ทำรีเทนเนอร์แบบใส

ทำรีเทนเนอร์แบบใส

ผู้ที่ผ่านการจัดฟันมาแล้วคงคุ้นเคยกับ “รีเทนเนอร์” เป็นอย่างดี เพราะทันตแพทย์มักแนะนำให้สวมรีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อคงสภาพฟันให้เรียงตัวสวย ไม่ล้ม หรือเกิดปัญหาฟันเกตามมา โดยรีเทนเนอร์ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นคือ “รีเทนเนอร์แบบใส”

มีคำถามเกี่ยวกับ รีเทนเนอร์แบบใส? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

รีเทนเนอร์คืออะไร ทำไมต้องใส่รีเทนเนอร์?

รีเทนเนอร์ (Retainer) คือ เครื่องมือคงสภาพฟันที่จำเป็นต้องใส่หลังจากการจัดฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันที่ผ่านการจัดฟันมาแล้วเคลื่อนตัวไปจากตำแหน่งเดิม

ผู้ที่ผ่านการจัดฟันมาแล้วจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หากไม่ปฏิบัติตาม อาจจะทำให้เกิดปัญหาฟันล้ม ฟันเก หรือฟันห่าง จนบางคนอาจต้องจัดฟันใหม่อีกครั้ง

รีเทนเนอร์มีกี่รูปแบบ?

รีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมี 3 รูปแบบหลักๆ คือ

  1. รีเทนเนอร์แบบลวด
  2. รีเทนเนอร์แบบใส
  3. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น

ทั้งนี้รีเทนเนอร์ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นคือ รีเทนเนอร์แบบใส

รีเทนเนอร์แบบใสคืออะไร?

รีเทนเนอร์แบบใส ทำจากพลาสติก ความหนาประมาณ 0.8 มิลลิเมตร มีลักษณะเป็นแผง สีใส ใช้ครอบฟันทั้งหมดไว้เพื่อรักษาตำแหน่งของฟันให้คงที่หลังการจัดฟัน โดยขั้นตอนการทำรีเทนเนอร์แบบใสนั้นทันตแพทย์จะใช้วิธีพิมพ์ฟันแล้วส่งห้องแล็บเพื่อทำการขึ้นรูปให้มีขนาดพอดีกับฟันของแต่ละบุคคล

ข้อดีของรีเทนเนอร์แบบใส

รีเทนเนอร์แบบใส นับเป็นอุปกรณ์ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีข้อดีดังนี้

  • มีสีใส หากไม่สังเกต ก็แทบไม่ทราบว่ากำลังสวมใส่รีเทนเนอร์อยู่ เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการให้รู้ว่า กำลังสวมใส่รีเทนเนอร์
  • สวมใส่สบาย ไม่ขัดขวางการพูด หรือการกลืนน้ำลาย
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องโลหะที่จะเสียดสีหรือเกี่ยวจนทำให้เกิดแผลในช่องปาก

ข้อเสียของรีเทนเนอร์แบบใส

รีเทนเนอร์แบบใส แม้จะเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในผู้ที่ไม่ต้องการให้ทราบว่า กำลังสวมใส่รีเทนเนอร์ แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องพิจารณาหลายประการ ดังนี้

  • วัสดุทำจากพลาสติก อาจคงทนน้อยกว่ารีเทนเนอร์แบบลวด ทำให้เกิดปัญหาแตกหักได้ง่ายกว่า
  • มักประสบปัญหามีน้ำลายขังในรีเทนเนอร์ อาจทำให้รู้สึกรำคาญ
  • หากสวมใส่แล้วไม่พอดีกับโครงร่างฟัน หรือหากไม่ใส่นานๆ จนฟันมีการเคลื่อนที่ จะไม่สามารถปรับแก้ขนาดได้ ต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่เท่านั้น
  • ดูแลรักษาและทำความสะอาดยากกว่ารีเทนเนอร์แบบลวด
  • อายุการใช้งานสั้นกว่าแบบลวด โดยใช้งานได้ประมาณ 1-2 ปีหรือบางรายเพียง 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และเมื่อใช้ไปนานๆ รีเทนเนอร์จะหลวม ต้องทำใหม่
  • อาจเกิดการเปลี่ยนสีได้จากอาหาร หรือเครื่องดื่มที่รับประทาน

รีเทนเนอร์แบบลวด Vs รีเทนเนอร์แบบใส

รีเทนเนอร์แบบลวดและรีเทนเนอร์แบบใสนั้น นับเป็นรีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับผู้สวมใส่ว่า ต้องการคุณสมบัติอย่างไร

  • รีเทนเนอร์แบบลวด เหมาะกับผู้ที่ต้องการความทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน ไม่ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ
  • รีเทนเนอร์แบบใส เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสวยงาม ความมั่นใจ เวลาสวมใส่ พูดหรือยิ้ม จะไม่เห็นว่ามีอุปกรณ์อยู่ในช่องปาก

วิธีใส่รีเทนเนอร์แบบใสที่ถูกต้อง

การสวมใส่รีเทนเนอร์แบบใสนั้นทำได้ง่ายมาก เนื่องจากรีเทนเนอร์แบบใสถูกออกแบบมาให้พอดีกับช่องปากและโครงสร้างฟันของแต่ละคนอยู่แล้ว

เพียงแค่ใส่เข้าไปในช่องปาก ใช้นิ้วดัน กด ให้กระชับจากฟันหน้าเข้าไปถึงฟันกราม ครอบฟันทั้งบนและร่าง รีเทนเนอร์จะแนบสนิทกับฟันพอดี ไม่เคลื่อนที่ ไม่ควรใช้วิธีวางรีเทนเนอร์บนฟันแล้วใช้ฟันกัดให้สนิท เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์แตกหักได้

ข้อควรระวังคือ ไม่ควรเอาลิ้นดันรีเทนเนอร์ด้านล่างพลิกไปมา และไม่ควรดูดรีเทนเนอร์อันบนให้หล่นลงมา เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์เสียหาย หลวม ไม่แน่นกระชับ หรือทำให้ฟันเคลื่อนที่กลับไปไม่สวยได้ หากสามารถใช้ลิ้นดันหลุด หรือดูดรีเทนเนอร์หลุดได้ ควรทำรีเทนเนอร์ชิ้นใหม่

วิธีดูแลรักษารีเทนเนอร์แบบใสที่ถูกต้อง

การใส่รีเทนเนอร์แบบใสทั้งวันย่อมมีคราบสกปรก หรือเชื้อแบคทีเรียเกิดขึ้นได้ หากทำความสะอาดไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดปัญหาช่องปาก เช่น มีคราบหินปูน มีกลิ่นปาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ

มีคำถามเกี่ยวกับ รีเทนเนอร์แบบใส? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

ดังนั้นควรต้องทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยวิธีที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ มีรายละเอียดดังนี้

  • หลังถอดรีเทนเนอร์แล้ว ไม่ควรวางรีเทนเนอร์ทิ้งไว้จนแห้ง เพราะจะทำให้คราบสกปรกฝังแน่นจนทำความสะอาดยาก จึงควรล้างคราบสกปรกออกทันทีที่ถอดออก
  • ควรทำความสะอาดรีเทนเนอรทุกครั้งที่ถอด หรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม จุ่มในน้ำอุ่นห้ามใช้ยาสีฟันเพราะยาสีฟันทุกชนิดจะมีผงขัดเล็กๆ ซึ่งทำให้รีเทนเนอร์สึกหรอได้ แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างจาน หรือสบู่อ่อน แปรงให้ทั่ว หากมีร่องที่ทำความสะอาดได้ยากอาจใช้สำลีพันไม้เช็ดเบาๆ โดยสามารถใช้เม็ดฟู่สำหรับทำความสะอาดรีเทนเนอร์ แช่รีเทนเนอร์แบบใสเป็นครั้งคราวเพื่อช่วยกำจัดคราบสกปรกได้ดียิ่งขึ้น
  • ห้ามแช่รีเทนเนอร์ใสในน้ำร้อน เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์ผิดรูป เสียทรงได้
  • หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดรีเทนเนอร์ด้วยน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม หรือน้ำยาบ้วนปาก เพราะน้ำยาเหล่านี้มีความเข้มข้นสูง และอาจมีแอลกอฮอล์ทำให้รีเทนเนอร์เสียหาย
  • หากต้องการเก็บรีเทนเนอร์ ควรใส่กล่อง ไม่ควรใช้กระดาษทิชชู่ห่อ หรือใส่กระเป๋าโดยไม่มีภาชนะปิด เพราะอาจถูกของอื่นๆ ในกระเป๋าเบียด หรือทับจนเสียรูปทรง รวมทั้งเผลอทิ้งลงขยะได้

รีเทนเนอร์แตก หัก เหลือง ทำอย่างไร?

ผู้ใส่รีเทนเนอร์หลายคนอาจประสบปัญหา รีเทนเนอร์แตก หัก เหลือง ซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบว่า ควรทำอย่างไร

ในกรณีที่รีเทนเนอร์แตก หัก ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อทำรีเทนเนอร์อันใหม่โดยเร็ว เนื่องจากการใส่รีเทนเนอร์ที่ชำรุด อาจส่งผลกระทบต่อช่องปากได้ เช่น พลาสติกเกี่ยวในช่องปากเป็นแผล หรือหากใส่ไม่พอดีอาจทำให้เกิดปัญหาฟันล้ม ฟันเกตามมา

กรณีรีเทนเนอร์เปลี่ยนเป็นสีเหลืองยังคงสามารถใช้งานต่อได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก แต่อาจทำให้ขาดความมั่นใจได้ แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์ในการเปลี่ยนรีเทนเนอร์อันใหม่

ควรใส่รีเทนเนอร์วันละกี่ชั่วโมง?

การใส่รีเทนเนอร์แบบใส โดยส่วนใหญ่ทันตแพทย์มักแนะนำให้ใส่ตลอดเวลา ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนติดต่อกันประมาณ 1-2 ปี โดยถอดออกเฉพาะขณะรับประทานอาหาร ทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อถอด และแปรงทำความสะอาดเช้า-เย็น

โดยปกติหลังการจัดฟัน ฟันคนเรามีแนวโน้มเคลื่อนกลับไปสู่ตำแหน่งเดิมก่อนการจัดฟัน จึงจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันไว้ จนกว่าเอ็นยึดปริทันต์และกระดูกเบ้าฟันจะเข้าที่ ให้ถอดออกเฉพาะตอนรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มร้อนเท่านั้นเพื่อป้องกันรีเทนเนอร์เสียหาย

หลังจาก 1-2 ปี หรือเมื่อโครงสร้างฟันเข้าที่แล้ว ทันตแพทย์อาจให้ใส่รีเทนเนอร์เฉพาะเวลานอนได้ ควรใส่อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของทันตแพทย์เจ้าของเคส เพราะในคนไข้แต่ละรายมีการเคลื่อนฟันไม่เหมือนกัน

ข้อควรระวังในการเลือกทำรีเทนเนอร์

ปัจจุบันมีผู้ผลิตทำรีเทนเนอร์แฟชั่นมาจำหน่ายมากมาย ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งนับเป็นสิ่งอันตราย เนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำรีเทนเนอร์แฟชั่นไม่ได้มาตรฐานและอาจปนเปื้อนเชื้อโรค

อีกทั้งขั้นตอนการทำรีเทนเนอร์ยังต้องมีการพิมพ์ฟัน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องมือปลอดเชื้อ แต่การทำรีเทนเนอร์แฟชั่นมีกระบวนการฆ่าเชื้อที่ไม่ได้มาตรฐาน คนไข้จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงมาก

นอกจากนี้ การสวมใส่รีเทนเนอร์แฟชั่นที่ไม่พอดีกับช่องปากและฟัน ทำให้เกิดแรงกดที่ฟันจนทำให้เกิดปัญหาฟันเคลื่อนที่ เหงือกอักเสบ รากฟันได้รับการกระทบกระเทือน ฟันโยก ฟันผุ และอาจเกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน

ดังนั้นการใส่รีเทนเนอร์ ควรใส่ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ โดยเลือกทำกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ค่าใช้จ่ายในการทำรีเทนเนอร์แบบใส

ค่าใช้จ่ายในการทำรีเทนเนอร์แบบใส 1 คู่ (ฟันบนและฟันล่าง) เริ่มตั้งแต่ 2,500-4,500 บาท ขึ้นอยู่กับค่าบริการของแต่ละโรงพยาบาล หรือคลินิกทันตกรรม

รีเทนเนอร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญสำหรับผู้ที่ผ่านการจัดฟันมาแล้ว การสวมใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ ตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อช่วยให้ฟันเรียงตัวสวย ไม่เกิดปัญหาฟันล้ม หรือฟันเกตามมา


ตรวจสอบความถูกต้องโดย ทพญ. สิริพัชร ชำนาญเวช

มีคำถามเกี่ยวกับ รีเทนเนอร์แบบใส? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ