ผู้ที่มีปัญหา ขมับตอบ ขมับบุ๋ม ขมับยุบ จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ไม่อิ่มเอิบ และดูดุ หลายคนเกิดปัญหาด้านบุคลิกภาพ บางคนขาดความมั่นใจ ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการเสริมขมับด้วยซิลิโคน เพื่อลดความชัดของโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าได้สัดส่วน มีมิติ ดูอ่อนเยาว์ มีความละมุนและอ่อนหวานมากขึ้น และดูมีสุขภาพดี HDmall.co.th จึงได้รวบรวมข้อมูลเสริมขมับด้วยซิลิโคนโดยละเอียด ก่อนตัดสินใจทำมาฝากกัน
เลือกอ่านข้อมูลการเสริมขมับด้วยซิลิโคนได้ที่นี่
ขมับตอบ ขมับบุ๋ม ขมับยุบ เกิดจากอะไร?
โดยปกติแล้วบริเวณขมับที่อยู่ 2 ข้างของหน้าผาก จะมีไขมันและผิวหนังหุ้มอยู่ ช่วยทำให้ใบหน้าแลดูเต็มอิ่ม แต่บางคนอาจมีขมับเป็นรอยบุ๋ม ทำให้ใบหน้าดูตอบ ขมับยุบเหมือนเป็นหลุม ปัญหาเหล่านี้เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
- โครงสร้างกะโหลกศีรษะของแต่ละบุคคล โดยทั่วไป กระดูกบริเวณหน้าผาก ขมับ แก้ม คาง จะมีกล้ามเนื้อที่บางและอยู่ใกล้กับผิวหนังด้านนอก ซึ่งบริเวณตรงขมับที่อยู่ 2 ข้างนั้น จะเป็นกล้ามเนื้อใหญ่ที่มีลักษณะเป็นแอ่ง โดยกล้ามเนื้อนี้ สำหรับบางคนจะหดตัวมีขนาดเล็กลงหรือฝ่อลงตามวัย ทำให้บริเวณด้านในที่มีชั้นไขมันและผิวหนัง ไม่เต็มพอดีกับผิวหนังด้านนอก จึงทำให้มองเห็นว่าบริเวณขมับนั้น ดูบุ๋มยุบหรือตอบลงไป
- อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น เนื้อเยื่อต่างๆ ของชั้นผิวหนังจะหดตัวลง ทำให้ผิวหนังด้านนอกไม่เต่งตึงและกระชับเหมือนเดิม มีรูขุมขนกว้างขึ้น เพราะเนื้อเยื่อคอลลาเจน (Collagen) และเนื้อเยื่ออีลาสติน (Elastin) ที่เป็นโครงสร้างของผิวหนัง รวมทั้งเนื้อเยื่อโดยรอบลดจะน้อยลง จึงทำให้ขมับเกิดเป็นรอยบุ๋ม มีความหย่อนคล้อย และทำให้โครงสร้างของผิวหนังเสื่อมสภาพ
เสริมขมับด้วยซิลิโคนคืออะไร?
การเสริมขมับด้วยซิลิโคน (Temporal Augmentation) เป็นการใช้ซิลิโคนแผ่นสำเร็จรูปนำมาเสริมที่ขมับ ซึ่งมีความนุ่มและยืดหยุ่น สามารถเกาะกับชั้นกระดูกได้เป็นอย่างดี ไม่ทำให้ซิลิโคนเบี้ยวเอียงหลังผ่าตัด มีขนาดรูปร่างที่ใกล้เคียงกับช่องว่างของขมับ ทำให้การผ่าตัดนั้นง่ายและสะดวกรวดเร็ว เป็นการผ่าตัดที่มีแผลขนาดเล็ก เจ็บน้อย พักฟื้นน้อย ซึ่งจะช่วยเติมเต็มขมับ ทั้งยังช่วยลดความชัดของโหนกขมับได้อย่างถาวร ทำให้ใบหน้าดูดี ส่งผลต่อบุคลิกภาพ และความมั่นใจ โดยจะต้องเลือกใช้บริการกับสถานเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
เสริมขมับด้วยซิลิโคนช่วยอะไร?
การเสริมขมับด้วยซิลิโคน เป็นการช่วยแก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบ ขมับบุ๋มได้ ดังนี้
- ลดความคมชัดของโหนกแก้ม
- ช่วยทำให้ใบหน้ามีความละมุน และดูอ่อนหวานมากขึ้น
- ทำให้มีใบหน้าเอิบอิ่ม แลดูอ่อนเยาว์
- ช่วยยกกระชับใบหน้า ทำให้มีกรอบหน้าที่คมชัดขึ้น
- ใบหน้าดูมีสุขภาพดี
- ช่วยเติมขมับให้เต็มได้อย่างถาวร
ข้อดีของการเสริมขมับด้วยซิลิโคน
- ทำให้โครงหน้าสมดุล ดูมีมิติ มีความละมุนบนใบหน้า และอ่อนเยาว์มากขึ้น
- แก้ปัญหาขมับได้อย่างตรงจุดของขมับตอบ ขมับบุ๋ม ขมับยุบ
- ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
- การผ่าตัดเป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่น เนื่องจากมีซิลิโคนที่ขึ้นรูปให้ใกล้เคียงกับช่องว่างขมับไว้โดยเฉพาะ
- แผลผ่าตัดมีขนาดที่เล็ก เจ็บน้อย พักฟื้นน้อย
- ไม่เห็นแผลผ่าตัดบนใบหน้า โดยแผลจะซ่อนอยู่ตรงไรผม และมีเส้นผมปิดอยู่
- หลังจากผ่าตัดแล้ว มีอาการบวมน้อยกว่าวิธีฉีดไขมัน
- หากต้องการแก้ไขหรือเปลี่ยนซิลิโคน สามารถผ่าตัดนำออกได้ทั้งหมด
ข้อเสียของการเสริมขมับด้วยซิลิโคน
- หลังจากผ่าตัดแล้ว มีอาการบวมมากกว่าวิธีฉีดสารเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์
- แผลผ่าตัด รักษายากกว่าวิธีฉีดสารเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์กับฉีดไขมัน
- เมื่อเสริมขมับด้วยซิลิโคนแล้ว ไม่สามารถปรับลดความโค้งนูนของขมับได้ ต้องผ่าตัดแก้ไขเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนเสริมขมับด้วยซิลิโคน
หากสนใจเสริมขมับด้วยซิลิโคน ต้องเตรียมตัวดังต่อไปนี้
- หากมีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องใช้เป็นประจำ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด
- กรณีเป็นโรคในกลุ่มหลอดเลือดตีบหรือหัวใจอุดตัน จะต้องปรึกษาแพทย์ที่ให้การรักษาโรคอยู่ก่อน เพราะจะต้องงดรับประทานยาในกลุ่มยาที่ต้านเกล็ดเลือด และยาละลายลิ่มเลือด ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเลือดไหลออกง่ายในระหว่างการผ่าตัด
- งดทานสมุนไพร วิตามิน และอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี วิตามินเอ น้ำมันตับปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน จะต้องคุมอาการของโรคเหล่านี้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ ก่อนที่จะรับการผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์
- หากมีประวัติการแพ้ยาที่รับประทาน หรือยาชา ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนนัดหมายผ่าตัด
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 เดือน เพราะจะทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อก่อนผ่าตัดประมาณ 1 เดือน
- เตรียมวันหยุด เพื่อพักฟื้นที่บ้านหลังผ่าตัด 2 วัน
- ทำความสะอาดร่างกาย ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เช่น อาบน้ำ สระผม ล้างหน้าให้เรียบร้อย
- สวมเสื้อผ้าที่เป็นกระดุมหน้า ที่ใส่สบายและหลวม เพื่อจะได้ถอดใส่ง่าย และไม่สวมเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้า ในวันรับการผ่าตัด
- งดใส่คอนแทคเลนส์ และเครื่องประดับทุกชนิด ในวันรับการผ่าตัด
- ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร แต่ทานอาหารแค่พออิ่ม ก่อนเข้าผ่าตัด เพื่อป้องกันไม่ให้ท้องแน่น และอึดอัดระหว่างรับการผ่าตัด
- งดใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า เพราะถ้าหากล้างหน้าไม่สะอาด อาจจะทำให้ติดเชื้อได้
- พาเพื่อนหรือญาติมาด้วยในวันผ่าตัด เพื่อช่วยดูแลและพากลับบ้าน
ขั้นตอนการเสริมขมับด้วยซิลิโคน
ในวันผ่าตัดแพทย์จะแนะนำเกี่ยวกับซิลิโคนที่ใช้ ตรวจวัดสัดส่วนโครงใบหน้า บริเวณขมับที่ตอบ และดูความลึกเพื่อวิเคราะห์ และกำหนดตำแหน่งเป็นเครื่องหมายไว้ รวมถึงตรวจวัดความดัน ทานยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการเสริมขมับด้วยซิลิโคน ดังนี้
- ฉีดยาชาผสมยาหยุดเลือด บริเวณขมับที่จะเสริมซิลิโคน และเหนือใบหูบนศีรษะหลังไรผม
- กรีดเปิดปากแผล ยาวประมาณ 2-3 ซม. เพื่อทำให้มีช่องว่าง ที่พอดีกับซิลิโคนที่จะใส่เข้าไป
- ใส่ซิลิโคนแผ่น เข้าไปในบริเวณตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้ และจัดวางจนได้ตำแหน่งที่เหมาะสม
- เย็บปิดปากแผล ด้วยเส้นไหมขนาดเล็ก
- เมื่อแพทย์ประเมินสัดส่วน และรูปหน้าโดยรวมทั้งหมดของใบหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำความสะอาดแผล และปิดแผลไว้
หลังผ่าตัดแล้ว โดยทั่วไปอาจมีอาการมึนงงจากการฉีดยาชา จึงต้องใช้เวลาพักประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นแพทย์จะอนุญาตให้ผู้รับบริการกลับไปพักฟื้นบ้านได้
การดูแลตัวเองหลังเสริมขมับด้วยซิลิโคน
การดูแลรักษาแผลหลังจากเสริมขมับด้วยซิลิโคนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่แผลจากการผ่าตัดได้ โดยมีวิธีการดังนี้
- ในวันรุ่งขึ้นหลังจากผ่าตัด 1 วัน ทำความสะอาดแผลเช้าเย็น ด้วยน้ำเกลือทุกวัน จนกว่าจะมีการตัดไหม โดยเช็ดคราบเลือดและสะเก็ดแผลออกให้หมด และหลังจากทำความสะอาดแผลเสร็จ ให้ทาด้วยขี้ผึ้งฆ่าเชื้อบางๆ บริเวณแผลตามแพทย์สั่ง
- สระผมได้ทุกวันตามปกติ โดยเกาอย่างเบามือ เพื่อล้างคราบเลือดออก และเป่าผมให้แห้ง
- ล้างหน้าได้ตามปกติ
- นอนศีรษะให้สูงประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวม
- ประคบเย็นที่บริเวณขมับ วันละ 4 ครั้ง เพื่อลดอาการบวมประมาณ 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายบวม
- หลังผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์ หากบริเวณแผลยังมีรอยเขียวช้ำอยู่ ให้ประคบน้ำอุ่นวันละ 2 ครั้ง หรือจนกว่าจะหาย ซึ่งปกติแล้วอาการนี้จะหายไปเอง
- ไม่ใช้มือดึงไหมที่เย็บและไม่แกะเกาที่แผล
- สวมเสื้อที่ถอดใส่ง่าย หรือมีกระดุมด้านหน้า เพื่อลดโอกาสที่แผลผ่าตัดจะสัมผัสกับตัวเสื้อ
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน
- สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น ทำงานทั้งในร่มทั้งกลางแจ้ง โดนแสงแดด ออกกำลังกาย เป็นต้น
- งดรับประทานอาหารดิบ อาหารหมักดอง และอาหารทะเล หลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน เพราะมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้
- งดสูบบุหรี่ หลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน เพราะจะทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- หลังจากการผ่าตัด ควรรัดผ้าที่ศีรษะ จนกว่าจะตัดไหม
- สามารถทำสีผมได้ หลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด พบแพทย์ตามนัด และหากมีอาการผิดปกติให้ไปพบแพทย์ทันที
เสริมขมับด้วยซิลิโคนมีแผลเป็นไหม?
ในการเสริมขมับด้วยซิลิโคน ไม่มีแผลเป็นบนใบหน้าของผู้รับบริการ แผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณเหนือใบหู ซึ่งซ่อนอยู่ในไรผม มีเส้นผมปิดบังแผลผ่าตัดไว้
เสริมขมับด้วยซิลิโคนอยู่ถาวรไหม?
การเสริมขมับด้วยซิลิโคน เป็นการแก้ปัญหาของขมับตอบ ขมับบุ๋ม ขมับยุบ ที่ได้ผลลัพธ์อย่างถาวร เนื่องจากซิลิโคนที่ใช้ในการเติมเต็ม เป็นวัสดุที่มีอายุการใช้งานตลอดชีวิต
เสริมขมับด้วยซิลิโคนอันตรายไหม?
ซิลิโคนที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมขมับนั้น มีความยืดหยุ่นสูง และไม่เป็นพิษกับร่างกาย โดยจะต้องทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ซิลิโคนที่ได้คุณภาพ จะสามารถเข้ากับขมับของใบหน้าได้ทุกขนาด มีความนุ่มและยืดหยุ่น เกาะกับชั้นกระดูกได้เป็นอย่างดี ไม่มีเบี้ยวหรือเอียง มีขนาดที่เหมาะกับสม อีกทั้งยัง ป้องกันไม่ทำให้แผลเกิดการติดเชื้อ และไม่ทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้รับบริการ หลังจากการผ่าตัด
การเสริมขมับด้วยซิลิโคน เป็นการทำที่ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า เพราะทำเพียงครั้งเดียว ก็สามารถอยู่ได้อย่างถาวร
เช็กราคาเสริมคางด้วยซิลิโคน จากคลินิกและโรงพยาบาลต่างๆ พร้อมบริการเช็คคิวทำนัดให้ฟรี โดยแอดมินของ HDmall.co.th
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ลดโหนกแก้ม วิธีเสริมความงามเพื่อลดมิติที่ไม่จำเป็นของใบหน้า
- เสริมหน้าผาก กับข้อควรรู้ต่างๆ ก่อนตัดสินใจ
- รีวิวฉีดฟิลเลอร์ ที่ Divine Aesthetic Clinic
- รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ Neuramis บริเวณขมับ ที่ Hello Clinic
ที่มาของข้อมูล
ปิด
ปิด
- Temporal Augmentation : A Systematic Review, (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/31525780/), September 16, 2019.
- Temporal Augmentation using a polytetrafluorethylene implant with the assistance of an endoscope, (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/20428868/), April 29, 2010.
- Temporal Augmentation with methyl methacrylate, (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/21908815/), September 31, 2011.
- Temporal and malar-zygomatic reduction and augmentation, (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/2015750/), January 18, 1991.
- Temporal Hollowing Augmentation With Polyetheratherketone Patient–Specific Implant, (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/31107388/), October 30, 2019.
