronutrient Profile +Vitamin D2/D3) ที่ N Health (เอ็นเฮลท์)
- ดูรายละเอียด โปรแกรมทั้งหมดจาก N Health (เอ็นเฮลท์) บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
ส่วนตัวโบว์กินวิตามินและอาหารเสริมเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยตรวจระดับวิตามินในร่างกายเลย ก็จะไม่รู้ว่าวิตามินและอาหารเสริมที่กินไปทุกวันมันส่งผลดีกับร่างกายแค่ไหน หรือวิตามินที่เรากินเข้าไปมันเกินความจำเป็นรึเปล่า? และในรีวิวนี้โบว์จะมาเล่าประสบการณ์ตรวจเช็กระดับวิตามินในร่างกายกันค่ะ
โบว์เป็นคนที่ดูแลสุขภาพตัวเองดีอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นสายรักสุขภาพมากๆ คนนึงเลย และเมื่อช่วงต้นปี โบว์ได้ไปตรวจอาการอ่อนเพลียเรื้อรังที่โรงพยาบาลมา และผลตรวจก็ออกมาว่าโบว์มีภาวะขาดวิตามินดีค่ะ!!
ปกติแล้ว ค่าวิตามินดีของคนทั่วไปไม่ควรต่ำกว่า 25 แต่ของโบว์มีวิตามินดีในเลือดอยู่ที่ 11.6 ขาดเยอะมากๆ โบว์ก็เลยไปซื้ออาหารเสริมมากิน จนผ่านมาเกือบจะครึ่งปีแล้วโบว์ก็เลยอยากจะกลับมาตรวจระดับวิตามินในร่างกายอีกครั้งนึงค่ะ
ที่ผ่านมาโบว์ใช้บริการจองคิวตรวจสุขภาพผ่าน HDmall.co.th มาโดยตลอด พอเรากำลังมองหาที่ตรวจวิตามินก็เลยเข้ามาที่ HDmall.co.th ก่อนเลย และก็เจอเข้ากับโปรแกรมตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ 19 รายการ (Micronutrient Profile +Vitamin D2/D3) ที่ N Health (เอ็นเฮลท์)
พอเข้ามาดูรายละเอียดก็เห็นว่ามันครอบคลุมหลายรายการที่เราอยากรู้อยู่พอดีก็เลยตัดสินใจจองคิวทำนัดเข้ามาเลยค่ะ
ตรวจระดับวิตามินสำคัญยังไง?
ก่อนหน้านี้โบว์ก็ไม่รู้ว่ามีการตรวจวิตามินในร่างกายอยู่ด้วย จนได้ไปตรวจอาการอ่อนเพลียเรื้อรังคุณหมอก็แนะนำให้เราลองปรับพฤติกรรม แล้วค่อยกลับมาตรวจเช็กค่าวิตามินดู ซึ่งอาการผิดปกติของร่างกายหลายๆ อย่างก็เกิดจากการขาดวิตามินได้เหมือนกันค่ะ
โบว์ก็เลยมองว่าการตรวจระดับวิตามินในร่างกายสำคัญพอสมควรเลย เพราะถ้าเราขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางตัว ก็มีความเสี่ยงจะเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ และถึงแม้ว่าเราจะกินอาหารเสริมเป็นประจำ แต่ก็ไม่รู้เลยว่าวิตามินหรือแร่ธาตุที่กินเสริมเข้าไปมันดีต่อร่างกายเราจริงๆ ไหม ควรเพิ่มลด หรือปรับอะไรรึเปล่า?
ดังนั้นการตรวจวิตามินจึงเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมตรวจที่ช่วยยืนยันได้ว่าอาการที่เป็นมีโอกาสเกิดจากการขาดวิตามินหรือไม่ คุณหมอจะได้วางแผนการรักษาตัวเองได้ดีขึ้น หรือเราสามารถนำผลตรวจมาปรับใช้เพื่อเลือกวิตามินที่เหมาะกับตัวเองก็ได้ค่ะ
รีวิวตรวจวิตามินในร่างกาย ที่ N Health (เอ็นเฮลท์)
สำหรับโปรแกรมตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ 19 รายการ (Micronutrient Profile +Vitamin D2/D3) ที่ N Health (เอ็นเฮลท์) มีรายการตรวจดังนี้
- ตรวจระดับวิตามินเอ (Retinol)
- ตรวจระดับวิตามินอี (gamma-Tocopherol)
- ตรวจระดับวิตามินอี (alpha-Tocopherol)
- ตรวจระดับวิตามินซี (Ascorbic acid)
- ตรวจระดับ Coenzyme Q10
- ตรวจระดับสารลูทีนแล ซีแซนทีน (Lutein + Zeaxanthin)
- ตรวจระดับสารเบต้า⠀คริปโตแซนทิน (Beta-Cryptoxanthin)
- ตรวจระดับสารไลโคปีน (Lycopene)
- ตรวจระดับสารแอลฟา แคดรทีน (Alpha-Carotene)
- ตรวจระดับสารเบต้า แคโรทีน (Beta-Carotene)
- ตรวจระดับสารโครเมียม (Cr)
- ตรวจระดับสารทองแดง (Cu)
- ตรวจระดับสารซีลีเนียม Selenium (Se)
- ตรวจหาระดับสารสังกะสี (Zn)
- ตรวจหาระดับสารแมกนีเซียม (Mg)
- ตรวจหาระดับวิตามินบี 12
- ตรวจหาระดับสารโฟเลต (Folate)
- ตรวจระดับสารเฟอร์ริติน (Ferritin)
- ตรวจระดับวิตามินดี (25-OH Vitamin D2/D3)
พอถึงวันนัดหมาย เราก็ที่ N Health สาขากรุงเทพฯ ที่เรียกว่า N Space ศูนย์ตรวจสุขภาพจาก N Health ที่ดูหรูหรามากๆ ที่นี่เค้ามีจุดเด่นตรงที่ นอกจากจะเป็นสถานที่เก็บตัวอย่างเลือดแล้ว เค้ายังมี Co-Working Space ไว้รองรับผู้มารับบริการด้วย แถมยังมีร้านกาแฟให้บริการด้วยนะคะ
ขั้นตอนการตรวจวิตามินในร่างกาย ที่ N Health (เอ็นเฮลท์)
สำหรับขั้นตอนการตรวจวิตามินในร่างกาย พอมาถึงที่ N Space ก็ยื่นคูปองจากอีเมลที่ได้รับจาก HDmall.co.th ให้กับเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ก่อนค่ะ
เจ้าหน้าที่จะให้กรอกเอกสารข้อมูลส่วนตัวและที่อยู่สำหรับจัดส่งผลตรวจ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนพาไปยังโซนเก็บตัวอย่างเลือดที่จะมีม่านกั้นเป็นสัดส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัว
ก่อนจะเก็บตัวอย่างเลือด เจ้าหน้าที่จะให้เราตรวจเช็กข้อมูลส่วนตัวที่ติดอยู่บนหลอดเก็บตัวอย่างเพื่อความถูกต้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เจาะเลือดจากเราไปแล้วก็กลับบ้านได้เลยค่ะ
ขั้นตอนการตรวจใช้เวลาแปปเดียวเอง รวมระยะเวลาที่โบว์อยู่ที่ N Health หรือ N Space รวมแล้วไม่ถึง 10 นาทีเลย เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าหากจองคิว ล็อกคิวกับ HDmall.co.th มาแล้วก็จะใช้เวลาไม่นานค่ะ สะดวกรวดเร็วมากๆ
ส่วนระยะเวลารอผลเลือดจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน ทาง N Health ก็จะส่งไฟล์ผลตรวจวิตามินในร่างกายให้เราทางอีเมล และส่งรูปเล่มให้เราผ่านทางไปรษณีย์ด้วยค่ะ
รีวิวผลตรวจวิตามินและแร่ธาตุในร่างกาย ที่ N Health (เอ็นเฮลท์)
ลักษณะของผลตรวจวิตามินและแร่ธาตุจาก N Health อ่านง่ายมากๆ ค่ะ ตอนแรกโบว์ก็กังวลเหมือนกันว่า ผลตรวจมันจะออกมามีแต่ตัวเลขหรือศัพท์ทางการแพทย์ที่โบว์อ่านไม่เข้าใจรึเปล่า แต่พอโบว์ลองอ่านผลตรวจเองแล้ว ก็ไม่ยากอย่างที่คิดไว้ค่ะ
โดยลักษณะผลตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุเสริมของทาง N Health จะเป็นแถบ 3 สีค่ะ เหนือแถบสีก็จะมีข้อความเขียนว่า “You” ถ้าเจ้าข้อความนี้ไปปรากฎอยู่ตรงแถบสีไหน นั่นก็คือระดับวิตามินนั้นๆ ในร่างกายของเรานั่นแหละค่ะ
โดยแถบสีทั้ง 3 สีที่ว่า ก็จะได้แก่
- แถบสีเขียว มีข้อความเขียนว่า “Excellent” หมายความว่า ระดับวิตามินหรือแร่ธาตุตัวนั้นๆ มีเพียงพอต่อร่างกายอยู่แล้ว ไม่ต้องดูแลหรือปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติม
- แถบสีเหลือง มีข้อความเขียนว่า “Moderate” หมายความว่า ระดับวิตามินหรือแร่ธาตุตัวนั้นๆ อยู่ในระดับปานกลาง สามารถกินอาหารเสริมได้ค่ะ
- แถบสีแดง มีข้อความเขียนว่า “Low” หมายความว่า ระดับวิตามินหรือแร่ธาตุตัวนั้นๆ อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์และควรหามากินเสริมได้แล้วค่ะ
สำหรับภาพรวมผลการตรวจวิตามินและแร่ธาตุของโบว์ไม่ได้ดูแย่มากนะคะ แต่จะมี 4 รายการวิตามินที่ต่ำถึงขั้นอยู่ขีดแดงเลย ซึ่งโบว์ก็ค่อนข้างแปลกใจเพราะบางตัวโบว์คิดว่ามันเพียงพออยู่แล้ว แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามเลย
ตัวแรกที่ทำโบว์แปลกใจก็คือ วิตามินอี (gamma-Tocopherol) ซึ่งอยู่ในระดับ Low แบบสุดๆ เลย จากที่ไปหาข้อมูลเพิ่มว่าควรกินอะไรเพิ่ม ถึงได้รู้ว่าวิตามินอีเนี่ยมันแฝงอยู่ในพวกกลุ่มน้ำมันที่สกัดจากพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันอโวคาโด หลังจากนี้น่าจะต้องเปลี่ยนน้ำมันสำหรับใช้ทำกับข้าวแล้วล่ะ จะได้เติมสารวิตามินเข้าร่างกายเพิ่มอีก
ตัวที่สองที่อยู่ในระดับต่ำมากเหมือนกันก็คือ สารไลโคปีน (Lycopene) ค่ะ ซึ่งโบว์ค่อนข้างแปลกใจเพราะไลโคปีนมันหาได้จากผลมะเขือเทศ แล้วเราก็ดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำ แต่ทำไมค่าไลโคปีนของโบว์ถึงได้ต่ำมากก็ไม่รู้
จนไปหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงได้รู้ว่า หากจะกินมะเขือเทศให้ได้ไลโคปีนเยอะๆ ควรกินจากมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนมากก่อน จะเป็นการนึ่ง ต้ม หรือย่างก็ได้หมดเลย ซึ่งโบว์ดื่มเป็นน้ำมะเขือเทศก็จะได้น้อยค่ะ
ส่วนวิตามินตัวที่สามที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำก็คือ Copper หรือทองแดงค่ะ อันนี้ต่ำอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ไปถึงขอบสุดของขีดแดงค่ะ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าทองแดงมันประกอบอยู่ในพวกอาหารทะเล โดยเฉพาะหอยนางรมจะมีเยอะมากๆ เลย
แต่ด้วยความที่ ก่อนหน้านี้กังวลว่าการกินอาหารทะเลจะทำให้คอเลสเตอรอลในร่างกายสูง ก็เลยไม่ค่อยกินเท่าไร กลายเป็นว่าพอไม่กินเลย มันก็กระทบกับร่างกายเราเหมือนกัน นั่นคือทำให้เราขาดแร่ธาตุทองแดงไปนั่นเอง
และตัวสุดท้ายที่เมื่อต้นปีโบว์ตรวจแล้วมีค่าที่ต่ำมากๆ ก็คือ ผลตรวจวิตามินดี (25-OH Vitamin D2/D3)
ค่ะ จากค่าเฉลี่ยมาตรฐานอยู่ที่ 30 ug/L แต่จากผลตรวจของโบว์ โบว์มีระดับวิตามินตัวนี้อยู่แค่ 15.95 ug/L เพิ่มจากของเดิมที่อยู่ระดับ 11.6 ug/L ก็เรียกว่าขึ้นมานิดเดียวเอง
โดยช่วงที่ผ่านมาโบว์ก็ไปซื้อวิตามินมากินเพิ่มนิดหน่อย แต่เหมือนจะไม่ค่อยเห็นผลสักเท่าไหร่ โบว์ก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็พบว่า วิตามินดีหาได้ง่ายที่สุดจากแสงแดดรอบตัวเรานี่แหละค่ะ
แต่ก็อย่างที่รู้กันว่า คนไทยเราไม่ค่อยอยากออกแดดกันเท่าไหร่ แต่ในเมื่อค่าวิตามินต่ำแบบนี้ โบว์ก็คงต้องออกตากแดดยามเช้าสัก 15 นาทีให้ร่างกายได้รับวิตามินดีสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ
จากการตรวจวิตามินในร่างกายครั้งนี้ มีทั้งผลตรวจที่น่าตกใจและไม่คาดคิดมาก่อน ทำให้โบว์สามารถวางแผนในการปรับอาหารการกินและดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นมากๆ
โบว์ว่าการตรวจแบบนี้ถึงจะไม่มีคุณหมออ่านผลให้เหมือนกับการตรวจที่โรงพยาบาล แต่มันก็ตอบโจทย์คนที่แค่อยากเช็กอัประดับวิตามินในร่างกายตัวเองเฉยๆ โดยที่ไม่ได้อยากพบแพทย์เหมือนกัน หรือคนที่ไม่ได้ชอบบรรยากาศโรงพยาบาล แต่อยากจะตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุดู โบว์ว่าการตรวจกับทาง N Health ก็ตอบโจทย์ดีเหมือนกันค่ะ
สำหรับใครที่สนใจอยากตรวจวิตามินและแร่ธาตุแบบเดียวกับโบว์ ก็เข้าไปดูโปรโมชั่นได้ที่ HDmall.co.th เลยนะคะ เพราะในนี้เค้าจะมีโปรโมชั่นส่วนลดอยู่ตลอด แถมยังมีแอดมินคอยนัดหมายส่งข้อมูลกับทาง N Health ให้ด้วย สะดวกสบายสุดๆ เลยค่ะ