การ “ปัสสาวะบ่อย” จนเกินไป ไม่ว่าจะปริมาณมาก หรือน้อย ล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ และหากคุณมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ร่วมด้วย อย่านิ่งนอนใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะก็ได้
สารบัญ
คนปกติปัสสาวะวันละกี่ครั้ง
ปกติแล้ว ผู้ที่มีสุขภาพดีจะปัสสาวะประมาณ 4-10 ครั้งต่อวัน หรือค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 ครั้งต่อวัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณของปัสสาวะในแต่ละครั้งจะมาก หรือน้อย ไม่ใช่สิ่งที่บอกได้ว่า ระบบทางเดินปัสสาวะผิดปกติหรือเปล่า
เนื่องจากความถี่และปริมาณของการปัสสาวะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น
- อายุ
- ปริมาณน้ำที่ดื่มต่อวัน
- เครื่องดื่มที่ดื่มในขณะนั้น เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม
- ยารักษาโรคที่กำลังรับประทาน เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน หรือยาขับปัสสาวะ
- ขนาดของกระเพาะปัสสาวะเล็กกว่าปกติ
ภาวะ หรือโรคที่ทำให้เกิดภาวะปัสสาวะบ่อย
1. โรคกระเพาะปัสสาวะไวเกิน
อาการปัสสาวะบ่อยนี้เกิดจากภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวมากเกินไป ผู้ป่วยบางรายรู้สึกปวดปัสสาวะ 2-3 ครั้งต่อชั่วโมง และถ้าอยู่ในบริเวณที่มีอากาศเย็นจะทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น และอาจมีอาการปัสสาวะเล็ด หรือเจ็บท้องน้อย อีกด้วย
2. ความเสื่อมของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ
อาการนี้มักเกิดขึ้นกับวัยกลางคนที่ทำงานหนักและผู้สูงอายุ ทำให้ประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะเสื่อมลง กระเพาะปัสสาวะมีการหดรัดตัวและสูญเสียความยืดหยุ่น
ส่งผลให้ปวดปัสสาวะบ่อยและมีอาการปัสสาวะเล็ดเวลาที่ไอ จาม หรือเคลื่อนไหวร่างกายนานๆ
3. โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองแล้วรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น และอาจมีอาการเจ็บหลังหรือตรงสีข้างซึ่งเกิดจากโรคนิ่วในไต
4. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียวกับที่อาศัยอยู่ในลำไส้ แต่เมื่อเชื้อชนิดนี้เข้าไปในท่อปัสสาวะจะก่อให้เกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เราสามารถสังเกตได้จากอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะแสบขัด และมีอาการปวดท้องน้อยขณะปัสสาวะ
5. เนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ
เกิดขึ้นมากกับผู้ชายที่สูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานๆ เนื้องอกนี้อาจจะเป็นเนื้องอกปกติ หรือเนื้อร้ายก็ได้ โดยเนื้องอกจะไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัวบ่อยมากขึ้น ส่งผลให้มีอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะติดขัด และมีเลือดปนออกออกมากับปัสสาวะ
6. โรคไต
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในระยะแรกมีอาการแสดงที่ไม่ชัดเจน แต่จะมีอาการเมื่อเป็นมากแล้ว โดยผู้ป่วยบางรายจะมีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้นในช่วงแรก
หากคุณเป็นหนึ่งที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคไต เช่น ชอบรับประทานอาหารรสจัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งรสเค็ม มีโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานที่ควบคุมได้ยาก มีความเครียดสูง การเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคไตอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
7. โรคเบาหวาน
เมื่อเรามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะส่งผลให้ไตต้องทำงานหนักมากขึ้น และมีการขับน้ำตาลส่วนเกินออกมาทางกระเพาะปัสสาวะ หรืออาจมีการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะร่วมด้วย ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยนั่นเอง
8. โรคต่อมลูกหมากโต
อาการต่อมลูกหมากโตจะทำให้กล้ามเนื้อของปัสสาวะบีบตัวอย่างแรง เพื่อให้สามารถขับน้ำปัสสาวะผ่านท่อแคบๆ ที่ต่อมลูกหมากเบียดอยู่ ส่งผลให้มีอาการปัสสาวะขัด แล้วทำให้ผนังกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้นจนเก็บน้ำในกระเพาะปัสสาวะได้ลดลง
9. โรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท
เมื่อระบบประสาทที่มีหน้าที่ควบคุมกระเพาะปัสสาวะเสื่อมลง จะส่งผลต่อการควบคุมระบบขับถ่ายโดยตรง และทำให้มีอาการปวดปัสสาวะบ่อยมากขึ้น หรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้
ยารักษาโรคบางชนิดสามารถทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยได้
ยาที่จัดอยู่ในกลุ่มยาขับปัสสวะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องปกติของการรับประทานยากลุ่มนี้
เป็นเรื่องปกติที่หญิงตั้งครรภ์จะปัสสาวะบ่อย
เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์จะเพิ่มปริมาณสูงขึ้น ร่วมกับมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงไปเบียดกับกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์รู้สึกแน่นท้องและปวดปัสสาวะบ่อย
อาการปัสสาวะบ่อยเกิดได้จากหลายสาเหตุ และไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นเราจึงควรหมั่นสังเกตอาการของตัวเองว่า ในแต่ละวันมีอาการปัสสาวะบ่อยมากน้อยเพียงใด หรือมีอาการปวดปัสสาวะจนไม่สามารถกลั้นได้หรือไม่
หากพบอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดทันที
คำถามที่พบบ่อย
- ผู้หญิงปวดฉี่ตลอดเวลา แต่ฉี่นิดเดียว มีวิธีแก้อย่างไร ?
- ฉี่แล้วแสบ วิธีรักษาปัสสาวะแล้วแสบปลายผู้หญิง ?
ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. วรรณวนัช เสถียรธรรมมณี