รีวิวทำกายภาพบำบัด รักษาอาการปวดไหล่ ออฟฟิศซินโดรม ที่ Newton Em Physiotherapy Clinic

พนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่หลายๆคน คงเคยเจอกับปัญหาการปวดหลัง คอ บ่า ไหล่จากการนั่งทำงานนานๆ กันบ้างแหละ คนที่เริ่มรู้สึกว่ามีอาการปวดเล็กน้อยก็อย่าชะล่าใจไป

หากยังมีพฤติกรรมนั่งทำงานแบบเดิมๆ จะทำให้ปวดมากขึ้นจนรบกวนการทำงานได้ ควรปรับท่าการนั่งทำงานให้ถูกลักษณะ จะได้ห่างไกลจาก Office Syndrome

แต่สำหรับใครที่ปรับตอนนี้ไม่ทันแล้ว ปวดมากๆ เลย ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว วันนี้เราจะพาไปทำกายภาพบำบัดรักษา Office Syndrome กัน

ซึ่งเรามาเจอคลินิก Newton Em Physiotherapy Clinic ที่เว็บ HDmall.co.th เมื่อเห็นรีวิวและลองเทียบราคาแล้ว จึงทำการจองกับ HDmall.co.th ผ่านทางไลน์ สะดวก ง่าย และรวดเร็วมากค่ะ

โดยทาง HDmall.co.th จะติดต่อกับคลินิกนัดวันเวลาให้เรียบร้อยเลย ก่อนถึงวันนัดมีไลน์จากทาง HDmall.co.th มาเตือน มี E-mail และ โทรศัพท์จากทางคลินิกมาเตือนอีกที ไม่ลืมนัดแน่นอนค่ะ

เราเลือกสาขาลาดพร้าวเพราะเดินทางสะดวกทั้งจากรถส่วนตัว และรถสาธารณะ โดยคลินิกตั้งอยู่ที่อาคารพร้อมพันธุ์ 3 ซอยลาดพร้าว 3 เดินจาก MRT พหลโยธิน ประตู 5 ประมาณ 230 เมตร

เมื่อมาถึงอาคารพร้อมพันธุ์ 3 จะต้องแลกบัตรด้านล่างอาคารก่อน จากนั้นก็ขึ้นมาที่ชั้น 3 ออกจากลิฟต์ก็เจอกับคลินิกเลย หาง่ายมากๆ

เข้ามาถึงในคลินิกแล้ว มากรอกประวัติและแบบสอบถามกันก่อนค่ะ เมื่อกรอกเสร็จก็เข้าห้อง ไปเปลี่ยนชุดสำหรับเตรียมตัวรับการรักษาต่อไปค่ะ  

ภายในคลินิก มีความสะอาดสะอ้าน และปลอดโปร่ง ดูโล่งสบาย ในห้องทำกายภาพ มีความกว้างพอประมาณ ห้องดูโล่งๆ สว่าง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเลย มีเตียงตั้งอยู่กลางห้อง ตรงหมอนมีผ้าขาวบางๆ วางรองไว้ ซึ่งทำการเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งที่มีผู้มาใช้บริการ

เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว นักกายภาพจะเข้ามาประเมินอาการว่าปวดตรงไหน ตึงตรงไหนบ้าง โดยการให้ขยับร่างกายในท่าต่างๆ เช่น ก้มคอ เงยคอ เอียงคอซ้าย/ขวาให้สุด เพื่อดูว่าเราเอียงได้มากน้อยเพียงใด ก้มเงยมุมไหนแล้วปวดตรงไหนบ้าง พร้อมกับการซักถามอาการและประวัติต่างๆ

จากนั้นนักกายภาพจะให้นอนลงที่เตียง แล้วทำการกดบริเวณต่างๆ ที่เราบอกว่ามีอาการตึงๆ ตอนขยับร่างกาย เมื่อนักกายภาพกดโดนจุดที่เป็นเยอะๆ เราจะมีอาการปวดขึ้นมาทันที ซึ่งถ้าไม่กด อยู่เฉยๆ จะไม่รู้สึกอะไร จุดไหนที่กดแล้วปวดมากนักกายภาพจะทำการมาร์คจุดไว้ เพื่อเน้นรักษาตรงนั้น

การรักษาเริ่มต้นด้วยการใช้ Rock blade เพื่อช่วยคลายผังผืดที่คลุมกล้ามเนื้อให้เรียงตัวสวยขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดีขึ้น

จากนั้นใช้เครื่อง Ultrasound Therapy มาวนๆ ในบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด คล้ายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด หลังจากนั้นก็มีการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้อีกด้วย 

เมื่อเสร็จขั้นตอนทั้งหมด นักกายภาพก็จะมาเช็คร่างกายโดยการให้ขยับเหมือนตอนแรกว่าองศาการเอียง ก้ม เงย ดีขึ้นหรือไม่ ยังมีการปวด การตึงอยู่รึเปล่า

ตอนนั้นเรายังมีอาการตึงๆ ที่คอ บ่าอยู่นิดหน่อย นักกายภาพจึงทำการรักษาให้ต่อโดยใช้เครื่องนวด มานวดให้ในบริเวณที่ยังตึงอยู่ เครื่องนวดตัวนี้สั่นแรงมากๆ ตอนแรกอาจจะรู้สึกไม่ชิน พอสักพักสบายมากจ้า

พอนวดด้วยเครื่องเสร็จก็มานวดด้วยมือต่ออีกสักพัก แล้วทำการเช็คอาการเหมือนเดิม ซึ่งครั้งนี้อาการตึงที่คอรู้สึกดีขึ้นมาก สามารถก้ม เงย เอียงคอ ได้มากขึ้นกว่าตอนแรกมากๆ และรู้สึกตึงน้อยลงหลังทำเสร็จทันทีเลย

สุดท้ายนักกายภาพเห็นสรีระว่าเรามีคอยื่นเล็กน้อย จึงนำ Rock Tape มาติดยึดคอกับบ่าให้อยู่ในท่าที่ถูกต้อง แล้วมีการสอนท่าออกกำลังกายเพื่อให้หลังแข็งแรง และสอนท่ายืดเหยียดเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตึงตัวมากเกินไปอีกด้วย

สำหรับการบริการของที่นี้จะมีนักกายภาพดูแลตั้งแต่รับหน้าร้าน ทำกายภาพเสร็จ นัดคิวครั้งถัดไป คนเดียวดูแลจบครบทุกกระบวนการ

ซึ่งนักกายภาพที่มาดูแลในวันนี้บริการดี ทำกายภาพให้ดีมาก ไม่เจ็บและไม่เบาเกินไป ไม่หายตึงไม่ให้ออกจากห้องเลย แล้วยังมีสอนเรื่องกล้ามเนื้อ เปิดรูปอธิบายให้เข้าใจง่ายอีกด้วย

ผลลัพธ์ของการทำกายภาพบำบัดในครั้งแรกรู้สึกตัวเบาๆ ทันทีหลังทำเสร็จเลย กล้ามเนื้อคลายตัวไปมาก ไม่ตึงเท่าตอนก่อนมาทำ

ตอนที่ทำเสร็จนักกายภาพจะให้ทำท่าต่างๆ เหมือนกับตอนแรกที่เช็คอาการ ตรงนี้เห็นได้ชัดเลยว่าสามารถก้ม และเอียงคอได้มากกว่าเดิม โดยที่ไม่ปวดมากเท่าตอนแรกแล้ว

ทำกายภาพบำบัด รักษาอาการปวดไหล่ ครั้งที่ 2

การกายภาพบำบัดครั้งที่ 2 นี้ ขั้นตอนหลักๆ หลายอย่างเหมือนกับครั้งแรกเลยค่ะ คือเมื่อเข้าห้องกายภาพขั้นตอนแรกจะทำการเช็คการตึงตัวของกล้ามเนื้อ และสอบถามอาการเบื้องต้น ติดตามผลการรักษาครั้งที่แล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง 

ซึ่งอาการของเราดีขึ้นจากครั้งที่แล้ว ปวดสะบักน้อยลง ตึงที่หลังน้อยลง แต่ยังมีอาการปวดต้นคออยู่ เมื่อทราบอาการแล้ว นักกายภาพจึงเริ่มทำการรักษาโดยใช้เครื่องมือ Rock blade แล้วตามด้วย Ultrasound Therapy เสร็จแล้วเช็คความตึงกล้ามเนื้ออีกครั้ง แล้วใช้เครื่องนวด ต่อด้วยนวดมือเป็นขั้นตอนสุดท้าย

และในครั้งนี้ มีการเพิ่มเติมก่อนทำการรักษา คือนักกายภาพบำบัดได้พาไปออกกำลังกายที่ลานออกกำลังกาย เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และเป็นการสอนเพื่อใช้ออกกำลังกายเองที่บ้านด้วย

ทำกายภาพบำบัด รักษาอาการปวดไหล่ ครั้งที่ 3

การกายภาพบำบัดครั้งที่ 3 ขั้นตอนการกายภาพเหมือนกับสองครั้งแรก คือมีการเช็คความตึงของกล้ามเนื้อ เมื่อรู้ว่าปวดตรงไหน ตึงตรงไหน นักกายภาพก็เริ่มทำการรักษาตามอาการ โดยเริ่มจากการใช้ Rock blade แล้วตามด้วย Ultrasound Therapy เสร็จแล้วเช็คความตึงกล้ามเนื้ออีกครั้ง 

เมื่อนักกายภาพเห็นว่ามีอาการตึงอยู่จึงทำการรักษาต่อด้วยเครื่อง Laser เพื่อช่วยคล้ายกล้ามเนื้อตามซอกเล็กๆ และเร่งกระบวนการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เมื่อเสร็จการกายภาพ ก็มีการสอนท่ายืดกล้ามเนื้อแบบใหม่ และเน้นการออกกำลังกายที่เคยสอนไปแล้วด้วย

สรุปการทำกายภาพสามครั้ง รู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่เคยตึงตัวในตอนแรกนั้น ปัจจุบันดีขึ้นมาก รู้สึกปวดน้อยลง ตึงน้อยลง แต่เมื่อกลับไปทำงานนั่งนานๆ ท่าเดิม ก็ทำให้กลับไปปวดอีกแต่ไม่หนักเท่าตอนแรก 

การมาทำกายภาพครั้งนี้ทำให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย แม้จะมีการทำงานหนักก็ยังได้มีการรักษาไม่ให้อาการแย่ลงกว่าเดิม และรู้สึกประทับใจกับนักกายภาพทุกท่าน ใส่ใจในรายละเอียดการรักษา ช่วยหาสาเหตุ หาจุดที่ปวดลึก และรักษาแบบไม่เลี้ยงไข้ ทำเต็มที่ การรักษาแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่าชั่วโมงครึ่ง และยังมีการแนะนำการนั่ง การยืด การออกกำลังกายเพื่อไม่ให้กลับไปเป็นหนักอีก

บทความที่เกี่ยวข้อง

• ปวดหลัง บอกโรคได้ ปวดหลังส่วนไหน บอกอะไรได้บ้าง
• อาการปวดหลังเกิดจากอะไร รวมทุกสาเหตุของอาการปวดหลัง
• กายภาพบำบัด เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ไม่ได้มีดีแค่การฟื้นฟู
  
• ออฟฟิศซินโดรม โรคของคนทำงานที่อันตรายไม่ใช่เล่น!
  
• “กระดูกทับเส้น” เป็นแล้วผ่าตัดดีไหม หรือกายภาพบำบัดจะช่วยได้?