รีวิว รักษาอาการปวดหลังร้าวลงขา ด้วยการผ่าตัดด้วยกล้อง Endoscope ที่ โรงพยาบาลนครธน

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่

• อาการปวดหลังร้าวลงขาก่อนผ่าตัด
• รีวิว รักษาอาการปวดหลังร้าวลงขา ที่ โรงพยาบาลนครธน
• การผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope)
• หลังผ่าตัด มีโอกาสกลับมาปวดหลังซ้ำหรือไม่?
• รีวิว ผ่าตัดส่องกล้อง ด้วยกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope)
• การดูแลตนเองหลังผ่าตัดส่องกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope)
• ความประทับใจจากการผ่าตัด ที่ ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน
• บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

ไลฟ์สไตล์การเดินทางไปทำงานของปุ้มจะข้ามสะพานลอยทุกวัน และต้องยืนทำงานต่อเนื่องเกือบ 8 ชั่วโมงด้วย แต่วันเหล่านั้นมันก็เริ่มยากขึ้น เมื่อจู่ๆ ก็มีอาการปวดหลังร้าวลงขาและอาการที่เกิดขึ้นก็กินเวลามาถึง 4 ปีเลย

จากการปรึกษาแพทย์และร่วมกันหาแนวทางในการรักษา จนในท้ายที่สุดก็มาลงเอยที่การผ่าตัดค่ะ แต่ปุ้มอยากจะบอกต่อกับทุกๆ คนว่าการผ่าตัดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย แม้แต่ตัวปุ้มเองก็แปลกใจว่าการผ่าตัดสมัยนี้มันง่ายขึ้นขนาดนี้แล้วเหรอ

ในรีวิวนี้ ปุ้มเลยมาบอกเล่าประสบการณ์ของตัวเอง ที่เคยเข้ารับการรักษาอาการปวดหลังร้าวลงขาผ่านการผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคป ที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธนค่ะ

อาการปวดหลังร้าวลงขาก่อนผ่าตัด

ก่อนที่ปุ้มจะเข้ารับการผ่าตัดที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน ปุ้มมีอาการปวดหลังและปวดสะโพกร้าวลงขาข้างขวามานานถึง 4 ปีเลยค่ะ ช่วงแรกๆ ก็ปวดไม่มาก ยังพอเดินข้ามสะพานลอยมาทำงานได้อยู่ แล้วก็รักษาด้วยวิธีกินยาเอา แต่มันก็ไม่หายขาด อาการก็ยังเป็นๆ หายๆ อยู่เหมือนเดิม

ปุ้มเลยเปลี่ยนวิธีรักษามาเป็นฉีดยากับทำกายภาพบำบัด มันก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่หายขาดค่ะ แถมอาการยังค่อยๆ เริ่มรุนแรงขึ้น จนกระทั่งขาขวาเริ่มมีอาการชา เลยเริ่มรู้สึกว่ามันน่าจะอันตรายแล้วล่ะ ไปตรวจกับคุณหมอแบบละเอียดๆ ที่โรงพยาบาลดีกว่า

ก่อนตัดสินใจมาโรงพยาบาลนครธน ปุ้มก็เสิร์ชดูข้อมูลศูนย์การแพทย์ที่ตรวจเกี่ยวกับอาการปวดหลังไว้หลายโรงพยาบาลเลยค่ะ จนมาสะดุดตรงข้อมูลการรักษาของศูนย์กระดูกสันหลัง ที่โรงพยาบาลนครธน

เพราะทุกการรักษาของผู้ป่วยที่นี่ คุณหมอของศูนย์กระดูกสันหลังจะมีการประชุมกันเพื่อรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับการรักษาที่ดีที่สุด หรือที่เรียกว่า Last Opinion เพื่อนำมาใช้ในการคุยกับผู้ป่วยต่อ

ปุ้มเลยรู้สึกมั่นใจว่า ที่นี่เขาน่าจะให้ทางเลือกในการรักษากับเราแบบดีที่สุดแน่นอน ไม่ใช่แค่รักษาแบบแพงมากๆ หรือต้องผ่าตัดใหญ่ๆ เสมอไป บางทีอาการของเรามันอาจจะมีวิธีรักษาอื่นที่น่าสนใจอีก แต่แค่ยังไม่รู้มาก่อนก็ได้ ปุ้มเลยตัดสินใจเลือกมาปรึกษากับคุณหมอที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธนอย่างไม่ลังเลเลยค่ะ

รีวิว รักษาอาการปวดหลังร้าวลงขา ที่ โรงพยาบาลนครธน

ขั้นตอนแรก เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาล คุณหมอจะตรวจดูอาการปวดหลังก่อน โดยเริ่มจากซักประวัติและอาการที่เป็น ปุ้มก็เล่าอาการที่เกิดขึ้นและระดับความร้ายแรงของมันตลอด 4 ปีที่ผ่านมาให้ฟังเลยค่ะ รวมถึงประสบการณ์รักษาด้วยวิธีการอื่นๆ ทั้งการกินยา ฉีดยา ทำกายภาพบำบัดแบบละเอียดเลยค่ะ

หลังจากพูดคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ คุณหมอได้วินิจฉัยอาการเบื้องต้นว่า น่าจะเกิดจากเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวถูกกดทับ แต่คุณหมอจะยังไม่ฟันธงอะไรทั้งนั้น และขอให้ปุ้มตรวจ MRI เพิ่มเติมให้คุณหมอก่อน หลังจากนั้นเราค่อยมาว่ากันต่อค่ะ

หลังจากทำ MRI เสร็จ ก็มาฟังผลตรวจกับคุณหมออีกครั้งนึง โดยผลตรวจ MRI ที่ออกมาพบว่า เส้นประสาทที่กระดูกสันหลัง L5 ด้านขวาของปุ้มถูกข้อต่อกระดูกสันหลังกดทับค่ะ ไม่ได้ถูกกดทับเบาๆ ด้วยนะคะ แต่ถูกกดทับจากทั้งบนและล่างเลย

จากภาพ MRI ที่ออกมา เส้นประสาทส่วนที่ถูกกดทับจะเล็กและมีสีดำคล้ำกว่าเส้นประสาทที่ปกติด้วยค่ะ

นอกจากนี้คุณหมอยังตรวจเจอรอยฉีกของหมอนรองกระดูก และมีหมอนรองกระดูกบางส่วนปลิ้นจากแนวข้อต่อออกมาด้วยค่ะ นี่คือสาเหตุว่าทำไมปุ้มถึงปวดหลังลามลงไปที่ขารุนแรงขนาดนี้ แถมยังเริ่มมีอาการชาเกิดขึ้นอีก

สิ่งที่เราต้องคุยกันในลำดับถัดมาก็คือวิธีรักษา ซึ่งคุณหมอได้เตรียมทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุดมาอธิบายให้ปุ้มฟังแล้ว นั่นก็คือ “การผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope)” ซึ่งเป็นกล้องที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 7.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ข้อดีของการผ่าตัดวิธีนี้ก็คือ แผลจะมีขนาดเล็กมาก แค่ 8 มิลลิเมตรเท่านั้นเอง

ภาพตัวอย่าง การผ่าตัดด้วยกล้อง Endoscope

คุณหมอได้อธิบายกระบวนการรักษาให้ฟังว่า ในเคสอาการแบบปุ้มและจากฟิล์ม MRI ที่ออกมา คุณหมอจะสอดกล้องเอ็นโดสโคปผ่านผิวหนังเข้าไปเพื่อตัดหมอนรองกระดูกส่วนที่ปลิ้นออก จากนั้นจะเจีย กระดูกข้อต่อที่ไปกดทับเส้นประสาทเพื่อให้โพรงประสาทกลับมาโล่งอีกครั้ง เพียงเท่านี้อาการปวดของปุ้มก็จะหายไปค่ะ

ภาพตัวอย่างจากกล้อง Endoscope

ฟังแล้วก็ดูโล่งใจค่ะ แต่ปุ้มยังสงสัยนิดหน่อยว่า แล้วมันไม่มีวิธีรักษาแบบอื่นเหรอ เพราะเอาจริงๆ ปุ้มก็แอบกลัวการรักษาแบบวิธีผ่าตัดค่ะ คุณหมอจึงอธิบายเพิ่มว่า เคสของปุ้มมีข้อบ่งชี้ที่สมควรจะใช้วิธีผ่าตัดได้แล้วค่ะ

เพราะที่ผ่านมาปุ้มได้ลองวิธีรักษาอื่นๆ มาหมดแล้ว และยังไม่หายสักที แถมยังมีอาการชาเกิดขึ้นร่วมกับอาการปวดหลัง ซึ่งอาการชาเป็นหนึ่งในอาการที่บ่งบอกถึงความรุนแรงของเส้นประสาทที่ถูกกดทับ

ถ้ายังฝืนรักษาอาการปวดหลังด้วยวิธีอื่นที่ไม่ได้แก้ต้นตอที่ทำให้เส้นประสาทเสียหาย นานวันไป อาการชาอาจจะรุนแรงขึ้นอีก และอาจจะมีอาการอื่นๆ ตามมาอีกได้ ปุ้มก็เลยตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ

การผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope)

เพื่อคลายความกังวล คุณหมอเลยแจ้งเพิ่มเติมว่าการผ่าตัดด้วยกล้องเอนโดสโคป นอกจากจะทำให้แผลผ่าตัดเล็กแล้ว การฟื้นตัวยังเร็วตามขนาดแผลที่เล็กลงกว่าด้วยค่ะ

จากที่เมื่อก่อนหลายคนก็คงรู้กันว่า หลังผ่าตัดกระดูกสันหลัง กว่าผู้ป่วยจะลุกขึ้นมาเดินเหินได้ตามปกติก็กินเวลานานมากๆ อาจจะหลายเดือนหรือหลายอาทิตย์เลย แต่การผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคป แค่เรานอนพักหลังผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมงก็ลุกขึ้นมาเข้าเดินเข้าห้องน้ำเองได้แล้วค่ะ แต่อาจจะมีเครื่องพยุงหลังติดไว้กับตัวด้วยเท่านั้น

การนอนอยู่โรงพยาบาลหลังผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคปก็ไม่นานอย่างที่คิด หลังผ่าตัดไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่เกิน 1 คืน ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร ไม่มีอาการปวดจนทนไม่ไหว คุณหมอก็ให้กลับบ้านได้แล้วค่ะ

หลังผ่าตัด มีโอกาสกลับมาปวดหลังซ้ำหรือไม่?

จากที่พูดคุยกัน คุณหมอก็แจ้งว่า ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ แต่แค่ 5-10% เท่านั้น ถ้าหากเราดูแลตนเองถูกวิธี โอกาสจะกลับมาปวดซ้ำก็น้อยลง

ส่วนการดูแลตนเองหลังผ่าตัดก็ไม่ยากเลยค่ะ แค่ต้องงดใช้งานกระดูกสันหลังเยอะๆ แค่นั้นเลย อย่าให้เขาทำงานหนักเกินไป โดยท่าที่จะทำให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักได้มากที่สุดก็คือ “ท่านั่ง” ค่ะ

เพราะฉะนั้นหลังผ่าตัดจะต้องเลี่ยงการนั่งนานๆ ต้องเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ถ้าต้องนั่งทำงาน ในทุกๆ 1 ชั่วโมง ควรลุกขึ้นมาเดินบ้าง นอกจากนี้ต้องเลี่ยงพฤติกรรมและการทำกิจกรรมบางรูปแบบด้วยค่ะ เช่น

• ไม่ยกของหนัก
• งดทำท่าก้มๆ เงยๆ และท่าบิดตัว
• งดทำกิจกรรมที่ต้องกระโดด ต้องกระแทกตัว หรือทำให้กระดูกสันหลังได้รับแรงกระแทรก เช่น การเล่นเจ็ทสกี ขับรถโกคาร์ท กิจกรรมพวกนี้ขอให้งดเลยค่ะ

และอีกสิ่งที่ปุ้มต้องทำ ซึ่งคุณหมอจะเชิญทีมนักกายภาพมาช่วยฝึกสอนให้ทีหลัง ก็คือ ต้องออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อบริเวณท้อง ข้างลำตัว แกนกลางลำตัว และบริเวณหลังค่ะ

เพราะกล้ามเนื้อเหล่านี้เป็นกล้ามเนื้อที่จะโอบล้อมและพยุงไม่ให้กระดูกสันหลังของเราบาดเจ็บจากการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งกล้ามเนื้อพวกนี้แข็งแรง โอกาสกระดูกสันหลังจะเกิดความเสียหายอีกก็จะน้อยลง

หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง ปุ้มก็ตัดสินใจรับการผ่าตัดตามคำแนะนำของคุณหมอค่ะ ไม่อย่างนั้นก็ต้องอยู่กับอาการปวดหลังไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดตอนไหน แล้วการผ่าตัดแบบนี้ก็ดูเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของอาการปวดหลังจริงๆ งั้นเราก็ลุยกันเลยค่ะ

รีวิว ผ่าตัดส่องกล้อง ด้วยกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope)

ในวันผ่าตัด มีทีมพยาบาลพาไปเปลี่ยนชุด และพาไปเตรียมตัวที่ห้องพักผู้ป่วยก่อน ตอนนั้นก็ตื่นเต้นมากค่ะ ถึงแม้คุณหมอจะบอกว่าการผ่าตัดนี้ปลอดภัยและแทบไม่เจ็บเลย แต่พอใกล้เวลาผ่าตัดจริงๆ ก็ยังรู้สึกใจหายอยู่ดีค่ะ

พอถึงเวลาที่เราต้องเข้าไปในห้องผ่าตัด เจ้าหน้าที่ประจำห้องผ่าตัดจะเข้ามาสอบถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อรีเช็กว่าเราเป็นผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดจริงๆ จากนั้นก็ตรวจวัดความดัน แล้วคุณหมอวิสัญญีแพทย์ก็จะให้ยาสลบกับปุ้ม จากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วค่ะ

ปุ้มใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ระหว่างนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอะไรเลยเพราะหลับจากยาสลบ พอตื่นมาก็ไม่เจ็บอะไรเลย ไม่มีความรู้สึกปวดระบมอะไรทั้งนั้น มันเหมือนเราไม่ได้ผ่าตัดมาก่อน แต่คุณพยาบาลในห้องพักก็แจ้งว่าเราผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หลังจากนอนพักฟื้นอยู่ไม่กี่ชั่วโมงก็ลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำได้เลย แต่จะมีการใส่เสื้อพยุงหลังไว้เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนของแผลค่ะ จากนั้นทีมพยาบาลกับนักกายภาพบำบัดก็เข้ามาแนะนำท่าในการทำกายภาพบำบัดเพื่อให้กล้ามเนื้อหลังผ่าตัดแถวกระดูกสันหลังฟื้นตัวเร็วๆ

การดูแลตนเองหลังผ่าตัดส่องกล้อง

คุณหมอได้แจ้งว่าใน 2 อาทิตย์แรกหลังผ่าตัด ให้เลี่ยงการนั่งนานๆ ถ้าต้องใช้เวลานั่งเกินชั่วโมง ให้จับเวลานั่งประมาณ 10-20 นาที แล้วลุกขึ้นมาเปลี่ยนอิริยาบถหน่อย และต้องงดยกของหนักมากกว่า 2 กิโลกรัมด้วย พวกกิจกรรมที่ต้องก้มตัวอย่างซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน การออกกำลังกายที่ทำปกติ ก็ให้งดไปก่อน แต่ให้เดินปกติได้ค่ะ

ส่วนการขับรถ คุณหมอของดไปก่อน 1 เดือนค่ะ และให้ใส่เสื้อพยุงหลังไว้ตลอด 1 เดือนด้วย

ความประทับใจจากการผ่าตัด ที่ ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน

ปุ้มประทับใจที่นี่ตั้งแต่แรกเข้าแล้วค่ะ ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์กระดูกสันหลังอย่างเดียว แต่ทั้งเจ้าหน้าที่เวรเปลด้านหน้า เคาน์เตอร์เวชระเบียนและทุกแผนกของโรงพยาบาล มีการให้บริการที่สุภาพมากๆ คอยประสานงานทำให้การผ่าตัดทุกขั้นตอนง่ายขึ้นหมดเลย

แถมเจ้าหน้าที่ยังมีการติดตามผลหลังการผ่าตัดกับปุ้มอยู่เรื่อยๆ คอยโทรมาถามอาการว่าเป็นยังไงบ้าง เจ็บแผลมั้ย เดินแล้วยังปวดหลังอยู่หรือเปล่า และจะคอยย้ำให้ปุ้มมาตามนัดคุณหมอเพื่อติดตามอาการด้วยค่ะ

นอกจากนี้ปุ้มยังรู้มาว่า ศูนย์กระดูกสันหลังของโรงพยาบาลนครธน ได้ร่วมมือกับ “บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก” ในการจัดตั้งศูนย์นี้เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ ตามแนวทางการรักษาของ รพ.บำรุงราษฎร์ ทำให้เรายิ่งประทับใจมากๆ เลยค่ะ

รู้สึกขอบคุณทางทีมคุณหมอ เจ้าหน้าที่ และพยาบาลของทางโรงพยาบาลนครธนจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่ได้ทุกๆ คน ปุ้มก็คงต้องทุกข์ทรมานอยู่กับอาการปวดหลังแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าใครที่ปวดหลังแล้วรักษาไม่หายปุ้มก็จะแนะนำให้ลองมาปรึกษาที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธนก่อนเลย เพราะยังไงก็คุ้มค่าและหายขาดแน่นอน

ส่วนใครที่กำลังมีอาการปวดหลังร้าวลงขา สามารถดูรายละเอียด และราคาผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง ผ่านกล้องเอ็นโดสโคป เพื่อรักษาอาการปวดหลัง ที่ โรงพยาบาลนครธน บน HDmall.co.th ในเว็บไซต์นี้มีแพ็กเกจโปรแกรมต่างๆ ที่อยู่ในราคาโปรโมชั่น และมีแอดมินคอยตอบคำถามในไลน์ @HDcoth ตลอดตั้งแต่ 09.00 น. ถึงตี 1 เลยค่ะ

---

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

• ผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วย O-arm Navigation ตอบครบทุกคำถามโดยแพทย์
• รักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ด้วยการผ่าตัดแบบ ACDF