ผู้หญิงปวดฉี่ตลอดเวลา แต่ฉี่นิดเดียว มีวิธีแก้อย่างไร ?

ปวดฉี่ตลอดเวลา แต่ฉี่นิดเดียว สำหรับผู้หญิงถือเป็นเรื่องที่พบเห็นบ่อย มีวิธีแก้อย่างไร กินยาได้ไหม เป็นสัญญาณของโรคร้ายบางอย่างหรือไม่ ดูคำตอบโดยแพทย์

ปัสสาวะบ่อยมาก ออกมานิดเดียว ปวดนิดๆ

ปวดปัสสาวะบ่อยมากค่ะ เข้าปุ๊บออกมาก็ปวดอีก แต่เวลาปัสสาวะออกมามีนิดเดียว แล้วเวลาปัสสาวะก็มีอาการปวดนิดๆ ปัสสาวะเล็ดตลอดทั้งวัน ถ้าไม่ใส่ผ้าอนามัยจะสังเกตเห็นได้ที่กางเกง รู้สึกเป็นกังวลมากเลยค่ะ แล้วก็เป็นคนชอบกลั้นปัสสาวะในบางที กินน้ำน้อยเวลาอยู่โรงเรียน แต่พอตอนนี้ปิดเทอมก็ไม่กลั้นปัสสาวะแล้ว แล้วก็พยายามกินน้ำมากๆ แต่ก็ยังไม่หาย ควรทำยังไงดีค่ะ

ลักษณะอาการใกล้เคียงกับภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive bladder) ก็คือมีอาการอยากถ่ายปัสสาวะขึ้นมาทันทีและไม่สามารถกลั้นไว้ได้ โดยอาจจะมีภาวะปัสสาวะเล็ดหลังอาการดังกล่าว และมักจะพบอาการถ่ายปัสสาวะบ่อย และปัสสาวะตอนกลางคืน ร่วมด้วย เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องแนะนำพบแพทย์ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะครับ

ตอบโดย นพ. กิตติศัพท์ สินน้อย

อาจเกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาการจะมีอาการปัสสาวะบ่อย ครั้งละน้อยๆ ปวดแสบเวลาปัสสาวะ โดยเฉพาะเมื่อสิ้นสุดปัสสาวะ และมักตื่นปัสสาวะกลางคืนบ่อยกว่าปกติ อาจกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในบางครั้ง ปัสสาวะจะมีลักษณะขุ่น มีกลิ่นแรง หรือเหม็น ผิดปกติ อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด ปวดท้องน้อยร่วมด้วยครับ

เมื่อมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์ เพราะการรักษาจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้องทั้งชนิดของยา ปริมาณยา และระยะเวลาที่ได้รับยา เพื่อลดโอกาสเกิดโรคย้อนกลับเป็นซ้ำจากการรักษาที่ไม่เหมาะสม

เมื่อพบแพทย์แล้ว ควรปฏิบัติตามแพทย์ พยาบาลแนะนำ

  • กินยาต่างๆให้ครบถ้วน ถูกต้อง ไม่หยุดยาเอง ถึงแม้อาการจะดีขึ้น/หายแล้วก็ตาม
  • ดื่มน้ำสะอาดให้มากกว่าเดิม อย่างน้อยวันละ 8-10แก้ว เมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม
  • ไม่กลั้นปัสสาวะนาน
  • พยายามเคลื่อนไหวร่างกายเสมอ ไม่นั่งนานๆ เช่น เมื่อรถติดมาก
  • งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าโรคจะหายแล้ว
  • สวมใส่กางเกงในเป็นผ้าฝ้าย100% ไม่รัดแน่นเกินไป เพื่อลดการระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ และปากท่อปัสสาวะ และเพิ่มการระบายอากาศไม่ให้บริเวณนั้นอับชื้น
  • ในผู้หญิงควรล้างบริเวณอวัยวะเพศและปากท่อปัสสาวะจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ เพื่อลดการปนเปื้อนแบคทีเรียจากปากทวารหนัก
  • รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน ลดโอกาสติดเชื้อต่างๆ
  • หลังการขับถ่ายควรล้างด้วยน้ำสะอาด และซับให้แห้งเสมอ อาจใช้กระดาษเปียกสำหรับทำความสะอาดของเด็กอ่อนเมื่อไม่สะดวกที่จะล้างทำความสะอาด
  • ใช้ทิชชูชนิดอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้างในบริเวณอวัยวะเพศเสมอครับ

ตอบโดย นพ. สมทรง นิลประยูร

ปวดฉี่ตลอดเวลา บ่อยจนนอนไม่ได้

ปวดฉี่ตลอดเวลาเลยค่ะพอฉี่เสร็จ​ก็ปวดเลยคือนอนไม่ได้ค่ะ ปวดตุงๆจะออกตลอดเวลาฉี่ไม่ถึง1ออนเลยด้วยซ้ำ เป็นปัญหา​มากค่ะเพราะไม่ได้นอนปวดตลอดเวลาเวลาฉี่ออกมาไม่แสบนะคะจะเสียวๆชาๆหน่อย

ที่เจอบ่อยคือติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรืออื่นๆ เช่น ภาวะกระเพาะปัสสาวะไวเกิน (Overactive Bladder) แนะนำพบเเพทย์ตรวจปัสสาวะครับ

ฟังจากอาการ น่าจะเป็น กระเพาะปัสสาวะ หรือ ท่อปัสสาวะอักเสบ อาการคือ

  • ขณะถ่ายปัสสาวะ มีอาการแสบบริเวณปลายท่อปัสสาวะ หรือบริเวณปากช่องคลอด
  • ถ้ามีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวัน กลางคืน ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะแล้วรู้สึกว่าไม่สุดต้องไปปัสสาวะอีกแม้เพิ่งปัสสาวะเสร็จ
  • บางคนอาจจะมีอาการปวด หรือแสบบริเวณท้องน้อยร่วมด้วยทั้งตอนปวดและไม่ปวดปัสสาวะ

ปัจจัยเสี่ยง เช่น

  • มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง และหลายครั้งในเวลาอันสั้น
  • ดื่มน้ำน้อย
  • กลั้นปัสสาวะนาน ๆบ่อยๆ
  • ผู้ที่เคยรับการผ่าตัด หรือการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศมาก่อน

การรักษา คือ การรับประทานยาฆ่าเชื้อครับ เช่น Ciprofloxacin ร่วมกับการป้องกันคือ

  • ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
  • ดูแลความสะอาดบริเวณปลายท่อปัสสาวะและอวัยวะเพศ
  • มีกิจกรรมทางเพศอย่างเหมาะสม โดยหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ควรไปปัสสาวะและทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะเพศครับ
  • ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานเกินไป

ฉี่บ่อยแบบกระปริบกระปรอย

ชอบปวดฉี่บ่อยแบบกระปริบกระปรอย ต้องทำอย่างไรค่ะ

การติดเชื้อเป็นเพียงหนึ่งในสาเหตุครับ ไม่อยากให้ฟันธง อาจจะเป็นการปัสสะวะเล็ดกระปริบกระปรอยจากสาเหตุอื่นก็ได้ เช่น กลุ่มของโรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน

ตอบโดย นพ. ชยากร พงษ์พยัคเลิศ

อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้

1. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ พบได้มากในผู้หญิงที่ชอบกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ หรือเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากอุจจาระ ถ้าเกิดจากสาเหตุนี้มักมีอาการปวดท้องน้อย แสบขัดเวลาปัสสาวะร่วมด้วย โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบพบได้ทั้งจากการอักเสบเฉียบพลัน ที่มีอาการเกิดขึ้นทันทีและรักษาหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ หรือจากการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการอักเสบเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ แต่จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่าการอักเสบเฉียบพลัน

การดูแลตัวเองเบื้องต้น ควรดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ ประมาณวันละ 3-4 ลิตร ควรถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวด ไม่กลั้นปัสสาวะ หลีกเลี่ยงสารอาหารที่ระคายเคืองต่อกระเพาะปัสสาวะ เช่น กาแฟ แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ใส่น้ำตาล ในผู้หญิงไม่ควรใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยการใช้ยาฆ่าอสุจิ ไม่ควรใช้สเปรย์หรือยาดับกลิ่นในบริเวณอวัยวะเพศ หลีกเลี่ยงการอาบน้ำในอ่าง ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้ได้ยาที่ไม่ตรงกับชนิดของเชื้อโรค หรือขนาดและระยะเวลาในการใช้ยาไม่ถูกต้อง จึงอาจส่งผลให้โรคไม่หาย และอาจกลายเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังจากเชื้อดื้อยาได้

2. หญิงตั้งครรภ์

3. กล้ามเนื้อระบบขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติ

4. มีก้อนนิ่วแฝงอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ

แนะนำไปตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

ตอบโดย ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)


บทความที่เกี่ยวข้อง

คำถามสุขภาพที่พบบ่อย

Scroll to Top