สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- ทำไมถึงเลือกใช้บริการนี้: พอจิ๊บเริ่มเทคฮอร์โมนก็เริ่มมีเส้นผมที่เล็กและบางลง นานวันเข้าก็ทำให้ไม่มั่นใจในตัวเอง
- ทำไมถึงเลือกสถานบริการนี้: คุณหมอแนะนำได้ตรงจุด และให้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของฮอร์โมนที่จิ๊บฉีดเป็นประจำอีกด้วย
- ขั้นตอนการใช้บริการ: อันดับแรกควรปรึกษาคุณหมอถึงวิธีการรักษา จากนั้นคุณหมอจะคำนวณกราฟต์ที่ต้องปลูก พอถึงวันผ่าตัดจะเริ่มด้วยการนำเซลล์รากผมออกมาก่อน แล้วค่อยปักเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ
- ผลลัพธ์ของการใช้บริการ: ปลูกผมที่ Dermaster ขึ้นแน่นทุกกราฟต์ ติดตามผลให้จิ๊บอย่างดีเลยครับ
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ Dermaster
- รายละเอียดโปรแกรมปลูกผม ด้วยเทคนิค FUE ที่ Dermaster
- โปรแกรมทั้งหมด จาก Dermaster บน HDmall.co.th
ก่อนหน้าที่จิ๊บจะเทคฮอร์โมน ไม่เคยมีปัญหาผมร่วงเลย เป็นคนผมเยอะ ผมหนา แต่พอเริ่มเทคฮอร์โมนก็เริ่มมีเส้นผมที่เล็กและบางลง 8 ปีที่ผ่านมา ผมเริ่มร่วงเยอะขึ้น เวลาเซ็ตผมทรงที่หวีผมไปด้านหลังก็ค่อนข้างกังวล เพราะตรงด้านข้างจะเห็นชัดเลยว่าผมบาง ทำให้มีข้อจำกัดในการเซ็ตผมมากกว่าเดิม
จิ๊บเคยซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมจากอินเทอร์เน็ตมาลองใช้ เป็นวิธีการหยดลงบริเวณหนังศีรษะ แต่ก็ไม่ค่อยเห็นผล แม้กระทั่งยากินก็เคยเลย แต่ก็กลัวผลเสียที่อาจตามมาก็เลยหยุด แต่ทุกครั้งที่ทำผม ทั้งถ่ายแบบหรือออกรายการ ช่างทำผมก็มักจะเอาผงดำๆ หรือที่เรียกว่า Hair Shadow มาปิดบริเวณที่ผมบาง เลยคิดว่าผมเราน่าจะไปแล้ว 555+
ในช่วงแรกจิ๊บยังไม่มีปัญหาหน้าผากกว้าง แต่พออายุเพิ่มขึ้นแถมใช้ฮอร์โมนอย่างต่อเนื่อง ตรงไรผมด้านหน้าโดยเฉพาะบริเวณง่ามสองข้างที่เป็นรูปตัว M ก็เริ่มลึกเข้าไปและมีการร่นผมด้วย
จนจิ๊บได้มาเจอกับ HDmall.co.th และเห็นโปรแกรมต่างๆ ของ Dermaster ก็เลยมีโอกาสได้มาปรึกษากับคุณหมอคณวัฒน์ กาญจนพิบูลย์ หรือที่ทุกคนเรียกกันว่าคุณหมอเพชร
คุณหมอบอกว่าการเทคฮอร์โมนเพศชาย ก็เป็นสาเหตุของการผมบางเช่นกัน เพราะเทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือฮอร์โมนเพศชายตัวนี้ จะไปเปลี่ยน DHT (Dihydrotestosterone) ทำให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง บางลง หนาแน่นน้อยลงไม่เท่าเดิม เป็นเพราะ DHT ไปออกฤทธิ์ที่ไรผมด้านหน้า
พอได้มาคุยกับคุณหมอเพชร ถึงได้รู้ว่ายาที่ผมเคยกินมีสารตัวนึงที่ทำปฏิกิริยาต้านตัวฮอร์โมนที่จิ๊บฉีดเป็นประจำ คุณหมอเลยแนะนำให้หยุดกินยาเพื่อสุขภาพของตัวเอง และยังแนะนำวิธีอื่นในการลดการผมร่วง และช่วยให้เส้นผมอยู่กับเราไปนานๆ
ตอนแรกจิ๊บยังไม่ได้ตัดสินใจปลูกผม เพราะมีการรักษาหลายรูปแบบ แต่พอมาปรึกษาคุณหมอก็เห็นว่าการปลูกผมเป็นรูปแบบการปลูกผมที่ตอบโจทย์กับเรามากที่สุด
คุณหมอได้ออกแบบแนวเส้นผม หรือ Hairline ใหม่ให้กับจิ๊บ แล้วก็ประเมินว่าน่าจะปลูกประมาณ 1,500 กราฟต์
หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่ากราฟต์ ซึ่งถ้าให้เข้าใจง่ายก็เรียกว่า "กอผม" ก็ได้ครับ โดยใน 1 กอผมของคนเรา เฉลี่ยแล้วจะมีผมประมาณ 2-3 เส้น
สำหรับการปลูกผมในปัจจุบันมี 2 รูปแบบที่เป็นที่นิยม คือ การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) และการปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งของจิ๊บเลือกปลูกผมแบบ FUE เป็นวิธีที่การย้ายเซลล์รากผมที่แข็งแรงไปไว้ยังจุดที่ต้องการ แผลเล็ก และไม่ต้องพักฟื้นนาน
จากที่ได้พูดคุยกับคุณหมอ จิ๊บรู้สึกว่าการรักษาของที่ Dermaster ค่อนข้างเหมาะกับตัวเอง ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าหากเราปลูกผมไว โอกาสที่เซลล์ผมจะแข็งแรงทนทานก็มากขึ้น เลยทำให้ผมอยากปลูกผมกับที่นี่มากขึ้น
ก่อนถึงวันนัดปลูกผม ทางคลินิกก็นัดวันมาเจาะเลือด แล้วก็ซักประวัติเพื่อเก็บเป็นข้อมูล และอธิบายขั้นตอนการปลูกผมคร่าวๆ อีกครั้ง
เจ้าหน้าที่จะอธิบายวิธีการเตรียมตัวก่อนปลูกผมอีกครั้ง ซึ่งจิ๊บจะต้องตัดผมให้สั้นก่อน โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย เพื่อให้ง่ายต่อการนำเซลล์รากผมบริเวณนั้นออกมาปลูกที่ด้านหน้าครับ
ขั้นตอนการปลูกผมแบบ FUE
สำหรับวันที่มาปลูกผม จิ๊บมาถึงคลินิกตั้งแต่ 7 โมงเช้า คุณหมอทำการออกแบบ Hairline วัดและวาดเส้นตามแนวผมที่ต้องการปลูกอีกครั้ง
คุณหมอบอกว่าการออกแบบ Hairline จะดูจากสัดส่วนของใบหน้าด้วยว่าหน้าเล็กหรือใหญ่ สัดส่วนของคิ้วไปจนถึงไรผม หรือ Upper Face ใบหน้าส่วนบนจะต้องได้สัดส่วนที่ใกล้เคียงหรือเท่ากับ Mid Face ระหว่างคิ้วจนถึงปลายจมูก และปลายจมูกถึงคาง ที่เรียกว่า Lower Face ทั้ง 3 ส่วนต้องได้อัตราส่วนที่สวยงาม เพื่อให้ได้ใบหน้าที่สมมาตร
ในเคสของผม คุณหมอออกแบบให้เป็นแนวผมลักษณะที่จะช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้นด้วยครับ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาไปเปลี่ยนเป็นชุดที่สวมใส่สบาย เพราะเราจะต้องอยู่ในห้องผ่าตัดหลายชั่วโมงเลย แล้วก็พาไปตัดผมบริเวณท้ายทอยเพื่อให้ได้ความยาวที่เหมาะกับการนำผมออกมา จากนั้นก็สระผมทำความสะอาด ระหว่างนี้ก็ชิวๆ มากๆ ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองของเจ้าหน้าที่ทุกคน และคุณหมอที่ชวนคุยอยู่ตลอดทำให้ผ่อนคลายมากๆ ครับ
สำหรับครึ่งวันแรกเป็นการนำเซลล์รากผมออกมา โดยคุณหมอจะให้นอนคว่ำก่อนแล้ววาดเส้นเพื่อกระจายจุดที่จะนำรากผมออกมา สำหรับใครที่กังวลว่าหมอจะดึงผมตรงท้ายออกไป แล้วผมจะแหว่งไหม จะเป็นแผลรึเปล่า เรื่องนี้ไม่ต้องกลัวเลย เพราะการกระจายจุดจะช่วยให้คนอื่นแทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง
จากนั้นคุณหมอจะฉีดยาชาตามแนวที่วาดเอาไว้ การฉีดยาชาบริเวณท้ายทอยไม่ได้เจ็บอย่างที่คิดเลย แถมคุณหมอยังใช้เทคนิคพิเศษด้วยการฉีดไล่ตามแนว ก็เลยแทบไม่รู้สึกว่ามีเข็มฉีดยาอยู่ที่ท้ายทอยเลย และพอยาชาออกฤทธิ์ คุณหมอจะใช้เครื่องมือเจาะรูเส้นผมทีละรู เพื่อดึงเซลล์รากผมออกมา
อุปกรณ์สำหรับใช้เจาะนำกราฟต์ผมออกมาจะมีหัวที่เล็กมาก ประมาณ 0.7-0.8 มิลลิเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 วันแผลก็หาย และดูเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเย็บแผลหรือตัดไหมให้วุ่นวาย
ระยะเวลาในการนำเซลล์รากผมออกมา ใช้เวลาประมาณ 3-5 ชั่วโมง ระหว่างนี้ก็นอนสบายมาก ผมเผลอหลับด้วยซ้ำ 555+ จากนั้นทีมงานทั้งหมด รวมถึงคุณหมอก็จะพักครึ่ง แล้วค่อยกลับมาสู่ขั้นตอนการปลูกผมบริเวณด้านหน้า
กลับเข้ามาในห้องผ่าตัดอีกครั้ง คุณหมอจะให้นอนหงาย เพื่อนำเซลล์รากผมที่ดึงออกมาใส่กลับเข้าไปใหม่ ขั้นตอนนี้จะเริ่มด้วยการฉีดยาชาเหมือนเดิม แต่จะเพิ่มการฉีดน้ำเกลือเข้าไปเพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นง่ายต่อการปักผม
ความรู้สึกตั้งแต่ขั้นตอนนำเซลล์รากผมออก จนปักผมเข้าไปใหม่ มันไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่มันให้ความรู้สึกว่ามีอะไรมาเคาะบริเวณหนังศีรษะเท่านั้น
การเอารากผมปลูกไปบริเวณด้านหน้า คุณหมอจะใช้อุปกรณ์พิเศษในการเปิดรูขนาดเล็ก แล้วใส่เซลล์รากผมที่เตรียมเอาไว้กลับเข้าไป โดยกระจายตามแนวที่วาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ขั้นตอนนี้ใช้เวลา 3-5 ชั่วโมงเหมือนกัน
หลังจากปลูกผมเสร็จ ก็จะนำผ้าก๊อซมาพันเอาไว้เพื่อกันไม่ให้เราเผลอขยี้หรือเผลอจับโดยไม่รู้ตัวจากนั้นก็กลับบ้านได้
คุณหมอให้คำแนะนำว่าอย่าออกแรง หรือออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 2-3 อาทิตย์แรก ไม่ควรไปจับหรือไปดึง แกะ หรือเกาส่วนที่เราปลูกผม ควรปล่อยให้เค้าขึ้นตามธรรมชาติ
เวลานอนจิ๊บก็จะมีหมอนรูปตัวยูล็อคคอเอาไว้ เรายังไม่กล้านอนตะแคง นอนคว่ำ เพราะกลัวว่าจะโดนกราฟต์ 555+ หมอนจะช่วยล็อคคอไม่ให้เราตะแคงหรือนอนผิดท่า
สำหรับใครที่ยังมีหลายคำถามในใจ ปลูกผมเจ็บมั้ย หลังปลูกผมต้องดูแลยังไงบ้าง HDreview รวมคำถาม-คำตอบ จากคุณหมอและคุณจิ๊บไว้ที่บทความ รวมถาม-ตอบ เกี่ยวกับ ปลูกผมแบบ FUE ตอบโดยแพทย์เฉพาะ
ผลลัพธ์หลังจากปลูกผมแบบ FUE
หลังจากปลูกผม คุณหมอนัดเข้ามาติดตามผลในอีก 2 วัน เพื่อสอนวิธีการสระผมอย่างถูกวิธี ซึ่งจะต้องหลีกเลี่ยงน้ำร้อน หรือสารเคมี
จากนั้นก็พาไปฉายแสงสีแดงเพื่อให้รากผมแข็งแรง ความรู้สึกจะอุ่นๆ สบายๆ ผ่อนคลายมากๆ
บรรยากาศสถาบันเพื่อสุขภาพ และความงาม เดอมาสเตอร์
บรรยากาศในสถาบันเพื่อสุขภาพ และความงาม เดอมาสเตอร์ สาขาเอกมัย กว้างขวาง มีหลากหลายโซนที่ให้ผู้มาใช้บริการรู้สึกว่าที่นี่เปรียบเสมือนที่ปรึกษาด้านความงาม
การเดินทางมาที่สถาบันเพื่อสุขภาพ และความงาม เดอมาสเตอร์ สาขาเอกมัย ก็ไม่ยากเลย เพราะอยู่ในซอยเอกมัย ระหว่างเอกมัย 18-20 แถมมีที่จอดรถกว้างขวางสำหรับผู้มาใช้บริการ นอกจากนี้เดอมาสเตอร์ (Dermaster) ยังมีสาขาอื่นๆ อยู่ที่ สาขาอโศก-พระราม 9, สาขาชิดลม และสาขาสาทร
โดยส่วนตัวจิ๊บประทับใจตั้งแต่วันที่เข้ามาปรึกษาคุณหมอเลย เพราะคุณหมอแนะนำได้ตรงจุด และให้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของฮอร์โมนที่จิ๊บฉีดเป็นประจำ
ส่วนการรักษาอาการผมร่วงมีหลายแบบ ไม่ใช่แค่ปลูกผมอย่างเดียว การเข้ามาพูดคุยกับคุณหมอจะทำให้รู้ว่าวิธีไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด เดอมาสเตอร์ (Dermaster) มีให้คำตอบที่ตรงจุดกับจิ๊บมากๆ ครับ รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก >> dermaster-thailand.com