pancreatitis disease definition scaled

โรคตับอ่อนอักเสบ อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม รีบตรวจก่อน รักษาได้ อย่าชะล่าใจ!

หลายคนอาจสงสัยว่าโรคตับอ่อนอักเสบ เป็นโรคกลุ่มเดียวกับโรคตับหรือเปล่า แม้จะมีชื่อตับเหมือนกัน แต่เป็นคนละอวัยวะกัน วันนี้  HDmall จะพาทุกคนมารู้จักตับอ่อนอักเสบ โรคที่ไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าไหร่ เอ๊ะ…แล้วตับอ่อนอยู่ตรงไหน สำคัญยังไงกับร่างกาย เป็นตับอ่อนอักเสบแล้วจะร้ายแรงแค่ไหน อันตรายหรือเปล่า หาคำตอบกันได้ในบทความนี้

รู้จักกับตับอ่อน ตับอ่อนมีหน้าที่อะไร 

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตับ (Liver) กับ ตับอ่อน (Pancreas) เป็นอวัยวะคนละส่วน ทำหน้าที่คนละอย่างกัน ตับอ่อนจะอยู่ตรงท้องส่วนบนหลังกระเพาะอาหาร ค่อนไปทางด้านหลัง  อยู่หน้ากระดูกสันหลัง ทำหน้าที่หลักในการสร้างเอนไซม์ (Enzyme) มาช่วยย่อยอาหารพวกโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน และทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนหลายชนิด เช่น อินซูลิน (Insulin) ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และฮอร์โมนกลูคากอน (Glucagon) ที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด 

โรคตับอ่อนอักเสบคืออะไร อาการเป็นแบบไหน

โรคตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) เป็นภาวะที่มีการอักเสบของตับอ่อนจากหลายสาเหตุ ทำให้มีอาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่หรือสะดืออย่างรุนแรง อาการอาจเกิดขึ้นกะทันหัน หรือเป็นเรื้อรังอยู่นานหลายปี เมื่อตับอ่อนอักเสบบ่อยเข้าก็อาจทำให้กระบวนการย่อยอาหารในร่างกายแปรปรวน ย่อยอาหารได้ยาก การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก็ไม่ดี และอาจทำให้เกิดโรคอื่นตามมา เช่น โรคเบาหวาน ภาวะขาดสารอาหาร การติดเชื้อที่ตับอ่อน ไตได้รับความเสียหาย มะเร็งตับอ่อน และอาจรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 

ตับอ่อนอักเสบสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลัน (Acute Pancreatitis) และตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรัง (Chronic Pancreatitis) 

1.ตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลัน 

ตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลันอาจเกิดขึ้นทันทีหรือค่อย ๆ เกิดใน 2-3 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่หรือสะดืออย่างมาก มักจะปวดร้าวลามไปยังด้านหลัง อาการปวดจะเกิดตลอดเวลานานตั้งแต่ 10 นาที ไปจนถึงชั่วโมง กดบริเวณหน้าท้องแล้วจะรู้สึกเจ็บแต่ท้องไม่แข็ง นั่งงอตัวจะรู้สึกปวดน้อยกว่าในท่านอน เมื่ออาการรุนแรงขึ้นอาจพบอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ตัวเหลืองตาเหลือง หัวใจเต้นเร็วและแรง 

2.ตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรัง

ตับอ่อนอักเสบเรื้อรังจะเกิดขึ้นเมื่อตับอ่อนอักเสบซ้ำไปซ้ำมาบ่อย ๆ ทำให้เนื้อเยื่อตับอ่อนถูกทำลาย เกิดพังผืดขึ้นในตับอ่อน ไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับคืนมาได้ และอาจกลายไปเป็นมะเร็งตับอ่อนได้ในอนาคต ตับอ่อนอักเสบเรื้อรังมักต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะแสดงอาการ โดยอาการที่พบได้ คือ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่หรือสะดือลักษณะเดียวกับแบบเฉียบพลัน แต่ความรุนแรงจะน้อยกว่า และปวดแบบเรื้อรัง มีอาการท้องเสียเรื้อรัง ถ่ายเหลว หรือถ่ายแล้วเป็นไขมันลอย  ตัวเหลืองตาเหลือง น้ำหนักตัวลด ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีหรือเป็นโรคเบาหวาน

อาการตับอ่อนอักเสบอาจไม่ได้เฉพาะเจาะจง ถ้าใครมีอาการปวดท้องอยู่บ่อยครั้ง หรืออาการปวดเป็น ๆ หาย ๆ ไม่ว่าจะปวดน้อยหรือมาก อย่าชะล่าใจ ควรรีบไปพบแพทย์

สงสัยอยู่ใช่ไหมว่าสุขภาพตับอ่อนยังดีรึเปล่า ลองตรวจอัลตราซาวน์ช่องท้อง คัดกรองโรคไว้ก่อนดีกว่าไหม หรืออยากตรวจสุขภาพตามโรค ตามระบบในร่างกาย HDmall.co.th รวมมาให้แล้ว จองพร้อมใช้ ได้ส่วนลดและโปรโมชั่น คลิกเลย!

สาเหตุของโรคตับอ่อนอักแสบ เกิดจากอะไรได้บ้าง

สาเหตุหลักที่ทำให้ตับอ่อนอักเสบได้บ่อยที่สุด คือ

  • การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และดื่มมานานต่อเนื่อง ทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบได้ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ส่วนมากแล้วจะเป็นสาเหตุหลักของตับอ่อนอักเสบเรื้อรังได้มากกว่า
  • เป็นภาวะแทรกซ้อนของนิ่วในถุงน้ำดี โดยก้อนนิ่วในถุงน้ำดีอาจหลุดไปอุดท่อน้ำดีส่วนปลายที่เป็นท่อร่วมกับท่อตับอ่อนเข้าสู่ลำไส้เล็ก ทำให้น้ำย่อยไม่สามารถไหลผ่านไปได้ และย่อยเนื้อเยื่อของตับอ่อนเอง เป็นสาเหตุทำให้ตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลันได้

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบได้อีก เช่น

  • พฤติกรรมสูบบุหรี่จัด ทำให้สารพิษสามารถทำลายตับอ่อนได้โดยตรง
  • ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง 
  • ระดับแคลเซียมในเลือดสูง
  • ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยารักษาวัณโรค ยาปฏิชีวนะ ยาขับปัสสาวะกลุ่มไธอะไซด์ไดยูเรติก (Thiazide Diuretics) ยากลุ่มสเตียรอยด์ (Steroid)
  • น้ำหนักมาก เป็นโรคอ้วน หรือมีค่าดัชนีมวลมากตั้งแต่ 30 ขึ้นไป  
  • มีพันธุกรรมในครอบครัวเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ
  • ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายไปทำลายตับอ่อน 
  • การผ่าตัดช่องท้อง หรือเคยได้รับอุบัติเหตุที่ช่องท้อง
  • โรคบางโรค เช่น มะเร็งตับอ่อน มีถุงน้ำในตับอ่อน เนื้องอกตับอ่อนบางชนิด โรคซิสติกไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) โรคภูมิต้านตนเอง 

การวินิจฉัยโรคตับอ่อนอักเสบ แพทย์จะตรวจอะไรบ้าง

ตับอ่อนอักเสบเป็นโรคที่ไม่มีอาการในช่วงแรก อาการไม่ชัดเจน หรืออาการของโรคอาจคล้ายคลึงกับโรคอื่น แพทย์จะสอบถามประวัติสุขภาพของผู้ป่วยและครอบครัว ลักษณะอาการปวดท้อง ความผิดปกติที่เจอ พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และอื่น ๆ พร้อมกับตรวจร่างกาย เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อนตรวจด้านอื่นเพิ่มเติม เช่น 

  • การเจาะเลือด พื่อหาความผิดปกติของตับอ่อนและอวัยวะที่เกี่ยวข้องกัน เช่น การตรวจดูค่าเอนไซม์การทำงานของตับอ่อน การตรวจระดับระดับแคลเซียม ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันในเลือด และน้ำตาลให้เลือด การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
  • การถ่ายรังสีของตับอ่อน เพื่อดูโครงสร้างของตับอ่อน ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี และเนื้อเยื่อโดยรอบ เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และการอัลตราซาวด์ช่องท้อง 
  • การส่องกล้องตรวจท่อตับอ่อนและทางเดินน้ำดี (Endoscopic Retrograde Cholangio Pancreatography: ERCP) เพื่อตรวจหาความผิดปกติและการอุดตันในท่อน้ำดีหรือท่อตับอ่อน
  • การตรวจอุจจาระ เพื่อดูปริมาณไขมันว่ามีมากผิดปกติหรือไม่ 

นอกจากนี้ อาจมีการตรวจอื่น ๆ จะขึ้นอยู่กับอาการผิดปกติและความเห็นของแพทย์ แต่การตรวจในข้างต้นก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่าเป็นโรคตับอ่อนอักเสบหรือไม่

โรคตับอ่อนอักเสบเป็นแล้วหายไหม รักษาอย่างไร 

ตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลันมักเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน อาการมักจะดีขึ้นและหายเป็นปกติหลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะต้องนอนโรงพยาบาลเป็นระยะสั้น ๆ แพทย์จะให้งดน้ำและอาหาร เพื่อให้ตับอ่อนได้พักการทำงานสักระยะ และลดความเสี่ยงที่เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น ร่วมกับการให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือด เพื่อรักษาสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย และป้องกันภาวะขาดน้ำ 

ส่วนการรักษาอื่น ๆ จะเป็นการรักษาตามอาการและสาเหตุ เช่น

  • คนที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากจนกินอาหารหรือดื่มน้ำได้น้อย อาจต้องได้รับอาหารทางสายยาง 
  • การใช้ยาบรรเทาอาการ ทั้งยาแก้ปวด ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน หรือยาปฏิชีวนะ 
  • ถ้ามีนิ่วในถุงน้ำดี จะต้องผ่าเอานิ่วในถุงน้ำดีออก เพื่อลดโอกาสที่ก้อนนิ่วจะไปอุดตันในท่อของตับอ่อน 
  • ถ้าอาการอักเสบรุนแรงมากจนเนื้อตับอ่อนตาย จำเป็นต้องผ่าตัดเอาเนื้อที่ตายออก และทำความสะอาดเพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ
  • บางรายอาจต้องเข้ารับการรักษาในห้อง ICU (Intensive Care Unit)  เพราะตับอ่อนอาจทำให้เกิดการอับเสบหรือความเสียหายที่ปอด ไต กล้ามเนื้อหัวใจ หรืออวัยวะสำคัญอื่น ซึ่งเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้

สำหรับการรักษาตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรังไม่สามารถรักษาให้หายได้ และรักษาได้ยากกว่าแบบเฉียบพลัน นอกจากการรักษาทั่วไปเหมือนกับตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลันแล้ว แพทย์จะพยายามช่วยเหลือให้ผู้ป่วยจัดการกับอาการปวดท้องเรื้อรังด้วยการใช้ยา บางรายอาจต้องผ่าตัดระบายฮอร์โมนหรือเอนไซม์ของตับอ่อน เพื่อบรรเทาอาการปวด นอกจากนี้ จะต้องมีปรับเปลี่ยนอาหาร โดยเฉพาะการลดอาหารไขมันสูง งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้ป่วยควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

โรคตับอ่อนอักเสบป้องกันได้ไหม 

การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การลดหรือเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่ ไม่ดื่มหรือลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ใช้ยาและอาหารเสริมเท่าที่จำเป็น ถ้าไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา กินให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ ลดการกินอาหารและเครื่องดื่มที่มีไขมันสูง ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ หมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายอยู่เสมอ และไม่ลืมตรวจสุขภาพเป็นประจำ ถ้าเราปรับพฤติกรรมดังกล่าวได้ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคตับอ่อนอักเสบได้แล้ว ยังช่วยให้เราห่างไกลโรคอื่นได้อีกด้วย 

เช็กสุขภาพพื้นฐานให้แน่ใจ ตรวจระบบไหน HDmall.co.th มีครบ พร้อมเลือกพบคุณหมอได้ด้วย คลิกเลย หรือไม่แน่ใจตรวจโปรแกรมไหนดี ทักแชทสอบถามแอดมินได้ ที่นี่

Scroll to Top