รีวิว ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) คัดกรองจังหวะการเต้นของหัวใจที่อาจผิดปกติ ที่ Bangkok Anti-Aging Center

ก่อนหน้านี้เบนไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับว่า การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมันเป็นยังไง และสำคัญยังไงกับร่างกายของเรา จนต้องไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลและต้องตรวจสุขภาพเบื้องต้นก่อน ซึ่งพยาบาลก็ทักเบนว่า ทำไมความดันเลือดกับจังหวะการเต้นของหัวใจมันผิดปกติล่ะ

จากคำถามของพยาบาลในวันนั้นล่ะครับที่ทำให้เริ่มกังวลเรื่องการทำงานของหัวใจ เลยเริ่มสังเกตตัวเองมากขึ้นว่า หัวใจเราทำงานเป็นยังไง ซึ่งก็พบว่า บางครั้งหัวใจเต้นเร็ว ทำกิจกรรมอะไรหน่อยก็รู้สึกเหนื่อยง่าย หายใจก็เริ่มไม่ค่อยทัน เลยอยากลองตรวจเช็กการทำงานของหัวใจดูสักหน่อย

หลังจากนั้นก็เลยเสิร์ชหาโปรแกรมตรวจคัดกรองการทำงานของหัวใจง่ายๆ ดูทางอินเทอร์เน็ต จนไปเจอแพ็กเกจตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram: EKG) ที่ Bangkok Anti-Aging Center หรือ BAAC บนหน้าเว็บไซต์ HDmall.co.th ราคาไม่แพง เดินทางสะดวก และน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการตรวจความแข็งแรงของหัวใจเลยตัดสินใจจองคิวทำนัดเข้ามาเลยครับ

รีวิว ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ที่ Bangkok Anti-Aging Center

เบนเลือกไปใช้บริการที่ BAAC สาขาสยามครับ สาขานี้จะตั้งอยู่บนชั้น 8 ของโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซสติดกับ MBK เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วเดินตัดทะลุ MBK มาจนสุดทาง

พอขึ้นมาถึงชั้น 8 ก็เดินมาทางสระว่ายน้ำของโรงแรมเลยครับ BAAC อยู่ติดสระว่ายน้ำเลย จากนั้นก็ยื่นคูปองที่ทาง HDmall.co.th ส่งให้ทางอีเมลกับเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันตัวตนครับ

เจ้าหน้าที่จะให้กรอกข้อมูลประวัติส่วนตัว จากนั้นพยาบาลจะพาเข้าไปในห้องตรวจที่มีเตียงนอนและมีเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจวางอยู่ข้างเตียง

พยาบาลให้เบนถอดเสื้อคลุมด้านนอกออก และปลดกระดุมเสื้อข้างในด้วย เพราะการตรวจหัวใจแบบ EKG จะต้องติดอุปกรณ์ลงบนผิวหน้าอกเราครับ ใครจะมาใช้บริการแพ็กเกจนี้แนะนำให้ใส่เสื้อเชิ้ตแบบกระดุมหน้ามาดีกว่า จะได้ไม่ต้องถอดเสื้อออกหมดครับ

หลังจากนั้นพยาบาลก็จะให้เบนนอนหงายกับเตียงสบายๆ แล้วเริ่มติดอุปกรณ์เพื่อให้เครื่องอ่านค่าการเต้นของหัวใจเราครับ

ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG

การติดอุปกรณ์สำหรับตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะมีทั้งหมด 10 จุดครับ โดย 6 จุดจะติดอยู่ที่หน้าอกของเราเยื้องๆ ไปทางซ้ายตรงตำแหน่งของหัวใจ อีก 2 จุดจะติดอยู่ที่ข้อมือทั้ง 2 ข้างครับ และอีก 2 จุดจะติดอยู่ที่ข้อเท้าของเราทั้ง 2 ข้าง

ลักษณะของอุปกรณ์ที่ติดแต่ละตำแหน่งก็ไม่เหมือนกันนะครับ อุปกรณ์ที่ติดอยู่ที่ข้อมือกับข้อเท้าเบนจะคล้ายๆ กับตัวหนีบผ้าที่มีสายเชื่อมกับเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจอีกที

ส่วนอุปกรณ์ที่ติดอยู่กับหน้าอกจะเป็นตัวดูดยางที่พยาบาลจะกดเบาๆ ให้มันแนบติดไปกับผิวครับ ตอนถอดออกอาจจะมีรอยแดงบ้าง แต่เดี๋ยวมันก็หายไปเอง

ก่อนติดอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่พยาบาลจะมีการทำความสะอาดผิวและตัวอุปกรณ์ด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ก่อนด้วยนะครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาดเลยครับผม

หลังจากติดอุปกรณ์เสร็จแล้ว เราก็นอนนิ่งๆ ให้เครื่องอ่านค่าการเต้นของหัวใจเราประมาณไม่ถึง 1 นาทีเอง ตัวเครื่องก็จะพิมพ์ผลรายการตรวจที่บันทึกค่าการเต้นของหัวใจเราออกมา

สำหรับความรู้สึกระหว่างตรวจ ตอนแรกเบนก็กังวลครับว่า มันจะมีเจ็บๆ หรือจี๊ดๆ อะไรมั้ย สรุปไม่มีเลยครับ เหมือนนอนเฉยๆ เอาอุปกรณ์แปะตามตัวแค่นั้นเองครับ

ส่วนรายงานผลตรวจที่ออกมา นอกจากคุณหมออ่านค่าแล้ว ทางพยาบาลยังพิมพ์เผื่อให้เบนนำเก็บกลับบ้านไปอีก 1 แผ่นด้วยนะครับ

ผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG

หลังจากตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเสร็จ พยาบาลก็ให้ออกมานั่งรอเพื่อพบคุณหมอสักครู่นึงครับ พอถึงคิวคุณหมอก็เริ่มด้วยการซักประวัติสุขภาพของเราก่อน

ปัจจุบันเบนอายุ 32 ปีแล้ว ไม่มีโรคประจำตัวอะไร ร่างกายโดยรวมแข็งแรงดี และนี่เป็นครั้งแรกที่มาตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเลย จากนั้นคุณหมอก็เริ่มอธิบายผลตรวจให้ฟัง โดยอธิบายกราฟผลตรวจว่าแบ่งเป็น 3 กราฟครับ

• กราฟแรก คือ อัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งกราฟนี้คุณหมอก็บอกว่า กราฟปกติดี หัวใจมีการเต้นอย่างสม่ำเสมอครับ
• กราฟที่สอง คือ ความเสี่ยงภาวะหัวใจขาดเลือด ซึ่งก็ปกติดีเช่นกัน ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ครับ
• กราฟสุดท้าย คือ ความเสี่ยงเกิดความผิดปกติหรือสัญญาณโรคที่อาจเกิดขึ้นกับหัวใจ ซึ่งก็ปกติดีเช่นกัน

โดยสรุป คือ ผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจในวันนี้จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่มีอะไรน่ากังวลเลย แต่โดยส่วนตัวเบนมีความกังวลเกี่ยวกับอาการเหนื่อยง่ายและหัวใจเต้นแรง คุณหมอจึงแนะนำว่าให้ตรวจเชิงลึกกว่านี้ เช่น

• ตรวจเลือด ซึ่งเราสามารถเช็กดูระดับน้ำตาลในเลือด ค่าไขมันในหลอดเลือด การอักเสบภายในหลอดเลือดหัวใจได้ครับ
• ตรวจเอกซเรย์ทรวงอก ดูความเสี่ยงภาวะหัวใจโตหรือขั้วหัวใจผิดปกติ
• ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) หรือตรวจหัวใจด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ เพื่อเช็กสมรรถภาพของหัวใจและการไหลเวียนของเลือดอย่างละเอียดขึ้น

รายการตรวจ 3 อย่างนี้ รวมถึงการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ถ้าในกลุ่มคนที่ไม่มีโรคประจำตัวอะไรอย่างเบน ตรวจแค่ปีละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้วครับ

แต่คุณหมอก็กำชับให้เบนกลับไปสังเกตอาการตนเองเพิ่มเติมด้วย เช่น ถ้ารู้สึกปวดแน่นหน้าอก นอนราบไม่ได้ หัวใจเต้นผิดจังหวะบ่อยๆ ก็ให้รีบมาตรวจเพิ่มเติมกับคุณหมอทันที ไม่ต้องรอให้ครบกำหนดเวลาแล้วค่อยมา ไม่งั้นเราอาจจะเจอรอยโรคที่ผิดปกติช้าไป

แต่ในส่วนของภาพรวมผลตรวจวันนี้ คุณหมอมองว่า หัวใจเบนยังไม่ผิดปกติอะไรครับ โดยรวมระยะเวลาในการตรวจใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเองครับ สำหรับแพ็กเกจตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่เบนซื้อ ใครที่สนใจก็คลิกที่ลิงก์นี้ เพื่อดูรายละเอียดได้เลยนะครับ

ใครที่ยังกลัวว่า การตรวจนี้จะเจ็บหรือเป็นอันตรายต่อร่างกาย เบนขอยืนยันอีกเสียงเลยนะครับว่า ไม่อันตราย ไม่เจ็บใดๆ ทั้งสิ้นเลยครับ ชิวมากๆ อย่าลืมหาเวลามาตรวจกันนะครับ จะได้รู้ว่าสุขภาพหัวใจของเรายังแข็งแรงดีอยู่มั้ยครับผม

ข้อมูล Bangkok Anti-Aging Center

ขยาย

ปิด

• สาขาสุทธิสาร: อาคาร BAAC เดินทางด้วย MRT สถานีสุทธิสาร ทางออก 2-3 ต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาในซอยประมวลสุข ดูแผนที่
• สาขาสยาม: คลินิกอยู่ที่ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ชั้น 8 เดินทางด้วย BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออก 5 ดูแผนที่
• สาขาบางนา: อาคาร BAAC อยู่ติดกับ SB Design บนถนนบางนาตราด กม.ที่ 4 ก่อนถึงทางแยกไปถนนศรีนครินทร์ ดูแผนที่
• ดูแพ็กเกจทั้งหมดจาก Bangkok Anti-Aging Center ที่นี่

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

• ตรวจหัวใจ สำคัญอย่างไร มีวิธีการตรวจแบบใดบ้าง?
• การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG/EKG)
• การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง Echo
• ตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย EST คืออะไร
• รอบรู้การทำงานของหัวใจและความผิดปกติของหัวใจ