ประจําเดือนไม่มา แต่มีตกขาว ท้องไหม ?

ประจำเดือนมาช้า หรือ ประจำเดือนไม่มา เป็นปัญหาที่สาวๆ หลายคนพบเจอ บางคนมีตกขาวมาแทน เป็นเพราะเหตุใด ปกติหรือไม่ ควรพบแพทย์ไหน มาฟังคำตอบโดยแพทย๋กัน

ประจำเดือนไม่มา ตกขาวเยอะ ท้องไหม

ปจด.ยังไม่มาเลยค่ะ ปกติจะมาแล้ว แต่กลายเป็นมีตกขาวมากแทน คิดมากเลยค่ะ เวลามีพสพ.ใส่ถุง+หลั่งนอกตลอด แบบนี้จะท้องไหมคะ ?

ถ้าใส่ถุงยาง ก็โอกาสท้องน้อยครับ ถ้าไม่เเตกไม่รั่ว เบื้องต้นถ้าประจำเดือนขาดเเนะนำตรวจการตั้งครรภ์ก่อนครับ โดยทั่วไป ก็จะถือว่าตรวจพบว่าท้องได้ เมื่อประจำเดือนขาดครับ

ถ้าจำประจำเดือนแม่น รู้รอบประจำเดือนตัวเองดี ก็จะง่ายครับ เช่น ถ้าเมนส์มาวันที่ 1 กพ. ปกติมาตรง 30 วัน ถ้า 3 มีนาคม เมนส์ไม่มา ก็สามารถตรวจได้ครับ

กรณี จำไม่ได้ว่าเดือนก่อนเมนส์มาวันไหน แนะนำว่าให้ตรวจถ้าเมนส์ไม่มาหลังจากมีเพศสัมพันธ์ กันไปแล้ว 2 สัปดาห์ เพราะว่าถ้าจะท้องได้ ก็คือต้องไข่ตกช่วงที่มีเพศสัมพันธ์กันพอดี ถ้านอกเหนือไปจากนั้น โอกาสท้องก็น้อยครับ

ถ้าตรวจแล้วผลว่าไม่ท้อง แต่ยังสงสัย แนะนำให้รอ เพราะบางครั้งค่าของฮอร์โมนอาจจะยังไม่มากพอที่จะให้ผล positive ถ้ารอแล้วเมนส์ยังไม่มา อีกซักสัปดาห์ค่อยตรวจซ้ำ ไม่ควรรีบไปกินพวกยาขับเลือด-ยาสตรี เพราะถ้าเกิดท้องขึ้นมาแล้วจริงๆ ยาพวกนี้อาจจะมีผลต่อเด็กได้ครับ

เรื่องชุดตรวจการตั้งครรภ์

ชุดตรวจมีหลากหลายครับ ในรายละเอียดอาจจะต่างกันบ้าง ให้ดูตามคำเเนะนำในกล่องน่าจะดีที่สุดแต่โดยทั้วไปก็คือให้ปัสสาวะใส่ภาชนะ จุ่มที่ทดสอบลงไประยะเวลาหนึ่ง เอาขึ้นมาตั้ง รอเวลา แล้วจึงอ่านผล

วิธีการเก็บปัสสาวะตรวจ มีผลต่อการแปลผลมาก ผลจะแม่นที่สุดควรจะต้องเป็นปัสสาวะครั้งแรกตอนเช้าที่เพิ่งตื่นนอนมา เพราะจะเป็นปัสสาวะที่เข้มข้น ถ้ามี hCG อยู่ก็จะตรวจพบได้ง่ายกว่า

ชุดตรวจส่วนใหญ่จะแสดงผลเป็นขีดๆ โดยขีดแรกเป็นเส้น Control จะต้องขึ้นเสมอไม่ว่าจะท้องหรือไม่ ถ้าไม่ขึ้นแปลว่าที่ตรวจนั้นเสีย ส่วนขีดที่สองถึงจะเป็นตัวบอกว่ามี hCG อยู่
ดังนั้น สองขีดคือท้อง ขีดเดียวคือไม่ท้อง ถ้าไม่มีซักขีดคือชุดตรวจเสียครับ

โดยปกติประจำเดือนสามารถมาเร็วมาช้าได้บวกลบ 7 วันครับ ถ้ายังไม่เกิน 7 วันหมอว่ายังรอไปก่อนได้ครับ ปกติจะมาประมาณ 2-6วั น ปริมาณประมาณ 20-60ml

ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด

การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด อาจเกิดได้จากความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง, การตั้งครรภ์

หรือเกิดได้จากโรคอื่นๆ กรณีที่ประจำเดือนขาดนานๆ หรือมาไม่สม่ำเสมอครับ เช่น โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ) หรือ บางครั้งความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับหากประจำเดือนขาดนานๆ ร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหลออกมา หรืออาจเกิดจากการตกไข่ผิดปกติจากสาเหตุของรังไข่เอง

หากเดิมประจำเดือนมาปกติ เเล้วประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ โดยที่ตรวจเเล้วไม่ท้อง (ปกติประจำเดือนขาดก็ตรวจได้เเล้วครับว่าท้องหรือไม่) หรือ ไม่ได้มีความเครียดอื่นๆ ควรไปพบสูตินรีเเพทย์ครับ อาจพิจารณารับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมน ร่วมกับหาสาเหตุด้วยครับ

เรื่องตกขาว

ตกขาว คือ ของเหลวที่ไหลออกมาจากช่องคลอด เป็นของเหลวที่ถูกขับออกจาก ปากมดลูก ปากช่องคลอด และเซลล์ของเยื่อบุผนังช่องคลอดที่ตายและหลุดออกมา ครับ

ตกขาวที่ปกติคือ มีสีขาวขุ่น มีกลิ่นคาวเล็กน้อย อาจมีมากช่วงที่ก่อนประจำเดือนมาได้ครับถ้าไม่ได้มีอาการคันเเสบช่องคลอด ไม่ได้มีกลิ่นเหม็น ก็น่าจะปกติครับ ไม่ต้องรักษา

ถ้าตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ร่วมกับคันช่องคลอด แสบช่องคลอด อาจเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ ส่วนถ้าตกขาวขุ่นเขียวเหลืองๆ จะมีเลือดปนด้วยหรือไม่มี อาจเป็นการติดเชื้อเเบคทีเรียเช่นหนองใน หรือโปรโตซัวพวก Trichomonas ซึ่งอาจเกิดจากการที่เราสวนล้างช่องคลอด หรือ กินยาฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมดุลเเบคทีเรียในช่องคลอดเสียครับ เชื้อก่อโรคในช่องคลอดจึงเเบ่งตัวเเละเกิดการติดเชื้อได้ หรืออาจติดเชื้อมาจากคู่นอนก็เป็นไปได้ครับ

หรือโรคติดเชื้อในช่องคลอดชนิดหนึ่ง คือ Bacterial vaginosisครับ (เเบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุล เชื้อชื่อ Gardernella vaginallis จึงเเบ่งตัวมากขึ้น)
อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ตกขาวมีกลิ่นอับ (musty) หรือคาวปลา (fishy) มักมีกลิ่นรุนแรงภายหลังการร่วมเพศ ซึ่งเกิดจากการทําปฏิกิริยากับ อสุจิ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง แล้ว
ปลดปล่อยกลิ่น ออกมาครับ

ถ้าสงสัยการติดเชื้อ เเนะนำให้ไปพบเเพทย์เพื่อประเมิน เพราะการติดเชื้อในช่องคลอด มีทั้ง เชื้อรา เเบคทีเรีย หรือ โปรโตซัวก็ได้
การติดเชื้อบริเวณช่องคลอดนี้ถ้าไม่ได้รักษาอาจลามไปเป็นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ครับ ซึ่งจะมีอาการไข้ ปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเล้วครับ
การรักษาเรื่องตกขาวติดเชื้อ คันช่องคลอดคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร เช่น ถ้าเเบคทีเรีย ส่วนใหญ่ให้ Metronidazole ส่วนเชื้อรามักใช้เป็น Clotrimazole สอดครับ

ปรึกษาเภสัชกรลองเรื่องยาก่อนได้ครับ เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ

 ตอบโดย นพ. วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์

ประจำเดือนไม่มา มีน้ำใสๆ ไหลออกมา

ประจำเดือนไม่มา แต่มีน้ำใสๆออกมาจากอวัยวะจะเป็นอะไรไหมคะ

ประจำเดือนปกติ จะมีลักษณะดังนี้
1. มาสม่ำเสมอ ทุก 24-35 วัน โดยส่วนใหญ่ จะมาทุก 28 – 30 วัน
2. มาครั้งละ 3-7 วัน
3. ใช้ผ้าอนามัย วันละ ประมาณ 2-3 แผ่น
4. มีอาการปวดท้องน้อยได้เล็กน้อย ช่วงวันแรกๆ ไม่ปวดรุนแรง

ประจำเดือนไม่มา เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ  ก่อนอื่นต้องเช็คเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนค่ะ

ถ้าไม่ตั้งครรภ์

โดยทั่วไป จะถือว่าเป็น ภาวะไม่มีประจำเดือน (Amenorrhea) เมื่อประจำเดือนขาดหายไป ต่อเนื่องกัน 3 เดือนค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้จำเป็นต้องไปพบแพทย์ เพื่อซักประวัติอย่างละเอียด ตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน เพื่อหาสาเหตุต่อไปค่ะ
ถ้าประจำเดือนขาดไปเพียงเดือนเดียว อาจเกิดจาก ความแปรปรวนของฮอร์โมน ไข่ไม่ตกในเดือนนั้น อาจสังเกตต่อไปก่อนได้ค่ะ แต่ถ้าเดือนถัดๆไป ประจำเดือนยังไม่มาอีก ควรไปพบแพทย์
ถ้าสาเหตุของการไม่มีประจำเดือน เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
1. มดลูก ปากมดลูก ผิดปกติ
2. รังไข่ผิดปกติ หรือ ไข่ไม่ตก
3. สาเหตุทางสมอง ทำให้ฮอร์โมนที่หลั่งจากสมอง มาควบคุมรังไข่ ผิดปกติไป เช่น การที่น้ำหนักลดลงมาก ออกกำลัยการหนักๆ หรือมีความเครียด ก็ทำให้ฮอร์โมนที่หลั่งจากสมองมาควบคุมรังไข่ผิดปกติได้ค่ะ ทำให้เมนส์ไม่มา
อย่างไรก็ตาม การจะทราบแน่ชัด ว่าเมนส์ไม่มาจากสาเหตุใดนั้น ต้องหาสาเหตุโดยแพทย์ เพราะต้องตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และ อาจต้องเจาะเลือดเพื่อดูฮอร์โมนเพิ่มเติมค่ะ

ส่วนน้ำใสๆ ที่ไหล
ปกติ ผู้หญิงสามารถมีตกขาวได้ค่ะ โดยลักษณะของตกขาวปกติ จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงของรอบเดือน
โดยช่วงก่อนไข่ตก (2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา) จะมีลักษณะเป็นมูกยืดๆ สีใส หลังไข่ตก จะเปลี่ยนเป็นลักษณะสีขาวคล้ายแป้ง

อย่างไรก็ตาม ตกขาวปกติ จะไม่ทำให้มีอาการคัน ระคายเคือง หรือแสบช่องคลอด ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีอาการอื่น เช่น ปวดท้องน้อย หรือเป็นไข้ ร่วมด้วย
ถ้าตกขาวมีอาการผิดไปจากนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งมีหลายสาเหตุ จะมีลักษณะตกขาวต่างๆ กับไป เช่น

  • ตกขาว เหมือนแป้ง เป็นก้อน คล้ายคราบนมเด็ก คันมาก เกิดจากเชื้อรา
  • ตกขาว สีเหลือง กลิ่นเหม็น ปวดท้อง มีไข้ เกิดจาก อักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
  • ตกขาวสีขาว เทา กลิ่นคล้ายปลา เกิดจาก ไม่สมดุลย์ของแบคทีเรียในช่องคลอด

ซึ่งการรักษา จะรักษาตามสาเหตุ เพราะฉะนั้น ถ้ามีลักษณะตกขาวผิดปกติไป ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในค่ะ จะได้รักษาตรงสาเหตุ

ตอบโดย พญ. พิมพกา ชวนะเวสน์ สูตินรีแพทย์

ประจำเดือนไม่มา ไม่ได้ป้องกัน ตกขาวมาก ท้องไหม

มีอาการตกขาวแล้วประจำเดือนไม่มา มีอะไรกับแฟนล่าสุด 21 มิ.ย มากกว่า 3 ครั้งโดยไม่ได้ป้องกันแต่ไม่ได้หลั่งใน ตกขาวมามากผิดปกติ มีอาการเจ็บหน้าอกเหมือนประจำเดือนจะมาแต่ก็ไม่มา อยากกินอาหารรสเผ็ดแทบจะทุกวัน ยกตัวอย่าง ส้มตำ หม่าล่า มะม่วง ปกติประจำเดือนมาทุกวันที่ 10 หรือไม่ก็ก่อนวันที่ 10 แต่เดือนนี้ประจำเดือนไม่มา ตอนนี้เครียดมาก 1.อาการแบบนี่มีโอกาศท้องกี่เปอร์เซ็นต์คะ 2.แล้วมันเกิดจากอะไรคะ ควรทำอย่างไรคะ ?

การที่มีตกขาวมากและมีอาการเข็บหน้าอกโดยที่ประจำเดือนยังไม่มานั้นมีโอกาสที่จะเป็นได้จากทั้งการตั้งครรภ์และเป็นเพียงอาการนำก่อนที่จะมีประจำเดือนครับ แต่การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันนั้นต่อให้ไม่มีการหลั่งก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ครับ

ดังนั้นในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูให้แน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนนอตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ตอบโดย นพ. กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์

ประจำเดือนไม่มา 2 เดือน ตกขาวสีเหลืองไปน้ำตาล

ประจำเดือนไม่มาเข้าเดือนที่สอง มีตกขาวใสคล้ายไข่ขาว แล้วก็จะเป็นขาวขุ่นมีเหลืองอ่อน ต่อมาจะเป็นแบบคราบสีน้ำตาลติดกกน. เป็นคนประจำเดือนมาไม่ตรงอยู่แล้วค่ะ เป็นอะไรไหมคะ ?

สาเหตุที่ทำให้มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนั้นเกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น

  • มีความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย
  • มีการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
  • ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
  • ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
  • ความเครียด
  • การออกกำลังกายอย่างหักโหม
  • น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
  • ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
  • อื่นๆ

ส่วนการที่ตกขาวมีการเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนั้นก็ต้องมีการแยกจากการติดเชื้อบางอย่างในช่องคลอดครับ เช่น เชื้อแบคทีเรียทั่วไป หนองใน หรือเชื้อโปรโตซัวบางอย่าง

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

และถ้าหากได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้หมอก็แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูด้วย โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ตอบโดย นพ. กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์

ตกขาวเยอะ เป็นเชื้อรา ทำให้ประจำเดือนช้าไหม

ถ้าเป็นตกขาวมาเยอะหรือเป็นเชื้อราทำให้ประจำเดือนมาช้าได้ไหมคะ เพราะตอนนี้ตกขาวมาเยอะ เป็นเยิ้มๆ คันๆเเสบๆค่ะ จะเกี่ยวกับประจำเดือนไหมคะ

ไม่น่าเกี่ยวกันนะครับ เเต่ปกติ ตกขาวออาจจะมามากในช่วงก่อนประจำเดือนมาได้ครับ

1. เรื่องตกขาว

ตกขาวที่ปกติคือ มีสีขาวขุ่น มีกลิ่นคาวเล็กน้อย อาจมีมากช่วงที่ก่อนประจำเดือนมาได้ แต่ถ้าไม่ได้มีอาการคันเเสบช่องคลอด ไม่ได้มีกลิ่นเหม็น ก็น่าจะปกติครับ ไม่ต้องรักษา

ถ้าตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ร่วมกับคันช่องคลอด แสบช่องคลอด อาจเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ ส่วนถ้าตกขาวขุ่นเขียวเหลืองๆ จะมีเลือดปนด้วยหรือไม่มี อาจเป็นการติดเชื้อเเบคทีเรียเช่นหนองใน หรือโปรโตซัวพวก Trichomonas ซึ่งอาจเกิดจากการที่เราสวนล้างช่องคลอด หรือ กินยาฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมดุลเเบคทีเรียในช่องคลอดเสียครับ เชื้อก่อโรคในช่องคลอดจึงเเบ่งตัวเเละเกิดการติดเชื้อได้ หรืออาจติดเชื้อมาจากคู่นอนก็เป็นไปได้ครับ

หรือโรคติดเชื้อในช่องคลอดชนิดหนึ่ง คือ Bacterial vaginosisครับ (เเบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุล เชื้อชื่อ Gardernella vaginallis จึงเเบ่งตัวมากขึ้น)

อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ตกขาวมีกลิ่นอับ (musty) หรือคาวปลา (fishy) มักมีกลิ่นรุนแรงภายหลังการร่วมเพศ ซึ่งเกิดจากการทําปฏิกิริยากับ อสุจิ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง แล้ว
ปลดปล่อยกลิ่น ออกมาครับ

ถ้าสงสัยการติดเชื้อ เเนะนำให้ไปพบเเพทย์เพื่อประเมิน เพราะการติดเชื้อในช่องคลอด มีทั้ง เชื้อรา เเบคทีเรีย หรือ โปรโตซัวก็ได้

การติดเชื้อบริเวณช่องคลอดนี้ถ้าไม่ได้รักษาอาจลามไปเป็นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ครับ ซึ่งจะมีอาการไข้ ปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเล้วครับ

การรักษาเรื่องตกขาวติดเชื้อ คันช่องคลอดคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร เช่น ถ้าเเบคทีเรีย ส่วนใหญ่ให้ Metronidazole ส่วนเชื้อรามักใช้เป็น Clotrimazole สอดครับ

ปรึกษาเภสัชกรลองเรื่องยาก่อนได้ครับ เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ

2. เรื่องประจำเดือนมาช้า

โดยปกติประจำเดือนสามารถมาเร็วมาช้าได้บวกลบ 7 วันครับ ถ้ายังไม่เกิน 7 วันหมอว่ายังรอไปก่อนได้ครับ ปกติจะมาประมาณ2-6วัน
การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด อาจเกิดได้จากความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ,การตั้งครรภ์ ,การฉีดยาคุมกำเนิดชนิดสามเดือน ,ยาฝังคุมกำเนิด หรือ ห่วงคุมเนิดชนิดฮอร์โมครับ หรือกินยาคุมแผงรายเดือน 21\28เม็ด เเบบกินมานานๆหลายเดือน ประจำเดือนก็จะน้อยลงได้ครับ

หรือเกิดได้จากโรคอื่นๆ กรณีที่ประจำเดือนขาดนานๆ หรือมาไม่สม่ำเสมอ เช่น โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ) หรือ บางครั้งความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับหากประจำเดือนขาดนานๆ ร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหลออกมา หรืออาจเกิดจากการตกไข่ผิดปกติจากสาเหตุของรังไข่เอง
อื่นๆ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกเเลตซีสต์) อาการคือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้นครับ

หากเดิมประจำเดือนมาปกติ เเล้วประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือตรวจเเล้วไม่ท้อง (ปกติประจำเดือนขาดก็ตรวจได้เเล้วครับว่าท้องหรือไม่) หรือ ไม่ได้มีความเครียดอื่นๆ ควรไปพบสูตินรีเเพทย์ครับ อาจพิจารณารับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมน ร่วมกับหาสาเหตุด้วยครับ

ตอบโดย นพ. วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์


บทความที่เกี่ยวข้อง

คำถามสุขภาพที่พบบ่อย

Scroll to Top