ชานมไข่มุก เครื่องดื่มแคลอรี่สูงที่ต้องระวัง

ชานมไข่มุก เครื่องดื่มแคลอรี่สูงที่ต้องระวัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชานมไข่มุก (Pearl milk tea) เป็นหนึ่งในเครื่องยอดฮิตของคนทุกเพศทุกวัย ดังจะเห็นได้ว่ามีร้านชานมไข่มุกหลายยี่ห้อให้เลือกซื้ออยู่ทั่วไปทั้งในห้างสรรพสินค้าและตามย่านชุมชนต่างๆ ตัวผงชาที่ร้านชานมหลายแห่งนำมาใช้ชงเป็นเครื่องดื่มชานมไข่มุกนั้นแตกต่างกันไปตามสูตรของแต่ละร้าน บางร้านใช้ใบชาในการชงชาเพื่อให้เครื่องดื่มมีกลิ่นหอม เช่น ชาแดง ชาอู่หลง แต่บางร้านก็ใช้ผงชาสำเร็จรูปเพื่อให้ง่ายต่อการต้มชาในปริมาณมาก แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า ในชานมไข่มุก 1 แก้วมีสารอาหาร หรือมีประโยชน์อะไรต่อร่างกายบ้าง

แคลอรีและสารอาหารในชานมไข่มุก

โดยเฉลี่ย ชานมไข่มุก 1 แก้วจะให้พลังงานประมาณ 278-500 แคลอรี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดแก้ว ระดับความหวาน นมสด น้ำตาล ปริมาณไข่มุก และท้อปปิ้งอื่นๆ ที่เพิ่มลงไปด้วย
ตัวอย่างเช่น

  • ชานมไข่มุกขนาด 16 ออนซ์ จะให้พลังงานประมาณ 263-278 แคลอรี ให้ไขมัน 0.6 กรัม น้ำตาล 38 กรัมคาร์โบไฮเดรต 68 กรัม และโปรตีน 1.2 กรัม
  • ชานมไข่มุกขนาดแก้วกลาง หรือไซส์ M ขนาด 22 ออนซ์ อาจให้พลังงานถึงประมาณ 352 แคลอรี โดยให้ไขมัน 8 กรัม คาโบไฮเดรต 68 กรัม และโปรตีน 2 กรัม

กินชานมไข่มุกแล้วอ้วนไหม?

โดยปกติ เราทุกคนจะต้องได้รับพลังงานจากอาหารเพื่อนำไปใช้งานในกิจกรรมระหว่างวัน โดยผู้ชายควรได้รับพลังงานประมาณ 2,000-2,300 กิโลแคลอรี ส่วนผู้หญิงควรได้รับพลังงานประมาณ 1,600-2,000 กิโลแคลอรี

จากปริมาณพลังงานชานมไข่มุก 1 แก้วที่กล่าวไปด้านบน หากรับประทานแบบนานๆ ครั้งและไม่เกินวันละ 1 แก้ว ก็ถือว่าไม่ได้เสี่ยงทำให้เกิดภาวะอ้วน (หากน้ำหนักและส่วนสูงยังอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม)

แต่หากรับประทานชานมไข่มุกบ่อยๆ หรือรับประทานมากกว่า 1 แก้วต่อวัน มีการเพิ่มระดับความหวาน และผู้รับประทานเองก็ไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ ที่ช่วยเผาผลาญพลังงานซึ่งได้รับจากชานมไข่มุก

ไขมันและน้ำตาลจากพลังงานเหล่านั้นก็จะสะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้คุณน้ำหนักเพิ่มขึ้นและเกิดภาวะอ้วนได้

ถึงแม้คุณจะไม่ได้สั่งเพิ่มระดับความหวานเพิ่ม แต่ในชานมไข่มุกหลายยี่ห้อก็ใส่น้ำตาลลงไปในแก้วชานมไข่มุก 1 แก้วมากถึง 18 ช้อนชา ทั้งๆ ที่คนทั่วไปนั้นควรรับน้ำตาลไม่ควรเกิน 4, 6 และ 8 ช้อนชา ในผู้ที่ต้องการพลังงานวันละ 1600, 2000 และ 2400 กิโลแคลอรีตามลำดับ

ดังนั้นชานมไข่มุกจึงถือเป็นเครื่องดื่มที่เสี่ยงทำให้เกิดภาวะอ้วน หรือเป็นโรคเบาหวานได้ หากรับประทานมากบ่อยจนเกินไป

เฉพาะเม็ดไข่มุก ให้พลังงานกี่แคลอรี?

หลายคนคงทราบอยู่แล้วว่า แค่ในส่วนของเครื่องดื่มชานมให้พลังงานแคลอรีไม่น้อย และในส่วนของเม็ดไข่มุกที่เติมลงไปนั้นก็ให้พลังงานไม่น้อยด้วยเช่นกัน
เม็ดไข่มุกซึ่งใส่ในชานมนั้นทำมาจากแป้งมันสำปะหลังกับน้ำตาล เพื่อให้มีรสชาติหวานและมีเนื้อหนืดน่าเคี้ยว

ในชานมไข่มุกขนาด 16 ออนซ์ที่ให้พลังงานประมาณ 263-278 แคลอรี แค่ในส่วนของพลังงานจากไข่มุกอย่างเดียวก็มากถึง 78-180 แคลอรีแล้ว และยังมีปริมาณน้ำตาลมากถึงประมาณ 7 กรัมเลยทีเดียว

นอกจากไข่มุกแล้วยังมีท้อปปิ้งอื่นๆ ที่สามารถเลือกเติมลงไปในแก้วชานมได้ เช่น เจลลี่ พุดดิ้ง ซึ่งท้อปปิ้งเหล่านี้ มีหลายชนิดที่ให้พลังงานและน้ำตาลมากกว่าไข่มุกเสียอีก
ตัวอย่างท้อปปิ้งยอดนิยม เช่น พุดดิ้ง ให้ปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 18 กรัมต่อแก้วเลยทีเดียว

ชานมไข่มุก 1 แก้วให้พลังงานเท่ากับอาหารอะไรบ้าง?

หากยังมองไม่เห็นภาพว่า ชานมไข่มุก 1 แก้วให้พลังงานเท่ากับขนม หรือกับข้าวอะไรที่รับประทานในชีวิตประจำวัน HD มีตัวอย่างอาหารมาเปรียบเทียบ

  • ข้าวมันไก่ 1 จาน = 597 กิโลแคลอรี
  • แคบหมู (ไม่มีมัน) = 515 กิโลแคลอรี
  • ลูกชิ้นหมูทอด = 372 กิโลแคลอรี
  • ก๊วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ = 335 กิโลแคลอรี
  • ไก่ผัดขิง = 210 กิโลแคลอรี
  • ผัดไทยใส่ไข่ = 577 กิโลแคลอรี
  • ขนมจีนน้ำยา = 332 กิโลแคลอรี
  • มัสมั่นไก่ = 327 กิโลแคลอรี
  • ขนมชั้น = 276 กิโลแคลอรี
  • ขนมฝอยทอง = 431 กิโลแคลอรี
  • ทุเรียนหมอนทอง = 326 กิโลแคลอรี

* พลังงานประมาณจากหน่วยบริโภคเท่านั้น อาจแตกต่างตามขนาดและวัตถุดิบที่ใช้

เมื่อเห็นปริมาณพลังงานจากอาหารด้านบน หากคุณรับประทานอาหารเหล่านี้แล้วรับประทานชานมไข่มุกตามไปอีก 1 แก้ว จะเห็นได้ว่า เพียงแค่อาหาร 2 อย่างก็แทบจะให้พลังงานในปริมาณที่ต้องใช้ทั้งวันแล้ว

ข้อควรระวังในการรับประทานชานมไข่มุก

นอกจากเรื่องปริมาณน้ำตาลและแคลอรีดังกล่าวไปแล้ว การรับประทานชานมไข่มุกยังอาจก่อผลเสียต่อร่างกายด้านอื่นๆ ได้อีก เช่น

1. ทำให้เกิดพฤติกรรมติดหวาน

ชานมไข่มุกสามารถหาซื้อได้ง่ายแทบจะทั่วทุกมุมถนน หลายคนจึงอาจคุ้นชินในการรับประทานชานมไข่มุกเรื่อยๆ จนเคยตัว และกลายเป็นพฤติกรรมติดหวานจนเลิกได้ยาก

2. ปัญหาฟันผุ

เพราะในชานมไข่มุกนั้นมีทั้งนมข้น ผงน้ำตาล น้ำหวานจากใบชา ตัวเม็ดไข่มุกที่มีรสหวานอยู่แล้ว เมื่อรับประทานเข้าไป คราบน้ำตาลก็จะไปติดตามซอกฟัน ส่งผลให้เสี่ยงเกิดปัญหาฟันผุได้

ปัญหานี้อาจได้มากในเด็ก หรือผู้ที่ชอบรับประทานชานมไข่มุกแล้วแปรงฟันไม่สะอาด หรือรับประทานชานมไข่มุกบ่อยๆ จนสุขภาพช่องปากไม่ดี
ผู้ปกครองจะต้องคอยหมั่นย้ำเตือนบุตรหลานแปรงฟันให้สะอาดทุกครั้ง และไม่ควรซื้อชานมไข่มุกให้เด็กรับประทานบ่อยๆ

3. ส่งผลต่อสมาธิ และภาวะอารมณ์

ชานมไข่มุกมีส่วนผสมของคาเฟอีนซึ่งเป็นสารที่มีในเครื่องดื่มประเภทชา ผู้ที่ไวต่อสารคาเฟอีนจึงอาจได้รับผลกระทบทำให้ไม่มีสมาธิทำงาน เกิดอารมณ์หงุดหงิดหรือใจสั่นได้

4. อาจส่งผลต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุนได้

ในชานมไข่มุก มีคาเฟอีน ซึ่งคาเฟอีนจะสร้างกลไก 2 อย่างที่มีผลทำให้

  1. ขัดขวางการสร้างมวลกระดูกใหม่
  2. ลดความหนาแน่นของมวลกระดูก

ปริมาณการดื่มกาแฟที่ไม่มากเกินไปคือ คาเฟอีน 80 มิลลิกรัม หากบริโภคแต่น้อย มวลกระดูกที่สูญเสียไปจากการบริโภคกาแฟอาจไม่ได้มีนัยสำคัญจนทำให้ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนได้

5. เสี่ยงเกิดภาวะอ้วน และโรคเบาหวาน

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ชานมไข่มุกให้พลังงาน ไขมัน และน้ำตาลค่อนข้างสูง หากรับประทานบ่อยๆ โดยไม่ออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานออกไป ก็จะทำให้ร่างกายมีไขมันสะสมมากเกินจนเกิดโรคตามมา

นอกจากภาวะอ้วนกับโรคเบาหวานแล้ว ไขมันและน้ำตาลจากชานมไข่มุกยังอาจทำให้เกิดโรคร้ายอื่นๆ ตามมาได้อีก เช่น โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ ภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด

6. เกิดอาการเจ็บป่วยจากปริมาณสารกันบูดที่มากเกินไป

ในชานมไข่มุกหลายยี่ห้อมีการใส่สารกันบูดเข้าไปเกินมาตรฐาน ซึ่งสารกันบูดนั้นมีโทษต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น อาหารเป็นพิษ ตับและไตทำงานหนักเกินไป เป็นโรคภูมิแพ้ เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ

ชานมไข่มุกไม่ได้เป็นเครื่องดื่มที่เป็นอันตรายถึงขั้นห้ามรับประทาน อีกทั้งในเครื่องดื่มประเภทชายังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย

แต่เมื่อเทียบกับปริมาณไขมันที่ได้รับจากเครื่องดื่มชนิดนี้ รวมถึงปริมาณสารอาหารประเภทอื่นๆ ที่รวมอยู่ ชานมไข่มุกถือเป็นอาหารที่ไม่ได้ให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากนักจึงควรรับประทานแต่พอดี

ดังนั้นหากต้องการความหวาน คุณอาจลองหันไปหาเครื่องดื่มที่ประกอบไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำผลไม้ 100% หรือรับประทานผลไม้สดแทนบ้าง

Scroll to Top