เนื่องจากมีงานวิจัยที่พบความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคคาเฟอีนกับความสามารถในการตั้งครรภ์ของผู้หญิง ในขณะที่บางงานวิจัยก็ไม่พบความเกี่ยวข้องดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากจึงกล่าวว่า “ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอจะสรุปได้ว่าคาเฟอีนมีผลต่อการตั้งครรภ์หรือไม่”
อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปถือว่า ปริมาณคาเฟอีนที่สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยหากตั้งใจจะตั้งครรภ์ คือ 200-300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเป็นกาแฟชงอ่อนๆ ในแก้วขนาด 8 ออนซ์ จำนวน 2 แก้ว แต่หากปกติแล้วคุณดื่มกาแฟมากกว่านั้น ก็ควรลดปริมาณลงบ้าง
สารบัญ
อาหารและเครื่องดื่มอะไรที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน?
แน่นอนว่า กาแฟ คือหนึ่งในนั้น โดยปริมาณคาเฟอีนในกาแฟแต่ละแก้วอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดเมล็ดกาแฟ วิธีการคั่ว วิธีการต้ม หรือชง รวมถึงขนาดของแก้วด้วย
ตัวอย่างเช่น เอสเปรสโซอาจมีปริมาณคาเฟอีนต่อออนซ์มากกว่ากาแฟประเภทอื่นๆ แต่หากอยู่ในแก้วขนาดเล็ก กาแฟชงสำเร็จที่มีปริมาณเต็มแก้วก็ย่อมมีคาเฟอีนมากกว่า
แต่หากคุณต้องการควบคุมการบริโภคคาเฟอีน ก็ควรระมัดระวังการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ด้วย เช่น ชา น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ช็อกโกแลต ไอศกรีมรสกาแฟ
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบางตัว หรือยาที่วางจำหน่ายทั่วไป ก็อาจมีคาเฟอีนผสมอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น ยาแก้ปวดศีรษะ ยาแก้หวัด ยาต้านภูมิแพ้ ดังนั้นก่อนรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม หรือใช้ยาใดๆ ก็ตามควรอ่านฉลากให้ดีก่อน
ปริมาณคาเฟอีนในอาหารและเครื่องดื่มชนิดต่างๆ
กาแฟ | ขนาด | ปริมาณคาเฟอีน |
กาแฟชงสำเร็จทั่วไป | 8 ออนซ์ | 95-200 มก. |
กาแฟชงสดของสตาร์บัคส์ | 16 ออนซ์ | 330 มก. |
กาแฟชงสดของดังกิ้นโดนัท | 16 ออนซ์ | 211 มก. |
กาแฟลาเต้ มิสโต หรือคาปูชิโนของสตาร์บัคส์ | 16 ออนซ์ | 150 มก. |
กาแฟลาเต้ มิสโต หรือคาปูชิโนของสตาร์บัคส์ | 12 ออนซ์ | 75 มก. |
กาแฟเอสเปรสโซของสตาร์บัคส์ | 1 ออนซ์ (1 ช็อต) | 75 มก. |
กาแฟเอสเปรสโซ จากเครื่องชงกาแฟ | 1 ออนซ์ (1 ช็อต) | 64 มก. |
กาแฟชงสำเร็จจากเครื่องชงกาแฟ | ผง 1 ช้อนชา | 31 มก. |
กาแฟคาเฟอีนต่ำ | 8 ออนซ์ | 2 มก. |
ชา | ขนาด | ปริมาณคาเฟอีน (มก.) |
ชาดำชงสำเร็จ | 8 ออนซ์ | 47 มก. |
ชาเขียวชงสำเร็จ | 8 ออนซ์ | 25 มก. |
ชาดำคาเฟอีนต่ำ | 8 ออนซ์ | 2 มก. |
ชาทีลาเต้ ของสตาร์บัคส์ | 16 ออนซ์ | 95 มก. |
ชาผง ปราศจากน้ำตาล | ผง 1 ช้อนชา | 26 มก. |
ชามะนาว | 16 ออนซ์ | 42 มก. |
ชาเย็นสำเร็จรูปของลิปตัน | 12 ออนซ์ | 5 มก. |
น้ำอัดลม | ขนาด (ออนซ์) | ปริมาณคาเฟอีน (มก.) |
โค้ก | 12 ออนซ์ | 35 มก. |
โค้กไดเอท | 12 ออนซ์ | 47 มก. |
เป๊ปซี่ | 12 ออนซ์ | 38 มก. |
เป๊ปซี่ไดเอท | 12 ออนซ์ | 36 มก. |
เมาเทนดิว | 12 ออนซ์ | 54 มก. |
7 อัพ | 12 ออนซ์ | 0 มก. |
สไปรท์ | 12 ออนซ์ | 0 มก. |
เครื่องดื่มชูกำลัง | ขนาด | ปริมาณคาเฟอีน |
กระทิงแดง | 8.3 ออนซ์ | 77 มก. |
เครื่องดื่มให้พลังงาน SoBe | 8 ออนซ์ | 48 มก. |
เครื่องดื่ม 5-Hour Energy | 2 ออนซ์ | 138 มก. |
จะลดการบริโภคคาเฟอีนลงได้อย่างไร?
หากคุณตัดสินใจลดการดื่มคาเฟอีนลง ให้ใช้วิธีค่อยๆ ลดอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันอาการถอนคาเฟอีน เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ โดยอาจเริ่มใช้วิธีดังนี้
เปลี่ยนไปดื่มกาแฟที่ชงอ่อนลง หรือเครื่องดื่มคาเฟอีนต่ำ หรือลดสัดส่วนคาเฟอีนในเครื่องดื่มร้อนลง โดยการเติมน้ำลงไปเจือจาง หรือใช้เวลาต้มให้น้อยลง
เช่น หากปกติคุณเริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าและชาแบบอังกฤษ จากที่เคยจุ่มถุงชาในน้ำเป็นเวลา 5 นาที ลองลดลงให้เหลือเพียง 1 นาที จะทำให้สัดส่วนคาเฟอีนลดลงมากกว่าครึ่ง
เมื่อคุณเริ่มชินกับการบริโภคคาเฟอีนน้อยๆ หรือสามารถงดคาเฟอีนได้แล้ว อาจเปลี่ยนมาดื่มนมอุ่นผสมไซรัปเล็กน้อยแทนการดื่มกาแฟ ซึ่งจะทำให้ได้รับแคลเซียมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย
ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. วรรณวนัช เสถียรธรรมมณี