ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ตรวจอะไรบ้าง การเตรียมตัว ขั้นตอน ราคา

ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจจาระเป็นเลือด ท้องอืด ท้องเฟ้อ ระบบขับถ่ายไม่ปกติ เป็นๆ หายๆ หรือเป็นติดต่อกันอย่างไม่ทราบสาเหตุ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณที่คุณควรส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัด

การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่คืออะไร เจ็บไหม มีวิธีเตรียมตัวและดูแลตนเองหลังตรวจอย่างไร อ่านสรุปข้อมูลแบบกระชับได้ที่นี่เลย

ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ คืออะไร?

การตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้อง (Colonoscopy) คือ การตรวจดูลักษณะหรือความผิดปกติภายในลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ส่วนต้นจนถึงส่วนปลาย รวมถึงลำไส้เล็กส่วนปลาย ผ่านการสอดกล้องที่มีลักษณะเป็นท่อขนาด 1 เซนติเมตรซึ่งสามารถโค้งงอได้เข้าทางทวารหนักของผู้ป่วย 

ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ใครควรตรวจบ้าง?

ผู้ที่ควรส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ โดยหลักๆ มีดังต่อไปนี้

• ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป สามารถรับการตรวจได้เลยโดยไม่ต้องรอให้มีอาการ เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่มักพบความผิดปกติที่ระบบทางเดินอาหารได้มากกว่าทั่วไป
• ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือโรคมะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมอื่นๆ ให้สังเกตว่า สมาชิกคนดังกล่าวเป็นโรคมะเร็งตอนอายุเท่าไร จากนั้นลบอายุด้วย 10 ซึ่งจะเป็นอายุที่ควรเริ่มส่องกล้องลำไส้ใหญ่ 
• น้ำหนักลดโดยไม่รู้สาเหตุ 
• อ่อนเพลียง่าย หรือตัวซีดโดยไม่รู้สาเหตุ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
• ท้องอืด รู้สึกหรืออึดอัดท้อง ท้องเฟ้อ 
• ปวดท้องเรื้อรังโดยไม่รู้สาเหตุ 
• ท้องผูกสลับท้องเสีย 
• ท้องผูกบ่อยอย่างผิดปกติ
• มีอาการถ่ายไม่สุดหลังถ่ายอุจจาระแต่ละครั้ง 
• ปวดเบ่งเวลาถ่าย 
• ถ่ายอุจจาระมีเลือดปนหรือถ่ายมีมูกเลือด 
• ถ่ายอุจจาระเป็นเม็ดเล็กๆ หรือถ่ายยาก 
• ขนาดอุจจาระลีบเล็กลง
• คลำพบก้อนในท้อง

ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ นานไหม ขั้นตอนเป็นอย่างไร?

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ใช้ระยะเวลาประมาณ 20-30 นาทีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรอยโรคที่แพทย์ต้องการตรวจ โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

• ผู้ป่วยขึ้นนอนบนเตียงในท่านอนตะแคงซ้าย งอเข่าขึ้นชิดกับอก
• แพทย์ให้ยานอนหลับและยาแก้ปวดแก่ผู้ป่วย เพื่อให้ไม่รู้สึกตัวและผ่อนคลายตลอดการตรวจ
• แพทย์สอดกล้องที่มีลักษณะเป็นท่อเข้าทางทวารหนักผู้ป่วย ภาพภายในลำไส้จะปรากฎขึ้นบนจอมอนิเตอร์ภายในห้องทำหัตถการ
• หลังตรวจเสร็จ ผู้ป่วยนอนพักฟื้นเพื่อสังเกตอาการต่อ 1-2 ชั่วโมง หากไม่มีสัญญาณภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ก็สามารถกลับบ้านได้เลย

ส่องกล้องลำไส้ใหญ่นานไหม เจ็บไหม?

ระหว่างที่ตรวจส่องกล้อง ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกตัว เมื่อตื่นขึ้นอาจรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายตัวบริเวณท้องน้อยหรือทวารหนักได้บ้าง แต่จะไม่ใช่ความรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรง และอาการก็จะค่อยๆ ทุเลาจนหายไปเอง

การเตรียมตัวก่อนส่องกล้องลำไส้ใหญ่

• แจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติโรคประจำตัว และยาประจำตัวทุกชนิดให้แพทย์ทราบล่วงหน้าก่อนการส่องกล้อง 
• งดน้ำและงดอาหาร 6-8 ชั่วโมงล่วงหน้าก่อนการส่องกล้อง
• 2 วันก่อนส่องกล้อง ให้งดกินผักผลไม้ หรืออาหารที่มีกากใยสูง แนะนำให้กินอาหารอ่อนๆ เพื่อเตรียมลำไส้ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ไข่ เนื้อปลา เต้าหู้ น้ำหวานไม่มีสี
• งดเครื่องดื่มแอลกออล์ในวันส่องกล้อง
• กินยาระบายตามที่แพทย์สั่งจ่ายให้ล่วงหน้าตามที่แพทย์แนะนำ
• ถอดเครื่องประดับ ฟันปลอม เล็บปลอม รวมถึงล้างเล็บ และงดแต่งหน้าในวันส่องกล้อง
• ควรพาญาติมาด้วยในวันส่องกล้องเพื่อพาผู้ป่วยกลับบ้าน

การดูแลตนเองหลังส่องกล้องลำไส้ใหญ่

• งดกินอาหารและงดดื่มน้ำระหว่างนอนพักฟื้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง
• งดขับรถเอง งดการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรหรือสารเคมีอันตรายในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังส่องกล้อง เนื่องจากยังอยู่ในช่วงที่ยังมีอาการง่วงซึมจากยานอนหลับ
• งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังส่องกล้อง
• งดออกกำลังกายและงดทำกิจกรรมที่ออกแรงมากในช่วง 1-2 วันแรก
• กินยาตามที่แพทย์สั่งจ่ายให้อย่างเคร่งครัด

ผลข้างเคียงหลังส่องกล้องลำไส้ใหญ่

• อาการข้างเคียงจากการดมยา เช่น คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย ง่วงซึม
• อาการข้างเคียงที่พบได้ตามปกติ และจะทุเลาลงไปเอง ได้แก่
  • อาการแน่นท้อง ท้องอืด
  • เรอและผายลมมากกว่าปกติ แต่จะช่วยให้อาการแน่นท้องเบาลงได้ด้วย
  • เจ็บท้องน้อยได้เล็กน้อย
  • เจ็บหรือระคายเคืองทวารหนัก
  • อุจจาระมีเลือดปนได้เล็กน้อย
• ผลข้างเคียงที่ควรเดินทางกลับมาพบแพทย์โดยทันที ได้แก่
  • เวียนศีรษะ
  • หนาวสั่น มีไข้สูง
  • คลื่นไส้และอาเจียนอย่างต่อเนื่อง
  • อาเจียนหรือขากเสมหะเป็นเลือด
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง
  • มีอาการสับสนอย่างต่อเนื่อง
  • มีเลือดสดไหลออกมาในปริมาณมาก ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที

ค่าใช้จ่ายในการส่องกล้องลำไส้ใหญ่

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 12,500 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล

การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เป็นการตรวจที่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีอาการบ่งชี้ตามที่กล่าวไปข้างต้น รวมถึงผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ที่แม้ไม่มีอาการผิดปกติ แต่ก็ควรเข้ารับการตรวจคัดกรอง เพราะหากพบความผิดปกติหรือสัญญาณของโรคที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ จะได้วางแผนการรักษาได้ทันที และยิ่งรู้เร็ว โอกาสรักษาหายก็สูงขึ้น

อยากส่องกล้องลำไส้ใหญ่เพื่อตรวจเช็กสุขภาพทางเดินอาหาร แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ทางเดินอาหารส่วนปลาย จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย