เส้นผม เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจและเสริมภาพลักษณ์ของเราทุกคนให้ดูสวย-หล่อมีความสมบูรณ์ ดังนั้นไม่ว่าใครก็ต้องอยากมีเส้นผม และปริมาณผมบนศีรษะที่หนา เพื่อช่วยเสริมบุคลิกภาพให้กับตนเอง แต่ในขณะเดียวกันหลายคนก็ต้องเผชิญกับโรคผมร่วง (โดยปกติคนเรามีผมร่วงได้ 50-100 เส้นต่อวัน) ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต แต่ส่งผลถึงปริมาณเส้นผมบนศีรษะของแต่ละคนที่จะน้อยลงไปจนอาจกลายเป็นศีรษะล้านในที่สุด เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ต้องพบเจอกับโรคซึ่งบั่นทอนความมั่นใจในเส้นผมของตนเอง มาดูกันว่า เราสามารถป้องกันการเกิดโรคผมร่วงได้อย่างไรบ้าง
สารบัญ
ความหมายของโรคผมร่วง
โรคผมร่วง (Alopecia หรือ Hair Loss) หมายถึง โรคที่เส้นผมของผู้ป่วยเริ่มหลุดร่วงก่อนวัยอันควรจนเห็นหนังศีรษะ และทำให้ปริมาณผมบางน้อยลง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- พันธุกรรม
- การแปรปรวนของฮอร์โมน
- ความเครียด
- การรักษาพยาบาล เช่น การฉายรังสี การรับประทานยาบางชนิด
- การได้รับอุบัติเหตุ หรือเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อหนังศีรษะ เช่น โรคฝีหนอง โรคซิฟิลิส โรคไต โรคตับ มีแผลผ่าตัดใหญ่
- การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม
- การบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่มากเกินไป
- การทำผมโดยใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผม หรือสารเคมีมากเกินไป
วิธีป้องกันโรคผมร่วง
คุณสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคผมร่วงได้
1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
สารอาหารหลายประเภทมีส่วนสำคัญในการบำรุงเส้นผมและรากผมให้แข็งแรง ซึ่งโดยหลักๆ คือ โปรตีน เพราะเส้นผมของคนเราสร้างมาจากสารโปรตีนชื่อว่า “เคราติน (Keratin)”
ดังนั้นการรับประทานโปรตีนเพื่อเสริมให้สารเคราตินเพียงพอต่อร่างกาย จึงช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นได้ คุณสามารถรับประทานอาหารที่มีโปรตีนได้จากอาหารประเภทนม ถั่ว ไข่ และเนื้อสัตว์
นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ก็สามารถช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นได้
การรับประทานไขมันปลา (Fatty Fish) อย่างไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) ในปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีนก็มีส่วนช่วยให้เส้นผมแข็งแรง เป็นสารอนุมูลอิสระอีกชนิดที่ช่วยลดปัญหาผมร่วงได้
นอกจากอาหารทะเลอย่างปลาแล้ว หอยนางรม (Oyster) ก็เป็นอาหารทะเลอีกชนิดซึ่งอุดมไปด้วยธาตุสังกะสี (Zinc) มีประโยชน์ต่อการบำรุงซ่อมแซมเส้นผมที่เสียให้กลับมาแข็งแรง ไม่หลุดร่วงได้ง่าย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น
2. รับประทานวิตามินที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง
วิตามินหลายชนิดมีส่วนช่วยบำรุงเส้นผมและรากผมให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้เส้นผมเส้นใหม่งอกขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ทำให้หนังศีรษะบางอีกด้วย โดยเฉพาะวิตามินเอซึ่งเป็นวิตามินของสารเรตินอยด์ (Retinoid) สามารถช่วยกระตุ้นการเติบโตของผมเส้นใหม่
วิตามินเอยังช่วยลดปัญหาความมันของเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมดูสุขภาพดีขึ้นด้วย โดยวิตามินเอมักแฝงอยู่ในอาหารประเภทมันฝรั่ง ผักโขม หรือพริกหวาน
นอกจากวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอีซึ่งขึ้นชื่อว่า เป็นวิตามินบำรุงดูแลผิวพรรณ ก็เป็นวิตามินอีกชนิดที่ช่วยป้องกันโรคผมร่วงได้เพราะถือเป็นวิตามินสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ช่วยป้องกันผมจากสิ่งสกปรก หรือมลภาวะที่มาทำลายเส้นผม รวมถึงสารอนุมูลอิสระในร่างกายที่ทำให้ผมอ่อนแอลง
ร่างกายของคนเรายังใช้วิตามินซีในการผลิตคอลลาเจน เพื่อทำให้ผมมีน้ำหนัก ดูสวยเงางาม และแข็งแรงไม่ขาด หรือหลุดร่วงง่ายด้วย
อีกวิตามินสำคัญที่ช่วยบำรุงเส้นผมก็คือ สารไบโอติน (Biotin) หรือวิตามินเอช ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยให้วงจรการเติบโตของเส้นผมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสการเกิดปัญหาผมร่วง
ปัจจุบันมีบริการตรวจระดับวิตามินและสารแอนติออกซิแดนท์ในร่างกาย เพื่อให้รู้ว่า ร่างกายยังขาดวิตามินและสารแอนตีออกซแดนท์อะไรบ้าง หรือมีชนิดไหนสะสมมากเกินไป
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การขาดสารน้ำในร่างกายจะทำให้ผมแตกแห้ง และง่ายต่อการขาด หรือหลุดร่วง คุณจึงจำเป็นต้องดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 4-8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ร่างกายมีสารน้ำเพียงพอ และคงความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม
4. ลดความเครียด
ความเครียดมีส่วนทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดหลั่งออกมามากกว่าเดิม ซึ่งฮอร์โมนนี้นอกจากจะทำให้อารมณ์ไม่มั่นคงแล้ว ยังมีส่วนทำให้ผมร่วงได้ง่ายด้วย
หากรู้สึกเครียดและไม่สามารถจัดกับภาวะนี้ได้ ควรหาคนใกล้ชิดที่ไว้ใจได้เพื่อระบายความรู้สึกที่เกิดขึ้น หรือหากไม่สบายใจจะพูดกับใคร ก็สามารถปรึกษาเกี่ยวกับภาวะเครียดกับจิตแพทย์ได้
5. หมั่นสระผม
แต่ต้องอยู่ในความถี่ที่เหมาะสม โดยควรอยู่ที่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 2-3 ครั้งสำหรับผู้ที่ผมมันง่าย หลายคนอาจคิดว่า การสระผมนานๆ ครั้ง หรือทิ้งไว้เป็นสัปดาห์จะไม่ทำให้ผมหลุดร่วง แต่ก็ลืมว่า การหมักหมมของน้ำมันบนหนังศีรษะ ฝุ่นละออง สิ่งสกปรกที่เผชิญระหว่างวัน ก็เป็นตัวการที่ทำให้ผมร่วงได้
คุณอาจสระผมบ่อยขึ้นแต่ใช้แชมพูสระผมอ่อนๆ หรือในปริมาณที่เล็กน้อยได้ เพื่อคงความสะอาดของหนังศีรษะเอาไว้
นอกจากนี้การสระผม การลองหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าว (Coconut oil) ยังช่วยมีส่วนช่วยป้องกันผมจากแสงยูวี และสารเคมีจากอุปกรณ์ตกแต่งทรงผมด้วย
การนวด หรือหมักน้ำมันมะพร้าวบนหนังศีรษะ ยังช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงบนหนังศีรษะได้ดีและกระตุ้นให้ผมเส้นใหม่งอกเร็วขึ้น
6. ไม่ย้อมสีผมบ่อยๆ
ผู้ที่ย้อมสีผม หรือกัดสีผมบ่อยๆ มีโอกาสสูงที่เส้นผมจะอ่อนแอจนขาด และร่วงง่ายขึ้น ทางที่ดีหากชอบย้อมผม ควรเว้นระยะเวลาในการย้อมให้ผมได้พักจากการรับสารเคมีบ้าง
นอกจากการย้อมสีผมแล้วยังรวมไปถึงการไดร์ผม ดัดผม ซึ่งต้องใช้ความร้อน น้ำยาเคมีอื่นๆ ในการทำผม ซึ่งมีโอกาสที่ผมจะเสียและหลุดร่วงได้ง่าย คุณจึงควรมีการเว้นระยะห่างในการเสริมสวยเกี่ยวกับเส้นผมบ้าง
อย่างไรก็ตาม โรคผมร่วงยังสามารถเป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคประจำตัวอื่นๆ ได้ และเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ยากจะหลีกเลี่ยง หากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้แล้วยังมีอาการผมร่วงอยู่ แต่ยังไม่สะดวกไปพบแพทย์ด้วยตนเอง ปัจจุบันมีบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์เกี่ยวกับผมร่วง ผมบาง และการปลูกผมแล้ว
หรือหากมีเวลามากพอ ต้องการให้แพทย์เห็นอาการผมร่วงอย่างใกล้ชิด สามารถเดินทางให้ไปปรึกษาแพทย์ด้วยตนเองเพื่อขอรับคำแนะนำในการรักษาโรคผมร่วงต่อไป
ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. พิสุทธิ์ พงษ์ชัยกุล