โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุเหตุของการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง สูงถึงร้อยละ 58 และจากการศึกษาในประเทศอังกฤษติดตามผู้ป่วยระยะเวลานานกว่า 14 ปี พบว่าผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงถึงร้อยละ 50 จึงถือเป็นโรคที่ต้องระวังและควรทำความเข้าใจ
สารบัญ
ประเภทของโรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคหัวใจและหลอดเลือดมีอยู่ 6 ประเภทหลัก ดังนี้
- โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Heart Disease: CHD): เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจที่ใช้สูบฉีดเลือดมีการอุดตัน หรือถูกรบกวนจากการสะสมของสารไขมัน (Atheroma) ภายในหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งทำให้เกิด ภาวะหัวใจขาดเลือดตามมา
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): เกิดขึ้นเมื่อการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงสมองหยุดลงหรือถูกรบกวน จนทำให้เซลล์สมองค่อยๆ ตายลง จนนำไปสู่ความเสียหายที่สมอง และอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด
- โรคของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Peripheral Arterial Disease): เกิดขึ้นเมื่อมีการอุดตันในหลอดเลือดแดงที่อวัยวะแขนหรือขา
- โรคหัวใจรูห์มาติก (Rheumatic heart disease): ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจและลิ้นหัวใจ ที่เกิดจากไข้รูห์มาติก ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ streptococcal bacteria
- โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด (Congenital heart disease): ความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ ตั้งแต่ช่วงปริกำเนิด
- โรคหลอดเลือดดำอุดตัน (Deep vein thrombosis and pulmonary embolism): ก้อนเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำที่ขา ซึ่งก้อนเลือดสามารถหลุดไปอุดตันที่หัวใจ หรือปอด ทำให้อันตรายต่อชีวิต
ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดมักมีความเชื่อมโยงกัน ดังนั้น เราทุกคนจึงอาจมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้มากกว่าเพียง 1 ปัจจัย เช่น
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension): หากผู้ป่วยมีการควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงที่ไม่ดีพอ ก็จะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นบนผนังหลอดเลือด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดตามมา
- การสูบบุหรี่: สารพิษที่อยู่ในยาสูบทั้งหมดสามารถทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบแคบ และเกิดความเสียหายลุกลามเพิ่มขึ้นได้
- คอเลสเตอรอลในเลือดสูง: ระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดที่สูง สามารถทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดขึ้นได้อีก
- โรคเบาหวาน: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงซึ่งเกี่ยวข้องกับทั้งโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2 นั้นสามารถก่อความเสียหายขึ้นที่หลอดเลือดแดงได้
- การรับประทานอาหารที่ไม่ดี: อาหารไขมันสูงจะเร่งให้เกิดการเกาะตัวกันของไขมันภายในหลอดเลือดแดง ซึ่งจะเพิ่มทั้งระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและความดันโลหิต
- ขาดการออกกำลังกาย: ผู้ที่ไม่ออกกำลังกายมักจะมีระดับคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต และความเครียดที่สูงกว่าปกติ อีกทั้งคนในกลุ่มนี้ยังเสี่ยงต่อการมีน้ำหนักร่างกายเกินเกณฑ์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกประการ
- การที่มีน้ำหนักมากเกิน: ผู้ที่มีน้ำหนักมากหรือภาวะอ้วน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยนี้ต่างก็เป็นตัวการที่นำไปสู้การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
- การบริโภคแอลกอฮอล์มากเกิน: การบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไป จะเพิ่มทั้งระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายและความดันโลหิต จนนำไปสู่โรคแทรกซ้อนเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดตามมาในภายหลัง
- ความเครียด: ความเครียดสามารถเพิ่มระดับความดันโลหิต และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดขึ้นได้ เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล
- ประวัติครอบครัว: ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือหลอดเลือดมาก่อน มักจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคที่ใกล้เคียงมากกว่า
- เชื้อชาติ: ผู้ที่มีเชื้อสายแอฟริกาใต้ และแอฟริกาแคริปเปียน จะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่า
การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต เช่น
- ปรับเมนูอาหารในแต่ละมื้อ: เพื่อให้หัวใจมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังได้รับสารอาหารบำรุงที่เพียงพอ คุณจึงควรรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ มีใยอาหารสูง และไม่ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของเกลือมากกว่า 6 กรัมต่อวัน เนื่องจากเกลือในอาหารที่มากเกินไป จะสามารถเพิ่มระดับความดันโลหิตขึ้นได้
- การออกกำลังกายและการควบคุมน้ำหนัก: สำหรับวัยผู้ใหญ่ ควรออกกำลังกายด้วยระดับความเข้มข้นปานกลางเป็นเวลา 30 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ เช่น การปั่นจักรยานหรือเดินเร็ว
- ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป: หลายครั้งที่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นการสังสรรค์และระบายความเครียดได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม คุณควรจะดื่มบริโภคแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป เพราะแอลกฮอล์นั้น เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มักทำให้เกิดโรคและภาวะเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้
- การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ไม่ได้ส่งผลดีใดๆ ต่อร่างกายเลย และไม่ใช่แค่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดเท่านั้นด้วย ดังนั้น การเลิกสูบบุหรี่จึงเป็นทางออกสำหรับการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น
- การใช้ยา: หากคุณมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสูง แพทย์จะจ่ายยาที่ช่วยลดความเสี่ยงของคุณ ดังนี้
- ยาสำหรับลดความดันโลหิต เช่น ยากลุ่มเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (Angiotensin-Converting Enzyme: ACE Inhibitors), ยากลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ (Beta-blocker)
- ยาสแตติน (Statins) สำหรับลดคอเลสเตอรอลในเลือด
- ยาแอสไพริน (Aspirin) ในปริมาณต่ำ สำหรับป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในเด็ก
มีหลักฐานมากมายที่แสดงให้เห็นว่า นิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่วัยเด็ก มักนำไปสู่ภาวะสุขภาพที่ร้ายแรงในวันข้างหน้า ดังนั้น สิ่งที่ผู้ปกครองควรพิจารณาเพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในเด็ก มีดังต่อไปนี้
- ไขมันและน้ำตาล: ผู้ปกครองควรจำกัดปริมาณไขมันอิ่มตัว และน้ำตาลที่เด็กบริโภคเข้าไป เพราะอาจทำให้เด็กกลายเป็นโรคเบาหวานตั้งแต่อายุยังน้อย อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะคอเลสเตอรอล และความดันโลหิตสูงในช่วงอายุมากขึ้นด้วย
- เกลือ: การรับประทานอาหารที่มีเกลือเยอะ มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง
- การออกกำลังกาย: มีหลายวิธีที่จะทำให้เด็กออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อของเด็ก รวมถึงป้องกันไม่ให้เด็กมีน้ำหนักมากเกินได้ ผู้ปกครองอาจชวนเด็กออกไปวิ่งเล่นตามสวนสาธารณะ เล่นในสวนสนุก หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ร่างกายมีการขยับตัวและเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่รับประทานเข้าไป
ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. จุติพร จตุรเชิดชัยสกุล