สรุปการรีวิว
ปิด
ปิด
- พออายุเข้า 30 ช่วงไหนไม่ได้ออกกำลังกาย กินอาหารไม่ดี นอนน้อย ทำงานหนักๆ ก็จะปวดหลังบ้าง เป็นสิวบ้าง หน้าดูโทรมแบบสังเกตได้ กลายเป็นต้องคอยดูแลตัวเองไว้ตั้งแต่ไม่มีอาการอะไรแสดงออกมา
- การตรวจ DNA ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค มันเป็นแค่การบอกว่าจากยีนของเรา ด้วยพันธุกรรมที่เราได้รับมาจากพ่อแม่เนี่ย พื้นฐานร่างกาย สุขภาพกาย สุขภาพจิตมาเป็นยังไง แต่สุดท้ายแล้วจะเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราเองด้วย
- การเก็บตัวอย่าง DNA พยาบาลจะใช้สำลีปาดเนื้อเยื่อจากกระพุ้งแก้มไป ประมาณข้างละ 30 วินาที เป็นอันเสร็จ และรอผลประมาณ 30-45 วัน จากนั้นค่อยกลับมาฟังผลกับคุณหมอ
- ตรวจ DNA เป็นเหมือนการทำนายความเสี่ยงโรคต่างๆ ล่วงหน้าให้กับเราได้ เรารู้สึกว่ามันเป็นการตรวจที่ช่วยพิสูจน์ให้เห็นว่าร่างกายเราเป็นยังไง สุขภาพที่แท้จริงของเราเป็นแบบไหน จากที่ผ่านมาเมื่อเรามีอาการเจ็บป่วยหรือรู้สึกสงสัยอะไรเกี่ยวกับร่างกาย เราก็อาจจะคาดเดาไปเองมากกว่า
- รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ โรงพยาบาลพญาไท 2
- ดูรายละเอียด ตรวจ Premium DNA TEST 500+ รายการ ที่ รพ. พญาไท 2
- ดูรายละเอียด โปรแกรมทั้งหมดจาก รพ. พญาไท 2 บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
สารบัญ
- โปรแกรมตรวจ Premium DNA คืออะไร ทำไมถึงอยากตรวจ?
- กังวลสุขภาพด้านไหนเป็นพิเศษ?
- ตรวจ Premium DNA ตรวจจากอะไร ได้เจอคุณหมอหรือเปล่า?
- ขั้นตอนการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ Premium DNA
- 20 หัวข้อสุขภาพ ที่รู้ได้จากการตรวจ Premium DNA
- ตรวจวิเคราะห์สุขภาพโปรแกรม Premium DNA คุ้มกว่าที่คิด
- แต่ผลตรวจ Premium DNA บางข้อก็อาจไม่ตรงกับสิ่งที่เราเป็น!
- บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
สวัสดีค่ะ ชื่อ “เปา” นะคะ เป็นพนักงานออฟฟิศที่เพิ่งจะอายุ 35 ปีไปหมาดๆ จะมารีวิวการตรวจวิเคราะห์สุขภาพผ่าน DNA โปรแกรม Premium DNA ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 แบบครบทุกขั้นตอน
เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรก ทำไมถึงตัดสินใจตรวจ DNA ที่ราคาแพ็กเกจตั้ง 20,000 กว่าบาท? ตรวจ DNA แล้วรู้อะไรบ้าง? ตรวจ DNA มีวิธียังไง? ตรวจ DNA จะช่วยให้เราดูแลและส่งเสริมสุขภาพของตัวเองได้ยังไง? ฯลฯ และสำคัญ…ทำไมเราถึงคิดว่ามันคุ้ม!
โปรแกรมตรวจ Premium DNA คืออะไร ทำไมถึงอยากตรวจ?
ตอนเด็กๆ เราก็น่าจะคิดเหมือนคนทั่วไปแหละว่าถ้ายังไม่ได้มีอาการอะไร ไม่ปวดเมื่อยตรงไหน นั่นก็คงจะแปลว่าสุขภาพยังดีอยู่ ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ยังจัดการความแข็งแรงแบบนั้นอยู่ได้
แต่พออายุเข้า 30 เท่านั้นแหละ…โอ้โหหห ช่วงไหนไม่ได้ออกกำลังกาย กินอาหารไม่ดี นอนน้อย ทำงานหนักๆ ทุกอย่างก็ดาหน้ากันเข้ามาเลย ปวดหลังบ้าง เป็นสิวบ้าง หน้าดูโทรมแบบสังเกตได้ชัดๆ บ้าง กลายเป็นต้องคอยดูแลตัวเองไว้ตั้งแต่ไม่มีอาการอะไรแสดงออกมา
แล้วทีนี้ตรวจ DNA เกี่ยวอะไร? ตามที่หาข้อมูลมาคร่าวๆ เขาบอกว่า การตรวจนี้จะบอกข้อมูล “เฉพาะ” ของแต่ละบุคคลได้ เช่น แนวโน้มการขาดสารอาหารบางอย่าง แนวทางการออกกำลังกายแบบที่เหมาะกับเรา ส่วนของร่างกายที่มีความเสี่ยงจะบาดเจ็บได้เยอะ-น้อย แนวโน้มการแสดงพฤติกรรมเด่น พื้นฐานอารมณ์ เครียดยากหรือง่าย ยาที่ใช้ได้-ควรใช้น้อยๆ-ควรเลี่ยง ความเสี่ยงต่อโรค ฯลฯ เรียกว่าครบถ้วนทุกด้าน
อธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือ พอผลตรวจ DNA ออกมาแล้วเนี่ย เราจะรู้ว่า โอเค! ชั้นต้องระวังเรื่องการกินอะไร ควรเน้นอาหารตรงไหนเพิ่ม ควรสมัครคลาสออกกำลังกายแนวไหนดี นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องลักษณะเฉพาะด้านบุคลิกภาพ พฤติกรรม กายภาพ ที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะอยากพาลูกไปตรวจด้วย เพื่อจะใช้เป็นอีกตัวช่วยในการเสริมพัฒนาการหรือทักษะด้านต่างๆ ของลูก
อ้อแต่มีอย่างนึงที่ทุกคนควรรู้ไว้ก่อน คือ การตรวจ DNA ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค แต่เป็นการวิเคราะห์สุขภาพจากพันธุกรรม มันเป็นแค่การบอกเฉยๆ ว่าจากยีนของเรา ด้วยพันธุกรรมที่เราได้รับมาจากพ่อแม่เนี่ย พื้นฐานร่างกาย สุขภาพกาย สุขภาพจิตมาเป็นยังไง แต่สุดท้ายแล้วจะเป็นแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราเองด้วย
กังวลสุขภาพด้านไหนเป็นพิเศษ?
เอาจริงๆ ค่อนข้างเป็นคน Healthy พยายามออกกำลังกายเรื่อยๆ ทำกับข้าวกินเอง ผักผลไม้กินได้หมด ไม่น่าจะขาด
แต่ด้วยอายุแล้ว ก็จะอยากรู้เรื่องความเสี่ยงของโรคที่จะเป็นในอนาคตแหละ พวกที่ผู้หญิงวัย 30+ ควรกังวลทั่วๆ ไป มะเร็ง กระดูกพรุน อะไรพวกนี้
กับที่เรากังวลเพิ่ม…น่าจะมากกว่าคนอื่นหน่อยก็น่าจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ เพราะว่าลืมง่ายเหลือเกิน 555+ แบบหาของอยู่แล้วซักพักภาพตัด งงว่านี่หาอะไรอยู่นะ (ซึ่งภาพตัดอีกทีก็คือลืมแล้วว่าลืมว่าหาอะไรอยู่ ใช้ชีวิตปกติต่อไป) แต่จริงๆ ที่กังวลเป็นเพราะที่บ้านเรามีคนใกล้ชิดเป็นอัลไซเมอร์ด้วย
ตรวจ Premium DNA ตรวจจากอะไร ได้เจอคุณหมอหรือเปล่า?
การตรวจ Premium DNA ง่ายมากๆ สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเจ็บตัวใดๆ แต่ต้องไปโรงพยาบาล 2 ครั้งเพราะว่ามีระยะเวลาส่งตัวอย่างเซลล์ไปที่แล็บประมาณ 30 วัน
สำหรับการตรวจ Premium DNA ของโรงพยาบาลพญาไท 2 จะได้พบคุณหมอทั้ง 2 ครั้งเลย โดยการตรวจนี้จะต้องไปที่ศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์เซ็นเตอร์ ชั้น 8 อาคาร B
ครั้งแรกหลังจากยื่นคูปอง HDmall.co.th ปุ๊บ คุณพยาบาลก็จะให้นั่งรอเรียกคิวแป๊บนึง พอถึงคิวก็จะไปอีกห้องเพื่อชั่งน้ำหนัก วัดความดัน วัดส่วนสูง ตอบคำถามเรื่องประจำเดือนครั้งล่าสุด แล้วก็มีแบบสอบถามให้ตอบนิดหน่อย มีให้เลือกด้วยว่าต้องการผลตรวจ DNA เป็นภาษาอะไร
จากนั้นพอถึงคิวก็จะได้พบคุณหมอ ซึ่งเขาจะแนะนำว่าการตรวจนี้คืออะไร DNA ส่งผลยังไงกับสุขภาพ สัดส่วนการมีผลต่อสุขภาพ เทียบระหว่าง DNA กับพฤติกรรมของเราเอง อะไรมาก-น้อยกว่ากัน ถ้ามีข้อสงสัยตรงไหนก็ถามคุณหมอได้เลย
ขั้นตอนการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ Premium DNA
สำหรับการเตรียมตัวก่อนเก็บตัวอย่าง จะต้องงดอาหารและเครื่องดื่มประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนรับบริการ ซึ่งเราก็งดมาเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่คุยกับคุณหมอเสร็จ พยาบาลก็จะพาเราไปยังห้องตรวจอีกห้องนึง แล้วก็ให้เราอ้าปากค้างไว้ จากนั้นเขาก็จะเอาก้านไม้ที่มีสำลีอยู่ที่ปลายแท่งมาปาดเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อที่กระพุ้งแก้มด้านซ้ายและขวา ข้างละ 30 วินาที
เราไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ นั่งอ้าปากเฉยๆ แต่ถ้าเมื่อปากแล้วให้ยกมือบอกพี่พยาบาลได้ ความรู้สึกไม่เจ็บเลยแต่จะสากๆ กระพุ้งแก้มนิดนึง 555+
หลังจากนั้นพี่พยาบาลก็จะเก็บตัวอย่างเยื่อบุกระพุ้งแก้มเราใส่หลอดแล้วนำไปส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ระยะเวลารอผลประมาณ 30-45 วัน แล้วค่อยกลับมาฟังผลตรวจกับคุณหมออีกที
20 หัวข้อสุขภาพ ที่รู้ได้จากการตรวจ Premium DNA
ก่อนถึงวันนัดฟังผลตรวจ ทางโรงพยาบาลพญาไท 2 ก็ส่งรหัสสำหรับล็อกอินเข้าแอปพลิเคชัน Circle DNA มาให้ดูผลตรวจก่อนเจอคุณหมอ ก็เลยลองอ่านเล่นๆ ไปบ้างนิดหน่อย
พอไปถึงศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์เซ็นเตอร์ ชั้น 8 อาคาร B ที่เดิม ยื่นบัตรนัดแล้วก็เตรียมไปฟังผลจากคุณหมอกันเลย
ผลตรวจที่ดูพร้อมคุณหมอจะอยู่ในรูปแบบกระดาษใส่ในแฟ้มโรงพยาบาล หนาเกือบร้อยหน้า ซึ่งคุณหมอเริ่มต้นด้วยคำถามว่า “ปกติเมาง่ายมั้ยคะ” … ไม่เคยดื่มเยอะจนเมาแฮะ เลยไม่รู้เมาง่ายไหม
บอกหมอไปตามจริงว่าไม่รู้เหมือนกัน เพราะปกติพอกินเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไปซักพักก็จะเริ่มตาไม่โฟกัสละ เลยเลิกแค่นั้น คุณหมอบอกว่านั่นแหละ เพราะว่าร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์ง่ายก็เลยเป็นแบบนั้น
จากนั้นคุณหมอก็จะอธิบายผลไปทีละหัวข้อซึ่งมีทั้งหมด 20 หมวดหมู่ ซึ่งในแต่ละหมวดหมู่ก็จะมีรายการแยกย่อยไปอีก รวมๆ แล้วมากกว่า 500 รายการเลย
- การตอบสนองต่ออาหาร
- โภชนาการ
- กีฬาและการออกกำลังกาย
- การดูแลสุขภาพองค์รวม
- ความเครียด & การนอนหลับ
- บรรพบุรุษ
- ผิวพรรณ
- ลักษณะทางกายภาพ
- ลักษณะที่สัมพันธ์กับเพศ
- ลักษณะพฤติกรรม
- ลักษณะบุคลิกภาพ
- ลักษณะความสำเร็จ
- ความสามารถด้านดนตรีและการเต้น
- มลภาวะทางอากาศ
- ความเสี่ยงสุขภาพทั่วไป
- ความเสี่ยงการเกิดโรค
- ภาวะสมองเสื่อมและสุขภาพสมอง
- การตอบสนองต่อยา
- ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
- การวางแผนครอบครัว
สำหรับเนื้อหาในเล่มผลตรวจสุขภาพ โปรแกรม Premium DNA ส่วนใหญ่เป็นภาษาไทย มีเนื้อหาภาษาอังกฤษปนอยู่บ้างนิดหน่อย เช่น ชื่อยา ชื่อโรค แต่ก็มีแถบสเกลไล่สีพร้อมข้อความประกอบสั้นๆ อยู่นะ
ผลตรวจบางอย่าง ในตอนแรกอาจจะงงๆ นิดหน่อยว่ามันจะเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพยังไง แต่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 มีคุณหมอช่วยอธิบายแบบยาวๆ ให้อีกทีอย่างที่บอกไปค่ะ
ส่วนเรื่องความเสี่ยงอัลไซเมอร์ที่บอกว่ามีความกังวลอยู่ ผลออกมาว่า…มีความเสี่ยงปานกลาง ตามที่คาดไว้ ซึ่งคุณหมอไม่ได้แค่อ่านผลให้ฟัง แต่แนะนำด้วยว่าเมื่อมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ (ซึ่งยังไม่มีวิธีรักษา ได้แต่ชะลอให้โรคเกิดช้า หรืออาการไม่ทรุดลงเร็ว)
ในช่วงที่ยังไม่เข้าสู่วัยสูงอายุก็ให้ระวังเรื่องความเครียด เพราะมันจะทำให้เกิดสารเบต้าอะไมลอยด์ (beta-amyloid) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่หากเกิดความเสื่อมก็อาจทำให้เป็นอัลไซเมอร์ ยิ่งถ้าเข้าวัยสูงอายุไปแล้วก็ให้ทำกิจกรรมที่ต้องคิดหรือใช้สมองบ่อยๆ อาจจะเล่นเกม นับเลข อะไรพวกนี้เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งพอได้ฟังคุณหมออธิบายแล้วก็อุ่นใจขึ้นนิดนึง
ตรวจวิเคราะห์สุขภาพโปรแกรม Premium DNA คุ้มกว่าที่คิด
ขอสารภาพค่ะ ก่อนหน้านี้เวลาเห็นเพื่อนๆ ไปตรวจวิเคราะห์สุขภาพ DNA หรืออ่านรีวิวตรวจ DNA แล้วมีผลตรวจที่บอกว่าจะรู้เชื้อชาติ สีผม สีตา ลักษณะนิสัย พฤติกรรม ฯลฯ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจำเป็นเลย ยังเคยเถียงกับเพื่อนว่างั้นมันจะต้องตรวจทำไม ในเมื่อลักษณะภายนอกเราก็เห็นๆ อยู่
ส่วนพฤติกรรมนั้นก็สังเกตเอาก็ได้ แม้ว่าจะมีเรื่องภาวะโภชนาการที่เรามองว่าเหมือนจะสำคัญ แต่จริงๆ คนเราก็แค่กินอาหารที่มีประโยชน์ครบห้าหมู่ก็พอแล้วมั้ย
แต่พอได้ผลตรวจจาก Premium DNA มาจริงๆ ประกอบกับเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเราได้ไปตรวจสุขภาพประจำปี สรุปว่าผลมันเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันมากๆ คราวนี้เห็นประโยชน์ของการตรวจ Premium DNA ขึ้นมาชัดๆ เลย
ตัวอย่างอันนึงคือ จากผลตรวจสุขภาพประจำปีที่มีการเอกซเรย์กระดูก เจอว่าตอนนี้กระดูกอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่มีแนวโน้มจะกระดูกบางได้ในอนาคต โดยเฉพาะกระดูกสันหลังส่วนเอวที่ตอนนี้ดูบางกว่าส่วนอื่นนิดๆ แล้ว
พอมาเทียบกับผลตรวจจาก Premium DNA ก็บอกว่าพันธุกรรมของเราต้องการแคลเซียมสูงกว่าปกติ และมีความเสี่ยงเป็นโรคข้อต่อกระดูกสันหลังเอวเสื่อม
ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากตรวจสุขภาพ (ตอนที่ยังไม่ได้ตรวจ DNA) ก็คิดว่างั้นคงต้องดื่มนมเยอะๆ เสริมแคลเซียมเพื่อบำรุงกระดูก แต่พอตรวจ DNA แล้ว ก็เจอว่าอาจจะแพ้แลคโตส (Lactose) การดื่มนมเลยอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีของเรา
ตรงนี้คุณหมอก็จะแนะนำว่าแคลเซียมก็ยังมีอยู่ในอาหารอย่างอื่นอีก ทางเลือกแรกคือ ปลาเล็กปลาน้อย…แต่ปลาเล็กปลาน้อยตามท้องตลาดมักจะมาในรูปแบบที่ปรุงรสให้เค็มไม่ก็หวาน แล้วเรามีความไวต่อเกลือ (ผลตรวจ DNA บอกไว้) งั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นรับแคลเซียมจากพวกผักแทน เช่น ข้าวโพด คะน้า หรือไม่ก็ดูแลและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกด้วยการรับแดดอ่อนๆ ตอนเช้าหรือเย็น ให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีแทน (เรื่องความสามารถในการสังเคราะห์วิตามินดี ก็มีบอกในผลตรวจ Premium DNA เหมือนกัน)
นอกจากเรื่องความไวต่อแลกโตสแล้ว ผลตรวจยังบอกถึงความไวต่ออาหารอื่นๆ อีก เช่น ความไวต่อแอลกอฮอล์ ความไวต่อคาเฟอีน ความไวต่อไขมัน ฯลฯ และยังมีคำอธิบายบอกเอาไว้ด้วยว่าควรเลี่ยงไปกินอะไรทดแทน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือ ความไวต่อคาเฟอีน ซึ่งผลตรวจบอกว่าเรามีความไวปกติ นั่นก็แปลว่า ร่างกายเราดูดซึมคาเฟอีนในปริมาณปกติเท่ากับคนทั่วๆ ไป แต่ถ้าหากใครที่มีความไวต่อคาเฟอีนมาก ก็แปลว่า ร่างกายรับคาเฟอีนเพียงนิดเดียวก็เพียงพอจะทำให้ตื่นตัว หรือดื่มกาแฟครึ่งแก้วก็อาจจะเทียบเท่ากับคนที่ดื่มเต็มแก้ว
ซึ่งมันมีจริงในชีวิตประจำวัน บางคนดื่มกาแฟ 2-3 แก้วก็ยังง่วงอยู่ นั่นอาจเป็นเพราะว่าเค้ามีความไวต่อคาเฟอีนต่ำ ร่างกายอาจต้องรับคาเฟอีนในปริมาณที่มากกว่าคนทั่วไปถึงจะออกฤทธิ์
นอกจากนี้ใครที่อยากลดน้ำหนัก พยายามทำหลายๆ ทางให้น้ำหนักลงแล้วก็ไม่สำเร็จสักที การตรวจโปรแกรม Premium DNA ที่ รพ. พญาไท 2 ก็จะบอกได้ว่าพันธุกรรมของเราแล้วจริงๆ เป็นยังไง ซึ่งจากหมวดหมู่อาหารมีรายนึงที่ระบุถึง ภาวะน้ำหนักตัวกลับมาเพิ่ม ว่าเรามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน
ภาวะน้ำหนักตัวกลับมาเพิ่ม หรือการสะท้อนกลับอย่างรุนแรงของฮอร์โมน เป็นผลมาจากการลดน้ำหนักที่เร็วเกินไป ทำให้อาจเกิดภาวะนี้ หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า มีภาวะโยโย่ ซึ่งการลดน้ำหนักที่ดีควรทำอย่างสม่ำเสมอ และปรับการกินกับการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกันด้วย
นอกจากนี้ในหมวดหมู่ความเป็นอยู่ที่ดี จะบอกได้ว่าพันธุกรรมของเรา สามารถควบคุมความรู้สึกอยากอาหารได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นผลจากพันธุกรรมที่ส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกายที่ควบคุมความหิวคือ อินซูลิน เกรลิน และเลปตินนั่นเอง
และอีกหมวดหมู่นึงที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก เราต้องมาดูที่หมวดหมู่ลักษณะทางกายภาพด้วยว่า จริงๆ แล้วพันธุกรรมของเรามีแนวโน้มอย่างไร ซึ่งในหมวดหมู่นี้มี 2 รายการที่น่าสนใจมากๆ คือ 1) ความผอมอย่างต่อเนื่อง และ 2) เส้นรอบเอว
ความผอมอย่างต่อเนื่อง จะบอกว่าจากพันธุกรรมเรามีแนวโน้มเป็นคนผอม หรือไม่น่าจะผอม ซึ่งเรามีแนวโน้มไม่น่าจะผอม แต่จริงๆ แล้วเราถือเป็นคนที่สมส่วนเลย ไม่ได้อ้วนหรือน้ำหนักเกิน ซึ่งตรงนี้เกิดจากการที่เราดูแลอาหารการกิน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งถ้าใครที่ไม่ทำตรงนี้ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินได้
ส่วนเส้นรอบเอว จากผลตรวจ DNA บอกว่าเรามีแนวโน้มที่ค่อนข้างอ้วน แต่ก็อย่างที่บอกไปว่า อาหารการกินและการออกกำลังกายทำให้รูปร่างของเราสมส่วน ดังนั้น ผลตรวจก็ไม่ได้ตัดสินลักษณะทางกายภาพปัจจุบันของเราได้
อีกเรื่องที่เราคิดว่าเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายก็คือ ใน Premium DNA เค้าจะบอกหมดเลยว่าพันธุกรรมของเราเหมาะกับกีฬาประเภทไหน ร่างกายเรามีแนวโน้มที่จะมีความทนทานแบบไหน รวมไปถึงความเสี่ยงของการบาดเจ็บ ความทนทาน การต้านทานความเหนื่อยล้าด้วย สายที่ออกกำลังกายหนักๆ น่าจะชอบกันเพราะเค้าบอกละเอียดมากๆ
และเนื่องจากในปัจจุบันฝุ่นพิษ หรือมลภาวะค่อนข้างส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ซึ่งจากผลตรวจ Premium DNA ก็มีหมวดหมู่นี้ด้วย เพื่อจะบอกว่า เรามีความไวต่อการแพ้ฝุ่นมั้ย มีความไวต่อมลพิษรถยนต์หรือไม่ ความไวต่อมลพิษจากสิ่งแวดล้อม ความไวต่อยากำจัดศัตรูพืช รวมไปถึงความไวต่อการรับควันบุหรี่จากผู้อื่นด้วย
ซึ่งผลตรวจนี้จะทำให้เราหลีกเลี่ยงมลพิษที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้เป็นอย่างดี เพราะหากร่างกายเรามีความไวต่อสิ่งไหนเป็นพิเศษ ก็อาจทำให้เกิดโรคได้ง่ายกว่าคนทั่วไป จึงควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง
ความคุ้มอีกอย่างคือ ตรวจวิเคราะห์สุขภาพโปรแกรม Premium DNA เนี่ย ตรวจครั้งเดียวในชีวิตใช้ได้ตลอดไป และในแอป Circle ที่ดาวน์โหลดมาดูผลตรวจ DNA ของเราก็จะมีการอัปเดตเรื่อยๆ ด้วย เช่น ถ้าปีหน้ามีการศึกษาว่า DNA ตัวใดตัวหนึ่ง มีผลต่อการเกิดโรคอะไรบางอย่าง แล้วเรามี DNA ตัวนี้อยู่ ต่อไปในแอปก็จะอัปเดตให้ว่าเรามีความเสี่ยงจะเป็นโรคนั้นๆ
คุ้มจริงๆ ค่ะ!
แต่ผลตรวจ Premium DNA บางข้อก็อาจไม่ตรงกับสิ่งที่เราเป็น!
ถึงแม้ว่าผลตรวจส่วนใหญ่จะตรงกับสิ่งที่เราเป็นหรือสิ่งที่เราเคยตรวจมา ตั้งแต่ภายนอกอย่างสีผม สีตา หรือแม้กระทั่งเรื่องที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อย่างความสามารถในการดูดซึมอาหาร ความเสี่ยงต่อโรค ระดับการทนต่อความเจ็บปวด การทนต่อความเครียด ความเสี่ยงที่ผิวจะไหม้แดด จนถึงเรื่องพฤติกรรม เช่น มีแนวโน้มเป็นผู้ชอบความตื่นเต้น…555
แต่ก็มีบางอย่างนะที่ผลตรวจออกมาแล้วเรารู้สึกว่าไม่ตรงขนาดนั้น เช่น จาก DNA บอกว่าเรามีแนวโน้มชอบเก็บตัว มีแนวโน้มอ่อนไหวแต่รักสงบ แต่ในชีวิตจริงเราก็ไม่ได้เก็บตัวหรือรักสงบเท่าไหร่
ตรงนี้คุณหมอบอกว่ามันปกติที่อาจจะไม่ตรง เพราะกว่าที่คนนึงจะเติบโตขึ้นมามันก็มีปัจจัยภายนอกอีกมากมายที่ส่งผลกับความคิด บุคคลิกภาพ และพฤติกรรม ซึ่ง DNA มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ตั้งต้นมาตั้งแต่เราเกิดเท่านั้น
อันนี้น่าจะเกี่ยวกับการตรวจ DNA ในเด็กที่บางคนอาจมองว่าทำให้เด็กต้องถูกเลี้ยงให้เติบโตไปตามผลตรวจหรือเปล่า ส่วนตัวแล้วเราว่าคงอยู่ที่การนำผลตรวจไปใช้มากกว่า
ถ้าผู้ปกครองนำไปใช้ในฐานะเป็น “ตัวช่วย” ก็น่าจะทำให้เข้าใจตัวคนแต่ละคนได้มากขึ้น เช่น เห็นว่าเด็กคนนี้ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม บางทีมันอาจจะมาจากพันธุกรรมของเขาที่รู้สึกสบายใจเวลาอยู่กับตัวเองมากกว่า รู้อย่างนี้แล้วก็อาจไม่ต้องพยายามไปคะยั้นคะยอมากว่าต้องให้เขาไปพบปะคนอื่นๆ หรือมองว่าเขามีปัญหา
ในขณะที่ในอีกมุม ถ้าใช้ผลตรวจเป็น “เข็มทิศ” แบบผลว่ายังไงก็พยายามให้เด็กๆ เติบโตไปแต่ในทางนั้น ไม่ให้ลองทำอย่างอื่นดูเลย อันนี้ก็น่าจะไม่ดีนัก
หรือยกตัวอย่างผลตรวจความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) กับ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ตรงนี้ถ้าหากผู้ปกครองรู้ผลตรวจของลูกหลาน ถ้าหากใช้เป็น “ตัวช่วย” ก็สามารถช่วยกระตุ้นให้เด็กมี IQ, EQ ที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยได้
และที่บอกไปแล้ว (ย้ำอีกที) ว่าการตรวจ DNA ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค ดังนั้นแม้ว่าผลออกมาว่าลูกมี IQ หรือ EQ ต่ำ ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องถอดใจ แต่ผู้ปกครองควรใช้ผลตรวจนี้ในการปรึกษาแพทย์ในการเลี้ยงดูลูกหลานแทน
หรือผลตรวจด้านอื่นๆ ที่บอกว่าเราดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ดี ผิวดี ไม่มีความเสี่ยงโรค แต่นั่นก็เป็นแค่ผลจากพันธุกรรมของเราเท่านั้น ยังไงก็ยังต้องค่อยสังเกตภาวะสุขภาพต่างๆ และออกกำลังกาย พักผ่อน รับประทานอาหารมีประโยชน์ให้ครบถ้วนอยู่ และถ้าพบความผิดปกติอะไรก็ยังต้องไปหาหมอให้ตรวจวินิจฉัยอยู่นะคะ
การตรวจสุขภาพ โปรแกรม Premium DNA เป็นการตรวจที่ช่วยให้เรารู้จักแทบจะทุกด้านของตัวเองเลย ทั้งสุขภาพกายในหลายๆ ระบบ แล้วก็เรื่องสุขภาพจิตใจด้วย การอ่านผลตรวจโดยคุณหมอก็ดีมากๆ เราสามารถซักถาม และขอคำแนะนำต่างๆ ได้ด้วย
ใครที่สนใจอยากตรวจวิเคราะห์สุขภาพเชิงลึกไปถึงระดับพันธุกรรม สามารถซื้อแพ็กเกจตรวจสุขภาพ Premium DNA จาก โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ที่ HDmall.co.th มีราคาโปรโมชั่นและเจ้าหน้าที่แอดมินช่วยดูแลประสานงานนัดหมายกับโรงพยาบาลให้ สะดวกสบายมากๆ