sulfonamide

Sulfonamide (ซัลโฟนาไมด์)

ซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamide) หรือ “ยาซัลฟา” เป็นกลุ่มยาที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย และยาเหล่านี้ยังอาจใช้รักษาอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTIs) โรคหลอดลมอักเสบ โรคตาติดเชื้อ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรีย โรคปอดบวม หูอักเสบ แผลไหม้อย่างรุนแรง ท้องเสียจากการท่องเที่ยว (traveler’s diarrhea) หรือโรคอื่นๆด้วย บางครั้งก็ใช้เพื่อควบคุมอาการชักและการเจ็บป่วยอื่นๆที่เกี่ยวข้อง แต่ยานี้จะไม่สามารถรักษาอาการติดเชื้อไวรัสได้ เช่น หวัด หรือไข้

กลุ่มยา Sulfonamide จะออกฤทธิ์ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในร่างกาย ยาเหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบที่หลากหลายและอาจใช้เป็นยากิน ยาเฉพาะที่ ยาสำหรับใช้ที่ช่องคลอด ยาสำหรับรักษาตา เป็นต้น  การค้นพบกลุ่มยา sulfonamide เป็นการปูทางให้มีการใช้ยาปฏิชีวนะเหล่านี้อย่างกว้างขวาง โดยยาซัลฟาชนิดแรกที่ชื่อ Prontosil ได้รับการทดลองใช้ในช่วงปี 1930

กลุ่มยาซัลฟาทั่วไป

ยาซัลโฟนาไมด์ (sulfonamide) ที่แพทย์ใช้ในการรักษาโดยทั่วไป ได้แก่

  • Gantrisin (sulfisoxazole)
  • Bactrim หรือ Septra (trimethoprim และ sulfamethoxazole)
  • Sulfadiazine
  • Azulfidine (sulfasalazine)
  • Zonegran (zonisamide)

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาซัลฟา

การแพ้ยา Sulfonamide

การแพ้ยาซัลฟาถือเป็นเรื่องปกติ อย่าลืมแจ้งให้แพทย์ทราบถ้าคุณแพ้สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือสัตว์ และหากคุณมีอาการแพ้ที่รุนแรง หรือเกิดภาวะฉุกเฉินเนื่องจากปฏิกิริยาภูมิแพ้อย่างเฉียบพลัน (Anaphylaxis) ไม่ว่าจะเป็นผื่น ลมพิษ หายใจติดขัด แน่นหน้าอก หรือมีอาการบวมที่หน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยด่วน

คำเตือนในการใช้ยา Sulfonamide

  • ก่อนจะใช้ยา sulfonamide แพทย์จะต้องทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัวทั้งหมดของคุณโดยเฉพาะโรคไต โรคตับ โรคเลือด  เพราะ Sulfonamide อาจมีผลต่อระบบเลือด โดยเฉพาะถ้าคุณรับประทานยาประเภทนี้เป็นเวลานาน
  • ยา sulfonamide ยังส่งผลให้มีอาการแพ้ที่ผิวหนังอย่างรุนแรง หรือแม้แต่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ด้วย ดังนั้นคุณต้องแจ้งให้แพทย์ทราบหากพบว่า มีผื่นขึ้น หรือผิวหนังเปลี่ยนไปอย่างผิดปกติ  แพทย์จะทำการติดตามผลการตอบสนองของร่างกายคุณต่อยาเหล่านี้บ่อยขึ้น และคุณจำเป็นต้องเข้าพบแพทย์และเข้าตรวจตามที่แพทย์นัดอย่างเคร่งครัด
  • ไม่ควรใช้ยาเหล่านี้กับทารกที่มีอายุน้อยกว่า 2 เดือน
  • ผู้สูงอายุอาจไวต่ออาการข้างเคียงจากการใช้ยา sulfonamide  ดังนั้นผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จึงควรปรึกษากับแพทย์ก่อนใช้ยานี้
  • ก่อนจะใช้ยากลุ่ม sulfonamide แพทย์จำเป็นต้องรู้ว่า คุณรับประทานยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาที่แพทย์จ่ายให้ ทั้งที่ซื้อใช้เอง ยาเสพติด ยาเสพติดเพื่อการผ่อนคลาย ยาสมุนไพร สารอาหารเสริม หรืออาหารเสริมที่คุณใช้
  • ก่อนจะเข้ารับการรักษาอื่นๆ เช่น การตรวจฟันหรือทำฟัน ต้องแจ้งด้วยว่า คุณกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องใช้ยา sulfonamide
  • ยาชนิดนี้อาจทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการออกไปเจอแสงแดดโดยไม่จำเป็น หรือใช้ครีมกันแดดและสวมเสื้อผ้าที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดขณะออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งด้วย
  • ยากลุ่ม Sulfonamide อาจทำให้มีอาการวิงเวียน คุณจึงไม่ควรขับรถ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิมากๆ จนกว่าคุณจะแน่ใจว่า ยานี้ส่งผลต่อคุณในด้านนี้อย่างไร  (หรือจนกว่าคุณจะจัดการกับอาการนี้ได้นั่นเอง)
  • หลังจากใช้ยากลุ่ม sulfonamide แล้วพบว่า อาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย

ประเภทกลุ่มยาซัลฟา

ยากลุ่มซัลฟา สามารถแบ่งตามลักษณะโครงสร้างทางเคมีได้เป็น 2 ประเภท/กลุ่ม คือ

1. กลุ่มยาเอริลามีนซัลโฟนาไมด์ (Arylamine Sulfonamide)

  • ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มซัลโฟนาไมด์ เช่น ยาซัลฟามีโธซาโซล (Sulfamethoxazole) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยาโค-ไตรม็อกซาโซล (Co-trimoxazole) ยาซัลฟาไดอะซีน (Sulfadiazine) ยาซัลฟาซีทาไมด์ (Sulfacetamide)
  • ยาซัลฟาซาลาซีน (Sulfasalazine) ที่ใช้ในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์  โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง(Ulcerative colitis) และโรคโครห์น (Crohn’s Disease)
  • ยาที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV infection) เช่น  ยาแอมพรีนาเวียร์ (Amprenavir)  ยาโฟแซมพรานาเวียร์ (Fosampranavir)

2. กลุ่มยาที่มิใช่ยาเอริลามีนซัลโฟนาไมด์ (Non-arylamine Sulfonamide)

  • กลุ่มยาที่ยับยั้งเอนไซม์คาร์บอนิกแอนไฮเดรส (Carbonic Anhydrase Inhibitors) เช่น ยาอะเซทาโซลาไมด์ (Acetazolamide) และยาดอร์โซลาไมด์ (Dorzolamide) ที่ใช้รักษาโรคต้อหิน
  • กลุ่มยาซัลโฟนิลยูเรีย (Sulfonylureas) เช่น  ยากลิคลาไซด์ (Gliclazide) ยากลิมิพีไรด์ (Glimepiride), ยาไกลเบนคลาไมด์ (Glibenclamide) ยากลิเพอริไซด์ (Gliperizide)
  • ยาในกลุ่มยาขับปัสสาวะ (Loop Diuretics/ Thiazide Diuretics) เช่น ยาฟรูเซไมด์ (Frusemide)  ยาบูเมทาไนด์ (Bumetanide)  ยาไฮโดรคลอโรไธอะไซด์ (Hydrochlorithiazide)  ยาอินดาพาไมด์ (Indapamide) ยามีโทลาโซน (Metolazone)  ยาคลอร์ไธลิโดน (Chlorthalidone)  ยาไดอะโซไซด์ (Diazoxide)
  • ยาต้านการอักเสบ/ยาแก้อักเสบ (Anti-inflammatory) เช่น  ยาเซเลค็อกซิบ (Celecoxib)  ยาวาลเดค็อกซิบ (Valdecoxib)
  • ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น  ยาแดปโซน (Dapsone) • ยารักษาโรคไมเกรน เช่น ยาซูมาทริปแทน (Sumatriptan)  ยานาราทริปแทน (Naratriptan)
  • ยาต้านชัก/ยากันชัก เช่น  ยาโทพิราเมต (Topiramate) ยาโซนิซาไมด์ (Zonisamide)
  • ยารักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น  ยาโซทาลอล (Sotalol)
  • ยารักษาโรคเกาต์ เช่น ยาโพรเบเนซิด (Probenecid)

ยา Sulfonamide กับการรักษาสิว

ยา Co-trimoxazole ซึ่งเป็นยาในกลุ่มซัลฟา เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบ มักใช้ในผู้ที่เป็นสิวอักเสบรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมากเท่านั้น

ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ เนื่องจากจะทำให้เกิดเชื้อดื้อยา นอกจากนี้ยังมียาทางเลือกอื่นๆ อีก เช่น ยากลุ่ม tetracyclines  macrolides

ข้อควรระวังในการตั้งครรภ์

  • การทดลองกับสัตว์แสดงให้เห็นว่า ยากลุ่มนี้อาจส่งผลให้เด็กที่เกิดมีความพิการมาแต่กำเนิด (birth defects) ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์ หรืออาจจะตั้งครรภ์ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับประทานยาประเภทนี้
  • ยาเหล่านี้สามารถเข้าไปผสมกับน้ำนมได้ ดังนั้นห้ามให้นมลูกถ้ากำลังใช้ยาประเภท sulfonamide อยู่

Scroll to Top