Tea Tree Oil - ข้อมูล วิธีใช้ ผลข้างเคียง
- ปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับยา ทั้งชนิดของยา การใช้ยาอย่างเหมาะสม และข้อควรระวังของยา
- เภสัชกรจะถือว่า ประวัติสุขภาพและข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณให้มาเป็นข้อมูลจริง และใช้ข้อมูลนั้นประกอบการให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ระหว่างคุณกับเภสัชกรในหน้าแชทส่วนตัวเท่านั้น
- HDmall.co.th จะติดต่อร้านขายยาที่ใกล้ที่สุด ให้คุณปรึกษาและใช้บริการจัดส่งยาจากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตโดยตรง
- HDmall.co.th ไม่ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยตรง รวมถึงไม่ได้กระทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทั้งหมดในหน้านี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น
- 🤝 สนใจเป็นหนึ่งในร้านขายยาที่ช่วยให้คำปรึกษาผู้ใช้ด้านยาหรือไม่? สมัครและใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
รายละเอียด
ข้อมูลภาพรวมของทีทรีออยล์
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil) คือน้ำมันที่นำมาจากใบของต้นทีทรี (tea tree) ซึ่งเป็นต้นไม้ที่โตในพื้นที่บึงน้ำในแถบออสเตรเลียตะวันออกเฉียงใต้และได้รับการตั้งชื่อโดยกะลาสีในศตวรรษที่สิบแปดคนหนึ่งที่นำใบของต้นไม้นี้มาใช้ทำชา ต้นไม้ทีทรีไม่เหมือนกับต้นชาที่มีการนำใบมาทำชาเขียวและชาดำ
ทีทรีออยล์ถูกนำมาใช้ทาเฉพาะที่บนผิวหนังสำหรับภาวะติดเชื้ออย่างสิว, ภาวะติดเชื้อราที่เล็บ (onychomycosis), เหา (lice), หิด (scabies), โรคน้ำกัดเท้า (athlete's foot (tinea pedis)), และโรคกลาก (ringworm) อีกทั้งยังใช้ทาภายนอกเป็นยาฆ่าเชื้อสำหรับแผลบาด, สำหรับแผลไหม้, แมลงกัดต่อย, แผลน้ำร้อนลวก, การติดเชื้อที่ช่องคลอด, โรคเริมซ้ำซาก, อาการปวดฟัน, การติดเชื้อที่ปากและลำคอ, อาการเจ็บคอ, และรักษาภาวะติดเชื้อที่หูอย่างโรคหูชั้นกลางอักเสบ (otitis media) กับหูชั้นนอกอักเสบ (otitis externa)
บางคนยังใช้วิธีใส่ทีทรีออยล์ลงในอ่างอาบน้ำเพื่อรักษาอาการไอ, อาการคัดจมูก, และการอักเสบของปอด
ทีทรีออยล์ออกฤทธิ์อย่างไร?
สารเคมีในทีทรีออยล์อาจช่วยกำจัดแบคทีเรียและเชื้อรา และลดปฏิกิริยาแพ้บนผิวหนังได้
การใช้และประสิทธิภาพของทีทรีออยล์
ภาวะที่อาจใช้ทีทรีออยล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สิวระดับอ่อนถึงปานกลาง การทาเจลทีทรีออยล์ 5% บนผิวมักจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการใช้ 5% benzoyl peroxide (Oxy-5, Benzac AC, และอื่น ๆ) ในการรักษาสิว โดยทีทรีออยล์อาจออกฤทธิ์ช้ากว่า benzoyl peroxide มากแต่ก็มักจะทำให้ผิวหนังระคายเคืองน้อยกว่า เมื่อทาทีทรีออยล์บนผิวหนังสองครั้งต่อวันนาน 45 วันจะช่วยลดอาการจากสิวได้อย่างอย่างรวมไปถึงลดความรุนแรงของสิวอีกด้วย
- ภาวะติดเชื้อราที่เล็บ (onychomycosis) การทาสารละลายทีทรีออยล์ 100% ที่เล็บสองครั้งต่อวันนาน 6 เดือนสามารถรักษาการติดเชื้อที่เล็บได้โดยมีรายงานผู้ใช้งานและได้ผลที่ 18% อีกทั้งน้ำมันชนิดนี้ยังช่วยปรับรูปลักษณ์ของเล็บและอาการของโรคได้ประมาณ 56% หลังใช้งานไปแล้วหกเดือน อีกทั้งทีทรีออยล์ยังมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการใช้สารละลาย clotrimazole 1% (Fungoid, Lotrimin, Lotrimin AF) สองครั้งต่อวันอีกด้วย การใช้ทีทรีออยล์ในระดับความเข้มข้นที่ต่ำกว่านั้นมักจะไม่มีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างจากรณีการใช้ครีมทีทรีออยล์ 5% สามครั้งต่อวันนาน 2 เดือนไม่ได้ส่งผลต่อภาวะติดเชื้อนี้แต่อย่างใด เป็นต้น
- โรคน้ำกัดเท้า (Athlete's foot (tinea pedis)) การทาครีมทีทรีออยล์ 10% จะออกฤทธิ์ได้ดีเท่ากับการใช้ครีม tolnaftate 1% (Genaspor, Tinactin, Ting, และอื่น ๆ) ซึ่งช่วยบรรเทาอาการผิวลอก, อักเสบ, คัน, และแสบร้อนได้ อย่างไรก็ตามการใช้ครีมทีทรีออยล์ 10% นั้นไม่อาจรักษาการติดเชื้อของโรคนี้ได้นอกจากการใช้ทีทรีออยล์ที่ 25 หรื 50% อาจช่วยทั้งบรรเทาอาการและกำจัดการติดเชื้อได้โดยมีรายงานผู้ใช้ที่ลองใช้ทีทรีออยล์นาน 4 สัปดาห์เห็นผลจากการใช้ทีทรีออยล์ในระดับความเข้มข้นดังกล่าวเกือบครึ่งหนึ่ง กระนั้นการใช้ทีทรีออยล์ในความเข้มข้นที่ 25% หรือ 50% ก็ไม่อาจรักษาการติดเชื้อได้เทียบเท่ากับการใช้ clotrimazole หรือ terbinafine
ภาวะที่ยังคงขาดหลักฐานว่าใช้ทีทรีออยล์รักษาได้หรือไม่
- การติดเชื้อแบคทีเรียที่ช่องคลอด (bacterial vaginosis) งานวิจัยกล่าวว่าทีทรีออยล์อาจช่วยผู้ป่วยภาวะนี้ได้
- รังแค งานวิจัยกล่าวว่าการใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของทีทรีออยล์ 5% ทุกวันนานสี่สัปดาห์จะช่วยลดอาการคันและความมันของหนังศีรษะของผู้ที่มีปัญหารังแคได้
- คราบจุลินทรีย์บนฟัน ผลจากงานวิจัยที่สรุปผลจากการใช้ทีทรีออยล์กับฟันยังคงไม่สอดคล้องกัน บ้างก็พบว่าการแปรงฟันด้วยเจลทีทรีออยล์ 2.5% ทุกวันนาน 8 สัปดาห์จะช่วยลดอาการเลือดออกตามเหงือกแต่ไม่ได้ช่วยลดคราบจุลินทรีย์ของผู้ป่วยโรคเหงือกอักเสบ (gingivitis) ที่เกิดจากคราบจุลินทรีย์ได้ อีกทั้งการใช้น้ำยาบ้วนปากที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์หลังการทำความสะอาดช่องปากโดยทันตแพทย์ก็ไม่อาจลดการก่อตัวใหม่ของคราบจุลินทรีย์ได้ อย่างไรก็ตามการบ้วนปากด้วย Tebodont ที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์กับสารเคมีที่เรียกว่า xylitol อาจช่วยลดคราบดังกล่าวได้ และการบ้วนปากด้วยผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์, กานพลู, และกะเพราเองก็อาจช่วยลดคราบจุลินทรีย์ได้เช่นกัน
- โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) ผลจากงานวิจัยที่สรุปผลจากการใช้ทีทรีออยล์กับโรคเหงือกอักเสบยังคงไม่สอดคล้องกัน บ้างก็พบว่าการแปรงฟันด้วยเจลทีทรีออยล์ 2.5% ทุกวันนาน 8 สัปดาห์จะช่วยลดอาการเลือดออกตามเหงือกแต่ไม่ได้ช่วยเพิ่มสุขภาพที่ดีของเหงือกได้ อย่างไรก็ตามการบ้วนปากด้วย Tebodont ที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์กับสารเคมีที่เรียกว่า xylitol อาจช่วยลดการอักเสบของเหงือกได้ และการบ้วนปากด้วยผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์, กานพลู, และกะเพราเองก็อาจช่วยลดการอักเสบของเหงือกได้เช่นกัน
- กลิ่นปาก งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการใส่ทีทรีออยล์ในน้ำมันหอมระเหยที่ประกอบด้วยเปปเปอร์มิ้นท์และน้ำมันมะนาวสามารถลดกลิ่นปากได้เมื่อใช้ในการทำความสะอาดช่องปาก 3 นาที
- ริดสีดวง (Hemorrhoids) งานวิจัยบางชิ้นกล่าวว่าการทาเจลที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์, กรดไฮยาลูโรนิก (hyaluronic acid), และ methyl-sulfonyl-methane จะช่วยลดอาการจากริดสีดวงในเด็กได้อย่างความเจ็บปวด, การอักเสบ, และอาการคัน
- โรคเริม (Herpes labialis) งานวิจัยกล่าวว่าการทาเจลที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์ 6% ห้าครั้งต่อวันไม่อาจลดอาการจากโรคเริมได้
- ภาวะขนดก (hirsutism) ในผู้หญิง งานวิจัยกล่าวว่าการใช้สเปรย์ที่ประกอบด้วยน้ำมันลาเวนเดอร์กับทีทรีออยล์สองครั้งต่อวันนาน 3 เดือนจะช่วยลดการงอกของขนบนพื้นที่บางจุดของร่างกายผู้หญิงที่มีภาวะขนดกได้
- เหา งานวิจัยกล่าวว่าทีทรีออยล์อาจช่วยไล่เหาได้ อีกทั้งการทายาที่ประกอบด้วยน้ำมันลาเวนเดอร์กับทีทรีออยล์ก็สามารถฆ่าไข่ของเหาและลดจำนวนเหาบนศีรษะได้ แต่ ณ ตอนนี้ยังคงไม่ชัดเจนว่าผลเหล่านี้เกิดจากการใช้ทีทรีออยล์เพียงอย่างเดียวหรือส่วนประกอบอื่น ๆ กันแน่
- การติดเชื้อ Methicillin-resistant Staphylococcus aureus (MRSA) ยังคงมีหลักฐานเกี่ยวกับผลของทีทรีออยล์กับการติดเชื้อ MRSA ที่ไม่ชัดเจนอยู่ โดยเมื่อเทียบกับการรักษา MRSA ตามแบบแผนเพียงอย่างเดียวและใช้ทีทรีออยล์ร่วมด้วยจะให้ผลว่าไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ อีกทั้งการใช้สารละลายทีทรีออยล์ขณะทำความสะอาดแผลก็ไม่อาจช่วยในการทำความสะอาด MRSA ได้ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาอื่น ๆ ได้กล่าวแย้งว่าการใช้ขี้ผึ้งโพรงจมูกที่มีทีทรีออยล์ 4% ร่วมกับการชะล้างร่างกายด้วยทีทรีออยล์ 5% ร่วมกับการรักษาตามปรกติอาจส่งผลดีเล็กน้อยต่อตัวของคนไข้ แต่การใช้เพียงทีทรีออยล์อย่างเดียวจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ MRSA ได้
- ปฏิกิริยาแพ้ที่ผิวหนังต่อนิกเกิล งานวิจัยกล่าวว่าการใช้ทีทรีออยล์ที่ไม่เจือจางอาจช่วยลดอาการแดงของผิวหนังจากปฏิกิริยาแพ้นิกเกิลได้ อีกทั้งยังมีหลักฐานว่าการทาทีทรีออยล์ที่ไม่เจือจางที่ผิวหนังก่อนสัมผัสกับนิกเกิลก็ช่วยลดปฏิกิริยาแพ้ที่เกิดขึ้นได้ด้วย
- การติดเชื้อยีสต์ในปากและลำคอ (thrush/ oropharyngeal candidiasis) เนื่องจากว่าผู้ป่วย AIDS จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอทำให้พวกเขาอาจติดเชื้อฉวยโอกาสอย่างโรคเชื้อราในช่องปาก (thrush) ได้ โดยมีหลักฐานว่าการใช้ทีทรีออยล์ 2-4 สัปดาห์อาจช่วยให้ผู้ป่วย HIV/AIDS ที่เป็นโรคเชื้อราในช่องปากที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษากำจัดเชื้อราตามปรกติอย่าง fluconazole ได้ อีกทั้งยังมีหลักฐานว่าการใช้ทีทรีออยล์ผสมกับน้ำมันหอมระเหยอาจช่วยเพิ่มความสบายในช่องปากของผู้ป่วยได้อีกด้วย กระนั้นการเติมทีทรีออยล์ 1 mL ลงในการรักษาเฉพาะกาลไม่อาจลดการติดเชื้อและการอักเสบของผู้ที่สวมฟันปลอมได้
- การติดเชื้อไวรัสบางประเภทที่ผิวหนัง งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทาทีทรีออยล์ร่วมกับไอโอดีนที่ผิวหนังของเด็กนาน 30 วันจะช่วยกำจัดตุ่มบนผิวหนังที่เกิดจากโรคฝีดาษ (poxvirus) ได้ดีกว่าการใช้ไอโอดีนหรือทีทรีออยล์เพียงอย่างเดียว
- การติดเชื้อที่ช่องคลอด (trichomoniasis) งานวิจยกล่าวว่าทีทรีออยล์อาจส่งผลดีต่อผู้ที่มีภาวะเชื้อราที่ช่องคลอดชนิดที่เรียกว่า trichomoniasis
- การติดเชื้อที่ช่องคลอด (vaginal candidiasis) งานวิจยกล่าวว่าทีทรีออยล์อาจส่งผลดีต่อผู้ที่มีภาวะเชื้อราที่ช่องคลอดชนิดที่เรียกว่า vaginal candidiasis
- คัดจมูก
- ไอ
- การติดเชื้อที่หู
- ป้องกันการติดเชื้อจากแผลบาด, แผลกรีด, แผลไหม้, แผลแมลงกัดต่อย, และแผลน้ำร้อนลวก
- โรคกลาก (Ringworm)
- หิด
- เจ็บคอ
- ภาวะสุขภาพอื่น ๆ
จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานให้มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลด้านประสิทธิผลของทีทรีออยล์เพิ่มเติม
ผลข้างเคียงและความปลอดภัยของทีทรีออยล์
ทีทรีออยล์ที่นำไปทาบนผิวหนังถูกจัดว่าอาจจะปลอดภัยสำหรับผู้คนส่วนมาก แต่ก็อาจทำให้เกิดความระคายเคืองกับผิวหนังและทำให้ผิวบวมได้บ้าง สำหรับผู้ที่เป็นสิว ทีทรีออยล์อาจทำให้ผิวแห้ง, คัน, แสบ, แสบร้อน, และผิวแดงได้บ้าง
การทาผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์ร่วมกับน้ำมันลาเวนเดอร์อาจจัดว่าไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กหนุ่มที่ยังไม่ได้เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจประกอบด้วยฮอร์โมนที่รบกวนการผลิตฮอร์โมนตามปรกติในเด็กผู้ชายได้ ในบางกรณีการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้อาจทำให้เด็กมีเต้านมที่เจริญผิดปรกติ (gynecomastia) แต่สำหรับประเด็นด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในเด็กสาวยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด
การรับประทานทีทรีออยล์ถูกจัดว่าค่อนข้างไม่ปลอดภัยเนื่องจากระเบียบทั่วไปที่เตือนว่าไม่ควรบริโภคน้มันหอมระเหยที่ไม่ได้ถูกเจือจางทุกชนิดเนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้ โดยการรับประทานทีทรีออยล์อาจทำให้รู้สึกสับสน, เดินไม่ได้, ยืนไม่มั่นคง, ผื่นขึ้น, และโคม่า เป็นต้น
คำเตือนและข้อควรระวังเป็นพิเศษ:
สตรีมีครรภ์และแม่ที่ต้องให้นมบุตร: ทีทรีออยล์สำหรับทาบนผิวหนังถูกจัดว่าอาจจะปลอดภัย อย่างไรก็ตามหากเป็นการรับประทานนั้น ทีทรีออยล์จะถูกจัดว่าค่อนข้างไม่ปลอดภัยเนื่องจากการย่อยทีทรีออยล์อาจทำให้เกิดภาวะได้รับพิษได้
การใช้ทีทรีออยล์ร่วมกับยาชนิดอื่น
ขณะนี้ยังคงไม่มีข้อมูลเรื่องปฏิสัมพันธ์ของทีทรีออยล์
ปริมาณยาที่ใช้
ปริมาณหรือขนาดยาที่ใช้ดังต่อไปนี้ได้ถูกศึกษาจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ผู้ใหญ่
ทาบนผิวหนัง:
- สำหรับสิว: เจลทีทรีออยล์ 5% ทุกวัน
- สำหรับภาวะติดไรที่ขนตา (ocular demodicosis): ขัดทีทรีออยล์ 50% ที่เปลือกตาทุกสัปดาห์ร่วมกับยาสำหรับเปลือกตากับแชมพูที่ประกอบด้วยทีทรีออยล์ 10% ตามปรกติทุกวัน โดยทาหนึ่งหรือสองครั้งต่อวันนาน 3-5 นาทีเป็นเวลานาน 6 สัปดาห์
- สำหรับภาวะติดเชื้อที่เล็บ (onychomycosis): สารละลายทีทรีออยล์ 100% สองครั้งต่อวันนาน 6 เดือน
- สำหรับโรคน้ำกัดเท้า: สารละลายทีทรีออยล์ 25,50% สองครั้งต่อวันนานหนึ่งเดือน หรือครีมทีทรีออยล์ 10% สองครั้งต่อวันนานหนึ่งเดือน
เด็ก:
- สำหรับสิว: เจลทีทรีออยล์ 5% ทุกวัน
- สำหรับภาวะติดไรที่ขนตา (ocular demodicosis): ขัดทีทรีออยล์ 50% ที่เปลือกตาทุกสัปดาห์ และนวดเปลือกตาด้วยขี้ผึ้งทีทรีออยล์ 5% ทุกวัน