สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- เราเลือกทำเลสิกแบบ SBK เพราะเป็นเทคนิคที่เมื่อเปรียบเทียบระยะเวลาในการพักฟื้น ราคาและความคุ้มค่าตอบโจทย์เรามากที่สุดค่ะ
- เนื่องจากเราอายุ 39 ปี นอกจากปัญหาสายตาสั้นก็ยังมีสายตายาวตามวัยด้วย โดยมีค่าสายตายาวอยู่ที่ 0.75 คุณหมอเลยแนะนำให้ทำด้วยเทคนิค Monovision
- ในการผ่าตัดทำเลสิกแต่ละข้างใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที และหลังผ่าตัดแล้วมองเห็นภาพชัดปกติเลย ไม่มีขุ่นมัวหรือเป็นหมอกฟุ้งเลย
- หลังพักฟื้นก็มองเห็นภาพชัดปกติ ไม่มีอาการแสบหรือเคืองตาเลย ยกเว้นแค่ช่วงที่ใช้สายตาทำงานหนักมาก ๆ จะมีอาการเคืองตาเหมือนว่าตาแห้ง
- รีวิวนี้เป็นการชำระค่าบริการด้วยตัวเอง
- ดูรายละเอียด เปรียบเทียบราคาทำเลสิก บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
เดิมทีเรามีปัญหาเรื่องสายตาสั้นค่ะ ค่าสายตาสั้นอยู่ที่ 500 กว่าๆ เลย แต่ติดปัญหาเรื่องวันลางาน เพราะคิดว่าการทำเลสิกจะต้องพักฟื้นอยู่บ้านหลายวันก็เลยเพิ่งจะหาโอกาสทำได้ในช่วงต้นปีค่ะ
เราใช้เวลาในการศึกษาหาข้อมูลและใช้เวลาตัดสินใจทำเลสิกอยู่ประมาณสองเดือนได้ค่ะ ซึ่งในช่วงที่หาข้อมูลจากหลายๆ ที่และจากคุณหมอหลายๆ ท่าน ก็ได้เจอกับโปรโมชั่นของการทำเลสิก บน HDmall.co.th ผ่านทางเฟซบุ๊กค่ะ
ทำไมถึงเลือก SBK LASIK
สำหรับเทคนิคการทำเลสิกที่เราเลือกทำคือ SBK ย่อมาจาก Sub Bowman Keratomileusis ซึ่งเป็นชื่อของใบมีดชนิดพิเศษที่พัฒนามาจากใบมีดในการทำเลสิกแบบเดิม โดยใบมีดแบบ SBK Lasik สามารถแยกชั้นตาได้บางขึ้นทำให้กระจกตาส่วนที่เหลือมีความหนาเพิ่มขึ้น ช่วยให้ตาแห้งน้อยกว่าการทำเลสิกปกติ
จากการหาข้อมูลต่างๆ ในตอนแรก เราสนใจ Femto Lasik ค่ะ แต่พอได้ลองเปรียบเทียบกับ SBK Lasik ทางด้านประสิทธิภาพและความแม่นยำ รวมไปถึงระยะเวลาการพักฟื้นก็เหมือนกันเลย ต่างกันตรงที่มีการใช้ใบมีดกับไม่ใช้ และ SBK LASIK มีราคาที่ถูกกว่ากันเยอะทำให้เราตัดสินใจเลือกแบบ SBK Lasik ค่ะ
นอกจากนี้ HDmall.co.th ก็มีโปรโมชั่นอยู่และยังเป็นโรงพยาบาลปิยะเวทที่เราเดินทางสะดวกอีกด้วย เราเลยตัดสินใจจองกับทาง HDmall.co.th เลยค่ะ
รีวิวทำเลสิก แบบ SBK ที่ โรงพยาบาลปิยะเวท
พอถึงวันนัดหมายเราก็มาที่โรงพยาบาลแต่เช้าเลย แล้วก็ติดต่อลงทะเบียนที่ศูนย์เลสิกค่ะ พยาบาลจะขอบัตรประชาชน และหลักฐานการจองคิวจาก HDmall.co.th เพื่อตรวจสอบข้อมูล จากนั้นก็จะพาไปตรวจวัดสายตาค่ะ
ตรวจสุขภาพตาก่อนทำเลสิก ที่ โรงพยาบาลปิยะเวท
สำหรับการตรวจสายตาก่อนทำเลสิก ก็จะต้องตรวจละเอียดหน่อยค่ะ โดยเริ่มจากตรวจค่าสายตา ตรวจการมองเห็น ตรวจความดันลูกตา และที่สำคัญมากๆ คือ การตรวจวัดความหนาของกระจกตาค่ะ เพราะว่าหากเรามีกระจกตาบางก็จะไม่สามารถทำเลสิกได้ค่ะ
หลังจากตรวจครบทุกขั้นตอนแล้ว ลำดับสุดท้ายก็จะเป็นการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ค่ะ คุณหมอก็จะอ่านรายงานผลตรวจจากเครื่องต่างๆ และตรวจดูตาของเราอีกครั้ง
แต่คุณหมอบอกว่าด้วยอายุของเราที่ 39 ปีแล้ว ทำให้มีสายตายาวตามวัยด้วย คุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำแบบ Monovision ก็เลยให้เราไปลองแว่นดูก่อนว่าโอเคไหม
Monovision คืออะไร?
คุณหมออธิบายว่า Monovision คือ การแก้ไขสายตาให้มองเห็นอย่างเต็มที่ในดวงตาข้างหนึ่ง เพื่อให้มองเห็นในระยะไกล ส่วนอีกข้างจะแก้ไขสายตาให้สั้นไว้เล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นในระยะใกล้
Monovision เป็นเทคนิคพิเศษที่คุณหมอจะต้องให้ลองสวมแว่นตา เพื่อดูว่าหากแก้ไขด้วยวิธีนี้แล้วเราจะโอเคมั้ย มองเห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจน และสะดวกสบายหรือไม่
จากนั้นพยาบาลจะให้ลองใส่แว่นในค่าสายตาใหม่แบบ Monovision เพื่อให้เราลองดูว่าอ่านหนังสือได้ในระยะใกล้ไกลมากน้อยแค่ไหน แล้วก็ให้ลองเดินไปรอบๆ ศูนย์เลสิกด้วย
โดยพยาบาลก็จะเปลี่ยนค่าสายตาไปหลายๆ แบบเพื่อดูว่าค่าสายตาไหนที่เราโอเคและสบายตามากที่สุด จนสรุปเลือกได้เป็นค่าสายตา .75 ค่ะ จากนั้นคุณหมอก็ถามย้ำว่าอยากทำเลสิกด้วยเทคนิคไหน ซึ่งเราก็ยืนยันว่าจะทำแบบ SBK ระหว่างนั้นผลตรวจความหนาของกระจกตาของเราก็ออกมาว่า กระจกตาหนาพอที่จะทำเลสิกได้พอดีเลยค่ะ
ผลสรุปออกมาว่าเราสามารถทำเลสิกได้ คุณหมอก็เลยแจ้งว่าให้รอคิวผ่าตัดได้เลย ระหว่างนั้นพยาบาลก็จะพาไปชำระเงินที่ฝ่ายการเงิน และมีการจ่ายยาให้เราตอนนั้นเลยค่ะ
จากนั้นก็จะมีพยาบาลเข้ามามาอธิบายเกี่ยวกับยาและอุปกรณ์การล้างแผลต่างๆ ให้ก่อนเข้าห้องผ่าตัด และให้สแกนคิวอาร์โค้ดตัวอย่างในการทำความสะอาดแผล แล้วก็แอดไลน์ของศูนย์เลสิก เผื่อถ้าเกิดมีปัญหาหรือมีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อเข้าไปได้ทันทีเลย
ขั้นตอนการทำเลสิกแบบ SBK
หลังจากศึกษาข้อมูลการดูแลและล้างแผลหลังทำเลสิกเสร็จแล้ว พยาบาลก็จะพาไปล้างหน้าเปลี่ยนชุดเตรียมสำหรับเข้ารับการผ่าตัดทำเลสิกค่ะ จากนั้นพยาบาลก็จะเข้ามาหยอดยาชาและยาฆ่าเชื้อเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับดวงตาให้ค่ะ
พอถึงคิวผ่าตัดทำเลสิกแบบ SBK บรรยากาศก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย พยาบาลและคุณหมอพูดจาเป็นกันเองและคอยชวนคุยเพื่อไม่ให้เราตื่นเต้นด้วยค่ะ
พยาบาลจะให้ขึ้นไปนอนบนเตียงและห่มผ้าให้ค่ะ จากนั้นคุณหมอก็แจ้งว่าจะทำข้างซ้ายก่อน โดยจะวางอุปกรณ์ถ่างตาเพื่อไม่ให้เราเผลอหลับตาขณะทำเลสิก ระหว่างนี้คุณหมอก็จะคอยอธิบายว่าเราต้องมองตรงอย่างเดียว อย่ากลอกตาไปมา โดยให้มองไปที่จุดสีเขียวตรงๆ อย่างเดียวเลยค่ะ
จากนั้นคุณหมอก็จะทำการเปิดกระจกตาแล้วยิงเลเซอร์ จากนั้นก็ปิดกระจกตา ใช้เวลาแปปเดียวเอง ความรู้สึกระหว่างทำเลสิกแบบ SBK ก็ไม่เจ็บเลย รู้สึกเหมือนโดนลมเย็นๆ เป่าที่ตาข้างละไม่เกิน 10 นาทีเป็นอันเสร็จ เปลี่ยนไปทำอีกข้างค่ะ
พอทำครบทั้งสองข้าง พยาบาลก็หยอดยาให้อีกรอบ แต่เราเริ่มลืมตามองได้ไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่แล้วค่ะ แต่ยังพอมองเห็นทางเดินอยู่บ้าง ซึ่งตอนนั้นภาพที่เห็นก็ชัดเจนเลย ไม่มีขุ่นมัวหรือเป็นหมอกฟุ้งเหมือนที่คนอื่นๆ เคยเล่าเลยค่ะ
แต่อาการที่มีคือ ตาข้างซ้ายเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา และก็รู้สึกเคืองตากว่าข้างขวามากๆ แต่คุณหมอบอกว่าเป็นอาการปกติที่พบในทุกคนเลยค่ะ และด้วยค่าสายตาทั้งสองข้างที่ไม่เท่ากันทำให้มีผลที่แตกต่างกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ใช้ที่ครอบตาปิดตาเอาไว้และให้กลับบ้านได้ค่ะ
ผลลัพธ์หลังจากทำเลสิกแบบ SBK ที่ โรงพยาบาลปิยะเวท
หลังจากที่เรากลับบ้านมายังมีอาการเคืองและแสบตาข้างซ้ายอยู่ตลอด ซึ่งคุณหมอแนะนำให้เรารีบกินข้าวและยานอนหลับเพื่อเพื่อพักสายตาค่ะ พอเช้าอีกวันเราก็ไม่มีอาการเคืองหรือแสบตาเลย
อาการหลังทำเลสิกที่หลายคนรีวิวว่าจะแสบตาเหมือนมีก้อนกรวดอยู่ในตาอะไรทำนองนั้น เราไม่มีเลยค่ะ จะมีก็แค่อาการเคืองตาที่ข้างซ้ายเล็กน้อยเหมือนกับใส่คอนแทคเลนส์กลับด้าน แต่พอหยอดยาฆ่าเชื้อกับน้ำตาเทียมแล้ว ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกปกติมาก
วันต่อมาคุณหมอจะนัดตรวจตาเพื่อติดตามผล แล้วเช็กว่าค่าสายตาเราถูกปรับไปตามที่วางแผนไว้หรือไม่ ซึ่งค่าสายตาของเราก็เปลี่ยนเรียบร้อย แผลปิดสนิทและไม่ได้มีอาการอะไรที่น่ากังวลเลย ไม่มีอาการเคืองหรือแสบตาเลยค่ะ
หลังจากวันที่ทำเลสิกมาถึงวันนี้ก็ 4 วันแล้ว การมองเห็นก็ชัดเจนดีมาก จนบางทีก็เผลอคิดไปว่าเรายังใส่คอนแทคเลนส์อยู่นะ ยิ่งในช่วงแรกๆ หลังจากที่เลสิกมาก็ยังมีความรู้สึกว่าก่อนนอนเราต้องถอดคอนแทคเลนส์ด้วยนะ
ส่วนอาการอื่นๆ ก็ไม่ได้มีเลย ยกเว้นแค่ช่วงที่ใช้สายตาทำงานหนักมากๆ จะมีอาการเคืองตาเหมือนว่าตาแห้งมากกว่า พอหยอดน้ำตาเทียมก็ใช้ชีวิตได้ปกติเลยค่ะ
การจองโปรโมชั่นทำเลสิก ผ่าน HDmall.co.th
การจองกับโปรโมชั่นทำเลสิก ผ่าน HDmall.co.th ก็ง่ายและสะดวกมากค่ะ ตอนแรกก็มีแอบกลัวว่าเป็นการจองผ่านแชทไลน์จะวุ่นวายในการชำระเงินหรือเปล่า ทางแอดมินจะอ่านแชทมั้ย แต่พอได้จองแล้วก็รู้เลยว่าง่ายและก็สะดวกดีมาก
เราสามารถทำการจองโดยเลือกวันและเวลาที่สะดวกได้เลย ส่วนการชำระเงินเราสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเต็มราคาเลย หรือจะจ่ายแค่ค่าจองก่อนก็ได้ ซึ่งเราเลือกแบบจองก่อนแล้วไปชำระเงินเต็มที่โรงพยาบาลค่ะ
แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ เราสามารถผ่อนชำระค่าบริการกับ HDmall.co.th 0% สูงสุด 10 เดือนด้วย อยากแนะนำคนที่กำลังสนใจจะทำเลสิกให้จองผ่าน HDmall.co.th ได้เลยค่ะ ในตอนแรกถึงเราจะแอบกลัวไปบ้างเพราะเป็นการติดต่อผ่านแชทอย่างเดียว แต่ในวันผ่าตัดก็มีเจ้าหน้าที่ของทาง HDmall.co.th คอยสแตนด์บายอยู่ตลอด มีการโทรเช็กเป็นระยะในระหว่างการรอเข้าผ่าตัดด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังได้ราคาที่ประหยัดอีกด้วยนะคะ