โรคไส้เลื่อน พบได้ทุกเพศทุกวัย แล้วรักษาได้อย่างไร พร้อมตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคไส้เลื่อน
โดยนพ. ณัฐพล อภิกิจเมธา หรือหมอณัฐ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้อง มีประสบการณ์ผ่าตัดส่องกล้องและส่องกล้องทางเดินอาหารมามากกว่า 2,500 เคส
อ่านประวัติหมอณัฐได้ที่นี่ [คุยกับ “หมอณัฐ” ศัลแพทย์ด้านการผ่าตัดส่องกล้อง และการส่องกล้องทางเดินอาหาร]
สารบัญ
- โรคไส้เลื่อน คือความผิดปกติของอะไร? มีกี่ชนิด?
- เป็นโรคไส้เลื่อน ไส้ตรงไหนที่เลื่อน?
- ใครเสี่ยงเป็นโรคไส้เลื่อน
- อายุเท่าไร เสี่ยงเป็นไส้เลื่อนมากกว่า?
- พฤติกรรมแบบใดที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไส้เลื่อน
- ข้อบ่งชี้เป็นโรคไส้เลื่อน
- การตรวจวินิจฉัยโรคไส้เลื่อน
- เป็นโรคไส้เลื่อนแล้วไม่รักษา อันตรายหรือไม่?
- การรักษาไส้เลื่อนมีกี่วิธี?
- ข้อดีและข้อจำกัดของการผ่าตัดไส้เลื่อน
- การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง
- ขั้นตอนการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง
- การดูแลตนเองหลังผ่าตัด
- ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคไส้เลื่อน
- ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง กับ นพ. ณัฐพล ด้วยบริการจาก HDCare
โรคไส้เลื่อน คือความผิดปกติของอะไร? มีกี่ชนิด?
โรคไส้เลื่อน (Hernia) คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของผนังหน้าท้องที่อ่อนกำลังลงหรือมีรูเปิดในช่องท้องที่ผิดปกติ จนทำให้ลำไส้หรืออวัยวะภายในช่องท้องยื่นดันออกมา สามารถแบ่งออกได้ 5 ชนิด ได้แก่
- โรคไส้เลื่อนที่ขาหนีบ เกิดจากความอ่อนแอหรือการหย่อนตัวของผนังหน้าท้อง จนทำให้ลำไส้ปูดบวมออกมาที่ตำแหน่งขาหนีบ ในผู้ชายบางรายอาจพบลำไส้ปูดลงมาถึงลูกอัณฑะ เป็นประเภทของโรคไส้เลื่อนที่พบได้ตั้งแต่กำเนิดหรือในเด็กเล็กด้วย
- โรคไส้เลื่อนที่หน้าท้อง สามารถเกิดได้ที่ตำแหน่งใดของหน้าท้องก็ได้ เช่น บริเวณสะดือ บริเวณแผลผ่าตัดที่เคยผ่าบริเวณหน้าท้อง มักเกิดความอ่อนแอของผนังหน้าท้องเช่นกัน
- โรคไส้เลื่อนที่กระบังลม เกิดจาก “กระบังลม” ซึ่งเป็นอวัยวะที่กั้นระหว่างช่องท้องกับช่องอกดันทะลุขึ้นไปบนช่องอก ในโรคไส้เลื่อนประเภทนี้คนไข้จะไม่พบไส้เลื่อนดันปูดออกมาจากผิวหนัง แต่จะทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น แสบร้อนที่ช่วงอก คลื่นไส้อาเจียน เรอเปรี้ยว มักเกิดจากการประสบอุบัติเหตุที่มีแรงกระแทกแรงๆ หรือเป็นแต่กำเนิด แต่พบได้ไม่บ่อยนัก
- โรคไส้เลื่อนข้างหลอดอาหารในช่องท้อง เกิดจากหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร หรืออวัยวะอื่นๆ ในช่องท้องเลื่อนผ่านช่องเล็กๆ ที่หลอดอาหารใช้ลอดผ่านช่องอกลงไปที่ช่องท้องกลับขึ้นมาที่ช่องอกอีก
- โรคไส้เลื่อนในช่องเชิงกราน เกิดจากการอ่อนตัวของผนังหน้าท้องที่อยู่ในอุ้งเชิงกราน ทำให้ลำไส้หรืออวัยวะในช่องท้องเลื่อนเข้าไปอยู่ในช่องเล็กๆ ของกระดูกเชิงกราน พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ มีโอกาสพบได้ต่ำ
เป็นโรคไส้เลื่อน ไส้ตรงไหนที่เลื่อน?
โดยส่วนมากลำไส้ที่เลื่อนมักเป็นลำไส้เล็กที่เลื่อนผ่านช่องหรือรูที่ผนังหน้าท้อง แต่ขณะเดียวกันก็อาจเป็นอวัยวะอื่นๆ ในช่องท้องที่มีการเคลื่อนที่จนเกิดเป็นโรคไส้เลื่อนได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร มดลูก รังไข่
ใครเสี่ยงเป็นโรคไส้เลื่อน
โรคไส้เลื่อนสามารถเกิดได้กับคนทุกเพศและทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงวัย แต่อาจพบในบางเพศหรือบางช่วงวัยได้บ่อยกว่าตามแต่ชนิดของโรคไส้เลื่อน เช่น
- โรคไส้เลื่อนที่ขาหนีบ พบในผู้ชายได้มากกว่าผู้หญิง
- โรคไส้เลื่อนที่หน้าท้อง ที่สะดือ หรือที่แผลผ่าตัด พบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายเท่าๆ กัน
- โรคไส้เลื่อนที่เชิงกราน พบได้บ่อยในผู้หญิงสูงอายุ
อายุเท่าไร เสี่ยงเป็นไส้เลื่อนมากกว่า?
โรคไส้เลื่อนพบได้ในคนทุกเพศทุกวัยก็จริง แต่จะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุมากกว่า เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ความแข็งแรงของผนังหน้าท้องอ่อนกำลังลงแล้ว
พฤติกรรมแบบใดที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไส้เลื่อน
พฤติกรรมหรืออาการที่เพิ่มความดันในช่องท้องสามารถเพิ่มโอกาสทำให้เกิดโรคไส้เลื่อนได้ เช่น
- อาการไอเรื้อรัง
- อาการท้องผูกหรือปัสสาวะลำบาก จนต้องออกแรงแบ่งมากขึ้นระหว่างขับถ่าย
- ภาวะต่อมลูกหมากโต
- การออกกำลังกายหรือการทำงานที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ จนทำให้เกิดการเกร็งของหน้าท้อง
ข้อบ่งชี้เป็นโรคไส้เลื่อน
อาการที่สังเกตเห็นได้เมื่อเกิดโรคไส้เลื่อน คือ มีก้อนปูดขึ้นมาที่หน้าท้องหรือขาหนีบ โดยก้อนที่ปูดมักจะยุบลงเวลานอนลง แต่จะยื่นออกมาเวลาเดิน นอกจากนี้คนไข้ยังอาจมีอาการปวดหน่วงหรือรู้สึกอึดอัดที่ท้องได้
การตรวจวินิจฉัยโรคไส้เลื่อน
หากเกิดโรคไส้เลื่อนที่ขาหนีบหรือหน้าท้อง แพทย์จะใช้มือคลำดูก้อนที่ปูดนูนและซักประวัติคนไข้เกี่ยวกับการยุบและปูดขึ้นของก้อนดังกล่าว หากนอนแล้วยุบ เดินแล้วปูด ก็สามารถวินิจฉัยได้ว่า เป็นโรคไส้เลื่อน
แต่หากแพทย์ตรวจร่างกายและซักอาการแล้ว แต่ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้อย่างชัดเจน หรือคนไข้มีข้อบ่งชี้เป็นโรคไส้เลื่อนที่กระบังลม แพทย์จะส่งตัวคนไข้ไปตรวจเอกซเรย์ ทำ CT Scan ทำ MRI หรือส่องกล้องทางเดินอาหาร เพื่อหารอยโรคในการวินิจฉัยเพิ่มเติม
เป็นโรคไส้เลื่อนแล้วไม่รักษา อันตรายหรือไม่?
อันตรายมาก เนื่องจากลำไส้หรืออวัยวะที่ดันตัวขึ้นมาอาจถูกรูภายในช่องท้องบีบรัดจนขาดเลือด และทำให้เกิดอาการติดเชื้อภายในช่องท้องได้
การรักษาไส้เลื่อนมีกี่วิธี?
โรคไส้เลื่อนมีวิธีรักษาวิธีเดียวคือ วิธีผ่าตัด ซึ่งแบ่งออกได้ 2 เทคนิคได้แก่
- การผ่าตัดแบบเปิดแผล
- การผ่าตัดแบบส่องกล้อง
แม้จะแบ่งเทคนิคการผ่าตัดออกได้ 2 แบบ แต่ก็มีหลักการรักษาคล้ายกัน คือ แพทย์ผ่าตัดเข้าไปซ่อมแซมรูที่ลำไส้หรืออวัยวะอื่นๆ ยื่นออกมา และวางแผ่นตะข่ายเพื่อเป็นผนังหน้าท้องเทียมที่มีความแข็งแรง ไม่ทำให้ลำไส้หรืออวัยวะอื่นๆ ปูดยื่นออกมาอีก
ข้อดีและข้อจำกัดของการผ่าตัดไส้เลื่อน
1. การผ่าตัดแบบเปิด
การผ่าตัดแบบเปิดเป็นเทคนิคการผ่าตัดแบบดั้งเดิม นิยมใช้ในคนไข้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดจนผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องไม่ได้ เช่น โรคหัวใจ รวมถึงคนไข้ที่เคยผ่าตัดแบบส่องกล้องและเป็นโรคไส้เลื่อนซ้ำอีก ส่วนมากในการผ่าตัดครั้งถัดไปแพทย์ก็จะประเมินให้ผ่าตัดแบบเปิดแทน เนื่องจากผ่าตัดง่ายกว่า
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดแบบเปิดจะทำให้คนไข้เกิดแผลขนาดใหญ่ จึงทำให้เจ็บแผลมากกว่า และใช้เวลาฟื้นตัวช้ากว่าการผ่าตัดแบบส่องกล้อง
2. การผ่าตัดแบบส่องกล้อง
การผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องทำให้เกิดแผลขนาดเล็กกว่า คนไข้จึงเจ็บแผลน้อยกว่า และฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็ว นอกจากนี้ยังเป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ทำได้ในคนไข้แทบทุกคน
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดเทคนิคส่องกล้องก็มีข้อจำกัดในคนไข้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคหัวใจ ในกรณีนี้การผ่าตัดแบบส่องกล้องอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ แพทย์จึงจะพิจารณาให้ผ่าตัดแบบเปิดแทน
รวมถึงคนไข้ที่เคยผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้องไปแล้วกลับมาเป็นไส้เลื่อนซ้ำ หากต้องผ่าตัดเปิดแผลใหม่อีก แพทย์ก็มักไม่นิยมใช้เทคนิคแบบส่องกล้องอีกครั้ง เนื่องจากทำให้ผ่าตัดได้ยากขึ้น แต่จะใช้เทคนิคแบบเปิดแผลปกติแทน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง
- ตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด เช่น เจาะเลือด เอกซเรย์ปอด เช็กระดับโรคประจำตัวให้อยู่ในระดับที่สามารถผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย (ถ้ามี) เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต
- งดน้ำและงดอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- งดยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านเกล็ดเลือดตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ
ขั้นตอนการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง
ระยะเวลาในการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องจะอยู่ที่ 40-60 นาที
- วิสัญญีแพทย์วางยาสลบคนไข้
- แพทย์กรีดเปิดแผลเล็กๆ ประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อใส่กล้องผ่าตัดเข้าไปด้านในช่องท้อง
- แพทย์กรีดเปิดแผลอีก 2 แผลในขนาดครึ่งเซนติเมตร เพื่อใส่อุปกรณ์ผ่าตัดอื่นๆ และเพื่อเลาะถุงใส่ไส้เลื่อนออกจากแผล
- หลังเลาะถุงใส่ไส้เลื่อนออกแล้ว แพทย์วางแผ่นตะข่ายสำหรับเป็นผนังหน้าท้องเทียม และยึดให้แน่นด้วยหมุดสำหรับผ่าตัด
- เย็บปิดแผล หากคนไข้มีเนื้อเยื่อพังผืดรอบๆ ไส้เลื่อนด้วย แพทย์จะนำออกด้วยในการผ่าตัดครั้งเดียวกัน แต่ระยะเวลาผ่าตัดอาจนานขึ้น
การดูแลตนเองหลังผ่าตัด
- คนไข้นอนโรงพยาบาลประมาณ 1-2 คืน หากสามารถลุกเดินได้ ไม่มีอาการเจ็บแผลที่รุนแรง ก็สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้
- ควรพักฟื้นต่อที่บ้านอีก 1-2 สัปดาห์
- กินอาหารทุกชนิดได้ตามปกติ ไม่มีข้อห้าม
- กลับมาตรวจแผลหลังผ่าตัดกับแพทย์ โดยส่วนมากนัดหมายจะอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด หากแผลไม่มีร่องรอยการอักเสบหรือบวม แพทย์จะไม่ได้นัดมาตรวจแผลอีก
- งดยกของหนักและงดออกกำลังกาย 1-2 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัดเสร็จสิ้น คนไข้ควรเลี่ยงการทำกิจกรรมและรักษาอาการที่ทำให้เกิดความดันในช่องท้อง เช่น ท้องผูก ปัสสาวะยาก ไอเรื้อรัง ภาวะต่อมลูกหมาก การยกของหนักบ่อยๆ
ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- ภาวะแผลติดเชื้อ มีเลือดออกมาก แต่มีโอกาสเกิดค่อนข้างต่ำ เนื่องจากการผ่าตัดส่องกล้องเป็นเทคนิคที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้อยู่แล้ว
- อาการปวดหรือชาที่ขาหนีบ มักพบในการผ่าตัดไส้เลื่อนที่ขาหนีบ แต่มีโอกาสเกิดได้ต่ำเช่นกัน
- และมักเกิดเพียงชั่วคราว เนื่องจากแพทย์จะระวังต่อการบาดเจ็บที่เส้นประสาทที่ขาหนีบระหว่างผ่าตัดอยู่แล้ว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคไส้เลื่อน
- การออกกำลังกายทำให้เกิดโรคไส้เลื่อนใช่หรือไม่?
ตอบ: ไม่จริง
- โรคไส้เลื่อนในผู้ชายและผู้หญิง เพศไหนอันตรายกว่ากัน
ตอบ: พอๆ กัน เนื่องจากมีผลกระทบจากการเกิดโรคเหมือนกัน คือ มีโอกาสที่ลำไส้จะขาดเลือดจาการถูรูในช่องท้องรัดและติดเชื้อได้
- ผ่าตัดไส้เลื่อน มีโอกาสเป็นซ้ำได้หรือไม่?
ตอบ: เป็นซ้ำได้ แต่มีโอกาสเกิดได้น้อยแค่ 1-2% เท่านั้น โดยมักเกิดจากคนไข้ได้มีพฤติกรรมหรือมีอาการผิดปกติที่ทำให้เกิดความดันในช่องท้องอีก เช่น ท้องผูก มีการเบ่งปัสสาวะหรืออุจจาระแรงๆ ยกของหนักบ่อยๆ
ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง กับ นพ. ณัฐพล ด้วยบริการจาก HDCare
สังเกตเห็นช่องท้อง หน้าท้อง ขาหนีบมีผิวปูดนูน มีอาการบ่งชี้คล้ายกับเป็นโรคไส้เลื่อน อยากปรึกษากับแพทย์เพื่อหาวิธีรักษา หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไส้เลื่อนแล้ว และอยากผ่าตัดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทีมงาน HDCare ยินดีให้บริการนัดหมายแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาโรคไส้เลื่อนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงประสานงานกับแพทย์และโรงพยาบาลเพื่อดำเนินการรักษาให้คุณ
สอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สงสัย กับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย