Default fallback image

ผ่าตัดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ กับ ผศ.พญ. พัทยา ด้วยบริการจาก HDcare

ใครที่ยังสงสัยว่า ช็อกโกแลตซีสต์คืออะไร? เกิดจากสาเหตุใด? มีอาการแบบไหน? แนวทางการรักษาเป็นอย่างไรบ้าง?

มาเจาะลึกเกี่ยวกับการรักษาช็อกโกแลตซีสต์ หรือที่เรียกได้อีกชื่อว่า “โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่” อีกหนึ่งโรคทางนรีเวชที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์

ให้ข้อมูลโดยหมอไต๊ ผศ.พญ. พัทยา เฮงรัศมี สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์เชิงกรานสตรี การศัลยกรรมซ่อมเสริม รวมถึงเป็นแพทย์ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช หนึ่งในทีมแพทย์จากบริการ HDcare

อ่านประวัติหมอไต๊ได้ที่นี่ [รู้จัก “หมอไต๊” สูตินรีแพทย์ เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์เชิงกรานสตรี การศัลยกรรมซ่อมเสริม และการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช]

สารบัญ

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร?

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือที่หลายคนเรียกว่า “ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst)” เกิดจากเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่ยังมีชีวิตและหลุดลอกเป็นเลือดประจำเดือน แต่ไม่ได้ไหลออกมาทางช่องคลอด และย้อนกลับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ของอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น ท่อนำไข่ รังไข่ ด้านหลังมดลูก ในอุ้งเชิงกราน ในกล้ามเนื้อมดลูก 

หลังจากนั้นเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกดังกล่าวก็จะเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และก่อให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรัง จนนำมาสู่ที่มาและอาการไม่พึงประสงค์ของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นั่นเอง เช่น

  • ปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง และมักรุนแรงในระดับที่คนไข้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ ต้องลางาน นอนห้องพยาบาล หรือหากกินยาแก้ปวด แต่อาการก็มักไม่ดีขึ้น 
  • รู้สึกเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์
  • มีอาการท้องผูก ท้องเสีย ถ่ายอุจจาระลำบากในช่วงก่อนมีประจำเดือน พบได้ในคนไข้ที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ใกล้ ๆ ลำไส้
  • ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน พบได้ในคนไข้ที่เยื่อบุโพรงมดลูกลุกลามไปเจริญเติบโตในกระเพาะปัสสาวะ บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นปัสสาวะเป็นเลือด
  • เกิดภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากเยื่อบุโพรงมดลูกสามารถทำให้ท่อนำไข่คดงอหรือทำให้มดลูกโตจนตัวอ่อนฝังตัวได้ยากขึ้น

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ชนิดฝังลึกคืออะไร?

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ชนิดฝังลึก หมายถึง ภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดตำแหน่งและได้ฝังลึกลงไปที่ตำแหน่งดังกล่าว จนทำให้เกิดพังผืดยึดติดกับอวัยวะข้างเคียงไปด้วย เช่น ลำไส้เกิดพังผืดติดกับมดลูก ลำไส้เกิดพังผืดติดกับท่อไต ท่อไตเกิดพังผืดติดกับบริเวณที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

วิธีตรวจความผิดปกติของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

  • ซักประวัติและอาการผิดปกติกับแพทย์
  • ตรวจภายในเพื่อดูความผิดปกติในอวัยวะสืบพันธุ์ โดยสามารถตรวจได้ทั้งทางช่องคลอด และทางทวารหนักในคนไข้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
  • ตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด หรือทางทวารหนักในคนไข้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ โดยแพทย์จะสอดหัวอัลตราซาวด์ผ่านช่องทางที่เลือกตรวจเพื่อให้เห็นพยาธิสภาพภายในอวัยวะสืบพันธุ์ได้อย่างชัดเจน
  • ตรวจ MRI แต่วิธีนี้จะนิยมตรวจในคนไข้ที่มีข้อบ่งชี้ว่า เยื่อบุโพรงมดลูกอาจเจริญผิดที่และกินลึกเข้าไปถึงด้านในอวัยวะอื่น ๆ เช่น ลำไส้หรือท่อไต

รักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ทำได้กี่วิธี?

การรักษาจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ ซึ่งแบ่งออกได้หลัก ๆ ทั้งหมด 3 วิธี ได้แก่

  • การเฝ้าสังเกตอาการ 
  • การใช้ยาเพื่อลดอาการปวดท้อง นิยมใช้ในคนไข้ที่ไม่ต้องการมีบุตรหรือมีบุตรเพียงพอแล้ว เนื่องจากยารักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่จะทำให้คนไข้ไม่มีประจำเดือนเพื่อป้องกันอาการปวดท้องประจำเดือน จัดเป็นอีกยาคุมกำเนิดในอีกรูปแบบหนึ่ง 
  • การผ่าตัด นิยมใช้ในคนไข้ที่ยังต้องการมีบุตร โดยเทคนิคการผ่าตัดที่ใช้เป็นมาตรฐานปัจจุบัน คือ การผ่าตัดส่องกล้องทางหน้าท้อง ซึ่งมีจุดเด่นด้านแผลที่เล็กกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ทำให้คนไข้เจ็บแผลน้อย เสียเลือดได้น้อยกว่า และฟื้นตัวได้เร็ว

การผ่าตัดส่องกล้องทางหน้าท้องเพื่อรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มีข้อได้เปรียบอย่างไร?

  • ขนาดแผลผ่าตัดเล็กกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ทำให้คนไข้เจ็บแผลน้อยกว่า เสียเลือดน้อยกว่า ฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็ว และยังทำให้มีโอกาสติดเชื้อที่แผลได้น้อยกว่าด้วย
  • กล้องสำหรับผ่าตัดเป็นกล้องที่มีกำลังขยายสูง ทำให้มองเห็นพยาธิสภาพของโรคได้ชัดเจนและละเอียดกว่าการมองเห็นด้วยตาเปล่า 
  • แพทย์สามารถใช้กล้องผ่าตัดส่องดูพยาธิสภาพในตำแหน่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยการผ่าตัดแบบเปิดได้ เนื่องจากการผ่าตัดแบบเปิดแผลทางหน้าท้องเป็นการผ่าเปิดแผลที่ทำให้แพทย์มองเห็นเพียงด้านหน้าของมดลูกเท่านั้น

แต่หากใช้กล้องผ่าตัดในการรักษาโรคก็จะสามารถมองเห็นทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้ทั้งหมด ทำให้รักษาโรคได้อย่างหมดจดและครอบคลุมทุกบริเวณ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่ออวัยวะข้างเคียง โดยเฉพาะท่อไตและลำไส้

การผ่าตัดแบบส่องกล้องช่วยรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ชนิดกินลึกได้อย่างไร?

การผ่าตัดแบบส่องกล้องสามารถช่วยให้แพทย์สามารถตัดก้อนเยื่อบุโพรงมดลูก และเลาะพังผืดเพื่อแยกอวัยวะที่ยึดติดกันอยู่ออกได้หมดจดและแม่นยำ 

อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดรูปแบบนี้จำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เนื่องจากจะต้องอาศัยความชำนาญในการส่องดูอวัยวะต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบต่อเยื่อบุโพรงมดลูกอย่างละเอียด และสามารถผ่าตัดรักษาโรคได้โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับอวัยวะข้างเคียง

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ รักษาแล้วเป็นซ้ำได้หรือไม่?

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เป็นโรคที่ตอบสนองต่อฮอร์โมนของรังไข่ ดังนั้นโรคนี้จึงไม่สามารถหายขาดได้ ตราบใดที่คนไข้ยังมีประจำเดือนอยู่ ทางเดียวที่จะหยุดโอกาสเกิดโรคนี้ได้ คือ คนไข้เข้าสู่วัยทองหรือมีการผ่าตัดเพื่อตัดมดลูกและรังไข่ออก ทำให้ไม่มีประจำเดือนอีก

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ป้องกันได้หรือไม่?

วิธีป้องกันโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แบ่งออกได้ 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่

  • การใช้ยาฮอร์โมน เหมาะกับคนไข้ที่ยังไม่ต้องการมีบุตรหรือมีบุตรพอแล้ว โดยสามารถกินยาเพื่อให้โรคสงบได้ไปจนกว่าจะถึงวัยหมดประจำเดือนหรืออยากกลับมามีบุตรอีก
  • การผ่าตัดนำมดลูกและรังไข่ออก เหมาะกับคนไข้ที่ไม่มีแผนจะมีบุตรอีกอย่างแน่นอน และไม่ต้องการมีประจำเดือนเพื่อให้เกิดความเสี่ยงโรคนี้อีก 

หลังผ่าตัดส่องกล้องทางหน้าท้อง ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?

  1. ในระหว่างผ่าตัด แพทย์จะใส่แก๊สคาร์บอนได้ออกไซต์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการผ่าตัดภายในช่องท้อง และหลังผ่าตัดก็จะระบายแก๊สส่วนนี้ออก ซึ่งโดยทั่วไปจะยังมีปริมาณแก๊สบางส่วนหลงเหลืออยู่ ทำให้คนไข้มักมีอาการระคายเคืองกระบังลม และมีอาการเจ็บไหล่หรือเจ็บสะบัก อย่างไรก็ตาม อาการส่วนนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการกินยาแก้ปวด และฝึกหายใจเข้าออกเพื่อระบายแก๊สดังกล่าวออกทางลมหายใจ หากทำอย่างสม่ำเสมอ อาการก็จะหายดีภาย 1-2 วันหลังผ่าตัด
  2. คนไข้ยังต้องหลีกเลี่ยงการยกของหนักและงดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก ส่วนกิจวัตรทั่วไป เช่น ลุกเดิน เข้าห้องน้ำ ทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงหนัก สามารถทำได้ตามปกติ ไม่มีข้อห้าม
  3. สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ เนื่องจากแพทย์จะปิดแผลแบบกันน้ำให้หลังผ่าตัด
  4. หลีกเลี่ยงอย่าให้เกิดอาการไอเรื้อรังหรืออาการท้องผูกซึ่งเป็นอาการที่ทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องและทำให้เจ็บแผลมากขึ้น
  5. ควรงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหายเจ็บแผล แต่ในกรณีที่ผ่าตัดมดลูกด้วยก็อาจต้องงดนาน 2-3 เดือน เนื่องจากคนไข้จะมีแผลภายในช่องคลอดซึ่งต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง แผลจึงจะสมานตัวดี 

ผ่าตัดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ กับ ผศ.พญ. พัทยา ด้วยบริการจาก HDcare

หากปวดท้องประจำเดือนผิดปกติ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก เจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์ รู้สึกไม่สบายใจและอยากปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อแอดมิน HDcare เพื่อนัดหมายพูดคุยกับแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือนัดปรึกษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านคุณได้เลย

และหากได้รับการวินิจฉัยให้ทำการผ่าตัด ก็สามารถจองบริการผ่าตัดจาก HDcare ได้เช่นกัน มีแอดมินคอยประสานงาน มีพยาบาลผู้ช่วยคอยอยู่เป็นเพื่อนในทุกขั้นตอนที่โรงพยาบาล สงสัยหรือกังวลเรื่องอะไรก็สอบถามได้อย่างสะดวก 

สอบถามทุกประเด็นเกี่ยวกับการผ่าตัดที่สงสัย กับทางทีมของ HDcare จนกว่าจะมั่นใจ และหากต้องการผู้ช่วยประสานงานด้านใดในโรงพยาบาล หรืออยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการ HDcare สามารถพูดคุยผ่านทางไลน์ @HDcare ได้เลย

Scroll to Top