รีวิว ทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี


รีวิว ทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • ทำไมถึงเลือกใช้บริการนี้: ได้ยินประโยชน์ของการทำ Detox มานาน เลยอยากจะลองดูสักครั้ง
  • ทำไมถึงเลือกสถานบริการนี้: เห็นว่าโรงพยาบาลยันฮีมีศูนย์บริการโดยเฉพาะ เลยมั่นใจเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย
  • ขั้นตอนการใช้บริการ: พบคุณหมอ จากนั้นก็เข้าใช้บริการได้เลย พยาบาลจะเสียบท่อเข้าที่ทวาร แล้วค่อยๆ ปล่อยน้ำเข้ามา ให้เราอั้นไว้สักพัก แล้วเบ่งออกแรงๆ ของเสียจะถูกขับออกมาตามแรงเบ่ง ใช้เวลาทำทั้งหมดประมาณ 30-40 นาที จากนั้นก็วัดความดันและกลับบ้านได้
  • ผลลัพธ์ของการใช้บริการ: หลังทำรู้สึกโล่งท้อง เหมือนลอยๆ ตัวเบาๆ สบายตัวมาก

รู้จักการทำดีท็อกซ์ (Detox) มานานมากกกกกก แต่ก็ไม่เคยลองทำสักที จนกระทั่งวันนี้ตัดสินใจซื้อแพ็กเกจทำ Detox ที่โรงพยาบาลยันฮี ตื่นเต้นมากกก

อธิบายคร่าวๆ ก่อนว่า การทำ Detox คือ การสวนล้างลำไส้ด้วยการใส่สายยางปล่อยน้ำเข้าไปทางทวาร ให้น้ำนั้นชำระล้างอุจจาระ พิษ และของเสียต่างๆ ที่สะสมไว้ให้ออกจากลำไส้ให้หมด 

ใครอยากรู้รายละเอียดการทำ Detox ต้องอ่าน!!!! หรืออยากได้ข้อมูลวิชาการ เลื่อนลงไปล่างสุด มีแปะบทความที่เกี่ยวข้องอยู่จ้า

พอพูดถึงการใส่สายยางทางทวาร หลายคนอาจตกใจกลัว ขอบอกเลยว่า กลัวเหมือนกัน 555+ แต่ๆๆๆๆ กลัวเพราะไม่รู้ไงว่ามันเป็นยังไง จนได้ไปลองทำจริงๆ เลยอยากจะรีวิวให้คนอื่นฟังว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด!  

ขออนุญาตข้ามขั้นตอนการซื้อแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th ไปนะ ใครสงสัยยังไง ลองแอดไลน์ไปถามที่ @HDcoth จะได้ส่วนลดมากกว่าวอล์คอินที่โรงพยาบาลเอง

รีวิวทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

บรรยากาศของ รพ.ยันฮี

พอมาถึงโรงพยาบาลยันฮี (แนะนำให้มาก่อนเวลานัดสัก 1 ชม.) ก็แจ้งกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ว่ามา Detox พนักงานก็จะให้กรอกประวัติทำบัตรผู้ป่วย (สำหรับคนที่มาครั้งแรก) จากนั้นก็จะพาขึ้นไปที่ชั้น 7

บรรยากาศของ รพ.ยันฮี

ชั้น 7 โรงพยาบาลยันฮี ก็จะมีศูนย์การแพทย์ทางเลือกต่างๆ ศูนย์ดีท็อกซ์ ศูนย์คีเลชั่น ศูนย์ไฮเปอร์แบริค (อ่านรีวิวเข้าอุโมงค์ไฮเบอร์แบริค คลิก)

บรรยากาศของ รพ.ยันฮี

นั่งรอสักพักพยาบาลจะเรียกไปซักประวัติ ชั่งน้ำหนัก ส่วนสูง วัดความดัน และรอพบคุณหมอ ซึ่งก็ไม่นาน คุณหมอจะอธิบายรายละเอียดการทำ Detox คร่าวๆ ว่าการทำ Detox จะเป็นการชำระอุจจาระที่ตกค้าง ขับถ่ายออกมาไม่หมด มันก็เลยสะสมพวกของเสียเกาะตามลำไส้ กลายเป็นตะกรันสะสม 

การทำ Detox จะช่วยทำความสะอาดลำไส้ไปในตัว คุณหมอก็จะชี้จุดว่าน้ำจะเข้าไปถึงช่วงไหนของลำไส้ (ดูจากภาพข้างล่าง แต่ลืมว่าหมอชี้ตรงไหน) ซึ่งถ้าใครที่ระบบการขับถ่ายไม่ดี ถ้าทำ Detox ไปการขับถ่ายก็จะดีขึ้น

ภาพอธิบายเกี่ยวกับลำไส้

บอกก่อนว่าสำหรับการทำ Detox ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้น้า เขาถึงต้องให้พบกับคุณหมอก่อน ซึ่งใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบลำไส้ใหญ่ หรือคนที่เคยได้รับการผ่าตัดลำไส้ ไม่สามารถทำได้ เพราะหากใส่น้ำเข้าไปอาจทำให้เกิดอันตราย คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงรุนแรง ซึ่งก่อนทำก็จะมีวัดความดันอยู่แล้ว หากความดันสูงเกินไป ก็จะไม่สามารถทำได้

เด็กและผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ก็ไม่ควรทำ แต่ๆๆๆๆ ถ้าผู้หญิงที่มีประจำเดือนทำได้ เพราะว่าการทำ Detox ช่วงที่มีประจำเดือนจะช่วยลดอาการปวดจากการบีบตัวของมดลูก ช่วยลดความกดดันในท้อง และช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดในท้องดีขึ้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะเห็นผลชัดหลังจากทำไป 3 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้เราทำเป็นครั้งแรก คุณหมอก็จะสอบถามประวัติการขับถ่ายนานหน่อย แล้วก็อธิบายว่าจะใช้ตัวสายยางเล็กๆ เสียบก้นเข้าไปประมาณ 1 นิ้ว การปล่อยน้ำจะไม่ใช่การอัดแรงดัน ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเป็นอันตราย น้ำจะถูกปล่อยให้ไหลเข้ามาในทวารแบบเบาๆ แล้วให้เราเบ่งขับถ่ายตามปกติได้เลย

อุปกรณ์ทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

อันนี้แหละมั้งที่หลายคนกลัว (เราก็กลัว) คือเจ้าสายยางนี้ หรือที่เรียกว่า "หัวสวน Detox" เป็นหัวสวนที่ปลอดภัย ผ่านการอบฆ่าเชื้อด้วย UV-Light หัวสวนระบบ Ball Valve ป้องกันน้ำไหลย้อนกลับ (ไม่ต้องกลัวว่าอุจจาระจะไหลกลับไปปนกับน้ำสะอาด) 

บริเวณที่จะเสียบเข้าไปเป็นท่ออ่อนยาว 3 นิ้ว มีความยืดหยุ่น (ใส่เข้าไปจริงๆ 1 นิ้ว) ผลิตมาเพื่อการล้างลำไส้ และทำ Detox โดยเฉพาะ  

บรรยากาศห้องทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

หลังจากคุยกับคุณหมอเสร็จ ก็ออกมานั่งรอคิว พอพยาบาลเรียกชื่อก็ถึงเวลาเข้าห้องทำ Detox จ้าาา บรรยากาศในห้องเหมือนห้องพักเดี่ยวคนไข้ทั่วไปตามโรงพยาบาล มีโซฟาสำหรับญาติ มีม่านกั้นระหว่างเตียงทำ Detox กับญาติ มีโต๊ะวางของส่วนตัวข้างเตียง มีตู้เก็บของ ทีวี และห้องน้ำในตัว 

เครื่องทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

พยาบาลจะให้เราเปลี่ยนชุด เป็นเสื้อคลุม แล้วให้ถอดกางเกงกับกางเกงในออก แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนเตียง เอาก้นกับขาวางที่มุมตามภาพ แล้วพยาบาลก็จะเอาผ้ามาคลุมท่อนล่างเราเอาไว้ และอธิบายรายละเอียดขั้นตอนอีกรอบ

จากนั้นก็จะเอาแว็กซ์จ้วงทาที่สายยาง แล้วเสียบเข้ามาในก้นประมาณ 1 นิ้ว หลายคนอาจจะเขินพยาบาล แต่ไม่ต้องกลัว เพราะพยาบาลไม่ได้เปิดผ้ามองก้นเราแน่นอน แต่อาศัยความชำนาญในการเสียบเข้ามาอย่างรวดเร็ว ขั้นตอนนี้อาจจะรู้สึกไม่สบายตัวเพราะเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เสียบเข้ามาในร่างกาย

น้ำยาสวนทวาร

ทิ้งไว้สักพักพอประมาณพยาบาลก็อธิบายเรื่องการปล่อยน้ำ ซึ่งในครั้งแรกจะเป็นน้ำอุ่นผสมกับน้ำยาสวนทวาร ช่วยในการระบาย (ครั้งต่อๆ ไปจะเป็นน้ำยาตัวอื่น) ซึ่งเจ้าตู้ตรงหน้าจะมีมาตรวัดเอาไว้ให้เราทำภารกิจ โดยน้ำทั้งหมดจะมี 25 ลิตร เราจะต้องทำจนน้ำถึง 0 ลิตรให้ได้

จากนั้นพยาบาลก็จะเปิดวาล์วน้ำอยู่ที่ระดับ 2 ลองปล่อยน้ำเข้ามาแล้วให้เราลองเบ่งขับถ่าย ซึ่งตอนปล่อยน้ำเข้ามาเราไม่รู้สึกอะไร อาจจะเพราะน้ำไหลช้ามาก พยาบาลก็ให้เราลองเบ่ง แต่นึกออกมั้ยว่ามันเหมือนการขับถ่ายต่อหน้าคนอื่น มันเลยไม่ออก พยาบาลก็เหมือนจะรู้เลยแจ้งว่า ถ้าเขินพยาบาลจะออกไปรอข้างนอก 5 นาทีแล้วกลับเข้ามาดูการเบ่งใหม่

วาล์วน้ำ ปรับได้ 4 ระดับ

พอพยาบาลออกไป เราก็ลองเบ่งแรงๆ 🌊 ซึ่งปกติการขับถ่ายในชีวิตประจำวันคือการนั่งบนชักโครก แต่พอต้องมานอนบนเตียงประมาณ 45 องศา แล้วเบ่งขับถ่าย สมองมันสั่งการว่า “ยังไงก็เลอะ ยังไงก็เปื้อน” เราก็เลยดึงเสื้อขึ้น ให้ผ้าคลุมแค่ท่อนล่างอย่างเดียวแล้ว ระหว่างนี้รู้สึกได้เลยว่ามีน้ำ 🌊 ในลำไส้เยอะแล้ว เพราะมันหน่วงๆ จุกๆ อึดอัด ก็เลยลองเบ่ง

เบ่งอีกครั้งก็ยังไม่ออก กลัวว่าเจ้าสายยางจะหลุด กลัวว่าจะขับถ่ายออกมาหมด ก็เลยนึกเสียว่า ช่างมัน ไม่หลุดหรอก ยังไงก็ต้องถ่าย เลอะก็ไม่เป็นไรมีห้องน้ำ แล้วก็ลองเบ่งอีกรอบก็มีของเสียไหลออกมาตามคาด ขอเรียกของเสียเหล่านั้นว่า “น้องอุนจิ 💩💩💩” 

ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

"น้องอุนจิ 💩" ไหลลงท่อที่เรามองไม่เห็น แต่ตรงตู้น้ำมีกระจกให้ส่องดูการเดินทางของน้อง เราก็เลยเห็นหน้าตาน้อง💩ว่ามันบูดเบี้ยวแค่ไหน น้องน่าจะกำลังอารมณ์เสีย น้องไหลไปตามท่อใสๆ 🌊 แล้ววนกลับมาด้านข้าง เราก็ยิ้มโล่งอก เพราะพอได้เบ่งแล้วก็รู้สึกโล่ง ไม่ต้องกลัวเห็นภาพน้องนะ เราแค่ถ่ายภาพสมมติเฉยๆ ตอนถ่ายนี่ยังไม่ได้ทำ Detox จ้า

ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี
ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

พอน้องจากไปแล้วรู้จะสึกโล่งแปปนึง แต่ไม่ทัน 5 วินาที ก็รู้สึกหน่วงๆ อึดอัดอีกแล้ว และก็เบ่งอีกรอบ 🌊 น้องอุนจิ 💩 เซ็ตใหม่ก็ลืมตาออกมาดูโลกภายนอก และน้องก็ว่ายน้ำ🌊จากไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรพยาบาลก็เข้ามาอีกรอบ แล้วอธิบายว่า อยากให้อั้นเอาไว้ประมาณ 10 วินาที เพื่อให้น้ำไหลเข้าไปในลำไส้เยอะๆ แล้วก็ให้เบ่งแรงๆ 🌊 น้องจะได้ออกมาหมด 

ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

จากนั้นพยาบาลก็ปล่อยให้เราอยู่คนเดียว หากมีปัญหาตรงไหน หรือไม่ไหวให้ปิดคันโยกและกดปุ่มเรียกพยาบาลได้ตลอดเวลา ระหว่างนี้เราก็ศึกษาคำแนะนำตรงตู้อย่างละเอียด ใครที่สนใจอ่านแต่มองในภาพไม่เห็นไม่ต้องเพ่งตาหรือขยายภาพดูนะ เราพิมพ์ข้อมูลเอาไว้ท้ายบทความนี้จ้า

ความรู้สึกส่วนตัวระหว่างทำ มันค่อนข้างอึดอัด เพราะน้ำจะปล่อยมาเรื่อยๆ สลับกับหยุดพักให้เราเบ่งขับถ่าย ซึ่งในช่วงแรกๆ น้องอุนจิก็ออกมาเยอะพอสมควร แต่ผ่านไปสักพักน้องก็ไม่มาแล้ว มีแต่น้องน้ำ ที่เข้าไปและออกมาตามแรงเบ่ง

พอน้ำเหลือ 10 ลิตรตามเส้น พยาบาลก็ให้เรากดเรียก และเค้าก็เข้ามาปิดน้ำ ถามอาการว่ารู้สึกยังไงบ้าง ขับถ่ายดีไหม และก็ขออนุญาตนวดท้อง เหมือนกระตุ้นให้น้ำที่อยู่ค้างในลำไส้ได้เซาะเอาตะกรันออกจากผนังลำไส้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลังจากพยาบาลออกไป เราลองเบ่งดู ก็มีน้องอุนจิ💩ออกมาเพิ่มเติมนิดหน่อย

ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

ในช่วง 10 ลิตรสุดท้าย บอกเลยว่าเกร็งนิดหน่อย มีการจิกขา บิดตัวบ้างเล็กน้อย ยิ่งพอใกล้เสร็จยิ่งลุ้น อยากให้เสร็จไวๆ เพราะมันรู้สึกอึดอัด ไม่เจ็บ แต่ไม่ค่อยสบายตัว รู้สึกขาสั่นนิดหน่อย อาจจะเพราะเราเบ่งแรงเกินไป ไม่ค่อยชินกับอะไรแบบนี้ พอน้ำหมดเรารีบกดเรียกพยาบาลอย่างไว

พยาบาลเข้ามาก็ถอดสายท่อที่เสียบก้นเราออกไป และแจ้งว่าให้เข้าไปขับถ่ายอีกครั้งในห้องน้ำ จากนั้นให้ออกไปวัดความดัน ซึ่งพอพยาบาลออกไปเราก็เบ่งแรงๆ อีกครั้งก่อนลุกจากเตียง พอหันไปมองก็ไม่มีคราบอะไรหลงเหลืออยู่ น้องอุนจิได้จากเราไปหมดไส้แล้ว แต่พอเข้าไปในห้องน้ำ แล้วลองเบ่งขับถ่ายตามท่าทางปกติ กลับมีน้ำที่ตกค้างในลำไส้เยอะพอสมควร เบ่งถ่ายสักครู่ก็ชำระล้างทำความสะอาด และออกมาเก็บของเพื่อไปวัดความดันด้านนอก

ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์ (Detox) สวนล้างลำไส้ ที่ รพ.ยันฮี

หลังจากวัดความดันเสร็จ พยาบาลก็จะแจ้งวันนัดสำหรับครั้งถัดไป ซึ่งระยะเวลาที่ดีในการทำ Detox ควรห่างกันประมาณ 2 สัปดาห์ เราสามารถทำนัดที่นี่ได้เลย จากนั้นพยาบาลจะพาไปที่จุดชำระค่าบริการ ซึ่งแพ็กเกจตัวที่เราซื้อผ่าน HDmall.co.th เป็นค่าทำ Dotox ส่วนต่างค่าบริการ ค่าบัตรคนไข้ จะต้องมาชำระที่นี่ จากนั้นก็กลับบ้านได้

ผลลัพธ์หลังจากใช้บริการ

หลังทำทันทีรู้สึกได้เลยว่าตัวมันลอยๆ โล่งๆ เหมือนตัวเราเบาขึ้น ของเสียถูกขับออก รู้สึกสบายท้องโล่งท้องมากๆ แฮปปี้ แม้ว่าตอนทำจะอึดอัดนิดหน่อย แต่พอทำเสร็จแล้วมันโอเคเลย สบายท้องมากๆ

สรุปการทำดีท็อกซ์ (Detox) ครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที รู้สึกแฮปปี้ และก็ได้ซื้อคอร์สทำอีก 5 ครั้ง เพราะอยากจะดูความเปลี่ยนแปลงว่าหากทำเกิน 3 ครั้งตามที่คุณหมอบอก มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรกับร่างกายเราบ้าง

อธิบายเกี่ยวกับการล้างลำไส้

คำแนะนำระหว่างล้างลำไส้

  1. การล้างลำไส้เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด โดยใช้น้ำสะอาดและไม่มีแรงดันของน้ำ
  2. เมื่อแพทย์หรือพยาบาลเปิดน้ำ ท่านจะรู้สึกถึงน้ำอุ่นไหลเข้าช่องท้องอย่างช้าๆ
  3. เวลาที่ท่านรู้สึกปวดถ่าย ท่านสามารถถ่ายได้ทันทีตามความต้องการ โดยไม่ต้องอั้นไว้
  4. หากท่านต้องการความเป็นส่วนตัว ท่านสามารถแจ้งพยาบาลให้รออยู่นอกห้อง และกดออดเรียกเมื่อต้องการพยาบาลได้
  5. ท่านสามารถมองเห็นของเสีย พิษ และตะกรันต่างๆ โดยมองทางกระจกข้างหน้าท่าน
  6. หากท่านมีอาการอึดอัด แน่นท้อง ปวดท้อง ท่านสามารถปิดวาล์วน้ำที่อยู่ข้างตัวท่านได้ทันที และพักสักครู่อาการเหล่านั้นจะหายไป
  7. เมื่อเสร็จจากการสวนล้างลำไส้แล้ว ท่านสามารถยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ท่อสวนหลุดออกจากทวารหนักเอง และให้ท่านนอนเพื่อขับถ่ายน้ำ และของเสียต่อไปจนหมด จึงทำความสะอาดด้วยกระดาษชำระที่จัดไว้ให้
  8. หลังจากทำความสะอาดแล้ว ท่านสามารถลุกเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดเพิ่มเติม พร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้า
  9. ก่อนล้างลำไส้ ไม่ต้องเตรียมตัวใดๆ ทั้งสิ้น ท่านสามารถล้างลำไส้ได้ทุกเวลา เช่นเดียวกับการขับถ่ายปกติของร่างกาย
  10. ระหว่างการล้างลำไส้ จะไม่ก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลีย หรือสูญเสียแร่ธาตุต่างๆ ในร่างกาย เนื่องจากแพทย์ได้ใช้น้ำเกลือแร่ในการสวนล้างลำไส้
  11. หลังจากการล้างลำไส้ ให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ซุป ผัก และผลไม้มากขึ้น และท่านสามารถกลับบ้านหรือทำงานได้ตามปกติทันที
  12. หลังการล้างลำไส้ ท่านจะมีอาการปกติ รู้สึกโล่งและสบายขึ้น ไม่รู้สึกแน่นท้อง ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น อาจมีอาการปวดปัสสาวะหรือปวดถ่ายอีก 1-2 ครั้งในวันเดียวกัน และอาจมีแก๊สบ้างในบางเวลา
  13. การล้างลำไส้เป็นการขจัดของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน อันเป็นเหตุให้เกิดมีพิษในร่างกาย และโรคต่างๆ ที่ท่านประสบอยู่ จึงขอให้ท่านหมั่นทำการล้างลำไส้ตามที่แพทย์นัด เพื่อป้องกันและรักษาโรคที่ท่านเป็นอยู่

“ร่างกายของท่านได้สะสมอุจจาระ พิษ และตะกรันของเสียต่างๆ ไว้ในลำไส้เป็นเวลาหลายปี จึงต้องล้างลำไส้หลายครั้ง เพื่อนำเอาของเสียเหล่านี้ออกจากลำไส้ให้หมดไป อายุจะได้ยืนยาว”

สำหรับใครที่จะมาทำ Detox ที่โรงพยาบาลยันฮี ก็มาได้ไม่ยาก เพราะเดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าลงที่สถานีบางอ้อ เดินนิดเดียวถึงเลย หรือหากใครอยากเปรียบเทียบราคาทำ Detox สวนล้างลำไส้ ของโรงพยาบาลอื่นๆ บน HDmall.co.th ก็คลิก ดูที่นี่ หรือถามแอดมินที่ไลน์ @HDcoth ได้จ้า


บทความที่เกี่ยวข้องกับ Detox

@‌hdcoth line chat