เจ็บหน้าอกข้างขวา เพราะเหตุใด ?

อาการเจ็บหน้าอกข้างขวา ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นเรื่องที่พบบ่อยมาก มีหลายสาเหตุที่เป็นไปได้ ทั้งอาการทั่วไปและสัญญาณของโรคบางอย่าง วิธีการรักษาอาจแตกต่างกัน

เจ็บหน้าอกข้างขวา เหมือนโดนแทง

อาการเจ็บหน้าอกด้านขวา เหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง แล้วตอนหัวเราะหรือขยับตัวมากๆ ก็จะเจ็บแบบมีคนเอาเข็มรึอะไรที่แหลมๆ มาแทงหน้าอกด้านขวา สาเหตุเกิดจากอะไรคะ

สำหรับอาการเจ็บจี๊ดๆแถวหน้าอก ถ้าเจ็บเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง มีจุดกดชัดเจน อาจเจ็บเวลาที่ขยับตัวมากๆ ถ้าเจ็บไม่ค้างนาน ไม่มีอาการอื่นๆร่วมด้วย ส่วนมากจะเป็นเพียงการเจ็บแน่นหน้าอกจากกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกอักเสบหรือกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกอักเสบ

อาการเจ็บแบบนี้ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายค่ะ วิธีแก้ไข รักษาโดยทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen Diclofenac และประคบอุ่นร่วมด้วย ยืดกล้ามเนื้อ และงดการใช้งานหนักหรือออกกำลังกายที่รุนแรงค่ะ

แต่ถ้ามีเจ็บแน่นหน้าอกแบบเหมือนมีอะไรมากดทับ แน่นหน้าอกนาน แล้วปวดร้าวไปที่อื่น มีเหงื่อออก ใจสั่น อ่อนเพลีย หน้ามืด คลื่นไส้อาเจียน กรณีนี้ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ

ตอบโดย พญ. นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์

สำหรับอาการปวด/เจ็บแน่นหน้าอก เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ ยกตัวอย่างเช่น

  • ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ : กระดูกอ่อนหน้าอกอักเสบ มีตำแหน่งจุดกดเจ็บชัดเจนบริเวณช่วงกระดูกกลางหน้าอก เชื่อมต่อกับกระดูกซี่โครง, หรือหากเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ มักมีประวัติว่าก่อนหน้านี้ออกแรงเยอะ หรือใช้งานหนักมาก่อน มักจะเจ็บหน้าอกสัมพันธ์กับการออกแรงหรือขยับตัว เช่น ขยับแล้วจะเจ็บมากขึ้น มีจุดกดเจ็บชัดเจน ตรวจร่างกายในระบบอื่นปกติ
  • ระบบทางเดินหายใจ : ปอดอักเสบติดเชื้อ(Pneumonia) มักมีประวัติว่าไข้ ไอ หอบ/เหนื่อย ตรวจ X-ray แล้วพบความผิดปกติ, ถุงลมโป่งพอง, เส้นเลือดที่ปอดมีการอุดตัน, เยื่อหุ้มปอดอักเสบ, ปอดรั่ว/มีลมในปอด, ฝีในปอด, หอบหืด และอื่นๆอีกเป็นต้น
  • ระบบหัวใจและหลอดเลือด : โรคกล้ามเนือ้หัวใจขาดเลือดฉับพลัน(MI), หัวใจขาดเลือด(angina), เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ, กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ, ลิ้นหัวใจรั่ว, มีเลือดเซาะหลอดเลือดใหญ่(Aortic dissection) และอื่นๆอีกเป็นต้น สาเหตุในกลุ่มนี้ มักมีประวัติว่า เหนื่อยง่ายขึ้น นอนราบไม่ได้ รู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรมาทับ หรือเหมือนถูกมีดเสียบที่หน้าอก เจ็บร้าวไปแขนซ้ายหรือบริเวณอื่น มีเหงื่อแตก ใจสั่น รู้สึกไม่ดี บางรายอาจถึงขั้นช็อคหมดสติ
  • ระบบทางเดินอาหาร : กรดไหลย้อน, โรคกระเพาะ(peptic ulcer), ตับอ่อนอักเสบ, ไส้เลื่อนที่กระบังลม เป้นต้น
  • ระบบผิวหนัง : มีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่หน้าอก เช่น ฝี หนอง งูสวัด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยเกี่ยวกับอาการเจ็บแน่นนหน้าอก จะต้องมีการซักประวัติ และตรวจร่างกาย รวมถึงอาจต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น การ X-ray ปอด, การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การเจาะเลือด เป้นต้นครับ แต่จากประวัติที่ให้มา ว่าจะมีอาการเจ็บเยอะขึ้นตอนที่หัวเราะหรือมีการขยับตัว อาจเข้าได้กับระบบกล้ามเนื้อและกระดูกครับ อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่สามารถวินิจฉัยได้ เนื่องจากอาการเจ็บหน้าอกเกิดได้จากหลายสาเหตุตามที่หมอกล่าวไว้ด้านบน จะต้องมีการตรวจร่างกายเพิ่มเติมด้วยครับ ว่าเป็นจริงอย่างที่ได้จากประวัติหรือไม่ สอดคล้องกันหรือไม่เป็นต้น ส่วนการที่สูบบุหรี่บ่อยก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคปอดหรือหัวใจได้เช่นกันครับ เมื่อมีความผิดปกติเกี่ยวกับปอดหรือหัวใจ อาจทำให้มีอาการหายใจเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอกตามมาได้ครับ

ตอบโดย นพ. สารินทร์ สีหมากสุก

วิธีแก้ เจ็บหน้าอกด้านขวา จี๊ดๆร้าวๆ

เจ็บหน้าอกด้านขวาจี๊ดๆๆ ร้าวๆค่ะ หายใจแรงจะเจ็บหรือสูดหายใจลึกๆจะเจ็บ นั่งอยู่เฉยๆบางก็เป็นค่ะ เป็นมาประมาน 1-2 สัปดาห์ อยากทราบว่าอาการแบบนี้อันตรายไหมคะ ?

อาการเจ็บหน้าอก มีสาเหตุได้หลายแบบค่ะ ได้แก่

  1. สาเหตุจากปอด เช่น ปอดอักเสบ ติดเชื้อ , หอบหืด ลมรั่วในปอด ซึ่งถ้ามีลมรั่วในปอด อาการเจ็บจะสัมพันธ์กับการหายใจเข้าออก สามารถเกิดขึ้นได้เองโดยไม่มีปัจจัยกระตุ้น หรือบางคนเป็นหลังการติดเชื้อ หรือการกระทบกระแทกค่ะ
  2. สาเหตุทางหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือถ้าคนอ้วน / สุงอายุ อาจเกิดจากหัวใจขาดเลือด (ในคนอายุน้อยก็พบได้ แต่อาจจะน้อยกว่าค่ะ) อาการปวดของหัวใจขาดเลือด ลักษณะจะปวดแน่นๆ เหมือนมีอะไรมาทับ และจะมีอาการแม้ในขณะพัก บางคนอาจหน้ามืดเป็นลม ร้ายแรงสุด บางคนอาจหัวใจหยุดเต้นไปเลยนะคะ ถ้าคนไข้มีอาการดังนี้ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร่งด่วนค่ะ นอกจากนี้ คนไข้อาจมีอาการร่วมเช่น นอนราบไม่ได้ หรือมีอาการตื่นมาหายใจเหนื่อย หลังจากหลับไปแล้ว 1-2 ชม ค่ะ ถ้ามีอาการดังนี้ อาจสนับสนุนอาการของหัวใจวายค่ะ
  3. สาเหตุที่กล้ามเนื้อ เช่น ผ่านการออกกำลังกาย / ออกแรงมากๆ อาจมีการอักเสบของกล้ามเนื้อและกระดูก กรณีนี้อาจมีจุดกดเจ็บชัดเจนที่บริเวณหน้าอกค่ะ สามารถเป็นๆหายๆได้
  4. กรดไหลย้อน อาการจะไปในทางแน่นๆกลางอก บางคนอาจมีแสบร้อนยอดอก หรือ heart burn ได้ค่ะ

ถ้าอาการเป็นมาก แนะนำให้ไปตรวจร่างกายเพิ่ทเติมที่ รพค่ะ อาจมีการทำ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ เอกเรย์เพิ่มเติมค่ะ

ตอบโดย พญ. พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์

เจ็บหน้าอกด้านขวา เวลาขยับตัว

เจ็บหน้าอกด้านขวาค่ะ เริ่มมีอาการตั้งแต่เมื่อวาน ตอนตื่นนอน (นอนตะแคงขวา) ค่ะ ปวดแบบตึงๆ หนักๆ เหมือนโดนบีบจากข้างใน ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ ถ้าก้มหรือนอนตะแคงขวาจะปวดค่ะ เคยเป็นอาการแบบนี้ประมาณ 2-3 เดือนครั้งตั้งแต่เด็ก เป็นครั้งนึงไม่ถึง 1 อาทิตย์ค่ะ โดยจะหายไปเอง

อาการเจ็บหน้าอกข้างขวาแบบตึงๆที่สัมพันธ์กับการนอนตะแคงทับขวา อาจเป็นอาการที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อหรือกระดูกซี่โครงได้ครับ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วอาการก็จะสามารถหายได้เองในลักษณะตามที่เล่ามาครับ หรือก็อาจรับประทานยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น Paracetamol, Norgesic เพื่อบรรเทาอาการได้ ทั้งนี้ก็อาจมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดการใกล้เคียงกันได้ครับ เช่น ตับอักเสบ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ซึ่งถ้าหากรับประทานยาแก้ปวดหรือเวลาผ่านไปแล้วแนวโน้มยังไม่ดีขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ

ตอบโดย นพ. กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์

เจ็บหน้าอกด้านขวา-ด้านซ้าย เหมือนเป็นตะคริว

เจ็บหน้าอกข้างขวาคะเจ็บเหมือนเป็นตะคริวอะคะบางทีก็ข้างซ้ายเราควรไปหาหมอมั้ยคะ ?

อาการเจ็บหน้าอกนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ ยกตัวอย่างเช่น จากการอักเสบ(ที่ไม่ใช่การติดเชื้อ)ของกล้ามเนื้อและกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอก หรือการอักเสบติดเชื้อของผิวหนัง โรคในระบบหลอดเลือดและหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจเป็นต้นครับ ซึ่งจากประวัติที่ให้มาค่อนข้างน้อยเกินไปที่จะบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด และควรไปพบแทย์หรือไม่ จะต้องขอประวัติเพิ่มเติมครับ เช่น

  • อายุ เพศ โรคประจำตัว
  • ยากินประจำ
  • ประวัติการผ่าตัด
  • เจ็บหน้าอกมากี่วัน เคยเป็นมาก่อนหรือไม่
  • ลักษณะเจ็บเป็นอย่างไร จี๊ดๆ/แน่นๆ/มีอะไรมากดทับ
  • มีร้าวไปที่อื่นหรือไม่
  • มีจุดกดเจ็บหรือไม่
  • มีใจสั่นเหงื่อแตกหรือไม่
  • มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติที่เคยเป็นหรือไม่
  • นอนราบได้หรือไม่
  • มีตื่นขึ้นมาไอตอนกลางคืนหรือไม่
  • อาการเจ็บหน้าอกสัมพันธ์กับอาการอะไร
  • คำถามอื่นๆ

ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ไปพบแพทย์จะดีที่สุดครับ เพราะต่อให้ให้ประวัติมาทั้งหมด แต่ไม่ได้ทำการตรวจร่างกายด้วย ก็จะบอกสาเหตุที่เกิดจากโรคในระบบหลอดเลือดและหัวใจรวมถึงระบบทางเดินหายใจไม่ได้ครับ โรคเหล่านี้จะต้องใช้หูฟัง ทำการฟังเสียงลมเข้าออกที่ปอด ฟังเสียงการเต้นของหัวใจ หรือบางรายอาจจำเป็นจะต้องทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ/ X-ray ปอดเพิ่มเติมด้วยครับ

ตอบโดย นพ. สารินทร์ สีหมากสุก


บทความที่เกี่ยวข้อง

คำถามสุขภาพที่พบบ่อย

Scroll to Top