นิ่วในถุงน้ำดีอาจทำให้เรามีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ปวดใต้ลิ้นปี่หรือชายโครงด้านขวา บางคนอาจจะปวดร้าวที่ไหล่หรือหลังด้านขวา หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน มีไข้หนาวสั่น อาการแบบนี้อย่าปล่อยทิ้งไว้ แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำดี
หลายคนอาจจะกลัวการผ่าตัดที่ยุ่งยากวุ่นวาย แต่ประสบการณ์ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีที่ผ่านมา ผมเลือกใช้บริการกับ HDcare บอกเลยว่าประทับใจมากๆ เพราะมันเปลี่ยนประสบการณ์การเข้าโรงพยาบาลของผมไปตลอด และรีวิวนี้ผมจะบอกละเอียดทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีที่ผ่านมาของผม
สารบัญ
ถุงน้ำดีอักเสบ อาการร้ายแรงที่ปล่อยไว้อาจจะเรื้อรัง
ผมแซม ตอนนี้อายุ 31 ปีครับ เมื่อประมาณปลายปี 66 ผมมีอาการเจ็บแน่นใต้ราวนมหรือแถวๆ ลิ้นปี่แบบกะทันหัน ก็เลยรีบไปหาหมอที่โรงพยาบาล ตอนนั้นคุณหมอให้ตรวจอัลตราซาวด์ก็เลยทำให้เจอนิ่วในถุงน้ำดีจำนวนมาก
คุณหมอบอกว่า ตรวจเจอนิ่วในถุงน้ำดีเม็ดเล็กๆ หลายเม็ด แถมยังตรวจเจอติ่งเนื้อด้วย โดยคุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดถุงน้ำดีออก ซึ่งก็จะทำให้ไม่เกิดนิ่ว แถมยังตัดติ่งเนื้อที่ผิดปกติออกไปในครั้งเดียวกันเลย
แต่ในตอนนั้นผมมีอาการถุงน้ำดีอักเสบ คุณหมอก็อธิบายว่า ถ้าอยากรักษานิ่วในถุงน้ำดีด้วยผ่าตัดแบบส่องกล้องก็แนะนำให้รักษาอาการอักเสบที่ถุงน้ำดีก่อน โดยคุณหมอได้ให้ยากลับมากินเพื่อรักษาตัวเอง
พอรักษาอาการถุงน้ำดีอักเสบด้วยการกินยา อาการต่างๆ ก็กลับมาดีขึ้น จนผมลืมที่จะกลับไปหาคุณหมอเพื่อตรวจติดตามผล และลืมเรื่องการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีออก
จนกระทั่งผ่านมาประมาณ 4 เดือน ผมมีอาการเจ็บแน่นใต้ราวนมหรือแถวๆ ลิ้นปี่อีกครั้ง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นมันส่งผลกระทบกับผมมากๆ เพราะเมื่อไหร่ที่อาการกำเริบมันจะทำให้ผมหายใจไม่ค่อยออก เจ็บที่หน้าอกใต้ราวนมด้านขวาจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ ต้องค่อยๆ หายใจทีละนิด
ยิ่งถ้าเป็นตอนกำลังจะนอนจะทรมานมากๆ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าผมมีนิ่วในถุงน้ำดี และกลัวว่าอาการที่เป็นจะหนักขึ้น หรืออาจถึงขั้นอันตรายร้ายแรง ผมก็เลยตัดสินใจไปตรวจเช็กอีกครั้งที่โรงพยาบาลอีกแห่ง
ต้องผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี เริ่มต้นยังไงดี?
พอรู้ว่าจะต้องผ่าตัดแน่ๆ ผมก็กังวลมากๆ เพราะไม่เคยผ่าตัดมาก่อน กลัวว่าผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีจะอันตรายไหม? ตัดถุงน้ำดีออกไปแล้วจะเป็นยังไงบ้าง? ผมก็เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดเยอะมากๆ
ย้อนกลับไปเมื่อนานมากๆ แล้ว ผมเคยใช้บริการของ HDmall.co.th ก็จะมีไลน์อยู่และเชื่อถือในบริการนี้พอสมควร พอจะต้องผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ผมก็เลยเข้ามาดูในเว็บไซต์และทำให้ผมรู้จักกับบริการ HDcare แต่เดี๋ยวรายละเอียดต่างๆ ผมจะอธิบายเอาไว้ท้ายบทความนี้นะครับ
- ดูข้อมูลการผ่าตัดต่างๆ บน HDcare
ตอนที่เข้ามาในเว็บไซต์ เค้าก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับบริการด้านสุขภาพและการผ่าตัดเยอะมากๆ แต่ผมยังไม่รู้ว่าอาการนิ่วในถุงน้ำดีแบบผมควรจะผ่าตัดแบบไหนดี ผมก็เลยทักไลน์หา HDcare เพื่อสอบถามรายละเอียด
พอเค้ารู้ว่าผมตรวจเจอนิ่วในถุงน้ำดี เค้าก็จะถามรายละเอียดต่างๆ ประวัติการรักษา จากนั้นเค้าก็จะแนะนำคุณหมอเก่งๆ ที่มีประสบการณ์ผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีให้ผมรู้จัก โดย HDcare เค้ารวบรวมคุณหมอเก่งๆ เอาไว้เยอะมากๆ
จากประวัติของคุณหมอหลายๆ คน ผมก็เลือกที่จะทำนัดเพื่อเข้าปรึกษาคุณหมอเจมส์ นพ. ธนเดช วงศ์จารุกร ศัลยแพทย์ชำนาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้องขั้นสูง (Advanced Laparoscopic Surgery) ผ่าตัดผ่านกล้องแผลเดียว (Single Incision Laparoscopic Surgery) และยังมีประสบการณ์ผ่าตัดมากกว่า 10 ปี
- ดูวิดีโอ ทำความรู้จักหมอเจมส์
- ดูวิดีโอ ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้องแผลเดียว
ทีม HDcare เค้าทำนัดให้เจอกับคุณหมอที่โรงพยาบาล พอถึงวันนัดหมายเค้าก็เข้ามาดูแล คอยพาเราไปยังจุดต่างๆ ประกบคู่กับพยาบาลจากโรงพยาบาลเลย และผมก็มารู้ทีหลังว่า ทีม HDcare ก็เป็นพยาบาลวิชาชีพเหมือนกัน แต่เป็นพยาบาลที่มาคอยดูแลเราตลอดการตรวจประเมินนั่นเอง
ในวันที่มาประเมิน พยาบาลจาก HDcare เค้าก็จะมีประวัติข้อมูลส่วนตัวของเราคร่าวๆ อยู่แล้ว เราก็เลยไม่ต้องตอบข้อมูลพื้นฐานอะไรมากมาย แค่ยื่นบัตรประชาชนให้ ทาง HDcare ก็จะช่วยจัดการให้เราหมด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ซักประวัติเบื้องต้น เราไม่ต้องคอยตอบคำถามเดิมๆ หลายรอบ แล้วก็ไม่ต้องรอคิวนาน เพราะ HDcare เค้าดูแลจัดการให้ เราแค่นั่งเฉยๆ ได้เลย
จากที่ได้เจอกับคุณหมอเจมส์ คุณหมอน่ารักมาก คุยแบบใจดี ผ่อนคลาย ทำให้ผมกล้าที่จะเล่าปัญหาต่างๆ อย่างเปิดอก
เพราะส่วนตัวผมชอบกินบุฟเฟต์ กินเบค่อน กินของหนักๆ แต่พอคุยกับหมอเจมส์ เค้าก็ให้คำแนะนำเหมือนพี่ชายพูดกับน้องชาย แนะนำให้งดของมันของทอดแค่ช่วงแรก แต่หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว แผลหายแล้ว ร่างกายปรับตัวได้แล้วก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
นิ่วในถุงน้ำดีหายเองได้ไหม?
จากที่ผมพูดคุยกับคุณหมอ เค้าก็บอกว่านิ่วในถุงน้ำดีหายเองไม่ได้ จำเป็นจะต้องผ่าตัดเอาออก หรือตัดถุงน้ำดีออกเท่านั้น
ซึ่งการวินิจฉัยของคุณหมอเจมส์ก็แนะนำเหมือนกับคุณหมอท่านแรกเลยคือ ควรรีบผ่าตัดถุงน้ำดีออกให้เร็วที่สุด เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจจะมีอาการหนักขึ้น และก้อนนิ่วก็จะสะสมและเพิ่มขึ้นเป็นหลายๆ เม็ดได้
ผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีทำได้กี่แบบ?
จากที่ปรึกษากับคุณหมอเจมส์ คุณหมอก็อธิบายเกี่ยวกับการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีว่าทำได้หลายแบบ และคุณหมอก็ได้อธิบายการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีแต่ละแบบให้ผมได้เข้าใจเพื่อที่จะเป็นตัวเลือกในการผ่าตัดครับ
การผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเปิด
สำหรับการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเปิดแผล คุณหมอบอกว่าจะทำให้เห็นภาพอวัยวะต่างๆ ได้กว้างขึ้น คลำตรวจอวัยวะรอบๆ ได้ เหมาะกับคนที่มีอาการอักเสบที่เกิดจากการเป็นนิ่วและทำให้ส่องกล้องไม่ได้
วิธีการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเปิดจะมีแผลที่หน้าท้องใต้ชายโครงด้านขวาประมาณ 5-8 ซม. ซึ่งก็จะทำให้ต้องพักรักษาตัวนานกว่าการผ่าตัดแบบส่องกล้อง
การผ่าตัดถุงน้ำดีแบบส่องกล้อง
การผ่าตัดถุงน้ำดีแบบส่องกล้องจะทำให้คุณหมอเห็นภาพต่างๆ ได้อย่างละเอียด เพราะกล้องจะมีความละเอียดสูง โดยจะเปิดแผลเล็กๆ ที่หน้าท้องประมาณ 3-4 แผล
การผ่าตัดแบบส่องกล้องจะทำให้แผลเล็ก เจ็บน้อย ช้ำน้อย ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด แต่ถ้าปล่อยให้นิ่วเกิดการอักเสบจะทำให้ผ่าตัดส่องกล้องไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นการผ่าตัดแบบเปิดอย่างเดียว
การผ่าตัดถุงน้ำดีแบบส่องกล้องแผลเดียว
สำหรับการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบส่องกล้องแผลเดียวเป็นการเปิดแผลเดียวที่สะดือ 1 รู แล้วใส่อุปกรณ์เข้าไปทางรูนั้นเพื่อทำการผ่าตัดถุงน้ำดีออกมา
คุณหมอบอกว่าการผ่าตัดแบบส่องกล้องแผลเดียวค่อนข้างซับซ้อน ไม่ใช่ว่าทำได้กับทุกคน เพราะการผ่าตัดผ่านช่องแคบๆ เพียงแผลเดียวต้องใช้ประสบการณ์ที่ชำนาญมากกว่าการส่องกล้องทั่วไป
แต่ข้อดีของเทคนิคการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบส่องกล้องแผลเดียวจะทำให้เสียเลือดน้อยกว่าเทคนิคอื่นมากๆ และแทบจะมองไม่เห็นแผลหลังจากผ่าตัด เพราะแผลจะอยู่ที่สะดือ สังเกตเห็นได้ยาก
และในปัญหานิ่วในถุงน้ำดีของผม จากที่คุยกับคุณหมอแล้วก็ลงความเห็นว่า สามารถผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้องแผลเดียวได้ครับ
รีวิวผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้องแผลเดียว
สำหรับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี หลังจากที่คุยกับคุณหมอแล้วว่าจะผ่าตัดด้วยวิธีส่องกล้องแผลเดียว ทาง HDcare ก็ให้ผมเลือกได้ว่าจะผ่าตัดที่โรงพยาบาลไหน โดยเค้าจะเปรียบเทียบราคาค่าใช้จ่ายของแต่ละโรงพยาบาลมาให้เราเลย ซึ่งผมก็เลือกผ่าตัดที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ เพราะสะดวกกับผมมากๆ
พอมาถึงโรงพยาบาล ทีมจาก HDcare ก็มาคอยดูแลเหมือนเดิมเลยครับ เค้าจะดูแลเราทุกขั้นตอนตั้งแต่ลงรถเลย โดยเค้าจะเอาบัตรประชาชนของเราไปทำเรื่องเอกสารต่างๆ
ถ้าเราผ่าตัดกับ HDcare ก็จะได้บริการ PriorityCare ที่ทำให้เราไม่ต้องรอคิวเลย แต่เป็นคิวแรกในของทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น การตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด จะไปตรงจุดไหน ทีม HDcare ก็ดูแลอำนวยความสะดวกให้เรา เราแค่อยู่เฉยๆ รอรับบริการอย่างเดียวเลยครับ
แต่ก่อนมาผ่าตัดไม่กี่วันก่อน สมาร์ตวอตช์ (Smart watch) ของผมแจ้งเตือนหลังตื่นนอนว่า ตอนกลางคืนผมมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก็เลยกังวลว่าจะกระทบอะไรกับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีไหม
ผมบอกเรื่องนี้กับทีม HDcare เค้าก็เลยให้คุณหมอตรวจวินิจฉัยอีกที โดยเป็นการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ซึ่งผลตรวจก็ออกมาว่าทุกอย่างปกติ ผมก็เลยสบายใจขึ้นครับ
หลังจากตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัดเสร็จแล้ว เค้าจะให้เราแอดมิดที่ห้องพักก่อน ซึ่งผมก็บอกตามตรงว่ารู้สึกกังวลเล็กๆ เพราะผมไม่เคยผ่าตัดใหญ่มาก่อน แล้วก็ไม่เคยดมยาสลบด้วย
แต่ทีม HDcare คอยอยู่ข้างๆ ผมตลอด อยู่เหมือนเพื่อน เหมือนคนในครอบครัว เค้าจะคอยตอบทุกข้อสงสัย ชวนพูดคุยให้ผมผ่อนคลาย ไม่กังวล ผมก็เลยรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ และพร้อมที่จะผ่าตัดครับ
ขั้นตอนการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้องแผลเดียว
ตอนที่เข้าไปในห้องผ่าตัดก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย พอเข้าไปวิสัญญีแพทย์จะมาทำให้หลับก่อน จากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วครับ รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในห้องพักฟื้นตอนที่คุณหมอมาปลุกว่าผ่าตัดเสร็จแล้วน้า
ตอนที่ฟื้นตื่นขึ้นมาผมลืมตาไม่ขึ้นเลย แต่ได้ยินที่คุณหมอพูดและผมก็โต้ตอบได้ แค่ลืมตาไม่ขึ้นเฉยๆ ส่วนความรู้สึกแรกคือผมรู็สึกปวดแผลมากๆ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ทนได้ครับ
และคุณหมอก็เล่าถึงการผ่าตัดที่ผ่านมาให้ผมฟังว่า ในปัญหาของผมมีพังผืดติดรอบโคนถุงน้ำดี ท่อถุงน้ำดีหนา การผ่าตัดก็เลยกินเวลาค่อนข้างนาน โดยคุณหมอเค้าเลาะเนื้อเยื่อออกทีละนิดเพื่อให้เห็นท่อถุงน้ำดีได้อย่างชัดเจน แล้วค่อยตัดถุงน้ำดีออกมา ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ
นอกจากนี้ ผมมีภาวะอ้วนด้วยก็เลยทำให้มีชั้นไขมันที่ค่อนข้างหนา การใส่อุปกรณ์ผ่าตัดก็ค่อนข้างยาก และยังทำให้การผ่าตัดผ่านกล้องก็เป็นไปอย่างลำบาก เพราะการมองเห็นอวัยวะภายในถูกชั้นไขมันบดบัง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านออกมาอย่างราบรื่นครับ
ตอนที่ผมออกจากห้องผ่าตัดเป็นเวลาประมาณบ่ายสอง จากนั้นก็ขึ้นมาที่ห้องพักแล้วก็นอนหลับพักผ่อน จนมาตื่นขึ้นอีกครั้งตอนประมาณห้าทุ่ม มีพยาบาลมาวัดไข้และตรวจชีพจรต่างๆ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าอาการปวดที่ปวดมากๆ ตอนแรกหายไปหมดแล้ว
ภายในไม่กี่ชั่วโมงผมก็พยายามลุกขึ้นนั่งเองได้แล้ว มันรวดเร็วมากๆ ไม่เหมือนกับตอนที่หลังผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ เลย รู้สึกว่าร่างกายผมฟื้นตัวเร็วมากๆ ส่วนอาการเจ็บหน้าอกใต้ชายโครงหรือใต้ลิ้นปี่ก็ไม่มีแล้วครับ ไม่รู้สึกอะไรเลย
และที่สำคัญเลยคือ พอเปิดหน้าท้องดู ก็มองไม่เห็นแผลผ่าตัดเลย เพราะว่าแผลผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้องแผลเดียวอยู่ในสะดือ กลมกลืนไปในสะดือเลยครับ
รีวิวชีวิตหลังผ่าตัดถุงน้ำดี
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ทีม HDcare ก็มาเยี่ยมแต่เช้า จากนั้นคุณหมอก็มาพูดคุย เอานิ่วที่ผ่าตัดออกมาให้ดูว่านี่คือตัวการที่ทำให้เราเจ็บปวด
สำหรับการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี คุณหมอก็แนะนำให้ดูแลตัวเองดังนี้
- กินยาให้ครบตามแพทย์สั่ง
- งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2-3 สัปดาห์
- งดออกกำลังกายและยกของหนัก 2-4 สัปดาห์
- กินอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อให้ลำไส้เคลื่อนไหวและช่วยในการขับถ่าย
- ลดอาหารที่มีไขมันสักระยะหนึ่ง จนกว่าร่างกายจะปรับตัวได้
- ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
- เคลื่อนไหวร่างกายแบบเบาๆ ทุกวัน เช่น เดินไปมา เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน
- ค่อยๆ เพิ่มการทำกิจกรรมต่างๆ ทีละน้อย เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัว และกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ตามปกติได้ในที่สุด
ตัดถุงน้ำดีมีผลกับร่างกายอย่างไร?
อีกหนึ่งเรื่องที่ผมคิดว่าหลายๆ คนคงจะกังวลเรื่องการตัดถุงน้ำดีออกจากร่างกาย ว่ามันจะส่งผลอะไรกับร่างกายมั้ย ซึ่งคุณหมอก็อธิบายให้เข้าใจแบบละเอียดเลยว่า ถุงน้ำดีเป็นแค่ส่วนหนึ่งของระบบทางเดินน้ำดี ทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำดีเท่านั้น ส่วนอวัยวะที่ทำหน้าที่ผลิตน้ำดีคือ ตับ
การตัดถุงน้ำดีออกไป จะทำให้ร่างกายไม่มีที่เก็บน้ำดีเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถย่อยน้ำดีได้ โดยน้ำดีจะถูกผลิตที่ตับแล้วก็ลงไปที่กระเพาะหรือลำไส้ได้เลย
การเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายก็คือ จะไม่สามารถย่อยอาหารที่เป็นไขมันได้ดีเท่าที่ควร แต่พอเวลาผ่านไป ร่างกายจะปรับตัวให้เข้ากับการไม่มีถุงน้ำดีได้ แล้วเราก็ใช้ชีวิตหรือกินอาหารตามปกติได้เลย
เป็นนิ่วในถุงน้ำดี ผ่าตัดที่ไหนดี?
สำหรับใครที่ตรวจเจอนิ่วในถุงน้ำดีแล้วจะต้องผ่าตัดแต่ไม่รู้จะผ่าตัดที่ไหนดี ผมแนะนำเลยครับ บริการจาก HDcare เค้าเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมคุณหมอเก่งๆ เฉพาะทาง มีประสบการณ์ผ่าตัดสูงเฉพาะด้านเอาไว้ในที่เดียวกัน แถมเรายังสามารถเลือกโรงพยาบาลที่ต้องการจะผ่าตัดได้ด้วย
นอกจากนี้ HDcare เค้ายังมีบริการ PriorityCare ที่ทำให้เราไม่ต้องไปติดต่อประสานงานเอง ในทุกๆ จุดลงทะเบียนเราแทบไม่ต้องรอคิวเลย และเค้ายังมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยดูแลเราตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่เข้ามาปรึกษาคุณหมอครั้งแรก ไปจนถึงเราออกจากโรงพยาบาลแล้วมีปัญหาตรงไหนเค้าก็คอยติดตามดูแลตลอด
ที่สำคัญคือ เค้าประเมินราคาการผ่าตัดและเปรียบเทียบราคาของแต่ละโรงพยาบาล แต่ละเทคนิคการผ่าตัดให้เราเห็นก่อนตัดสินใจ เราไม่ต้องโทรถามโรงพยาบาลแต่ละที่ด้วยตัวเอง หรือถ้าเรามีประกันสุขภาพ ก็ให้ทีม HDcare เช็กสิทธิ์ประกันให้เราได้ด้วย
ส่วนความประทับใจส่วนตัวของผมบอกเลยว่า ประทับใจคุณหมอเจมส์มากๆ เพราะคุณหมอให้คำแนะนำเหมือนพี่ชายแนะนำน้องชาย คุณหมอให้ไลน์ส่วนตัวมาไว้คอยปรึกษาอาการหลังผ่าตัดด้วยครับ
ซึ่งหลังผ่าตัด แผลที่พันผ้าพันแผลเอาไว้มีเลือดซึมออกมาผมก็เลยทักไลน์ไปหาคุณหมอตอนดึก เพราะผมกังวลและไม่รู้จะปรึกษาใคร และคุณหมอเจมส์ก็ตอบไวมากๆ ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี ซึ่งการที่เลือดซึมออกมาที่แผลเป็นเรื่องปกติ ถ้ากังวลหรือไม่สบายใจก็ให้เข้ามาทำแผลกับคุณหมอได้เลย
สำหรับใครที่มีความกังวลด้านสุขภาพ สงสัยว่าอาการที่เป็นอยู่คืออะไร ควรจะทำยังไงดี ผมแนะนำเลยครับว่าลองทักไลน์หา HDcare มาได้เลยครับ เค้ามีทีมงานที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด หรือถ้าอยากจะปรึกษาคุณหมอก็ปรึกษาทางออนไลน์ได้ฟรีกี่ครั้งก็ได้
หรือใครที่มีแพลนจะผ่าตัดไม่ว่าจะอาการไหนก็ตาม ลองทักไลน์หา HDcare ก่อนก็ได้ เพราะเค้ามีคุณหมอเก่งๆ หลายด้านที่เราสามารถเข้าไปดูประวัติและทำความรู้จักกับคุณหมอก่อนได้ บอกเลยว่า ประทับใจให้คะแนน 100 เต็ม 10 เลยครับ