รีวิว ตรวจสุขภาพหัวใจ ด้วยการวิ่งสายพาน ที่ รพ.เปาโล พหลโยธิน

ผมมีอาการจุกหน้าอกหลังจากวิ่งมาราธอนครั้งก่อน แล้วมันรู้สึกว่าก้ำกึ่งระหว่างหัวใจกับกระเพาะ ก็เลยเข้ารับการตรวจหัวใจในโปรแกรมต่างๆ ไม่ว่าจะตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (ECHO) หรือตรวจอัลตราซาวด์ 

จากผลตรวจเฉพาะทางด้านหัวใจ คุณหมอก็วินิจฉัยแล้วว่าไม่เกี่ยวกับหัวใจ แต่ยังขาดผลตรวจของการวิ่งสายพานอยู่ และก็มาเจอกับโปรโมชั่นของ HDmall.co.th ก็เลยสนใจ

ผมเซิร์จหาข้อมูลการตรวจหัวใจแบบวิ่งสายพาน จนมาเจอกับ HDmall.co.th และก็เลือกเข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน เพราะผมมีประวัติสุขภาพที่นี่

การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพหัวใจ EST

หลังจากพูดคุยกับแอดมินของ HDmall.co.th ก็ได้รับการแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนเข้าตรวจดังนี้

1. ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
2. ควรรับประทานอาหารก่อนตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง
3. งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน งดสูบบุหรี่เป็นเวลา 4 ชั่วโมงก่อนทำการตรวจ
4. งดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากก่อนการตรวจ เช่น การออกกำลังกาย
5. หากผู้ป่วยรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการเต้นของหัวใจควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ

ก่อนเข้าตรวจผมก็เลยกินขนมปัง และโอวัลตินมาก่อน พอถึงโรงพยาบาล ก็แจ้งกับเคาน์เตอร์บริการว่ามาตรวจหัวใจ EST (Exercise Stress Test) เจ้าหน้าที่ก็แจ้งให้ไปยังแผนกตรวจสุขภาพ จากนั้นก็มีพยาบาลมาดูแลทุกขั้นตอนเลย โดยเริ่มจากพาไปวัดความดัน สอบถามอาการเบื้องต้น เช็คว่าได้กินอะไรมาบ้างรึยัง

การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย EST จะต่างจากการตรวจสุขภาพแบบอื่น เพราะจะต้องไม่ปล่อยให้ท้องว่าง เนื่องจากการตรวจจะต้องใช้กำลังค่อนข้างเยอะ จึงจำเป็นต้องกินอะไรเพื่อให้มีแรงก่อนตรวจ

การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย EST จะคล้ายกับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ แต่แตกต่างตรงที่เป็นการบันทึกกิจกรรมของหัวใจขณะที่ต้องทำงานหนักอยู่ เช่น ขณะที่กำลังเดินหรือวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง เพื่อดูว่าหัวใจตอบสนองต่อการออกแรงยังไงบ้าง

พอมาถึงศูนย์หัวใจ พยาบาลจะพาไปเปลี่ยนเป็นชุดที่เหมาะกับการตรวจ จริงๆ ผมเตรียมชุดลำลองมาแล้ว แต่ที่นี่จะให้เปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมผู้ป่วย เพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหว และติดอุปกรณ์สำหรับวัดชีพจรจำนวน 10 จุด และตัววัดความดันที่แขนซึ่งจะวัดความดันทุกนาทีเลย

หลังจากเตรียมตัวพร้อม คุณหมอก็เข้ามาอธิบายรายละเอียดการตรวจ EST เบื้องต้น ว่าการวิ่งจะปรับความเร็วทุกๆ 3 นาที โดยเริ่มจากการเดินเบาๆ ก่อน จากนั้นความเร็วจะเพิ่มขึ้นพร้อมกับความชันของสายพาน

ในห้องตรวจจะมีจอโทรทัศน์อยู่ด้านหน้า และเปิดหนังให้เราดูเพลินๆ ซึ่งในช่วง 2 สเต็ปแรกผมยังไม่ค่อยเหนื่อย แต่พอเข้าสู่ช่วงที่ 3 ของการปรับความเร็ว ประมาณนาทีที่ 6 ก็ต้องหันมาโฟกัสกับการวิ่ง เพราะสายพานจะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ

การตรวจ EST นี้ แต่ละคนอาจจะใช้เวลาวิ่งไม่เท่ากัน ขึ้นกับว่าหัวใจของเราเต้นไปได้เร็วแค่ไหน ระหว่างนี้คุณหมอและพยาบาลจะคอยประกบอยู่ด้านหลังอย่างใกล้ชิด และคอยดูคลื่นต่างๆ บนหน้าจอ

คุณหมออธิบายว่า การตรวจ EST จะตั้ง Heart Rate การวิ่งไว้ที่ 220 BPM ลบอายุของผู้ตรวจ ในเคสของผมที่อายุ 35 คุณหมอก็ปรับให้เป็น 185 BPM อธิบายเพิ่มเติมว่า Heart Rate คือ อัตราหัวใจเต้น ส่วน BPM คือ Beats per minute หรืออธิบายง่ายๆ ว่าอัตราการเต้นของหัวใจต่อ 1 นาที

บางคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย หรือไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ หัวใจอาจจะไปถึง 185 BPM ในนาทีที่ 6 แล้วก็ได้ แต่ของผมไปถึงตอนนาทีที่ 12 พอดี

จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงคูลดาวน์ เดินเพลินๆ ดูหนังประมาณ 2-3 นาที จากนั้นคุณหมอก็จะอธิบายผลโดยอ่านค่าจากจอมอนิเตอร์ว่าหัวใจของผมมีลักษณะการเต้นยังไง ซึ่งเคสของผมก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร หัวใจแข็งแรงดี อาการแน่นหน้าอกที่มีตอนแรก อาจเกิดจากกระเพาะอาหาร

ผลตรวจ EST ของผมก็เป็นอีกหนึ่งผลตรวจสุขภาพ ที่สามารถนำไปใช้อ้างอิงในหลายๆ อย่าง เพราะผมวิ่งมาราธอนเป็นประจำ ก็อาจจะมีบางรายการที่ต้องใช้ผลตรวจแนบไปด้วย 

สำหรับความประทับใจที่โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ผมเข้าใจว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่เน้นในด้านการตรวจสุขภาพมากๆ พอเข้ามาก็มีเจ้าหน้าที่คอยบริการทุกจุด และดูแลเป็นอย่างดี ให้คำแนะนำได้เข้าใจง่ายทุกคน

นอกจากนี้ประเด็นที่ผมประทับใจ HDmall.co.th คือเรื่องของการตอบไลน์ ที่สามารถโต้ตอบได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าผมจะสอบถามข้อมูลในตอนกลางคืนวันหยุด แต่แอดมินก็สามารถตอบได้รวดเร็ว และคอยแจ้งรายละเอียดอย่างครบถ้วน มีการคอนเฟิร์มทั้งทางอีเมลและโทรเตือนนัดก่อนใช้บริการด้วย

บทความที่แนะนำโดย HDmall.co.th

• ตรวจหัวใจ ราคาเท่าไหร่ ใช้ประสันสังคมได้ไหม ตรวจอะไรบ้าง?
• ตรวจหัวใจคืออะไร มีแบบไหนบ้าง?