ยานอนหลับ ประเภท ข้อแนะนำในการใช้ ข้อควรระวัง

ยานอนหลับ ประเภท ข้อแนะนำในการใช้ ข้อควรระวัง

ปัญหาการนอนไม่หลับ พบได้มากทั้งในวัยรุ่นและผู้สูงอายุ สาเหตุอาจเกิดจากความเครียด ความวิตกกังวลจากเรื่องต่างๆ หรือเจ็บป่วย รวมถึงสิ่งรบกวนจากภายนอก เช่น แสงสว่าง เสียงดัง กลิ่นเหม็น การทำงานที่ทำให้การนอนไม่เป็นปกติ

มีคำถามเกี่ยวกับ ยานอนหลับ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

การเลือกใช้ยานอนหลับอาจเลือกได้ตามอาการที่นอนไม่หลับ การรักษาทำได้ทั้งวิธีไม่ใช้ยาและใช้ยา ซึ่งการใช้ยานอนหลับก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมมาก เพราะเห็นผลเร็ว

อาการนอนไม่หลับ มีกี่ประเภท?

ความหมายของอาการนอนไม่หลับ (Insomnia) คือ มีอาการนอนไม่หลับอย่างต่อเนื่องนานมากกว่าหรือเท่ากับ 1 เดือน และรู้สึกทรมานหรือสูญเสียความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำงาน

ประเภทของการนอนไม่หลับแบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

  1. หลับยาก (Sleep onset insomnia) ผู้ป่วยจะมีอาการตาค้างอยู่นานจนกว่าจะหลับ มักพบในผู้ที่มีความเครียด เช่น วัยรุ่น วัยทำงาน
  2. ตื่นบ่อย (Sleep maintenance insomnia) ผู้ป่วยจะนอนหลับได้ แต่มักจะตื่นกลางดึก และหลับใหม่ได้ยาก มักพบในคนสูงอายุ ผู้ที่มีโรคร่วมต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง โรคทางไขข้อ

ลักษณะการออกฤทธิ์

หากพยายามแก้ไขสาเหตุรวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนให้เหมาะสมแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์จึงจะพิจารณาให้ใช้ยานอนหลับร่วมด้วยในการรักษา ยานอนหลับแบ่งออกเป็นกลุ่มดังนี้

  • กลุ่มที่ออกฤทธิ์เร็ว ช่วยเหนี่ยวนำให้หลับ ทำให้หลับภายหลังรับประทานยาประมาณ 15-30 นาที เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเริ่มหลับยาก
  • กลุ่มที่ออกฤทธิ์ช้า ยาจะออกฤทธิ์ภายหลังรับประทานยาประมาณ 30 นาทีขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาเริ่มหลับยาก แต่ตื่นกลางดึกบ่อยแล้วนอนต่อไม่หลับ

อย่างไรก็ตาม การรับประทานยานอนหลับมีผลข้างเคียงเช่นกันและอาจทำให้ติดได้ จนต่อไปหากไม่รับประทานยาก็จะนอนไม่หลับ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานอนหลับทุกครั้ง

ประเภทของยานอนหลับ

ก่อนที่จะเริ่มใช้ยานอนหลับ ต้องพิจารณาอาการและรูปแบบการนอนไม่หลับก่อนที่จะเริ่มการรักษา บ่อยครั้งเมื่อมีอาการนอนไม่หลับ ผู้ป่วยมักจะหาซื้อยาจากร้านขายยาหรืออ่านคำแนะนำจากอินเทอร์เน็ต เพื่อมองหาตัวช่วยให้นอนหลับ แต่ควรปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยามากกว่า

ยานอนหลับมีหลายกลุ่ม ดังนี้

1. สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

หากมีอาการนอนไม่หลับ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการหลับยาก (Sleep onset insomnia) อาจลองมองหาสมุนไพรที่ช่วยในการนอนหลับ และช่วยให้คลายเครียด

  • สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ มีสรรพคุณช่วยให้ผ่อนคลาย สงบ และหลับได้ดีขึ้น
  • สมุนไพรเซนต์จอห์นสเวิร์ท (St. John’s Wort) เป็นสมุนไพรที่ใช้อย่างแพร่หลายในประเทศแถบยุโรป เนื่องจากมีฤทธิ์คลายเครียด และช่วยให้นอนหลับ
  • ขี้เหล็ก เป็นสมุนไพรไทยที่มีสารบาราคอล (Barakol) ช่วยให้นอนหลับ ในอดีตมีการใช้ใบขี้เหล็กอ่อนบดเป็นผงกินเป็นยานอนหลับ ต่อมาพบว่าทำให้เกิดตับอักเสบ จึงทำให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยายกเลิกการใช้เป็นยาเดี่ยว ให้ใช้เป็นยาตำรับ

คนที่นอนไม่หลับสามารถใช้สมุนไพรเหล่านี้ได้ แต่ควรใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น หากมีโรคร่วมและมียาที่ใช้อยู่เป็นประจำ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด Warfarin ยารักษาโรคหัวใจ Digoxin ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้

เนื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ใช่ยาจึงสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่า แต่อาจไม่ได้ผลกับผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับบางราย หากไม่ได้ผลควรพิจารณาปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เพื่อใช้ยารักษาโรคนอนไม่หลับ

2. ยาต้านฮีสตามีนรุ่น 1 (First generation antihistamine)

ยาในกลุ่มนี้จะใช้รักษาอาการแพ้ ผื่นคัน ผื่นลมพิษ น้ำมูกไหล จาม แต่ด้วยผลข้างเคียงจากการที่ยาสามารถผ่านเข้าสู่สมอง ไปกดระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้ใช้ยามีอาการง่วง จึงมีการนำผลข้างเคียงนี้มาใช้ทำให้นอนหลับในผู้ที่นอนหลับยาก (Sleep onset insomnia)

ตัวอย่างยากลุ่มนี้ เช่น

  • คลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine)
  • บรอมเฟนิรามีน (Brompheniramine)
  • ไฮดรอกไซซีน (Hydroxyzine)

3. เมลาโทนิน (Melatonin)

ตามปกติ เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่อยู่ในระบบประสาทที่ร่างกายสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติจากต่อมไพเนียล โดยจะผลิตเมื่อมีความมืดเป็นตัวกระตุ้น และถูกยับยั้งโดยแสงสว่าง มีปริมาณสูงสุดในช่วงเวลา 02.00-04.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ง่วงนอนมากที่สุด และจะลดลงเรื่อยๆ จนถึงช่วง 07.00-08.00 น. ก็จะหยุดสร้าง

นอกจากเวลาแล้ว ช่วงวัยก็มีผลต่อระดับเมลาโทนิน ในวัยเด็กจะมีปริมาณเมลาโทนินในเลือดสูงและลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ในวัย 70-80 ปี เมลาโทนินอาจน้อยจนวัดค่าในเลือดไม่ได้เลย

สิ่งที่ควรทราบก่อนใช้เมลาโทนิน

  • ปัจจุบัน มีการนำเมลาโทนินมาใช้เพื่อช่วยเป็นยานอนหลับในกรณีต่างๆ เช่น การเดินทางข้ามประเทศแล้วนอนไม่หลับ (Jet lag) หรือผู้สูงอายุที่นอนไม่หลับ
  • รูปแบบเมลาโทนินที่มีขายในร้านยาจะเป็นรูปแบบออกฤทธิ์นาน ขนาด 2 มิลลิกรัม รูปแบบยานี้จะค่อยๆ ปลดปล่อยตัวยา ทำให้มีฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับได้นาน ห้ามหัก บด แบ่ง เม็ดยา
  • ควรใช้เมลาโทนินในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ อาการง่วงระหว่างวัน ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ
  • นอกจากนี้ เมลาโทนินยังเกิดปฏิกิริยาต่อยาอื่นได้มาก จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา

ตัวยาต้านฮีสตามีนรุ่น 1 และเมลาโทนิน ถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตรายตามกฎหมาย ดังนั้นจึงสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา แต่ต้องจ่ายยาหรือได้รับคำแนะนำจากเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา

มีคำถามเกี่ยวกับ ยานอนหลับ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

4. ยากลุ่มเบนโซไดอะซีพีน (Benzodiazepine)

ยากลุ่มนี้จัดว่าเป็นยานอนหลับที่นิยมใช้ทางการแพทย์ เนื่องจากผ่านเข้าสู่สมองเร็ว ออกฤทธิ์เร็ว ดูดซึมได้ดี ทำให้หลับเร็วหลังจากรับประทาน ช่วยทั้งอาการนอนหลับยาก และอาการตื่นนอนบ่อย

ยากลุ่มนี้ต้องควบคุมการจ่ายยาโดยแพทย์ หรือมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น ระยะเวลาการออกฤทธิ์จะอยู่ในช่วง 15-30 นาที และยากลุ่มนี้ที่ช่วยในการนอนหลับควรมีค่าครึ่งชีวิตประมาณ 8 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้มีอาการสะลึมสะลือหลังจากตื่นนอน ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ คือ Alprazolam, Diazepam, Midazolam

ยากลุ่มนี้ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ หากใช้ยาต่อเนื่องอาจทำให้ดื้อยาหรือเสพติดยาได้

5. ยากลุ่มที่ไม่ใช่เบนโซไดอะซีพีน (Non-Benzodiazepine)

เป็นยานอนหลับที่มีมานาน ทำให้เกิดการดื้อยาน้อย แต่มีค่าครึ่งชีวิตประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งทำให้หลับได้ไม่นานมาก เช่น Zolpidem

6. ยาต้านซึมเศร้า (Antidepressant) ที่มีฤทธิ์ง่วง

มักใช้ในผู้ป่วยที่มีโรคซึมเศร้า แต่มีความวิตกกังวล นอนไม่หลับร่วมด้วย เช่น Amitriptyline

ตารางเปรียบเทียบยาที่ช่วยในการนอนหลับ

ขนาดยา (มิลลิกรัม) ค่าครึ่งชีวิต (ชั่วโมง) การดูดซึม รูปแบบยา ราคา (บาท/เม็ด)*
Alprazolam 0.5-1 12-20 เร็ว ยาเม็ด/ยาน้ำ 5-20
Midazolam 7.5-15 1-4 เร็วมาก ยาเม็ด/ยาน้ำ 11-45
Diazepam 5-10 20-50 เร็ว ยาเม็ด/ยาน้ำ 2-24
Zolpidem 2.5-10 1.5-4 เร็ว ยาเม็ด/ยาน้ำ/สเปรย์พ่นทางปาก 10-144
Amitriptyline 25-50 1.56-26.6 ปานกลาง ยาเม็ด 3-46
Hydroxyzine 25-50 15-30 นาที ปานกลาง ยาเม็ด/ยาน้ำ 3-40
Chlorpheniramine 4-12 1-6 ปานกลาง ยาเม็ด/ยาน้ำ 1-5

* ราคาอาจเปลี่ยนแปลง, ข้อมูลราคายาเปรียบเทียบราคายาในโรงพยาบาลเอกชนจากกรมการค้าภายใน (https://hospitals.dit.go.th/app/drug_price_list.php)

ยานอนหลับส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบเม็ดหรือน้ำ มีรูปสเปรย์บ้างบางตัว สำหรับในรูปแบบดมหรือป้ายมักจะไม่ใช่ยานอนหลับ แต่เป็นกลุ่มยาสลบ

เนื่องจากยารูปแบบดมจะต้องใช้การระเหยที่ดีและออกฤทธิ์เร็ว ในกลุ่มของยานอนหลับยังไม่มีตัวที่มีค่าการระเหยสูงพอที่จะใช้เพียงการสูดดมแล้วตัวยาออกฤทธิ์ทำให้นอนหลับได้ ต้องใช้การรับประทาน ฉีดเข้าหลอดเลือด หรือพ่นเข้าทางปาก

ข้อควรระวังในการใช้ยานอนหลับ

  1. อาจมีอาการง่วงซึมหลังจากใช้ยา ควรหลีกเลี่ยงการขับรถหรือการทำงานบนที่สูง
  2. ยากลุ่ม Benzodiazepines บางตัวอาจทำให้ลืมเหตุการณ์ก่อนและหลังใช้ยาในระยะเวลาสั้นๆ ได้ (Anterograde amnesia) ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
  3. อาจทำให้เกิดอาการดื้อยา คือต้องใช้ขนาดยาเพิ่มขึ้นถึงจะนอนหลับ หรือติดยาหลังจากใช้ยาขนาดสูงๆ เป็นระยะเวลานานๆ ได้

นอกจากนี้ ไม่ควรดื่มสุราร่วมกับยานอนหลับ เนื่องจากสุรามีฤทธิ์กดระบบประสาท ทำให้ยานอนหลับออกฤทธิ์มากเกินไป อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา


คำถามที่พบบ่อย

ยานอนหลับ ซื้อที่ไหน มีอะไรบ้าง ?

ในประเทศไทย ยานอนหลับ จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น เช่น Diazepam, Lorazepam หรือ Alprazolam สามารถรับได้ที่โรงพยาบาลหรือร้านขายยาที่มีใบอนุญาตจัดจำหน่ายยาควบคุมพิเศษอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

หากไม่ใช่ยานอนหลับ อาจเลือกยาที่ช่วยง่วงให้นอนหลับ หรือสมุนไพรที่ช่วยส่งเสริมการนอนหลับ สามารถหาซื้อได้ในบางช่องทาง

1. ร้านขายยาทั่วไป

  • ปกติไม่มียานอนหลับโดยตรงขาย แต่มียาแก้แพ้บางชนิดที่ช่วยให้ง่วง เช่น Chlorpheniramine หรือ Diphenhydramine และผลิตภัณฑ์ช่วยเสริมการนอนหลับ เช่น เมลาโทนิน (Melatonin)
  • ในไทยกำหนดให้เมลาโทนินเป็นยา ดังนั้นจึงต้องซื้อที่ร้านขายยาที่มีเภสัชกรแนะนำเท่านั้น ไม่ควรหาทางช่องทางออนไลน์ซึ่งเสี่ยงต่อผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน

2. ร้านขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดช่วยให้จิตใจสงบขึ้น หลับได้สนิทขึ้น เช่น

  • รากวาเลอเรียน (Valerian Root)
  • คาโมมายล์ (Chamomile)
  • แมกนีเซียม (Magnesium)
  • แอล-ธีอะนีน (L-Theanine)
  • กาบา (GABA)
  • 5-HTP (5-Hydroxytryptophan)
  • ลาเวนเดอร์ (Lavender)
  • แอชวากันดา (Ashwagandha)
  • ดอกเสาวรส (Passion flower)
  • นมผึ้ง (Royal Jelly)
  • อื่นๆ

อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาการนอนหลับ ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรมากกว่าที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทานเอง เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด


เขียนบทความโดย ทีมเภสัชกร HD

มีคำถามเกี่ยวกับ ยานอนหลับ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ