รีวิว (กรอกเลือด) ครอบแก้ว รักษาอาการปวดหลัง ที่ Faris Wellness Clinic

เราทำงานเป็นแอร์โฮสเตสมาได้ประมาณ 4 ปีค่ะ ตอนทำงานก็ต้องบินตลอดเลย ช่วงแรกๆ ก็ไม่เป็นไรนะคะยืนนานเท่าไหร่ก็ได้ แต่พอทำไปได้สักประมาณสัก 2 ปี ก็เริ่มมีอาการยืนนานไม่ได้ พอยืนนานๆ แล้วมันปวดหลัง ปวดขา ก่อนจะนอนก็ต้องบิดเอว บิดหลังก่อน ไม่งั้นหลังจะโก่งและปวดมาก

นอกจากอาการปวดเมื่อยที่เป็น เราก็พึ่งไปตรวจเจอไทรอยด์มาด้วยค่ะ ซึ่งก็รู้สึกว่าช่วงหลังๆ สุขภาพมันเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เลยอยากจะดูแลรักษาสุขภาพให้มากขึ้น

ด้วยความที่เรามีเพื่อนหลายคนที่มีอาการปวดเมื่อยเหมือนกัน ซึ่งเค้าไปรักษาด้วยการครอบแก้วมาและให้ผลลัพธ์ที่ดี เราเลยสนใจอยากลองครอบแก้วดูบ้าง เพราะจากที่ลองศึกษามาการครอบแก้วนอกจากจะรักษาอาการปวดเมื่อยได้แล้วยังรักษาโรคต่างๆ ได้ รวมถึงโรคไทรอยด์ด้วย

เราได้มาเจอกับแพ็กเกจ (กรอกเลือด) ครอบแก้ว รักษาออฟฟิศซินโดรม ที่ Faris Wellness Clinic บน HDmall.co.th ซึ่งเราลองอ่านดูแล้วถือว่าเป็นแพ็กเกจที่น่าสนใจและตอบโจทย์เรามากๆ เลยค่ะ แถมยังมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่ด้วย เราเลยตัดสินใจใช้บริการนี้เลยค่ะ

การครอบแก้วดียังไง?

จากที่เราไปศึกษาดูมานะคะ การครอบแก้วเป็นศาสตร์หนึ่งของการรักษาแบบแพทย์แผนจีน แต่การ (กรอกเลือด) เป็นศาสตร์อียิปต์โบราณมีอายุกว่า 4,000 ปี สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้หลากหลายเลย ไม่ว่าจะเป็นอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดหลัง อาการเกี่ยวกับมดลูก ล้างพิษ โรคทางเดินหายใจ รวมถึงโรคไทรอยด์ที่เราเป็นอยู่ก็สามารถช่วยรักษาได้ค่ะ

สำหรับประเภทของการครอบแก้วก็จะมีอยู่ 2 แบบค่ะ คือ ครอบแก้วแบบแห้ง จะเป็นการครอบแก้วธรรมดา ใช้กระบวนการสุญญากาศดูดผิวหนังดึงเลือดมาเลี้ยงจุดที่ดูด และครอบแก้วแบบเปียก จะเพิ่มขั้นตอนการกรีดหรือเจาะผิวหนังเป็นรอยเล็กๆ เข้ามาด้วย ทำให้มีเลือดไหลเมื่อครอบแก้ว เป็นการดึงเม็ดเลือดแดงที่แตกหรือเลือดเสียออก และจะทำให้เกิดกระบวนการคำสั่งของสมอง ให้ไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดแดงใหม่เกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายมีการพร่องปริมาตรของเลือด ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำการครอบแก้วแบบเปียกกันค่ะ

การเตรียมตัวก่อนครอบแก้ว

ก่อนครอบแก้วควรรับประทานอาหารมาก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมงและไม่ควรรับประทานอาหารอิ่มจนเกินไป หากมีโรคประจำตัวสามารถรับประทานยาได้ตามปกติ

ขั้นตอนการ ครอบแก้ว รักษาอาการปวดหลัง ที่ Faris Wellness Clinic

หลังจากทำนัดผ่าน HDmall.co.th เรียบร้อย จะมีอีเมลส่งเข้ามาเป็นคูปอง ระบุวันเวลานัดหมายชัดเจน พอถึงวันนัดก็แค่ยื่นคูปองนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ เสร็จแล้วก็นั่งรอรับบริการสักครู่

รอไม่นานก็จะมีพยาบาลพาเข้าไปที่ห้องตรวจและสอบถามอาการของเราค่ะว่าอาการเป็นไงบ้าง จากนั้นก็จะส่งสรุปอาการให้คุณหมอดูอีกทีนึง

คุณหมอจะเข้ามาตรวจวัดชีพจร (จับแมะ) ตรวจเช็กจับเส้น จับกระดูกบริเวณสันหลังดูว่าตรงไหนกดได้มากได้น้อย และสอบถามอาการเชิงลึกของเราเพื่อดูว่าต้องรักษาอะไรตรงไหนบ้าง ซึ่งโดยสรุปหลักๆ แล้วเรามีอาการปวดหลังและคอเป็นหลักค่ะ จากนั้นคุณหมอก็จะให้เราไปเปลี่ยนชุดและนอนรอที่เตียงเพื่อเตรียมตัวครอบแก้วได้เลยค่ะ

ขั้นตอนแรก คุณหมอจะครอบแก้วพร้อมกับดูดสุญญากาศที่บริเวณกระดูกสันหลังจนเกิดสีของเลือดขึ้นมาค่ะ และค่อยๆ เลื่อนลงมาเรื่อยๆ เพื่อดูว่าบริเวณไหนมีเลือดเป็นสีอะไรบ้าง ถ้าจุดนั้นมีเลือดเป็นสีคล้ำหรือม่วงแสดงว่ามีปัญหามาก แต่ถ้าเลือดเป็นสีแดงก็ปกติดีไม่มีอะไรค่ะ

ต่อมาคุณหมอจะวางแก้วพร้อมกับดูดสุญญากาศตามจุดต่างๆ ที่มีปัญหา พร้อมกับสอบถามอาการเราไปเรื่อยๆ ด้วยว่าเรามีปัญหาอะไรอีกบ้าง เช่น เป็นภูมิแพ้ไหม แพ้อะไร ถ้ามีคุณหมอก็จะนำแก้วไปวางบริเวณที่จะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดเพื่อแก้ปัญหาให้ค่ะ

นอกจากนั้นคุณหมอยังคอยอธิบายถึงตำแหน่งต่างๆ ที่ทำการครอบแก้วด้วยว่า ตำแหน่งนี้เกี่ยวข้องกับระบบอะไรบ้าง เช่น บริเวณท้ายทอยก็จะเกี่ยวข้องกับระบบหายใจ เป็นกลุ่มเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจอะไรทำนองนี้ค่ะ

ส่วนจุดไหนที่พอครอบแก้วลงไปปุ๊บแล้วมีเลือดสีคล้ำๆ ม่วงๆ ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แสดงว่าจุดนั้นเป็นจุดที่เลือดไปเลี้ยงไม่พอเป็นเลือดเสียนั่นเอง ส่วนเลือดที่ดีก็จะเป็นสีแดงสดค่ะ

ซึ่งของเราก็จะมีจุดนึงที่คล้ำขึ้นไวมากๆ คือบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวค่ะ คุณหมอบอกว่าจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้ปวดหลังและร้าวลงขา เนื่องจากเกิดการติดขัดทำให้เลือดไปเลี้ยงในส่วนนี้ไม่พอ กล้ามเนื้อเลยมีความเครียดทำให้อาการปวดแสดงออกมา

พอครอบครบทุกจุดแล้วคุณหมอก็จะทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นก็จะถอดแก้วออกเพื่อทำการปล่อยเลือดต่อค่ะ

การปล่อยเลือดเป็นการเอาเลือดเสียบริเวณที่ครอบแก้วออกเพื่อให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น โดยขั้นตอนการปล่อยเลือด คุณหมอจะใช้ใบมีดจิ้มบริเวณที่เป็นเลือดเสียออก จากนั้นก็จะครอบแก้วพร้อมกับดูดสุญญากาศกลับเข้าไปอีกรอบนึงค่ะ ขั้นตอนนี้จะรู้สึกเจ็บนิดนึงค่ะ แต่ไม่ได้ถึงกับทนไม่ได้

บริเวณไหนที่มีเลือดเสียอยู่มากคุณหมอจะคอยถอดแก้วออกมาเช็ดและครอบกลับเข้าไปใหม่เพื่อปล่อยเลือดเสียออกมาให้หมดค่ะ ส่วนบริเวณไหนที่เลือดเสียไม่เยอะมากครอบทิ้งไว้ประมาณ 2 นาทีก็ถอดออกและใช้แผ่นสำลีเช็ดทำความสะอาดพร้อมกับปิดผ้าพันแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อเลยค่ะ

หลังจากทำเสร็จแล้ว คุณหมอก็จะให้เราไปเปลี่ยนชุดแต่งตัวออกมาได้เลยพร้อมกับมีน้ำหวานให้ดื่มเพื่อทดแทนการเสียเลือดค่ะ

คุณหมอได้แนะนำการดูแลตัวเองหลังทำมาด้วยว่า ห้ามดื่มน้ำอัดลม กาแฟ คาเฟอีน 3 วันหลังจากทำ รวมถึงห้ามทานเนื้อสัตว์เป็นเวลา 3 วันด้วยเช่นกันค่ะ ให้ทานเป็นมังสวิรัติแทน

ส่วนที่ว่าควรจะมาทำซ้ำไหมเพื่อให้อาการดีขึ้น คุณหมอก็ไม่ได้เจาะจงนะคะว่าต้องมาทำทุกๆ อาทิตย์ไหม เพราะว่าอาการของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ บางคนทำแค่ครั้งสองครั้งก็ดีขึ้นแล้ว

ผลลัพธ์หลังจากใช้บริการ

หลังจากทำเสร็จช่วง 2 วันแรกก็จะเจ็บๆ บริเวณที่ครอบแก้วอยู่ค่ะ แต่พอผ่านไป 2 วันอาการก็จะดีขึ้น ส่วนรอยช้ำอันนี้ต้องรอสักประมาณ 7 วันค่ะถึงจะดีขึ้น

สำหรับอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดขาของเราก็ยังปกติไม่เห็นอะไรที่ชัดเจนนะคะ เพราะตอนนอนก็ยังต้องบิดเอวอยู่บ้าง อาจจะต้องรอดูต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนไทรอยด์ อันนี้ต้องไปตรวจสุขภาพเช็กดูอีกทีนึงว่าเป็นไงบ้าง

บรรยากาศของ Faris Wellness Clinic

บรยยากาศของ Faris Wellness Clinic ถือว่าโอเคเลยค่ะ คลินิกอยู่ติดถนนเห็นได้ชัดเจน มีที่จอดรถเพียงพอ ด้านในคลินิกก็สะอาดดีค่ะ มีใบอนุญาตโชว์ไว้เลยว่าคลินิกนี้ได้มาตรฐานทำให้เรามั่นใจที่จะใช้บริการ

ส่วนเจ้าหน้าที่ พยาบาล และคุณหมอของที่นี่ก็น่ารักมาก ให้บริการเป็นอย่างดี พยาบาลคอยอยู่เป็นเพื่อนดูแลเราตลอดการทำเลยทำให้เราไม่รู้สึกเขินหรือเกร็งค่ะ ส่วนคุณหมอก็ให้คำแนะนำ อธิบายอาการต่างๆ ได้ดีมาก โดยรวมแล้วเราประทับใจที่นี่มากๆ

สำหรับใครที่อยากครอบแก้วเพื่อรักษาอาการต่างๆ แบบเราอยู่ ก็แนะนำให้เข้าไปเลือกดูแพ็กเกจได้บน HDmall.co.th เลยค่ะ นอกจากครอบแก้วแล้วยังมีแพ็กเกจเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ พร้อมกับโปรโมชั่นดีๆ อยู่เพียบเลยค่ะ

---

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

• ครอบแก้ว รักษาโรค ความเจ็บป่วยอะไรได้บ้าง?
• ครอบแก้วเจ็บไหม? ช้ำกี่วันหาย?
• การครอบแก้ว ศาสตร์แพทย์จีนบำบัดโรคได้จริงหรือ?
  
• ทำความรู้จักแพทย์แผนจีน พร้อมวิธีรักษาการเจ็บป่วยแต่ละประเภท