รีวิว รักษาโควิด ด้วยยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)


รีวิว รักษาโควิด ด้วยยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • โบว์คิดว่าตัวเองได้รับเชื้อโควิดมาในวันที่ไปย่านทองหล่อค่ะ ร่างกายไม่แข็งแรงอยู่แล้ว พอสัมผัสใกล้ชิดกับเชื้อโควิด ก็เลยทำให้ติดเชื้อโควิดได้ง่าย
  • พอลองตรวจโควิด ผลปรากฎว่ายังไม่มีเชื้อ ซึ่งจากข้อมูลส่วนใหญ่บอกว่า ระยะฟักตัวโควิดจะอยู่ที่ประมาณ 2-14 วัน เราก็เลยรออีกนิดหน่อยก่อนจะไปตรวจอีกครั้งที่โรงพยาบาล คุณหมอก็ให้แอดมินเลย เพราะเรามีอาการที่เข้าข่ายติดเชื้อโควิด และได้ไปเอกซเรย์ปอดด้วย
  • ในช่วงแรกคุณหมอจะให้กินยาตามอาการ และยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ซึ่งเป็นยาที่ใช้ต้านไวรัสโคโรนาอยู่ในตอนนี้ โดย 3 วันแรกจะให้กินทั้งหมด 18 เม็ด แบ่งเป็นตอนรอบ 10 โมงเช้า กับ 4 ทุ่ม รอบละ 9 เม็ด จากนั้นลดลงเหลือแค่ครึ่งนึง
  • ระหว่างการรักษาตัวอยู่ในห้องพัก คุณหมอจะเข้ามาคอยดูอาการทุกวัน มาคอยฟังเสียงปอด และถามไถ่อาหาร ส่วนคุณพยาบาลก็จะเข้ามาตอนเช้าเพื่อให้ยาทางสายน้ำเกลือ และตอนกลางคืน และหมั่นวัดไข้อยู่เสมอ

หลายคนคงจะรู้กันจากข่าวว่าโควิดคลัสเตอร์รอบที่ 3 (ในปี 2021) หรือการแพร่ระบาดรอบที่ของเชื้อโควิด-19 รอบที่ 3 มีจุดเริ่มต้นมาจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ซึ่งโบว์ก็เป็นหนึ่งคนที่ได้รับเชื้อมาจากที่แห่งนั้น บวกกับร่างกายที่ไม่แข็งแรง มีอาการคลื่นไส้อาเจียนอยู่แล้ว แถมบังเอิญไปในวันที่มีการแพร่ระบาดก็เลยทำให้รับเชื้อได้อย่างง่ายดายค่ะ

ในตอนแรกเริ่มอาการที่เป็นคือ เจ็บคอ ไออยู่ประมาณ 2 วันก็เลยไปหาหมอ ซึ่งข่าวยังไม่ออกว่ามีการแพร่ระบาดของโควิดในย่านทองหล่อก็เลยยังไม่เอะใจ คุณหมอก็ตรวจตามอาการปกติ แต่ก็แนะนำให้ ตรวจโควิด ด้วย เพราะมีอาการที่ใกล้เคียง

พอลองตรวจโควิด ผลปรากฎว่ายังไม่มีเชื้อ ซึ่งจากข้อมูลส่วนใหญ่บอกว่า ระยะฟักตัวโควิด จะอยู่ที่ประมาณ 2-14 วัน เราก็เลยรออีกนิดหน่อยก่อนจะไปตรวจอีกครั้งที่โรงพยาบาล

ตอนที่ไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาล ระหว่างรอผลตรวจคุณหมอก็ให้แอดมิดเลย เพราะเรามีอาการที่เข้าข่ายติดเชื้อโควิด และพยาบาลได้พาไป ตรวจปอด ด้วยการเอกซเรย์เพื่อดูว่าเชื้อโควิดลงปอดรึยัง และในตอนเย็นก็ปรากฎว่าเราติดโควิดแถมเชื้อกำลังเริ่มลงปอดก็เลยรีบแจ้งกับคนรอบตัวทันที

ยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)

ยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)

การรักษาโควิดในโรงพยาบาลช่วงแรกคุณหมอจะให้กินยาตามอาการ และให้กินยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ซึ่งเป็นยาที่หลายโรงพยาบาลใช้ต้านไวรัสโคโรนาอยู่ในตอนนี้ 

การกินยาฟาวิพิราเวียร์ ใน 3 วันแรกคุณหมอให้กินทั้งหมด 18 เม็ด แบ่งเป็นรอบ 10 โมงเช้า กับ 4 ทุ่ม รอบละ 9 เม็ด แต่พอผ่านไปประมาณวันที่ 4 อาการของเราดีขึ้นก็ลดตัวยาลงเหลือแค่ครึ่งนึง คือกินแค่รอบละ 3-4 เม็ดค่ะ 

อธิบายเพิ่มก่อนว่า ยา ฟาวิพิราเวียร์ ไม่ใช่ยารักษาโควิดโดยตรง แต่เป็นยาที่รักษาโรคปอดอักเสบจากไวรัส ซึ่งคนที่เชื้อไวรัสลงปอดแบบเราจะต้องกินยานี้ให้ครบตามกำหนด เพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายปอดค่ะ

ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) คืออะไร? 

ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เป็นยาต้านเชื้อไวรัสที่อยู่ในสูตรยารักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่ใช้ควบคู่ไปกับยาอื่นและได้ผลดี แต่ปกติแล้วยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาต้านไวรัสที่ใช้กับไวรัสไข้หวัดใหญ่ค่ะ

สำหรับคนไทย องค์การเภสัชกรรมได้วิจัยและพัฒนายาฟาวิฟิราเวียร์ และได้รับการอนุมัติให้ใช้ในผู้ป่วย COVID-19 เป็นกรณีพิเศษในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักค่ะ แต่ปัจจุบัน ในปี 2023 หากใครที่ป่วยเป็นโควิด-19 ก็อาจจะไม่ได้รับยาตัวนี้แล้วนะคะ แต่อาจจะได้ยาตัวอื่นที่เหมาะสมกับอาการของแต่ละคนค่ะ


จองวัคซีนตรวจโควิด

ในตอนนั้นโบว์เป็นหนึ่งในผู้ป่วยที่เชื้อโควิดลงปอด คุณพยาบาลก็เลยต้องคอยตรวจปอดด้วยการเอกซเรย์อยู่เสมอว่าปอดเราเป็นยังไงบ้าง โดยในวันแรกที่แอดมิดก็มีการเอกซเรย์ไปรอบนึงแล้ว แต่ระหว่างรักษาตัวก็มีการทำ CT Scan เพื่อดูปอดอย่างละเอียด และคอยเอกซเรย์เป็นระยะๆ 

ในวันที่ 4 โบว์อาการดีขึ้น ได้ลดจำนวนยา คุณหมอและพยาบาลก็ลดความถี่ในการเข้ามาตรวจเช็ค และในวันที่ 7 หลังเอกซเรย์ปอดอีกครั้ง คุณหมอก็บอกว่าตอนนี้เชื้อไม่ลงปอดแล้ว สบายใจได้ 

ผู้รักษาโควิด ด้วยยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)

ระหว่างการรักษาตัวอยู่ในห้องพัก คุณหมอจะเข้ามาดูอาการทุกวัน มาฟังเสียงปอด และถามไถ่อาการ ส่วนคุณพยาบาลก็จะเข้ามาตอนเช้าเพื่อให้ยาทางสายน้ำเกลือ และตอนกลางคืนจะคอยหมั่นมาวัดไข้อยู่เสมอ 

โดยทุกคนที่เข้ามาตรวจร่างกายหรือตรวจโควิดให้โบว์ จะต้องสวมชุดป้องกันมาอย่างรัดกุม โดยใส่ชุด PPE ที่คลุมทั้งตัว ส่วนการรับส่งอาหาร จะมีเจ้าหน้าที่เข็นรถมาวางไว้ให้ที่หน้าห้อง จากนั้นพยาบาลจะโทรเข้ามาบอกค่ะ

ครบ 10 วันที่อยู่ในโรงพยาบาล คุณหมอบอกว่าเชื้อในร่างกายเราหมดแล้ว ไม่สามารถแพร่เชื้อต่อได้ แต่จะต้องกักตัวเพิ่มที่บ้านอีก 14 วันเพื่อให้ครบตามนโยบายของรัฐบาล และต้องดูแลรักษาตัวให้ดี งดไปในพื้นที่เสี่ยง สวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือสม่ำเสมอ

ผู้รักษาโควิด ด้วยยาต้านไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)

โดยส่วนตัวโบว์คิดว่า โควิด-19 ก็เหมือนกับไข้หวัดทั่วไปค่ะ แต่มันรุนแรงกว่านิดหน่อยตรงที่เชื้อโควิดสามารถเข้าไปทำลายปอดเราได้ หากเราไม่มาตรวจและรู้ตัวก่อนก็อาจจะรักษาไม่ทัน ดังนั้น หากใครไปสัมผัสผู้ติดเชื้อ หรือไปในสถานที่เสี่ยงมา แนะนำให้ ตรวจโควิด เพื่อรู้สถานะของตัวเองก่อนที่เชื้อจะลงปอดนะคะ

สำหรับปัจจุบันในปี 2023 ใครที่ป่วยเป็นโควิด-19 ก็อาจจะไม่ต้องกักตัวหรือเข้าโรงพยาบาลแบบโบว์แล้วนะคะ เพราะว่าตอนนี้หลายๆ คนก็ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดกันไปหลายเข็มแล้ว และมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิด-19 เพียงพอแล้วค่ะ 

หากใครที่ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงปี 2023 ก็น่าจะมีอาการที่ไม่หนักมาก และอาจจะกำลังมองหาทางเลือกในการรักษา โบว์แนะนำว่า หากมีอาการไม่รุนแรงก็สามารถรักษาตัวอยู่บ้าน หลีกเลี่ยงการพบเจอผู้คน และก็กินยารักษาตัวตามอาการ แต่ถ้าหากอาการหนักก็แนะนำให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจะดีที่สุดค่ะ


บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat