รีวิว ตรวจสุขภาพตา เช็คการมองเห็น ที่ รพ.พญาไท 2

พนักงานออฟฟิศอย่างเราๆ นั่งอยู่หน้าคอมมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ยังไม่รวมกับตาที่เพ่งกับจอมือถืออีก รวมๆ แล้ววันนึงเราต้องจ้องจอต่างๆ มากกว่า 10 ชั่วโมง ทุกวันหลังเลิกงานเพื่อนๆ มักจะทักว่าทำไมตาแดงจัง ตาแดงมาก แดงแบบไม่มีอะไรกั้น ทุกคนรู้ เพื่อนรู้ เจ้านายรู้ ทุกวันผมจะตาแดงตลอด จนมีคนซื้อน้ำตาเทียมเอาไว้ให้ที่โต๊ะโดยเฉพาะ

หลายต่อหลายครั้งการทำงานกับจอคอมก็ทำให้ตาเราแห้ง และก็มีอาการแดงโดยไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง ก็ได้แต่บอกคนอื่นว่าแพ้แสงบ้าง เป็นภูมิแพ้บ้าง ซึ่งนั่นทำให้ทุกคนชินกับการที่เราเป็นมนุษย์ตาแดง พอขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านก็จะไม่ค่อยกล้าสบตาใคร กลัวเขาจะคิดว่าเราเป็นโรคตาแดงรึเปล่า เลยก้มหน้าตลอด กลายเป็นเสียบุคลิกไปเลย

จนกระทั่ง HDmall.co.th ร่วมกับ โรงพยาบาลพญาไท 2 เปิดรับสมัครเคสรีวิว ตรวจสุขภาพตา 6 รายการโดยละเอียด ก็เลยสมัครเข้ามาทันที และก็ได้ทำนัดผ่านทาง แอดมินที่ไลน์ @HDcoth ได้โดยตรง เพราะมีแอดมินคอยทำนัดและให้บริการตลอดตั้งแต่ 09.00 - 01.00 น. 

โปรแกรมตรวจสุขภาพตา 6 รายการประกอบไปด้วย

1. ขยายรูม่านตาดูจอประสาทตา (Pupil Dilatation) และ/หรือ ตรวจจอประสาทตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ถ่ายภาพ (Fundus camera)
2. วัดความดันลูกตาโดยไม่สัมผัสตา (Tonometer Without Contact)
3. ตรวจวัดตาทั่วไปแบบละเอียด (Slit Lamp)
4. ตรวจความหนาของจุดรับภาพและขั้วประสาทตา (Optical Coherence Tomography : OCT)
5. ตรวจสุขภาพตาแบบละเอียด โดยใช้เครื่องมือคอมพิวเตอร์ และตรวจโดยจักษุแพทย์
6. ตรวจสุขภาพตาทั่วไป ตรวจภาวะต้อหิน และตรวจภาวะต้อกระจก

บรรยากาศของ รพ.พญาไท 2

พอถึงวันนัดก็เดินทางไปยังโรงพยาบาลพญาไท 2 โดยรถไฟฟ้าลงสถานีสนามเป้า ทางออก 2 แล้วก็เดินต่ออีกนิดไปยังโรงพยาบาล

สิ่งแรกที่ประทับใจมากคือ โรงพยาบาลพญาไท 2 มีมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างจริงจังมาก เพราะโรงพยาบาลถือเป็นสถานที่เสี่ยงอันดับต้นๆ แม้ว่าช่วงนี้ประเทศไทยจะตรวจไม่เจอผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้ว แต่มาตรการป้องกันของที่นี่ก็ยังคงเข้มงวด และไว้วางใจได้

ขั้นตอนการตรวจสุขภาพตา ที่ รพ.พญาไท 2

จากข้อมูลที่ทาง HDmall.co.th ส่งมาให้ ศูนย์ตา ของโรงพยาบาลพญาไท 2 อยู่ที่อาคาร A ชั้น 2 ก็เลยขึ้นลิฟท์เพราะมองหาบันไดไม่เจอ 555+ (จริงๆ อยากเดินขึ้นบันได เพื่อประหยัดไฟมากกว่า)

พอไปถึง ไม่รู้จะไปที่ไหนก็ให้เดินไปยังจุดลงทะเบียนก่อนเลย เจ้านี่ที่ก็ถามว่าวันนี้มาทำอะไร ก็เลยแจ้งว่าตรวจสุขภาพตา ทำนัดผ่าน HDmall.co.th เอาไว้เรียบร้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ขอบัตรประชาชนไปตรวจเช็คข้อมูล ด้วยความที่เราทำนัดผ่าน HDmall.co.th มาแล้วก็เลยไม่ต้องรออะไรมาก เพราะไปตรงเวลา เจ้าหน้าที่ก็ให้บัตรคิวมาแล้วก็สายรัดข้อมือ เป็นข้อมูลส่วนตัวของแต่ละคน

จากนั้นอันดับแรกพี่พยาบาลจะพาไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดระดับออกซิเจน ความดัน และวัดไข้ รวมถึงคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และก็ไปนั่งรอตรงหน้าศูนย์ตา 

บรรยากาศโดยรวมของศูนย์ตาก็คือดี โล่งๆ โปร่งๆ คนมาใช้บริการไม่เยอะ อาจจะเป็นเพราะว่าเรามาวันธรรมดาด้วยก็เลยรอไม่นาน สักพักพี่พยาบาลก็เดินมาเรียกเข้าไปในห้องแรก และจะเริ่มการตรวจสุขภาพตา 6 รายการ โดยเราขอเรียงเป็นข้อๆ ในภาษาของเราดังนี้

1. ตรวจวัดความดันลูกตา

ในห้องแรกจะมีเจ้าเครื่องวัดความดันลูกตา กับเครื่องวัดสายตาอยู่ (โปรแกรมนี้ไม่ได้รวมตรวจวัดสายตาสั้นยาวนะคร้าบ) เราก็ไปนั่งตรงเครื่องวัดความดันลูกตา พี่พยาบาลก็บอกว่า อาจจะตกใจนิดหน่อยนะ เพราะจะมีลมพ่นเข้าไปที่ตา ก็ให้มองเข้าไปในเครื่องแล้วก็ ฟื้ด!!! ลมยิงเข้าตาทีนึง สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับเจ็บอะไร

2. ตรวจวัดการมองเห็น

จากนั้นพี่พยาบาลก็ให้มานั่งปิดตาแล้วอ่านตัวอักษรว่าสายตาเป็นยังไงบ้าง ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร แค่ตรวจเช็คการมองเห็นเฉยๆ จากนั้นพี่พยาบาลก็พาเดินไปที่อีกห้อง

3. ตรวจจอประสาทตา

ขั้นตอนนี้ก็จะสะดุ้งอีกเล็กน้อย พี่พยาบาลจะปิดไฟให้มืดทั้งห้อง แล้วก็ให้มองเข้าไปในเครื่อง (ไม่ได้ถ่ายรูปมาน้า เพราะมันมืด) ให้ลืมตาเอาไว้ จากนั้นก็จะมีแสงแรงๆ คล้ายๆ แฟลชยิงเข้ามา สว่างจนตกใจนิดหน่อย โดยเจ้าแสงตัวนี้จะเป็นไปขยายรูม่านตาของเรา เพื่อถ่ายภาพจอประสาทตาของเราด้านใน

4. ตรวจความหนาของจุดรับภาพและขั้วประสาทตา

ย้ายมาอีกห้อง ก็ปิดไฟเหมือนเดิมเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา พี่พยาบาลให้มองเข้าไปในเครื่องแล้วมองแสงสีฟ้าๆ จ้องเข้าไป เจ้าแสงตัวนี้จะสแกนเข้าไปในดวงตาของเรา จากนั้นพี่พยาบาลก็ให้กรอกตาไปด้านข้าง มองแสงที่อยู่ด้านข้างเพื่อตรวจวัดอะไรไม่รู้เรียกไม่ถูก 555+ พี่พยาบาลก็บอกนะแต่ว่าจำไม่ได้ เอาเป็นว่าเป็นการดูขั้วประสาทตาให้ละเอียดแล้วกัน

5. ตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์

ขั้นตอนนี้เราจะได้เจอกับคุณหมอแล้ว ซึ่งพอเข้าไปคุณหมอก็จะส่องตาเรา อันดับแรกหมอบอกเลยว่า ตาเราบอบบางมาก ทำงานใช้คอมเยอะใช่ไหม ต้องหยอดตาบ่อยๆ นะ คุณหมอก็ตรวจตาเราอีกครั้งในขั้นตอนนี้น่าจะรวมขั้นตอนที่ 6 ด้วยนั่นแหละ จากนั้นก็อ่านผลตรวจตาทั้งหมดให้เราฟัง เพราะถ้าให้อ่านเองก็คงไม่เข้าใจนั่นแหละ

ผลตรวจสุขภาพตา ที่ รพ.พญาไท 2

ผลลัพธ์ของการตรวจสุขภาพตาครั้งนี้ ดวงตาของเราเป็นปกติดีทุกอย่าง เส้นเลือดจอประสาทตาดีมาก ขั้วประสาทตาก็ดีมาก ติดอย่างเดียวคือ ตาของเราบอบบาง เพราะใช้คอมเยอะ จ้องคอมนาน คุณหมอก็แนะนำว่า ไม่ควรจ้องนานเกิน และหมั่นหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ น้ำตาเทียมก็เหมือนกับโลชั่น ยิ่งหยอดตาก็จะยิ่งสวย

อีกอย่างที่คุณหมอให้มาคือยาหยอดตา เป็นยาที่จะช่วยให้ตาเรากลับมาสวยอีกครั้ง ไม่เป็นปิศาจตาแดงทุกเย็น ถ้ายาตัวนี้หมดก็สามารถซื้อตามร้านขายยาทั่วไปได้เลย หยอดแค่เช้ากับเย็น หรือถ้าตาแดงมากก็หยอดได้สี่ครั้งต่อวัน

เจ้าตัวยาหยอดตาเป็นรายการที่อยู่นอกเหนือโปรแกรมนี้ ก็เลยต้องชำระเงินแยกนะครับ ซึ่งก็ไม่นานเลย แค่เอาบัตรคิวไปรับยาตรงการเงิน เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าตัวโปรแกรมเราชำระกับทาง HDmall.co.th มาแล้ว (จริงๆ เราก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย แต่เราลืม) ก็เลยได้ใบเสร็จสำหรับค่ายาหยอดตาไปยื่นตรงจุดรับยา ซึ่งพอรับยาก็กลับได้เลย

สรุปการตรวจสุขภาพตาในครั้งนี้ มันก็ทำให้เราเข้าใจดวงตาเรามากขึ้น ในใจลึกๆ แอบกลัวว่าจะเป็นต้ออะไรรึเปล่า และถ้าเป็นแล้วตรวจเจอเร็ว เราก็สามารถรักษาได้ทัน แต่ถ้าไม่เป็นไรก็ถือว่าดีแล้ว อีกอย่างคือ เราจะได้รู้ว่าเราควรดูแลดวงตาอย่างไร เพราะหากเราทำงานหนักโดยการจ้องคอมทุกวันโดยไม่ได้ดูแลอะไรมันเลย กลัวว่าวันนึงเราจะตื่นมาเจอกับโลกสีดำที่มืดสนิท

หากใครที่มองหาแพ็กเกจตรวจสุขภาพตาก็ขอแนะนำแพ็กเกจนี้ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 เลย รับรองว่าตรวจละเอียดมากๆ คุณหมอตอบคำถามเคลียร์ และทำให้เรารู้จักกับดวงตาของเราให้มากขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

• ตรวจตา ตรวจอะไรบ้าง รวมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนตรวจสุขภาพตา
• 5 ปัญหาดวงตา สาเหตุโรคร้ายที่คุณไม่คาดคิด

ติดตามรีวิวของผมเพิ่มเติมได้ที่

• รีวิวการพบจิตแพทย์ รักษาอาการนอนไม่หลับ ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2
• รีวิวรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม ที่ Newton EM Physiotherapy Clinic
• รีวิว คอร์สรักษาสิว 4 ขั้นตอน ที่ Grow & Glow Clinic
• รีวิว ตรวจเบาหวาน ก่อนวัย 30 เพื่อความสบายใจ ที่ มิตรไมตรีคลินิก
• รีวิว ตรวจภูมิแพ้ ที่ มิตรไมตรีคลินิก