หลายคนอาจคิดว่า อาการคันศีรษะเป็นอาการไม่ร้ายแรง ซึ่งความจริงแล้วอาการคันศีรษะสามารถบอกอาการและสัญญาณของโรคบางอย่างที่เกิดขึ้นกับหนังศีรษะของคุณได้
มีโรคภัยมากมายที่ส่งผลให้คุณเกิดอาการคันศีรษะได้และส่วนมากเป็นโรคที่จำเป็นต้องรักษาก่อน ที่อาการจะลุกลามหนักขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคัน มีดังนี้
สารบัญ
เหา
“เหา“ เป็นปรสิตตัวเล็กๆ ที่เกาะตัวติดกับเส้นผม สามารถพบได้ในลักษณะเป็นไข่เล็กๆ ที่เกาะตามเส้นผม คุณอาจสับสนระหว่างไข่เหากับรังแค โดยไข่เหามักจะเกาะอยู่บริเวณโคนผมใกล้กับหนังศีรษะมักไม่เกิน 1 เซนติเมตร แต่สำหรับในเมืองร้อน อาจพบบริเวณที่ห่างออกมาจากหนังศีรษะได้ แต่ไข่เหาจะเกาที่ผมค่อนข้างแน่นเมื่อเทียบกับรังแค หรือคุณอาจพบเหาตัวเต็มวัยกำลังเคลื่อนที่ไปรอบๆ ศีรษะ มักพบในเด็กอายุ 3-11 ปี
การรักษาเหาจะใช้ยาก็คือ ยาไพรีทรินส์ (Pyrethrin) และยาเพอร์เมทริน (Permethrin) หรือยา Ivermectin โดยปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เนื่องจากยาอาจเกิดอาการระคายเคืองในบางราย รวมทั้งต้องดูน้ำหนักและอายุของผู้ป่วยก่อนจ่ายยาบางประเภท
รังแค
รังแคเป็นอีกตัวสร้างปัญหาอันดับต้นๆ ของผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะ จะเกิดขึ้นกับคนทั่วไปประมาณ 40% โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยน รังแคยังเกิดขึ้นในโรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic dermatitis) ด้วย โดยโรคนี้มีสาเหตุมาจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อยีสต์ที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง
การรักษาขึ้นกับสาเหตุ โดยอาจมียาทาลดอาการอักเสบคันที่จ่ายโดยแพทย์ ส่วนแชมพูยารักษารังแค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา เช่น คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) หรือเซเลเนียม ซัลไฟด์ (Selenium Sulfide)
ส่วนยาจากธรรมชาติสำหรับการรักษารังแคจะได้แก่ น้ำมันจากต้นชา (Tea tree oil)
ปฏิกิริยาจากการแพ้
หากคุณเพิ่งย้อมสีผมมาหมาดๆ เป็นไปได้ว่า คุณจะพบอาการแพ้จากสีย้อม แม้ว่าคุณจะเคยใช้ผลิตภัณฑ์มาก่อนโดยไม่มีอาการแพ้ใดๆ เพราะคนเราสามารถมีปฏิกิริยากับอะไรก็ตามที่ใส่ลงบนหนังศีรษะ ไม่ว่าจะเป็นแชมพู หรือยาย้อมผม
เพื่อระบุผลิตภัณฑ์ หรือส่วนประกอบที่เป็นตัวการของอาการแพ้ ให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ทีละอย่างเพื่อทดสอบดูว่า “มีอาการแพ้หรือไม่ก่อน” แทนที่จะใช้หลายๆ ตัวในเวลาเดียวกัน ในระหว่างที่หนังศีรษะกำลังฟื้นตัว ควรเลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์สูตรที่อ่อนโยน และสำหรับผิวบอบบางเท่านั้น
โรคสะเก็ดเงิน
อาการคันศีรษะอาจพบได้บ้างในโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งอาจมีอาการที่หนังศีรษะ ลักษณะของโรคสะเก็ดเงิน จะมีผื่นแดงหนาและเป็นขุยสีเงิน หรือสีขาว
เมื่อสงสัยเรื่องของสะเก็ดเงินแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อการรักษาที่เหมาะสมเนื่องจากมีการรักษาหลายวิธี ได้แก่
- ใช้สเตียรอยด์เฉพาะจุด
- ใช้สารที่โครงสร้างคล้ายวิตามินดี หรือแอลฟาแคลซิดอล (Alfacalcidol)
- น้ำมันถ่านหิน
- กรดซาลิไซลิค
- เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser)
- การบำบัดด้วยแสง
- สารที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ในกรณีที่รุนแรง
หนังศีรษะแห้ง
ช่วงฤดูหนาวอาจมาพร้อมกับอากาศแห้ง ไม่ว่าจะอากาศเย็นภายนอก หรืออากาศอบอุ่นภายในบ้านก็เป็นสาเหตุทำให้หนังศีรษะของคุณแห้งได้ และจะเริ่มเกิดอาการคัน
วิธีบรรเทาหนังศีรษะแห้งที่สามารถทำได้คือ ลองใช้ครีมนวดผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หรือการหมักผมและหนังศีรษะ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ความสกปรก และเหงื่อ
ความมันตามธรรมชาติ ความสกปรกจากฝุ่นละอองภายนอก และสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์จะสะสมบนรากผม และหนังศีรษะ ทำให้เกิดอาการคันตามมา
ควรรู้ว่า ผิวหนังของศีรษะนั้นคล้ายกับผิวหน้าและต้องการการชำระล้างที่ไม่แตกต่างกันนัก การสระผมวันเว้นวันจึงเป็นสิ่งที่แนะนำโดยทั่วไป
การเล่นกีฬาก็เช่นเดียวกัน หนังศีรษะอาจคันได้จากการละเลยการอาบน้ำหลังเล่นกีฬา เมื่อเหงื่อบนหนังศีรษะแห้ง ก็อาจทำให้ผิวระคายเคืองและรู้สึกคันได้ วิธีแก้ไขง่ายๆ คือ สระผมทุกครั้งที่เหงื่อออก หรือหลังออกกำลังกาย
โรคกลาก
โรคกลากที่หนังศีรษะ (Tinea capitis) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของอาการคันศีรษะในเด็ก ชื่อของโรคอาจฟังดูน่ารังเกียจ แต่ความจริงเป็นเพียงการติดเชื้อราอีกชนิดเท่านั้น ซึ่งจะเกิดได้ทั้งบนหนังศีรษะและส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย
ลักษณะของโรคกลากจะเป็นผื่นแดง เป็นสะเก็ด และบางครั้งก็มีอาการคันร่วมด้วย จำเป็นต้องใช้ยาต้านเชื้อราชนิดรับประทานเพื่อให้แทรกเข้าไปยังเส้นผมได้ และโรคกลากก็อาจทำให้เกิดผมร่วงชั่วคราวในเด็กได้
โรคผมร่วงเรื้อรังจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ
โรคผมร่วงเรื้อรังจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ (Lichen Planopilaris) จะส่งผลให้เกิดผมร่วงและมีอาการคันศีรษะ หรือเจ็บได้ แต่เป็นโรคที่พบได้น้อย
อาการคันศีรษะจากภาวะหลอน
อาการคันหนังศีรษะไม่ได้มีสาเหตุมาจากด้านร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่สามารถถูกกระตุ้น หรือถูกทำให้อาการรุนแรงขึ้นด้วยสิ่งปลุกเร้าทางจิตใจได้เช่นกัน อาการนี้ยังเป็นอาการที่แสดงถึงปัญหาทางจิตที่อยู่ภายใจของผู้ป่วยได้ เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล
เราสามารถเรียกอาการนี้ได้ว่า “สัมผัสที่ผิดปกติบนหนังศีรษะ” (Scalp dysesthesia หรือ Burning scalp syndrome) ซึ่งนอกจากอาการคันศีรษะแล้ว อาจมีอาการเจ็บ ชา ที่หนังศีรษะร่วมด้วยได้ ทั้งที่ไม่ได้มีสิ่งภายนอกใดๆมากระตุ้น
ควรไปให้แพทย์ตรวจประเมินโดยละเอียดก่อนว่าไม่ได้เกิดจากโรคทางกาย แล้วจึงแนะนำการรักษาต่อไป
จะเห็นได้ว่า สาเหตุของอาการคันศีรษะมีได้หลากหลายสาเหตุ เมื่อมีอาการคันศีรษะเกิดขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อให้มีการตรวจสอบที่แน่ใจและหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ว่า อาการคันศีรษะของคุณเกิดจากอะไรกันแน่ จะได้รักษาอย่างถูกต้องต่อไป
แต่หากยังไม่มีเวลาไปพบแพทย์ด้วยตนเอง ปัจจุบันมีบริการปรึกษาแพทย์ผิวหนังออนไลน์แล้ว แพทย์สามารถใช้วิดีโอคอลเพื่อตรวจดูสภาพหนังศีรษะเบื้องต้นของคุณได้ก่อนจะให้คำแนะนำในการดูแลรักษา หรือแนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดต่อไป
ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. นันทิดา สาลักษณ