ยา Trazodone เป็นยาสำหรับรักษาโรคซึมเศร้า (Depression) ออกฤทธิ์โดยการปรับสมดุลของสารเคมีตามธรรมชาติในสมอง ได้แก่ สารซีโรโทนิน (Serotonin) อาจช่วยให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น ช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และเพิ่มระดับพลังงานให้กับคุณ และยังช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลและอาการนอนไม่หลับที่สัมพันธ์กับโรคซึมเศร้าด้วย
สารบัญ
สรรพคุณของยา Trazodone
- รักษาภาวะซึมเศร้า (Depression): ใช้ในการรักษาอาการของภาวะซึมเศร้า เช่น อารมณ์เศร้า ความรู้สึกสิ้นหวัง และความไม่สนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ
- บรรเทาอาการนอนไม่หลับ (Insomnia): ใช้เป็นยาช่วยในการนอนหลับสำหรับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย
- บรรเทาอาการวิตกกังวล (Anxiety): อาจใช้เพื่อบรรเทาอาการวิตกกังวลในบางกรณี
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Trazodone
Trazodone ทำงานโดยการเพิ่มระดับของเซโรโทนิน (serotonin) ในสมอง ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่มีบทบาทในการควบคุมอารมณ์และการนอนหลับ นอกจากนี้ยังมีผลในการปิดกั้นตัวรับของเซโรโทนินบางตัว ทำให้ช่วยลดอาการซึมเศร้าและอาการนอนไม่หลับ
วิธีใช้ยา Trazodone
- อ่านคำแนะนำในการใช้ยาที่ได้รับจากเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ และในทุกครั้งที่มารับยาซ้ำ หากมีคำถามใดๆ ให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกร
- โดยทั่วไปจะรับประทานยานี้วันละ 1 หรือ 2 ครั้งหลังอาหาร หรือหลังของว่าง หรือรับประทานตามแพทย์สั่ง หากพบอาการง่วงนอนระหว่างใช้ยา และคุณรับประทานยานี้วันละ 1 ครั้ง ให้เปลี่ยนไปรับประทานยาก่อนนอนแทน แต่ถ้าคุณรับประทานยานี้วันละ 2 ครั้ง ให้มี 1 มื้อที่รับประทานก่อนนอน ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการได้ โดยให้ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ยาของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ขนาดยาที่คุณได้รับจะขึ้นกับสภาวะโรคและการตอบสนองต่อการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงจากยา แพทย์อาจให้คุณเริ่มยาด้วยขนาดต่ำก่อนและค่อยๆ ปรับขนาดยาขึ้น
- คุณต้องรับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง ห้ามปรับเพิ่มขนาดยา หรือใช้ยาบ่อยครั้งกว่าที่แพทย์สั่ง เพราะไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นเร็วกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสเกิดอาการข้างเคียงจากยาอีกด้วย
- คุณจะต้องรับประทานยานี้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อไม่ให้ลืมรับประทานยา แนะนำให้รับประทานในเวลาเดียวกันของทุกวัน ห้ามหยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ การหยุดยากะทันหันอาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวล, กระสับกระส่าย และมีปัญหาในการนอนหลับได้
- ในการใช้ยานี้อาจใช้เวลา 2 – 4 สัปดาห์ ก่อนจะเห็นผลจากการรักษาเต็มที่ ให้แจ้งแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง
ผลข้างเคียงของยา Trazodone
- อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา Trazodone ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ง่วงนอน เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงไป ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปากแห้ง รู้สึกถึงรสชาติผิดปกติในปาก คัดจมูก ท้องผูก หรือมีความสนใจทางเพศ/ความสามารถทางเพศเปลี่ยนแปลงไป ถ้าอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
- เพื่อบรรเทาอาการปากแห้ง ให้อมลูกอมชนิดน้ำตาลน้อย หรือน้ำแข็งก้อนเล็กๆ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งชนิดน้ำตาลน้อย ดื่มน้ำมากๆ หรือใช้ลำลายเทียม
- เพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการเวียนศีรษะและหน้ามืด ให้ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ เมื่อต้องเปลี่ยนจากท่านั่งหรือท่านอน
- โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
แจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง
- ตัวสั่น
- ฝันร้าย
- ได้ยินเสียงผิดปกติในหู
- ปัสสาวะลำบาก
- มีเลือดในปัสสาวะ
- มีอาการของการติดเชื้อ เช่น มีไข้ เจ็บคอ
- หายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก
- ปวดท้อง
ให้รีบไปพบแพทย์ทันที หากคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงมาก
- เจ็บหน้าอก ซึ่งอาจร้าวไปที่ขากรรไกร แขนซ้าย
- หน้ามืด
- หัวใจเต้นเร็ว/หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- มีอาการชัก
- ปวดตา ตาบวม ตาแดง
- รูม่านตาขยาย
- การมองเห็นผิดปกติ เช่น มองเห็นรุ้งรอบแสงไฟตอนกลางคืน
ยา Trazodone อาจเพิ่มปริมาณสารสื่อประสาท Serotonin ซึ่งอาจก่อให้เกิดกลุ่มอาการที่ร้ายแรงได้ (พบได้น้อย) ซึ่งก็คือกลุ่มอาการซีโรโตนิน หรือ ซีโรโตนินเป็นพิษ (Serotonin syndrome/toxicity) โดยความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้จะเพิ่มขึ้นถ้าคุณใช้ยาอื่นที่เพิ่มปริมาณสาร Serotonin ในร่างกายร่วมด้วย ดังนั้นคุณต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับรายการยาทุกรายการที่กำลังใช้อยู่ และไปพบแพทย์ทันที ถ้ามีอาการใดๆ ดังนี้: หัวใจเต้นเร็ว ประสาทหลอน สูญเสียการประสานงานกันของร่างกาย เวียนศีรษะอย่างรุนแรง คลื่นไส้/อาเจียน/ท้องเสียอย่างรุนแรง กล้ามเนื้อกระตุก มีไข้อย่างไม่ทราบสาเหตุ กระสับกระส่าย กระวนกระวายผิดปกติ
ที่พบได้น้อย ผู้ชายอาจมีอาการปวดที่อวัยวะเพศ หรืออวัยวะเพศแข็งตัวนานตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป ถ้ามีอาการนี้เกิดขึ้น ให้หยุดใช้ยา และไปพบแพทย์ทันที ซึ่งอาการข้างเคียงนี้อาจเป็นเรื้อรังได้หากยังใช้ยาต่อไป
ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ ผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ) เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก
อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวังในการใช้ยา Trazodone
ถ้าคุณแพ้ยา Trazodone หรือแพ้ยา Nefazodone หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนการใช้ยา Trazodone ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณ
- ตนเองหรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคไบโพลาร์ (อารมณ์แปรปรวน 2 ขั้ว)
- ตนเองหรือคนในครอบครัวมีประวัติพยายามฆ่าตัวตาย
- เป็นโรคหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด
- เป็นโรคตับ
- เป็นโรคไต
- มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิต
- ตนเองหรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคต้อหินชนิดมุมปิด
ยา Trazodone อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงนอน หรือตาพร่ามัว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้คุณมีอาการวิงเวียนศีรษะหรือง่วงนอนได้มากขึ้น ห้ามขับรถ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องอาศัยการตื่นตัว หรือการมองเห็นที่ชัดเจน จนกว่าคุณจะทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย และแนะนำให้จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
ยา Trazodone อาจเป็นสาเหตุของหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิดคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาว (QT prolongation) หัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด QT prolongation เป็นสภาวะที่พบได้น้อยแต่ร้ายแรง (อาจทำให้เสียชีวิตได้) ผู้ป่วยจะมีอาการหัวใจเต้นเร็ว หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ และมีอาการอื่นๆ เช่น เวียนศีรษะรุนแรง หน้ามืด ซึ่งต้องรีบทำการรักษาทันที
ความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิด QT prolongation อาจเพิ่มขึ้นในผู้ที่มีโรคบางโรค หรือกำลังใช้ยาบางชนิดที่อาจเป็นสาเหตุของ QT prolongation อยู่แล้ว ดังนั้นก่อนใช้ยา Trazodone คุณต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ รวมถึงหากเป็นโรคดังต่อไปนี้ โรคหัวใจบางชนิด (หัวใจวาย, หัวใจเต้นช้า, พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาวจากการตรวจ EKG), มีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจบางชนิด (พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาวจากการตรวจ EKG, คนในครอบครัวเสียชีวิตจากหัวใจวาย)
การที่ร่างกายมีระดับโพแทสเซียม (Potassium) หรือ แมกนีเซียม (Magnesium) ในเลือดต่ำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด QT prolongation โดยความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นถ้าคุณใช้ยาบางชนิด (เช่น ยาขับปัสสาวะ) หรือมีอาการเหงื่อออกรุนแรง ท้องเสีย หรืออาเจียน ดังนั้นให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีในการใช้ยา Trazodone อย่างปลอดภัย
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่
ผู้สูงอายุอาจเกิดอาการข้างเคียงจากยาได้มากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะอาการง่วงนอน เวียนศีรษะ และหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด QT prolongation
ระหว่างการตั้งครรภ์ ยานี้ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นจริงๆ โดยให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์
เนื่องจากโรคทางจิตเวชที่ไม่ได้รับการรักษา เช่น โรคซึมเศร้า อาจเป็นปัญหาที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นจึงห้ามหยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ ถ้าคุณกำลังวางแผนจะตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ หรือคิดว่าตนเองอาจจะตั้งครรภ์ ให้รีบปรึกษาแพทย์ถึงประโยชน์และความเสี่ยงของการใช้ยานี้ระหว่างตั้งครรภ์ทันที
ยา Trazodone ผ่านไปยังน้ำนมได้ จึงให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร
คำเตือนในการใช้ยา Trazodone
ยาต้านเศร้า (Antidepressant medications) เป็นยาที่ใช้รักษาโรคได้หลายโรค ได้แก่ โรคซึมเศร้า และโรคเกี่ยวกับความผิดปกติทางจิตใจ/ความผิดปกติทางอารมณ์ (Mental/Mood disorders) โดยยาเหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้มีความคิดฆ่าตัวตาย/พยายามฆ่าตัวตาย และยังมีประโยชน์ที่สำคัญอื่นๆ กับตัวผู้ป่วยที่ใช้ยา อย่างไรก็ตามมีข้อมูลพบผู้ป่วยจำนวนน้อย (โดยเฉพาะผู้ที่อายุน้อยกว่า 25 ปี) ซึ่งใช้ยาต้านเศร้าสำหรับโรคใดๆ ก็ตาม อาจมีอาการซึมเศร้าแย่ลง มีอาการทางสภาวะจิตใจ/อารมณ์ หรือมีความคิดฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตาย ดังนั้นสิ่งสำคัญมากๆ คือต้องปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับจากยาต้านเศร้า (โดยเฉพาะในผู้ที่อายุน้อยกว่า 25 ปี) แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ยานี้สำหรับโรคทางจิตใจ หรืออารมณ์ก็ตาม
แจ้งแพทย์ทันที หากคุณมีอาการซึมเศร้าแย่ลง หรือมีอาการทางจิตที่แย่ลง มีพฤติกรรมผิดปกติไป (รวมถึงความคิดฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตาย) หรือมีความเปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจ อารมณ์ (มีอาการวิตกกังวล หรือวิตกกังวลมากกว่าเดิม ตื่นตระหนก มีปัญหาในการนอนหลับ หงุดหงิด ฉุนเฉียว รู้สึกเกลียด รู้สึกโกรธ มีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น กระวนกระวายใจอย่างรุนแรง พูดเร็วมาก โดยให้สังเกตอาการเหล่านี้เป็นพิเศษในช่วงเริ่มใช้ยาต้านเศร้า หรือเมื่อมีการปรับขนาดยา
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยา Trazodone
สภาวะต่อไปนี้ถือเป็นข้อห้ามในการใช้ยา Trazodone ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้
- กลุ่มอาการของการหลั่งฮอร์โมนต้านการขับปัสสาวะไม่เหมาะสม (Syndrome of Inappropriate Antidiuretic Hormone Secretion)
- มีระดับแมกนีเซียม (Magnesium) ในเลือดต่ำ
- มีระดับโซเดียม (Sodium) ในเลือดต่ำ
- มีระดับโพแทสเซียม (Potassium) ในเลือดต่ำ
- มีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกมากกว่าปกติ
- มีความคิดฆ่าตัวตาย
- เป็นกลุ่มอาการซีโรโตนิน (Serotonin syndrome)-การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา
- เป็นโรคต้อหินมุมปิด
- มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
- หัวใจเต้นเร็วชนิด Torsades de Pointes
- พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาวจากการตรวจ EKG
- เป็นโรคหัวใจ
- คลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ผิดปกติแต่กำเนิด
- ความดันโลหิตต่ำขณะลุกขึ้นยืน
- อวัยวะเพศแข็งตัวค้างซึ่งมีอาการปวด
- เป็นโรคอวัยวะเพศชายโค้งงอ (Peyronie’s disease)
- อวัยวะเพศชายงอขณะแข็งตัว
- มีพังผืดเกิดในอวัยวะเพศชาย
- เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อหินมุมปิด
- แพ้ยา Trazodone
- แพ้ยาต้านเศร้าประเภท Phenylpiperazine
การใช้ยา Trazodone ร่วมกับยาอื่น
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
รายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา Trazodone
- Digoxin
การใช้ยาในกลุ่ม MAO Inhibitors ร่วมกับยา Trazodone อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่ร้ายแรงได้ (อาจทำให้เสียชีวิตได้) จึงต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยาในกลุ่ม MAO Inhibitors (Isocarboxazid, Linezolid, Methylene Blue, Moclobemide, Phenelzine, Procarbazine, Rasagiline, Safinamide, Selegiline, Tranylcypromine) ระหว่างใช้ยา Trazodone โดยยาในกลุ่ม MAO Inhibitors ส่วนใหญ่ ควรเว้นระยะห่างไม่ใช้ร่วมกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังใช้ยา Trazodone โดยให้ปรึกษาแพทย์ว่าเมื่อใดควรเริ่มยาหรือหยุดยา Trazodone
ยาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการกำจัดยา Trazodone ออกจากร่างกาย อาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา Trazodone ด้วย เช่น
- ยาต้านเชื้อราในกลุ่ม Azole เช่น Itraconazole, Ketoconazole
- ยาต้านเอชไอวีในกลุ่ม HIV protease inhibitors เช่น Ritonavir, Indinavir
- ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Macrolide เช่น Erythromycin
- ยากลุ่ม Rifamycins เช่น Rifampicin
- ยาที่ใช้รักษาอาการชัก เช่น Phenytoin
ความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการซีโรโตนิน หรือ ซีโรโตนินเป็นพิษ (Serotonin syndrome/toxicity) จะเพิ่มขึ้นถ้าคุณใช้ยาอื่นที่เพิ่มปริมาณสารสื่อประสาท Serotonin ในร่างกาย ตัวอย่างเช่น
- สมุนไพร St. John’s wort
- ยาต้านเศร้าบางชนิด (ยาในกลุ่ม SSRIs เช่น Fluoxetine/Paroxetine, ยาในกลุ่ม SNRIs เช่น Duloxetine/Venlafaxine)
โดยความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการซีโรโตนิน หรือ ซีโรโตนินเป็นพิษอาจเพิ่มมากขึ้นเมื่อเริ่มใช้ยาหรือเมื่อปรับเพิ่มขนาดยา
แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณกำลังใช้ยา/ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ง่วงนอน เช่น
- แอลกอฮอล์
- ยาต้านฮีสตามีน (เช่น Cetirizine, Diphenhydramine)
- ยานอนหลับ หรือยารักษาอาการวิตกกังวล (เช่น Alprazolam, Diazepam, Zolpidem)
- ยาคลายกล้ามเนื้อ
- ยาแก้ปวดที่อาจทำให้เสพติดได้ (เช่น Codeine)
อ่านฉลากยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ (เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ แก้หวัด) เพราะยาเหล่านี้อาจมีส่วนประกอบที่ทำให้ง่วงนอนได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีในการใช้ยาเหล่านี้อย่างปลอดภัย
การได้รับยา Trazodone เกินขนาด
- หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา Trazodone เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
- อาการของการได้รับยาเกินขนาดอาจได้แก่ ปวดอวัยเพศชายขณะแข็งตัว หรืออวัยวะเพศชายแข็งตัวค้าง ง่วงนอนผิดปกติ เวียนศีรษะผิดปกติ อาเจียน หายใจลำบาก มีอาการชัก
หากลืมรับประทานยา Trazodone
ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
การเก็บรักษายา Trazodone
- เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำ เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก