ยา Simvastatin เป็นยาที่ใช้ร่วมกับการควบคุมอาหาร เพื่อลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ชนิดเลว, ไขมัน LDL และไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) และช่วยเพิ่มระดับไขมันมันคอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือด (ไขมัน HDL)
สารบัญ
สรรพคุณของยา Simvastatin
- ลดระดับคอเลสเตอรอล: ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด พร้อมทั้งเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด: ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ
- ป้องกันอาการหัวใจวาย: ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดหัวใจวายครั้งแรก และป้องกันการเกิดซ้ำของหัวใจวายในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง
กลไกการออกฤทธิ์ยา Simvastatin
ยา Simvastatin เป็นยาในกลุ่มสแตติน (Statins) ยาจะออกฤทธิ์ลดการผลิตคอเลสเตอรอลที่สร้างจากตับ เมื่อร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลวและไตรกลีเซอไรด์ลดลง และมีระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีเพิ่มขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (Strokes) และโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด (Heart attacks) ได้
วิธีใช้ยา Simvastatin
- รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง โดยทั่วไปจะรับประทานวันละ 1 ครั้งตอนเย็นหรือก่อนนอน ถ้าคุณรับประทานยา Simvastatin ชนิดเม็ด สามารถรับประทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
- ถ้าคุณรับประทานยา Simvastatin ชนิดน้ำ ให้รับประทานตอนท้องว่าง โดยให้เขย่าขวดเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาทีก่อนรับประทานยาแต่ละครั้ง และให้ตวงยาโดยใช้ช้อนตวงยา/อุปกรณ์ตวงยาโดยเฉพาะ อย่าใช้ช้อนรับประทานอาหารตวงยา เพราะอาจได้รับขนาดยาไม่ถูกต้องได้
- ขนาดยาที่คุณได้รับจะขึ้นกับสภาวะโรค การตอบสนองต่อการรักษา อายุ และยาอื่นที่กำลังใช้ร่วมด้วย ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่
- กรณีเป็นผู้ป่วยชาวจีนที่กำลังรับประทานยา Niacin อยู่ อาจจำเป็นต้องลดขนาดยา Simvastatin ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- โดยทั่วไปขนาดยาสูงสุดของยา Simvastatin คือ 40 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าแพทย์สั่งให้คุณรับประทานยานี้มากกว่าวันละ 40 มิลลิกรัม แนะนำให้รับประทานตามแพทย์สั่ง อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงของการใช้ยาในขนาดสูง
- ห้ามปรับเพิ่มขนาดยา หรือรับประทานยาบ่อยครั้งกว่าที่แพทย์สั่ง เพราะไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นเร็วกว่าเดิม อีกอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานผลไม้เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit) หรือน้ำผลไม้เกรฟฟรุ๊ตขณะใช้ยา Simvastatin ยกเว้นแพทย์แนะนำเป็นอย่างอื่น เพราะผลไม้เกรฟฟรุ๊ตจะเพิ่มระดับยา Simvastatin ในเลือด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
- ให้รับประทานยา Simvastatin เป็นประจำจึงจะได้ประโยชน์จากยาเต็มที่ ดังนั้นแนะนำให้รับประทานในเวลาเดียวกันของทุกวันเพื่อไม่ให้ลืมรับประทานยา และจำเป็นต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีระดับคอเลสเตอรอลหรือไตรกลีเซอไรด์สูงจะไม่มีอาการใดๆ
- นอกจากการรับประทานยาตามสั่งแล้ว คุณยังต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายด้วย ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 4 สัปดาห์ จึงจะได้ผลการรักษาเต็มที่
ผลข้างเคียงของยา Simvastatin
- โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
- มีผู้ป่วยจำนวนเล็กน้อยที่ใช้ยา Simvastatin แล้วมีปัญหาด้านความจำในระดับรุนแรงน้อย หรือมีอาการสับสน ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงที่พบได้น้อย แต่ถ้ามีอาการเกิดขึ้นให้ปรึกษาแพทย์
- ยาในกลุ่ม Statins อาจทำให้เป็นโรคเบาหวาน หรือทำให้โรคเบาหวานมีอาการแย่ลงได้ แม้จะพบได้น้อย แต่ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงของการใช้ยานี้
- ยา Simvastatin อาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติของกล้ามเนื้อซึ่งพบได้น้อยแต่ร้ายแรงมาก คือ ภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis) และ Autoimmune myopathy ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทันที ถ้าคุณมีอาการใดๆ ดังต่อไปนี้ระหว่างใช้ยา รวมถึงหากแพทย์หยุดยาให้กับคุณแล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้น ได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ กดเจ็บที่กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง (โดยเฉพาะถ้ามีไข้ หรืออ่อนเพลียผิดปกติร่วมด้วย) มีอาการของโรคไต เช่น ปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป
- ยา Simvastatin อาจทำให้เกิดปัญหาที่ตับอย่างร้ายแรงได้ แม้ว่าจะพบได้น้อย แต่ถ้าถ้ามีอาการใดๆ ที่บ่งบอกว่าเกิดพิษต่อตับ ให้แจ้งแพทย์ทันที ได้แก่ ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้ม ปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียนแล้วไม่ดีขึ้น
- ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ ผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ) เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก
- อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวังในการใช้ยา Simvastatin
- ถ้าคุณแพ้ยา Simvastatin หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- ก่อนการใช้ยา Simvastatin ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นโรคตับ โรคไต ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่
- คุณต้องจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับ โดยเฉพาะถ้าใช้ยา Simvastatin ร่วมด้วย ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยามากกว่าปกติ โดยเฉพาะความผิดปกติของกล้ามเนื้อ
- ห้ามใช้ยา Simvastatin ระหว่างตั้งครรภ์ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ ดังนั้นต้องคุมกำเนิดระหว่างใช้ยานี้ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาเกี่ยวกับการคุมกำเนิดระหว่างใช้ยานี้ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด หากมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นหรือคิดว่าตนเองอาจจะตั้งครรภ์ ต้องรีบแจ้งแพทย์ทันที
- ยา Simvastatin ผ่านไปยังน้ำนมได้ และอาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารกที่ดูดนม จึงไม่แนะนำการให้นมบุตรระหว่างใช้ยานี้ ดังนั้นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร
การใช้ยา Simvastatin ร่วมกับยาอื่น
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างใช้ยา Simvastatin คือ ผลไม้เกรฟฟรุ๊ต ยกเว้นแพทย์แนะนำเป็นอย่างอื่น เนื่องจากผลไม้เกรฟฟรุ๊ตหรือน้ำเกรฟฟรุ๊ตจะเพิ่มปริมาณยา Simvastatin ในเลือด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการผิดปกติทางกล้ามเนื้ออย่างร้ายแรงได้ ดังนั้นอย่ารับประทานผลไม้หรือน้ำผลไม้เกรฟฟรุ๊ต โดยอาจเปลี่ยนไปรับประทานน้ำผลไม้อย่างอื่นแทน เช่น น้ำส้ม
ในกรณีที่บุคลากรทางการแพทย์ เช่น แพทย์ เภสัชกร หรือนักโภชนาการ สั่งให้ท่านรับประทานเกรฟฟรุ๊ต คุณควรปรึกษาแพทย์ทันทีว่าเกรฟฟรุ๊ตจะส่งผลเพิ่มระดับยาในเลือดได้ ทั้งนี้ให้แจ้งแพทย์ทันทีหากเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ หากมีข้อสงสัยให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
การได้รับยา Simvastatin เกินขนาด
หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา Simvastatin เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
หมายเหตุ: ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้, ควรมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และ/หรือ การตรวจทางการแพทย์เป็นระยะ เพื่อติดตามอาการและผลข้างเคียงจากยา เช่น ระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
หากลืมรับประทานยา Simvastatin
ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
การเก็บรักษายา Simvastatin
- เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น และเนื่องจากอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บยาของแต่ละผู้ผลิตมีความแตกต่างกัน จึงให้สอบถามจากเภสัชกรก่อนเสมอ ห้ามนำยาไปแช่เย็นหรือแช่แข็ง ไม่เก็บยาในห้องน้ำ
- สำหรับยารูปแบบยาน้ำแขวนตะกอน หลังเปิดใช้แล้วมีอายุ 1 เดือน เมื่อเกิน 1 เดือนให้ทิ้งยาไป
- เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก
นอกจากการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม เช่น ลดการรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลและไขมันสูงแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาจช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ได้แก่ ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก (หากมีน้ำหนักเกิน) และหยุดสูบบุหรี่