รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ขมับและปาก เติมความอิ่มฟู ที่ Wink Clinic

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

ก่อนหน้านี้ค่อนข้างกลัวการฉีดฟิลเลอร์ แต่ล่าสุดทนไม่ไหวแล้ว เพราะรู้สึกว่าอายุที่มากขึ้น ทำให้ขมับที่ตอบอยู่แล้ว ยิ่งตอบเข้าไปอีก ก็เลยลองปรึกษาคุณหมอที่ Wink Clinic เพราะเรามาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ
การฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะช่วยให้หน้าดูเรียวขึ้น ช่วยให้โหนกแก้มที่ดูใหญ่ดูเล็กลง แก้จากใบหน้าที่ดูเศร้าๆ ให้หน้าดูหวานขึ้นค่ะ
ระหว่างฉีดปากคุณหมอก็จะคอยจัดทรงให้เป็นกระจับเล็กน้อยค่ะ แล้วก็ให้เราส่องกระจกดูว่าประมาณนี้โอเครึยัง คุณหมอก็จะฉีดให้จนเรารู้สึกชอบค่ะ แล้วก็ค่อยฉีดที่ปากล่างให้ดูอิ่มฟู เข้ากับทรงของปากบนมากที่สุด จากนั้นก็ขยับมาฉีดฟิลเลอร์ขมับ โดยคุณหมอจะฉีดบริเวณเหนือโหนกแล้วไล่ขึ้นไปตรงขมับค่ะ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์กับหมอมิ้งค์ ที่ Wink Clinic คือ คุณหมอจะไม่ได้ฉีดให้ดูเว่อร์ แต่จะฉีดแบบกำลังดี ดูสวย ไม่แปลกตา คนอาจจะทักว่า ไปทำอะไรมาดูสวยขึ้น แต่ดูไม่ออกค่ะว่าเราไปเติมขมับมา
รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ Wink Clinic
- ดูแพ็กเกจทั้งหมดจาก Wink Clinic บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ ที่ Wink Clinic
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

ปัญหาขมับตอบ ทำให้เราดูหน้าแก่กว่าวัยค่ะ ทับทิมก็เลยมองหาคลินิกที่ฉีดฟิลเลอร์เติบขมับเพื่อให้หน้าดูเด็กลง และด้วยความที่เรามาใช้บริการที่ Wink Clinic เป็นประจำ ก็เลยฉีดฟิลเลอร์ขมับที่นี่ และฉีดปากให้อวบฟู เพราะมั่นใจในคุณหมอมิ้งค์ค่ะ

ก่อนหน้านี้เราค่อนข้างกลัวการฉีดฟิลเลอร์มากๆ เพราะเมื่อก่อนการฉีดฟิลเลอร์จะมีผลกระทบ ผลข้างเคียงเยอะมากๆ เคยมีคนแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ เราก็ไม่กล้าฉีดค่ะ

แต่ล่าสุดทนไม่ไหวแล้ว เพราะรู้สึกว่าอายุที่มากขึ้น ทำให้ขมับที่ตอบอยู่แล้ว ยิ่งตอบเข้าไปอีก ก็เลยลองปรึกษาคุณหมอที่ Wink Clinic เพราะเรามาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ

จริงๆ แล้ว การฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะช่วยให้หน้าดูเรียวขึ้น ช่วยให้โหนกแก้มที่ดูใหญ่ดูเล็กลง แก้จากใบหน้าที่ดูเศร้าๆ ให้หน้าดูหวานขึ้นค่ะ ซึ่งเราก็สนใจมากๆ และ Wink Clinic ดูแลเรามานานทำให้เราเชื่อใจและมั่นใจในตัวคุณหมอมิ้งค์ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่เพิ่งเคยฉีดฟิลเลอร์ เราแนะนำว่าควรฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และต้องทำในสถานที่ที่ได้รับอนุญาตด้วยนะคะ และก่อนฉีดฟิลเลอร์ก็มีข้อควรรู้เล็กน้อยค่ะ

งดยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดหยุดไหลช้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์
งดทายา หรือครีมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 3 วัน
งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วัน
งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
หากกำลังกินยา หรือมีประวัติแพ้ยาจะต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบล่วงหน้า

หลังจากตัดสินใจว่าจะฉีด ก็จองคิวทำนัดเข้ามาที่ Wink Clinic เลยค่ะ และด้วยความที่เรามาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ ก็เลยจะไม่ต้องกรอกข้อมูลประวัติส่วนตัว แต่ถ้าใครมาครั้งแรกก็ต้องให้ข้อมูลเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่เล็กน้อยค่ะ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ ที่ Wink Clinic

ก่อนที่เราจะฉีดฟิลเลอร์ พนักงานจะให้เข้าพบคุณหมอ ซึ่งคุณหมอมิ้งค์ดูแลความสวยความงามให้เรามาตั้งแต่แรกก็จะเข้าใจดีว่าเรามีปัญหาอะไร ต้องการปรับแก้ตรงไหน ใครที่มาครั้งแรกแนะนำเลยว่าคุณหมอคุยได้สนุก อธิบายได้เข้าใจง่าย เหมือนเพื่อนที่เข้าใจเพื่อนเลยค่ะ

ซึ่งปัญหาของเราคือ ขมับตอบ อยากจะเติมขมับให้ฟูขึ้น แถมไหนๆ ก็จะฉีดฟิลเลอร์แล้ว ก็อยากจะฉีดฟิลเลอร์ปากไปพร้อมกันเลย คุณหมอก็จะถามว่าอยากจะได้ทรงประมาณไหน แต่เราเชื่อใจคุณหมอค่ะ เลยบอกว่าเอาที่เหมาะกับเราได้เลย

หลังจากพูดคุยกันเสร็จ พี่พนักงานก็จะพาไปเตรียมตัว โดยการใส่หมวกคลุมเพื่อเก็บผม ทำความสะอาดผิวหน้าบริเวณที่จะฉีด จากนั้นก็ทายาชาทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ

พอครบกำหนดเวลา พนักงานก็จะมาเช็ดยาชาออก และประคบเย็นซ้ำอีกครั้ง แล้วคุณหมอก็จะเริ่มฉีด โดยเราเลือกที่จะฉีดปากก่อน เพราะคิดว่าฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บกว่าขมับ

คุณหมอมิ้งค์เริ่มลงเข็มที่ริมฝีปากบน บอกเลยค่ะว่า เจ็บ 555+ แต่เจ็บแบบทนได้นะคะ เป็นธรรมดาที่มีเข็มจิ้มเข้ามาก็จะต้องเจ็บค่ะ ถ้าไม่เจ็บก็คือโกหก

ระหว่างฉีดคุณหมอก็จะคอยจัดทรงให้เป็นกระจับเล็กน้อยค่ะ แล้วก็ให้เราส่องกระจกดูว่าประมาณนี้โอเครึยัง คุณหมอก็จะฉีดให้จนเรารู้สึกชอบค่ะ แล้วก็ค่อยฉีดที่ปากล่างให้ดูอิ่มฟู เข้ากับทรงของปากบนมากที่สุด

จากนั้นก็ขยับมาฉีดฟิลเลอร์ขมับ โดยคุณหมอจะฉีดบริเวณเหนือโหนกแล้วไล่ขึ้นไปตรงขมับค่ะ ซึ่งก็เจ็บเหมือนกัน แต่ก็แปปเดียวเอง 555+ แต่ก็ทนได้ค่ะ เพื่อความสวย และปิดท้ายด้วยเติมโบท็อกซ์เล็กน้อยเพื่อไม่ให้หน้าผากย่นค่ะ

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ และฟิลเลอร์ปากเสร็จก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ หลังจากฉีดก็ไม่มีรอยช้ำรอยแดงอะไรเลย แต่บริเวณปากจะมีรอยเข็มนิดหน่อย แต่ไม่กี่ชั่วโมงก็จางหายไปค่ะ

วันต่อมาปากที่ฉีดฟิลเลอร์จะบวมนิดหน่อย แต่ก็จะค่อยๆ ยุบลง และใน 7 วันก็อยู่ตัวดีแล้วค่ะ ส่วนตรงขมับ หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วดูหน้าเต็มขึ้น ดูเด็กลงด้วยค่ะ

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์กับหมอมิ้งค์ ที่ Wink Clinic คือ คุณหมอจะไม่ได้ฉีดให้ดูเว่อร์ แต่จะฉีดแบบกำลังดี ดูสวย ไม่แปลกตา คนอาจจะทักว่า ไปทำอะไรมาดูสวยขึ้น แต่ดูไม่ออกค่ะว่าเราไปเติมขมับมา

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

ที่ Wink Clinic คุณหมอยังแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยค่ะ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่ในช่วง 2-3 วันแรก อาจต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษหน่อยค่ะ

อาจมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปภายใน 2 วัน
เลี่ยงการใช้ยากลุ่มแอสไพริน หรือยาแก้ปวดข้อบางชนิด อย่างน้อยเวลา 2 วัน
ห้ามนอนราบหลังฉีด 3-4 ชั่วโมง
ห้ามแต่งหน้า หรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิดหลังฉีด 12 ชั่วโมง
ห้ามออกกำลังกายภายใน 2 วัน
หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน และไม่ควรถูจุดที่ฉีดฟิลเลอร์

สุดท้ายนี้ ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ จะแตกต่างกันไปในแต่ละคนนะคะ ซึ่งฟิลเลอร์ที่เราฉีดขมับเป็นฟิลเลอร์ของ Juvederm รุ่น Voluma ข้างละ 1 cc อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน (1 ปีครึ่ง) ส่วนฟิลเลอร์ปากเป็นรุ่น Volift 1 cc ค่ะ สามารถอยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน แต่คุณหมอบอกว่าขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วยค่ะ

ใครที่อยากฉีดฟิลเลอร์ แนะนำเลยค่ะว่า ที่ Wink Clinic คุณหมอมิ้งค์เก่งมากๆ น่ารักแถมอธิบายอย่างเป็นกันเอง ลองเข้าไปดูโปรโมชั่นที่ HDmall.co.th ก่อนได้นะคะ เพราะว่า Wink Clinic มีโปรโมชั่นเยอะแยะให้เลือกเลยค่า

ข้อมูล Wink Clinic