รีวิว ทำเลสิกไร้ใบมีด FEMTO LASIK ที่ โรงพยาบาลพญาไท 3

ผมมีสายตาที่สั้น 600 ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างเยอะ ก็เลยใส่ คอนแทคเลนส์ ตั้งแต่สมัยเรียนครับ เพราะว่าใส่แว่นแล้วจะปวดหัวเนื่องจากแว่นมันบีบหัว กดหน้าก็เลยไม่ค่อยชอบ แต่หลายๆ คนคงรู้ดีว่า เวลาที่ใส่คอนแทคเลนส์ไประยะนึงก็จะระคายเคืองตา และต้องคอยเปลี่ยนอันใหม่อยู่เสมอ

เวลาไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็จะกังวล เพราะว่าใส่คอนแทคเลนส์นอนไม่ได้ พอถอดออกมาก็ต้องแช่ในน้ำยาเฉพาะ และปัญหาส่วนตัวของผมคือ ภาวะแพ้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ ทำให้หลังจากแช่น้ำยาแล้ว ก่อนจะใส่ต้องล้างน้ำเกลืออีกครั้งก็เลยจะยุ่งยากกว่าคนอื่น

เวลาไปไหนก็เลยต้องพกทั้งขวดน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ และขวดน้ำเกลือ แถมสมัยก่อนก็หาซื้อได้แต่ตามร้านขายเท่านั้น จะไปไหนแต่ละทีก็ไม่ค่อยสะดวกเพราะต้องพกของเยอะมากๆ เลยคิดอยากจะทำเลสิกให้มันจบๆ ไป

ผมศึกษาข้อมูลการทำเลสิกมาค่อนข้างนานครับ จริงๆ แล้วอยากจะทำแบบ RELEX ไปเลย แต่ราคาค่อนข้างสูง ก็เลยลดระดับลงมาเป็นแบบ FEMTO LASIK เพราะว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้เลเซอร์ ไม่ได้ใช้ใบมีดเหมือนรุ่นเก่าๆ

เฟมโตเลสิก (FEMTO LASIK) เป็นการทำเลสิกไร้ใบมีด ใช้เลเซอร์เพื่อแยกชั้นกระจกตา ข้อดีก็คือระหว่างการผ่าตัดจะรู้สึกสบายตามากกว่าการทำเลสิกแบบเดิมครับ

จริงๆ ผมมองการทำเลสิกเอาไว้หลายปีแล้ว แต่ที่เพิ่งตัดสินใจทำตอนนี้ก็เพราะว่าค่าสายตาของผมเพิ่งจะนิ่งเมื่อ 2 ปีก่อน และด้วยความที่งานของผมทำให้ได้เจอคนหลากหลาย และเจอกับคนที่เพิ่งทำ FEMTO LASIK มา ก็เลยได้พูดคุยและเค้าก็แนะนำให้ไปพบคุณหมอครับ

ผมได้มีโอกาสเข้าไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลพญาไท 3 โดยที่นี่มีเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งในประเทศไทยมีแค่ 2 ที่ ที่มีเครื่องรุ่นใหม่แบบนี้ เค้าบอกว่าเครื่องรุ่นใหม่มีระบบที่จับเกี่ยวกับลูกตาแม่นยำกว่า เลยตัดสินใจว่าจะทำ FEMTO LASIK ที่ โรงพยาบาลพญาไท 3 ครับ

แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ผมก็เลยอยากจะผ่อนชำระแบบ 6 เดือน หรือ 10 เดือน ก็เลยเซิร์จอินเทอร์เน็ต เห็นเว็บไซต์ของ HDmall.co.th ขึ้นมา พอเข้ามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมทำเลสิก เห็นว่ามี FEMTO LASIK ที่ โรงพยาบาลพญาไท 3 ด้วย ก็เลยตัดสินใจจองคิวทำนัดโดยไม่คิดเยอะเลย

การเตรียมตัวก่อนทำ FEMTO LASIK

การเตรียมตัวก่อนทำ FEMTO LASIK คุณหมอแนะนำให้หยุดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 7 วัน แต่ถ้าหากหยุดได้นานกว่านั้นก็จะดี ซึ่งผมก็หยุดใส่คอนแทคเลนส์ไปประมาณ 14 วัน ระหว่างนี้ก็ใส่แว่นตาเอาครับ 

วันที่นัดตรวจ ผมบอกกับคุณหมอว่าถ้าหากตรวจประเมินสายตาแล้วทำวิธีนี้ได้ ผมก็อยากจะทำเลย เพราะไม่อยากมาโรงพยาบาลหลายๆ รอบ

ตื่นมาตอนเช้าผมก็อาบน้ำแต่งตัวปกติตามคำแนะนำของโรงพยาบาลว่าไม่ให้แต่งหน้า ไม่ให้ทาโลชั่น หรือทาแป้ง ทำให้หน้าโล้นมากที่สุดมาโรงพยาบาล และห้ามฉีดสเปรย์ น้ำหอม หรือทำผมมาด้วยครับ และควรพาคนมาด้วยเพื่อที่จะให้พากลับบ้าน เพราะหลังทำเสร็จไม่แนะนำให้ขับรถยนต์กลับเอง

การตรวจประเมินก่อนทำ FEMTO LASIK

พอมาถึงที่โรงพยาบาลก็เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจประเมิน ก็ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งก็มีตั้งแต่การตรวจวัดสายตา ตรวจวัดความดันตา ตรวจความโค้งความหนาของกระจกตา ตรวจความเพี้ยนในการรวมแสง ตรวจวัดระดับการมองเห็น และตรวจวัดค่าความผิดปกติของสายตาก่อนและหลังการขยายม่านตา และสุดท้ายก็ตรวจและประเมินสภาพตาโดยละเอียดโดยจักษุแพทย์อีกครั้ง

หลักๆ คือตรวจเพื่อดูว่ากระจกตาเราหนาพอที่จะทำวิธีนี้ได้ไหม เพราะถ้ากระจกตาบางมากก็อาจจะต้องทำแบบอื่น ซึ่งตอนแรกผมก็กังวลว่าจะทำ FEMTO LASIK ได้ไหม แต่หลังจากตรวจประเมินแล้วก็สามารถทำได้ครับ

ผมตรวจเสร็จทุกขั้นตอนประมาณ 11.00 น. และได้คิวผ่าตัดตอน 13.00 น. พอถึงคิวคุณพยาบาลจะหยอดยาชาให้ประมาณ 3 รอบ หยอดยาฆ่าเชื้อ แล้วก็พาไปเปลี่ยนชุด เก็บผม แล้วก็เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดครับ

ขั้นตอนการทำ FEMTO LASIK

ส่วนตัวผมไม่ได้กังวลหรือตื่นเต้นอะไรมาก เพราะด้วยความที่ผมศึกษาข้อมูลมาอย่างดี ไม่ว่าจะประวัติของคุณหมอว่าจบด้านเลสิกเลเซอร์ที่ต่างประเทศมาโดยเฉพาะ เราก็เลยมั่นใจ และผมก็เคยผ่าตัดในกลุ่มศัลยกรรมมาแล้วก็เลยค่อนข้างผ่อนคลาย ระหว่างรอเตรียมเครื่อง ก็แอบงีบไปนิดนึงครับ

พอเข้ามาในห้อง รู้สึกว่าแอร์เย็นมาก เพราะเค้าต้องรักษาอุณหภูมิของเครื่อง ในห้องผ่าตัดผมเข้าใจว่าระบบของโรงพยาบาลดีมากๆ เพราะมีพยาบาลรวมแล้วกว่า 10 คน แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเองต่างกัน เช่น คนนี้ทำหน้าที่หยอดตา คนนี้ช่วยหมอ คนนี้ดูแลคนไข้

คุณหมอจะบอกทุกขั้นตอน ทุกสเต็ป ทำให้เราปฏิบัติตามได้ง่าย และทุกอย่างก็เดินไปอย่างรวดเร็วมากๆ พอขึ้นเตียง คุณพยาบาลก็ห่มผ้าให้ แล้วนำลูกบอลนิ่มๆ ให้มือข้างละลูกเอาไว้กำ เผื่อว่าบางคนกังวล หรือตกใจ จะได้กำลูกบอลได้ ตัวผมเองก็กำนะ เพราะตอนทำตาข้างขวา เป็นข้างแรก ผมก็ค่อนข้างลุ้นเพราะไม่เคยทำครับ

ขั้นตอนแรก คุณหมอจะใช้เทปกาวแปะถ่างเปลือกตาก่อน แล้วใส่ตัวอุปกรณ์ถ่างเปลืองตาหนังตาออกเลย ความรู้สึกก็จะตึงๆ เจ็บๆ เหมือนมีคนมากดตา แต่ความรู้สึกเจ็บจะอยู่แค่ช่วงแรก สักพักก็รู้สึกปกติ นิ่งๆ ไม่ได้เจ็บมาก

จากนั้นก็มีเครื่องมือมาครอบรอบดวงตาอีกที โดยรวมแล้วจะล็อกอยู่ประมาณ 3-4 ชั้น แล้วคุณหมอก็ให้เรามองไฟสีเขียวครับ ซึ่งตอนแรกไฟจะกะพริบๆ คุณหมอให้มองที่จุดเดียวเพื่อให้ตาเรานิ่งมากที่สุด

เข้าสู่ขั้นตอนการเปิดกระจกตา ผมเห็นเลยว่าเลเซอร์ที่กำลังวิ่งมันเป็นยังไง ที่เห็นเลยคือเป็นแสงเส้นๆ วิ่งขึ้นวิ่งลงตามแนว ระหว่างนี้ก็ได้ยินเสียงขึ้น ติ๊ดๆๆๆๆ ตลอด ตาเราจ้องที่แสงสีเขียว ก็เลยจ้องตรงนั้นอย่างเดียว ล็อกเอาไว้ไม่กระดิกตา ส่วนเรื่องกะพริบตาไม่ต้องพูดถึงเลยครับเพราะว่าอุปกรณ์ที่ถ่างตาทำให้หลับตาไม่ได้

พอเลเซอร์มันทำงานครบพื้นที่ ภาพก็จะมืดไปชั่วขณะ จากนั้นก็เห็นเลยว่าหมอเปิดกระจกตาของเราออก จากนั้นก็กลับมามองเห็นแสงสีเขียวอีกครั้ง ตอนนั้นก็โล่งใจแล้วว่าเรามองเห็นแล้ว และคุณหมอก็ใส่ยานู่นี่นั่น

กระจกตาเปิดขึ้น ก็จะมีอีกเครื่องเข้ามาปรับความโค้งของกระจกตา ตัวเครื่องเลเซอร์จะนับเวลาย้อนหลังให้เราได้ยินตามระยะสายตา ตัวเครื่องจะส่งเสียงติ๊ดๆๆๆ บางคนบอกว่าจะได้กลิ่นเหม็นไหม้ แต่ว่าผมไม่ได้กลิ่นนะ อาจเป็นเพราะว่าเค้าปิดหน้าปิดจมูกเราหลายชั้น แถมผมยังใส่หน้ากากอนามัยอีกก็เลยไม่ได้กลิ่น

เครื่องที่ปรับความโค้งกระจกตาจะนับถอยหลังจนครบ คุณหมอก็ปิดกระจกตากลับ แล้วก็หยอดยานู่นนี่นั่นอีกเป็นอันเสร็จขั้นตอนสำหรับหนึ่งข้าง พอเปลี่ยนมาทำข้างซ้ายผมก็ชิลละ เพราะรู้ว่าจะมีขั้นตอนยังไงบ้างก็เลยไม่ค่อยกังวล

ความรู้สึกระหว่างทำไม่ได้เจ็บหรืออะไรเลยนะครับ ชิลมากๆ เพราะด้วยยาชาที่ออกฤทธิ์ดี และมีลูกบอลที่กำอยู่ ก็เลยรู้สึกว่าแปปเดียวก็เสร็จ

ความรู้สึกหลังทำ FEMTO LASIK

หลังจากทำครบทั้ง 2 ข้าง ก็ลุกจากเตียงเพื่อไปให้คุณหมอตรวจดูแผลอีกครั้ง แว้ปแรกที่ผมยืนขึ้นก็มองเห็นเลยว่าภาพชัด แต่ว่าแสงในห้องมันจะมัวๆ หน่อย เหมือนมีหมอกอยู่เต็มห้อง จากนั้นคุณพยาบาลก็มาหยอดยาฆ่าเชื้อให้แล้วใส่ที่ครอบตาก็กลับบ้านได้ครับ

โรงพยาบาลจะให้ยาพารามาด้วย เผื่อว่าใครปวดลูกตาก็กินพาราได้ แล้วก็มียาฆ่าเชื้อมาให้หยอดวันละ 4 ครั้งจนหมด ส่วนน้ำตาเทียมสามารถหยอดได้เรื่อยๆ เมื่อรู้สึกว่าตาแห้งได้เลย

หลังทำเสร็จคุณหมอให้ปิดตาไว้ 5 ชั่วโมง ตอนกลับบ้านก็ให้คนที่มาด้วยพากลับและปิดตาไปยาวๆ และงดใช้สายตาตลอด 5 ชั่วโมง พอครบกำหนดผมก็เปิดตาแล้วหยอดยาฆ่าเชื้อที่เค้าให้มาครับ

5 ชั่วโมงแรก ผมรู้สึกเคืองตามากๆ เจ็บตาเพราะอุปกรณ์ที่ใช้ถ่างตรงเปลือกตา ส่วนตรงแผลในลูกตารู้สึกแค่เคืองๆ เหมือนมีอะไรเข้าตา แต่พอผ่าน 5 ชั่วโมงแรกไปก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ แค่มีอาการตาแห้งเป็นหลัก

เช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อให้คุณหมอตรวจดูแผลว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะบางคนอาจเผลอขยี้ตาทำให้กระจกตาที่ปิดกลับอาจจะย่นหรือมีปัญหาได้ แต่ของผมแผลเรียบเนียนดีไม่มีปัญหาอะไร ใช้เวลาตรวจทั้งหมดประมาณ 10 นาที หลักๆ ก็แค่ดูแผลเฉยๆ ครับ

สำหรับอาการตาแห้ง เราก็สามารถหยอดน้ำตาเทียมได้ทุกครึ่งชั่วโมง หรือทุก 1 ชั่วโมงก็ได้ ส่วนยาฆ่าเชื้อให้หยอดตอนเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอนครับ

ความรู้สึกหลังทำ FEMTO LASIK ก็มองเห็นชัดเหมือนตอนใส่คอนแทคเลนส์ครับ แต่ที่มันดีกว่าเดิมคือ ตื่นเช้ามาภาพรอบตัวก็ชัดเลย ไม่ต้องควานหาแว่นตา เวลาอาบน้ำก็มองเห็นทุกอย่างชัด ไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่จะใช้งาน

ผมรู้สึกว่าการทำ FEMTO LASIK คุ้มค่ามาก ทำครั้งเดียวแล้วจบเลย ไม่ต้องวุ่นวายกับคอนแทคเลนส์ จากเดิมที่มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลายร้อย แถมต้องกังวลเรื่องความสะอาด อาการเคืองตา แถมเคยอ่านเจอว่าใส่คอนแทคเลนส์นานๆ ก็มีโอกาสเป็นต้อลมอีกด้วย

สำหรับการทำ FEMTO LASIK ที่ โรงพยาบาลพญาไท 3 ของผมที่ชำระเงินผ่าน HDmall.co.th ถือว่าประทับใจมากๆ คุณหมอและพยาบาลดูแลดีในทุกขั้นตอนเลยไม่มีความกังวลอะไรมาก และที่ HDmall.co.th ยังช่วยให้ผมประหยัดค่าใช้จ่ายไป และอำนวยความสะดวกในการผ่อนชำระไปได้เยอะมากๆ ครับ

ผมคิดว่าการทำ FEMTO LASIK ของผม ถือเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ทีเดียวกับการมองเห็น และไม่ต้องไปเสียเงินกับอะไรยิบๆ ย่อยๆ อีก ใครที่ยังลังเล หรืออยู่ในระหว่างการตัดสินใจ ผมขอแนะนำเลยว่าทำเถอะ คุ้มมากๆ

---

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

• เลสิก และการผ่าตัดรักษาสายตาผิดปกติแบบอื่นๆ
• 4 เทคนิคผ่าตัดแก้ค่าสายตา PRK, LASIK, Femto LASIK, ReLEx SMILE