สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- ด้วยการใช้ชีวิตและหน้าที่การงานที่ทำ ทำให้เราไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องสุขภาพและอาหารการกินเท่าไหร่จนร่างกายมีปัญหา เราก็เลยอยากหาตัวช่วยดีๆ ค่ะ
- เราเลือกใช้บริการทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) ล้างโลหะหนักจากเลือด ที่ Chrio Clinic เนื่องจากเป็นแพ็กเกจที่ตอบโจทย์ และให้บริการโดยคุณหมอผู้ชำนาญการด้วย
- ขั้นตอนการทำคีเลชั่นบำบัด จะเป็นการให้วิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำ โดยจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 45-60 นาที
- ผลลัพธ์หลังจากทำ เราก็รู้สึกได้เลยว่านอนหลับง่ายขึ้น มีความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ Chrio Clinic
- ดูรายละเอียด ราคาทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) ล้างโลหะหนักจากเลือด ที่ Chrio Clinic
- ดูรายละเอียดแพ็กเกจทั้งหมดจาก Chrio Clinic บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่
ด้วยวิถีชีวิตรีบเร่งของคนเมือง บวกกับอาชีพแอร์โฮสเตสที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ เลยทำให้เราไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องสุขภาพและอาหารการกินของตัวเองสักเท่าไหร่
ซึ่งผลลัพธ์จากการที่ไม่ใส่ใจสุขภาพและไม่เลือกกิน ก็ทำให้ร่างกายของเราเริ่มมีปัญหา ภูมิคุ้มกันต่ำลง ท้องเสียง่ายขึ้น นอนไม่ค่อยหลับ รู้สึกเหนื่อยล้าง่าย แถมยังทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ไม่ดีเท่าเมื่อก่อนด้วย
เราเลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องหาตัวช่วยเสริมในการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้กลับมาทำงานได้เต็มที่อีกครั้ง ก็เลยลองเสิร์ชหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดูว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ
และเราก็ได้มาเจอกับการทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) ซึ่งจากที่อ่านข้อมูลดูแล้ว ก็เป็นวิธีที่ตอบโจทย์กับปัญหาของเรามากๆ แถมยังช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงขึ้นได้ด้วย
เราเลยรู้สึกสนใจวิธีนี้ขึ้นมาและลองเสิร์ชหาแพ็กเกจทำคีเลชั่นดู จนได้มาเจอกับโปรแกรมทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) ล้างโลหะหนักจากเลือด ที่ Chrio Clinic บน HDmall.co.th
ซึ่งที่ Chrio Clinic เค้าก็ให้บริการโดยคุณหมอนก แพทย์เฉพาะทางด้านชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ ที่ผ่านการอบรมจากสมาคมคีเลชั่นแห่งประเทศไทยมาแล้ว แถมยังมีประสบการณ์และมีความเข้าใจในการทำคีเลชั่นเป็นอย่างดีอีกด้วย เราเลยไม่ลังเล รีบกดจองแพ็กเกจนี้ทันทีค่ะ
รีวิว ทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) ที่ Chrio Clinic
สำหรับที่ Chrio Clinic ตอนนี้ก็เปิดให้บริการทั้งหมด 2 สาขาด้วยกัน คือ สาขาบางนา-ราม 2 และสาขาปุณณวิถี โดยครั้งนี้เราก็เลือกเข้ามาใช้บริการที่สาขาบางนา-ราม 2 ค่ะ
Chrio Clinic สาขาบางนา-ราม 2 จะตั้งอยู่ในซอยตลาดนัมเบอร์วัน ราม 2 เลยค่ะ พอเข้ามาด้านในคลินิกแล้วก็ติดต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับยื่นคูปองที่ได้รับจาก HDmall.co.th ให้ดู
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อทำประวัติกับทางคลินิกก่อน เสร็จแล้วก็เข้าไปปรึกษาปัญหาสุขภาพกับคุณหมอได้เลยค่ะ
เริ่มแรกคุณหมอจะซักประวัติและสอบถามอาการเบื้องต้นของเราก่อนว่า มีปัญหาสุขภาพอะไร ทำไมถึงสนใจอยากทำคีเลชั่น ปกติแล้วมีการใช้ชีวิตประจำวันยังไงบ้าง
เราก็เล่าปัญหาให้ฟังไปว่า เราทำงานเป็นแอร์โฮสเตส ทำให้ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ จนไม่มีเวลาได้ดูแลสุขภาพของตัวเองและไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน
ซึ่งการใช้ชีวิตแบบนี้ก็ส่งผลให้เราพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอ่อนเพลีย ท้องเสียง่ายขึ้น และทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลงด้วย
หลังจากเล่าปัญหาให้ฟังแล้ว คุณหมอก็บอกว่าเราเหมาะมากที่จะทำคีเลชั่นบำบัด เพราะจากที่ฟังปัญหาและการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ก็น่าจะมีโลหะหนักสะสมอยู่ในร่างกายเยอะพอสมควรเลย การทำคีเลชั่นก็จะสามารถช่วยกำจัดโลหะหนักนี้ออกไปได้
โดยคุณหมอก็ได้อธิบายข้อมูลเกี่ยวกับการทำคีเลชั่นให้ฟังด้วยว่า คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร? เหมาะกับใครและไม่เหมาะกับใครบ้าง? รวมถึงอธิบายด้วยว่าโลหะหนักที่สะสมอยู่ในร่างกายของเรานั้นมาจากไหน?
คีเลชั่น (Chelation Therapy) คืออะไร?
จากที่คุณหมออธิบายให้ฟัง การทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) ก็คือการกำจัดโลหะหนักออกจากหลอดเลือดด้วยการให้สารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำ
ซึ่งตัวคีเลชั่นจะมีส่วนผสมของวิตามินและเกลือแร่หลายชนิดที่สามารถดึงโลหะหนักที่สะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดออกมาได้ และจะขับออกมาผ่านทางปัสสาวะ
ร่างกายได้รับโลหะหนักจากทางไหนบ้าง?
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าร่างกายของเราไปรับโลหะหนักมาจากไหน? รับมาได้ยังไง? จากที่คุณหมออธิบายให้ฟัง โลหะหนักก็มักจะปนเปื้อนอยู่ตามสิ่งแวดล้อม สิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงอาหารที่เรากินอยู่ทุกวันนี้นั่นล่ะค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนักที่ปนเปื้อนในอากาศ เช่น มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม มลพิษจากการคมนาคมบนท้องถนน บุหรี่ สารเคมี หรือตอนนี้ที่ทุกคนเจอหนักๆ เลยก็คือ ฝุ่น PM 2.5
ส่วนโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหารก็เช่น อาหารทะเล อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ช็อกโกแลต หรืออาหารที่มีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง
การทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) มีประโยชน์อย่างไร?
สำหรับประโยชน์ของการทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) คุณหมอบอกว่าถ้าทำเป็นประจำต่อเนื่องก็จะช่วยกำจัดโลหะหนักที่สะสมในร่างกายออกไปได้ ช่วยลดความดันโลหิต ลดหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และลดการเกิดมะเร็ง
นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเอนไซม์ต่างๆ ในร่างกาย รวมไปถึงเพิ่มการดูดซึมวิตามิน แร่ธาตุ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
การทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) เหมาะกับใคร?
จากคำแนะนำของคุณหมอ การทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) ก็เหมาะกับคนที่มีอาการเหนื่อยเพลีย อ่อนล้า ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และมีอาการภูมิแพ้ต่างๆ โดยสามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัยเลยค่ะ
นอกจากนี้การทำคีเลชั่นก็เหมาะกับผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับสารเคมี สูบบุหรี่เป็นประจำ กินอาหารนอกบ้านและอาหารสำเร็จรูปบ่อยๆ รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและความดันโลหิตสูงด้วย
แต่การทำคีเลชั่นก็จะมีข้อจำกัดอยู่นิดนึงคือ ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ กำลังให้นมบุตร มีภาวะการทำงานของไตและตับบกพร่อง มีโรคประจำตัว G6PD มีภาวะหัวใจล้มเหลว และผู้ที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด อันนี้จะไม่สามารถทำคีเลชั่นได้ค่ะ
ขั้นตอนการทำคีเลชั่น (Chelation Therapy)
หลังจากพูดคุยกับคุณหมอเสร็จแล้ว ต่อมาก็จะเป็นขั้นตอนการทำคีเลชั่นกันเลยค่ะ
โดยขั้นตอนแรก เจ้าหน้าที่จะพาเข้าไปนั่งในห้องฉีดวิตามินก่อน ซึ่งในห้องนี้ก็จะมีโซฟานุ่มๆ ให้นั่ง แอร์เย็นสบาย บรรยากาศในห้องมีความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการฉีดวิตามินมากๆ
จากนั้นขั้นตอนต่อมา เจ้าหน้าที่ก็จะเช็ดทำความสะอาดบริเวณข้อพับแขนและนำสายมารัดไว้เพื่อทำให้เห็นเส้นเลือดชัดขึ้น เสร็จแล้วคุณหมอก็จะเข้ามาเจาะสายน้ำเกลือเข้าที่ข้อพับแขนและปล่อยให้ตัววิตามินเข้าสู่ร่างกายเลยค่ะ
เราจะบอกว่าตอนที่คุณหมอเจาะสายน้ำเกลือเข้าไปเราไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลยค่ะ คุณหมอมือเบามากจริงๆ รู้ตัวอีกทีก็คือเริ่มให้วิตามินแล้ว
ระหว่างที่ปล่อยให้วิตามินเข้าสู่ร่างกาย เราก็สามารถนั่งเล่นรอไปเพลินๆ ได้เลย ใช้เวลาในการทำคีเลชั่นบำบัดอยู่ที่ประมาณ 45-60 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
หลังจากครบกำหนดเวลา คุณหมอก็จะถอดสายน้ำเกลือออกพร้อมกับให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังทำว่า ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดออกกำลังกายหนักๆ
และถ้าเป็นไปได้หลังทำคีเลชั่นก็แนะนำให้กินพวกแร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ จำพวกสังกะสี ทองแดง แมกนีเซียม และโคคิวเท็น เพื่อทำให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียด้วยค่ะ
ผลลัพธ์หลังใข้บริการ
สำหรับผลลัพธ์ที่ได้หลังทำคีเลชั่น เราก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองนอนหลับง่ายขึ้น หลับลึก ตื่นเช้ามาก็รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ส่วนอาการอื่นๆ ก็ต้องรอดูอีกทีค่ะว่าจะดีขึ้นมั้ย
ซึ่งคุณหมอก็ได้แนะนำว่า ให้กลับมาทำคีเลชั่นเดือนละครั้งต่อเนื่องกันเป็นประจำสัก 8 ครั้งต่อปี เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน และช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดสารก่อมะเร็งในร่างกาย แถมยังช่วยให้สมองเราสดชื่นมากขึ้นด้วยค่ะ
บรรยากาศของ Chrio Clinic
บรรยากาศของ Chrio Clinic สาขาบางนา-ราม 2 ที่นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคลินิกที่ดีมากเลยค่ะ เพราะด้านในตกแต่งน่ารัก สะอาดดูน่าใช้บริการ และถึงแม้วันที่เข้าไปรับบริการจะมีลูกค้าเยอะ แต่เข้าไปแล้วก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด แถมห้องทำคีเลชั่นก็เป็นส่วนตัวมากๆ
ด้านการให้บริการ พี่ๆ เจ้าหน้าที่ทุกคนดูแลดีมาก จัดการคิวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เราไม่ต้องมานั่งรอคิวนานๆ ส่วนคุณหมอเองก็อธิบายข้อมูลต่างๆ ได้อย่างละเอียด เข้าใจง่าย มีคำถามอะไรเพิ่มเติมก็สามารถถามได้หมด ประทับใจมากค่ะ
สำหรับใครที่สนใจหรือกำลังมองหาคลินิกทำคีเลชั่นดีๆ อยู่ เราก็แนะนำให้มาใช้บริการทำคีเลชั่น (Chelation Therapy) ล้างโลหะหนักจากเลือด ที่ Chrio Clinic เลยค่ะ ที่นี่คุณหมอเค้ามีความชำนาญการมากๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปจองแพ็กเกจทำคีเลชั่นในราคาสุดคุ้มได้ที่ HDmall.co.th เลยค่ะ นอกจากการทำคีเลชั่นแล้ว ในนี้เค้ายังรวบรวมแพ็กเกจและโปรโมชันดีๆ ของ Chrio Clinic ไว้อยู่เพียบ แถมขั้นตอนการจองคิวทำนัดก็ง่ายมาก มีแอดมินคอยจัดการให้หมดเลยค่ะ
บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
