โรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้

โรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้ (Eczema)

โรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้ (Eczema) เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยและพบได้ทุกเพศทุกวัย เกิดจากปฏิกิริยาการอักเสบที่ผิวหนังชั้นนอกของส่วนต่างๆ ในร่างกาย เช่น ใบหน้า แขน ขา เนื่องมาจากมีสิ่งแพ้มากระตุ้น

มีคำถามเกี่ยวกับ ผื่นแพ้? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

อาการอักเสบจะทำให้เกิดรอยแดง ผื่นบวมแดง มีอาการคัน บางชนิดอาจทำให้มีตุ่มน้ำ มีน้ำเหลือง หรือน้ำเซรั่มใสๆ ซึมบนปากแผลหากเป็นนานๆ ผิวหนังอาจจะหนา หรือคล้ำได้

แต่ละคนสามารถเกิดปฏิกิริยาการอักเสบและมีความรุนแรงมาก-น้อยแตกต่างกัน

ชนิดของโรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้

จำแนกตามสาเหตุการเกิดได้ 2 ชนิดหลักๆ

  • โรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้ภายใน (endogenous dermatitis) คือ เกิดผื่นคันขึ้นมาเอง โดยไม่ได้แพ้สารจากภายนอก
  • โรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้ภายนอก (exogenous dermatitis) คือ ผู้ป่วยจะแพ้สารต่าง ๆ ที่มาสัมผัสกับผิวหนัง

1. โรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้ภายใน (endogenous dermatitis)

สาเหตุ: ปฏิกิริยาการแพ้ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย มักเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ดังที่พบว่า ครอบครัวผู้ป่วยมักมีประวัติโรคแพ้ละอองฟาง หอบหืด

ตัวอย่างโรคกลุ่มนี้ เช่น โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Atopic dermatitis) ชาวบ้านมักเรียกกันว่า “น้ำเหลืองเสีย” แต่ความจริงแล้วโรคนี้ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำเหลือง

โรคนี้มักมีอาการมากขึ้นในฤดูหนาว หรือเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง โดยจะรู้สึกคัน เมื่อมีการเกาอยู่บ่อยครั้ง อาจเห็นเป็นรอยเกา หรือรอยแผล

หากไม่รักษาความสะอาดมีเชื้อโรคไปที่บริเวณนั้นจะเกิดการติดเชื้อ มีหนอง หรือ น้ำเหลืองไหลซึม เจ็บแผลบริเวณนั้น เป็นที่มาของคำว่า “น้ำเหลืองไม่ดี” หรือ “น้ำเหลืองเสีย” นั่นเอง

อาการ: ผู้ป่วยจะมีผื่นตามข้อพับ หรือผื่นคันตามลำตัว มีน้ำเหลืองซึม มักพบการอักเสบตั้งแต่เด็ก และจะมีอาการลดน้อยลงเมื่อเป็นผู้ใหญ่

มีคำถามเกี่ยวกับ ผื่นแพ้? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

ส่วนอาการอื่นที่อาจพบร่วมด้วยคือ ดวงด่างขา ๆ ที่ใบหน้า ที่เรียก “ขี้กลากน้ำนม” มือเท้าแตก คัน ผิวหนังแห้ง

ผู้ป่วยมักมีประวัติโรคแพ้ละอองฟาง แพ้เกสรดอกไม้ แพ้อาหาร หรือ หอบหืด ทั้งในส่วนของตนเองและญาติพี่น้องด้วย

โรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้ภายในโรคอื่นได้แก่

  • โรคผื่นแพ้ผิวหนังบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก (Seborrheic dermatitis)
  • โรคผื่นแพ้ชนิดเป็นวง (Nummular Ecaema)
  • โรคผื่นแพ้จากอาการคัน และการเกาเรื้อรัง (Lichen simplex chronicus) ที่ต้นคอ หรือข้อเท้า ผื่นจากเส้นเลือดขอดที่ขา

2. โรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้ภายนอก (exogenous dermatitis)

สาเหตุ: เป็นปฏิกิริยาการแพ้ที่เกิดจากปัจจัยภายนอกร่างกาย เช่น แสงแดด ความร้อน แพ้สารที่มาสัมผัสผิวหนัง เนื่องจากสารนั้นมีฤทธิ์ระคายต่อผิวหนัง เช่น กรด ด่าง ผงซักฟอก หรือแพ้สารนั้นจริง ๆ เช่น ยาย้อมผม แชมพู สบู่ น้ำหอม น้ำยาปรับผ้านุ่ม โลหะต่าง ๆ เช่น สายนาฬิกา แหวน ตุ้มหู

อาการ: ผู้ป่วยมักมีอาการผื่นแดง คัน มีน้ำเหลือง หรือผิวหนังหนาตัวขึ้นมา มีขุย หรือตุ่มขึ้นในบริเวณที่สัมผัสโดนสารนั้น เช่น แพ้ตุ้มหู จะเป็นที่ติ่งหู แพ้รองเท้า จะเป็นที่เท้า แพ้สายนาฬิกา เป็นที่ข้อมือ แพ้สร้อยคอ เป็นที่ลำคอ

แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้การวินิจฉัยที่ถูกต้องเพราะเหตุว่าอาการใกล้เคียงกับโรคเชื้อรา (กลาก) ที่ผิวหนังได้

ระยะของโรคผิวหนังอักเสบผื่นแพ้ 

สามารถจำแนกเป็น 3 ระยะได้แก่

  • ระยะอักเสบเฉียบพลัน (acute stage) มีลักษณะ ผื่นแดง บวม มีตุ่มแดง ตุ่มน้ําและมีน้ําเหลืองไหล
  • ระยะปานกลาง (subacute stage) ผื่นแดงน้อยกว่า ระยะเฉียบพลัน มีตุ่มแดง อาจมีตุ่มน้ําเล็กน้อย มีสะเก็ดและขุยอาจมีรอย แตกเปนร่อง
  • ระยะเรื้อรัง (chronic stage) ผื่นมีลักษณะหนานูน มี lichenification สีแดงคล้ําหรือค่อนดํา มีขุยลอกและรอยเกา

การรักษา

  • แพทย์จะเน้นรักษาตามอาการและป้องกันสภาวะแทรกซ้อน
  • แพทย์อาจจ่ายยาต้านฮิสตามีนชนิดรับประทาน หรือยาทาสเตียรอยด์ หรือขี้ผึ้งลดการอักเสบ เพื่อบรรเทาอาการคันและลดอาการอักเสบ ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง
  • ในเบื้องต้น แพทย์จะแนะนำให้สังเกตและหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้เสียก่อน เพื่อไม่ให้เป็นซ้ำ หรือสำหรับบางคนที่ไม่สามารถหาสาเหตุที่ตนแพ้ได้ อาจทำการทดสอบผิวหนัง skin Prick Test ว่า แพ้สารชนิดใดบ้าง โดยการนำส่วนประกอบของสารที่คนแพ้บ่อยมาสะกิดลงไปที่ผิวหนัง และสังเกตปฏิกิริยาที่เกิดข้นกับผิว หากทราบว่า แพ้สารใด หรือสิ่งใดเพื่อหาแนวทางรักษา แต่การทดสอบนั้นไม่สามารถนำสารทุกอย่างมาทดสอบกับตัวเองได้ ดังนั้นการหมั่นสังเกตตนเองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

การดูแลตนเอง

  • หมั่นสังเกตว่า สัมผัสสารใดแล้วมีปฏิกิริยาอักเสบเกิดขึ้น จะต้องหลีกเลี่ยงจากการสัมผัสกับสารนั้น
  • หลีกเลี่ยงการฟอกมือ หรือล้างมือบ่อยๆ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักสด ผลไม้สด
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงความเครียด

หากมีผดผื่น บวมแดง อาการคัน ตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนองอย่างน่าสงสัย ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ ไม่ว่าจะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต โรคไต และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนใช้ยา


คำถามที่เกี่ยวข้อง


ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. ธวัลรัตน์ ปานแดง

มีคำถามเกี่ยวกับ ผื่นแพ้? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ