หน้าอกหน้าใจของผู้หญิง เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การแต่งตัวและการถ่ายรูปดูดีขึ้น แต่หลายคนยังกังวลอยู่ว่าการทำหน้าอกจะเจ็บไหม อันตรายหรือไม่ จึงยังไม่กล้าตัดสินใจเสริมหน้าอก
วันนี้ HDmall.co.th จึงนำการรีวิวของ พลอย วรางคนา วุฑฒยากร ดารานักแสดงที่ตัดสินใจเสริมหน้าอกกับ APEX Medical center มาฝากกัน
สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเสริมหน้าอกดีไหม สามารถอ่านรายละเอียดการเสริมหน้าอกกับ APEX Medical center ได้จากบทความนี้เลย
ภาพรวมการรีวิว
รายละเอียดการรีวิวในบทความนี้ จะพูดถึงเนื้อหาครอบคลุมเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการเสริมหน้าอก ดังนี้
- การเสริมหน้าอกเหมาะกับใคร
- ทำไมควรเสริมหน้าอกที่ APEX Medical center
- เสริมหน้าอกมีกี่แบบ
- การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก
- ขั้นตอนการเสริมหน้าอก
- การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอก
การเสริมหน้าอกเหมาะกับใคร
หน้าอก เป็นอีกหนึ่งส่วนที่จะช่วยให้ภาพรวมของผู้หญิงดูมีสัดส่วนสวยงาม ดังนั้นหากรูปอกไม่สัมพันธ์กับสัดส่วนของร่างกาย ก็อาจทำให้ผู้หญิงหลายคนเสียความมั่นใจได้
“เราไม่ค่อยมีความมั่นใจในเรื่องรูปร่าง” พลอยกล่าว “เวลาใส่เสื้อผ้าก็ดูหลวม ไม่มีหน้าอก พอปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็แนะนำให้เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน 300 ซีซี ทรงกลม ซึ่งเหมาะกับรูปร่างตัวเรา ดูสวย มีเนิน มีความมั่นใจแน่นอนค่ะ”
โดยปกติแล้วการเสริมหน้าอกจะเหมาะกับคนที่มีความต้องการ ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่ต้องการปรับทรงหน้าอกให้ถูกใจ เช่น ผู้ที่จากเดิมอาจมีหน้าอกห่าง ดูไม่สวยงาม
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดของหน้าอก เพื่อให้ใส่เสื้อผ้าได้สวยงาม ดูไม่หลวมเกินไป
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยหลังมีบุตร ทำให้เสียความมั่นใจ
- ผู้ที่ต้องการให้เนินอกดูดี เป็นธรรมชาติ เสริมบุคลิกสำหรับคนที่ชอบแต่งตัว หรืออาชีพที่ต้องการสัดส่วนสวยงาม เช่น นางแบบ พิธีกร
- สาวประเภทสอง ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกให้ดูเป็นธรรมชาติ เป็นทรงเหมือนผู้หญิง
หากใครมีความต้องการดังกล่าว ควรปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง เพื่อวางแผนการเสริมหน้าอกให้เหมาะสมที่สุด
ทำไมควรเสริมหน้าอกที่ APEX Medical center?
“ก่อนทำหน้าอกเนี่ย ไม่มีความมั่นใจเลย จะต้องกลัวว่าหน้าอกดูเล็ก” พลอยกล่าวต่อ “ได้ยินจากพี่ๆ ในวงการแนะนำมาว่า ถ้าทำหน้าอก ต้องมาที่ APEX เท่านั้น”
การเสริมหน้าอกเป็นหนึ่งในศัลยกรรมที่นิยมมากในปัจจุบัน ทั้งในหมู่ดารา นางแบบ และคนทั่วไป ทำให้มีสถาบันเสริมความงามจำนวนมากที่เปิดให้มีบริการเสริมหน้าอก
สถาบันเสริมความงาม APEX เป็นที่หนึ่งที่น่าไว้วางใจ เนื่องจากได้รับรางวัล Cosmetic And Plastic Surgery Service Provider of The Year in Asia Pacific, Global Health Awards 2019 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว
รางวัลดังกล่าวซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดในวงการศัลยกรรมตกแต่ง ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้มั่นใจได้ว่าการทำศัลยกรรมที่ APEX จะได้รับการบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้ผู้ใช้บริการฟื้นตัวไว
นอกจากนี้ จุดเด่นของบริการเสริมหน้าอกที่ APEX Medical center ยังมีหลายประการ ได้แก่
- การเสริมหน้าอกที่ APEX มีความปลอดภัย เนื่องจากใช้ซิลิโคนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของไทยและสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคน Mentor xtra gel ที่มีความนุ่ม ใกล้เคียงหน้าอกธรรมชาติมาก หรือ Motiva ergonomix ที่ปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ตามการเคลื่อนไหว จึงมั่นใจได้ว่าทั้งปลอดภัย และสัมผัสนุ่มเหมือนเนื้อหน้าอกจริง
- ผู้รับบริการสามารถดูภาพเสมือนจริงก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอก ซึ่งทางคลินิกใช้เทคโนโลยี 4D AR+ ทำให้สามรถเลือกขนาด รูปทรงของร่องอก เนินอก และชนิดของซิลิโคนได้ตามต้องการ
- มั่นใจได้เรื่องฝีมือแพทย์ เนื่องจากทำโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางระดับอาจารย์ ที่ได้รับวุฒิบัตรจากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย และมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมเสริมหน้าอก แก้ไขหน้าอก มานานกว่า 20 ปี
- มีผู้คอยดูแลจนครบทุกกระบวนการการผ่าตัดเสริมหน้าอก ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยผู้มีความชำนาญเฉพาะด้าน
- ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อระดับ 10K ตามมาตรฐานของ Joint commission international หรือ JCI ซึ่งเป็นองค์กรรับรองมาตรฐานระดับสากลของสหรัฐอเมริกา ในการตรวจวัดคุณภาพของห้องผ่าตัดหัวใจหรือสมอง
- มีเทคนิคการผ่าตัดหลากหลาย ซ่อนแผลเป็นได้มิดชิด แผลเล็ก และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
เสริมหน้าอก มีกี่แบบ?
การเสริมหน้าอกที่ APEX Medical center จะใช้การส่องกล้อง 4K ติดเครื่องมือ ส่องเข้าทางปานนม ใต้รักแร้ หรือใต้ราวนม ทำให้ซ่อนแผลได้มิดชิด
รวมถึงแพทย์ยังมองเห็นอวัยวะภายในอย่างชัดเจน ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บโดยไม่จำเป็น
จากนั้นจะใช้เครื่องมือในการขยายโพรงด้านในก่อนทำการเสริมหน้าอก ด้วยวัสดุที่เหมาะสมกับแต่ละคน มี 2 รูปแบบหลักๆ ดังนี้
1. เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
การเสริมหน้าอกด้วยซิโลนจาก APEX Medical center จะใช้ซิลิโคนชื่อการค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของทั้งและสหรัฐ ได้แก่ Mentor, Allergan และ Motiva
ผิวของซิลิโคนจะมีทั้งแบบผิวเรียบและแบบผิวทราย โดยผิวแบบเรียบจะทำให้เกิดริ้วบนผิวน้อยกว่าแบบทราย มีความนุ่มนิ่มคล้ายเต้านมธรรมชาติมากกว่า
ส่วนซิลิโคนผิวทราย จะสามารถยึดกับเนื้อเยื่อได้ดีกว่า ทำให้มีโอกาสที่ซิลิโคนจะเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมน้อยกว่า
นอกจากนี้ยังมีรูปทรงของซิลิโคนให้เลือกด้วยกันถึง 2 แบบ ได้แก่
- ซิลิโคนทรงกลม จะเสริมหน้าอกทั้งบริเวณเต้า ช่วยให้ส่วนบนดูเต็มมากยิ่งขึ้น เห็นเนินอกและร่องอกชัดเจน
- ซิลิโคนทรงหยดน้ำ จะช่วยให้หน้าอกดูเป็นทรงธรรมชาติ รวมถึงแก้ไขปัญหาเต้านมไม่เท่ากัน
อย่างไรก็ตาม การเลือกทรงซิลิโคน ความสวยงามและความแม่นยำของตำแหน่ง ควรขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงรูปทรงหน้าอกเดิมของผู้ใช้บริการด้วย
2. เสริมหน้าอกด้วยไขมันของตัวเอง
การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง เป็นการดูดเอาไขมันส่วนเกินของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา ออกมาสกัด จากนั้นจึงนำไปเสริมหน้าอก
การเสริมหน้าอกด้วยไขมันของตัวเองมีด้วยกัน 2 วิธีหลักๆ คือ
เสริมด้วยวิธี Normal fat-transfer เป็นวิธีดั้งเดิมในการดูดไขมันออกมาจากร่างกาย แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือเซลล์ไขมันที่นำออกมาจะเสียหายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีเซลล์ เลือด และผังผืด ผสมอยู่มาก
- เสริมด้วยวิธี Fat cell เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เซลล์ไขมันที่นำออกมามีโอกาสรอดสูงขึ้น โดยใช้เอนไซม์แยกสเตมเซลล์ไขมัน ผ่านกระบวนการชีวกลศาสตร์ (Biomechanic)
- นอกจากนี้การเสริมหน้าอกด้วยไขมัน ยังถือเป็นวิธีที่คงอยู่ได้นาน เพราะเซลล์ไขมันนั้นเปรียบเหมือนสิ่งมีชีวิต (Viable tissue) รวมถึงยังเป็นการลดการนำสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายอีกด้วย
วิธีการเสริมอกด้วยไขมันตัวเอง สามารถทำร่วมกับการใช้ซิลิโคนได้ในบางกรณี โดยก่อนทำควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อวางแผนการเสริมหน้าอกที่เหมาะสมที่สุด
การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก
“หลังจากพลอยได้มาทำหน้าอกที่ APEX เนี่ย รู้สึกว่า APEX ทำได้ทุกอย่างจริงๆ ประทับใจกับพี่ๆ พยาบาลที่ช่วยดูแลด้วย พี่ๆ ให้คำแนะนำและปรึกษาว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ขั้นตอนอย่างไรบ้าง รู้สึกอบอุ่นมากค่ะ”
เพื่อให้การเสริมหน้าอกดำเนินไปอย่างปลอดภัยตามมาตรฐาน ก่อนรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้เตรียมตัวก่อนไปเสริมหน้าอก ดังนี้
- งดกินวิตามินอาหารเสริมทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เนื่องจากวิตามิน หรือสมุนไพรบางชนิด อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดหยุดยาก
- งดยาแก้ปวดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด หรือหากมีความจำเป็นต้องกิน ลองปรึกษาแพทย์กินยาประเภทพาราเซตามอลได้
- งดสูบบุหรี่ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะอาจทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ
- แพทย์จะตรวจเลือด เอ็กซ์เรย์ปอด รวมถึงคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อตรวจดูความพร้อมก่อนดมยาสลบ
- ไม่ควรนัดวันผ่าตัดในช่วงที่มีประจำเดือน
- วันผ่าตัด ควรสวมเสื้อผ้าสบายๆ หลวมๆ และสามารถสวมใส่ได้ง่ายหลังจากพักฟื้นเสร็จ เช่น เสื้อกระดุมด้านหน้า
อย่างไรก็ตาม คนที่มีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องกินเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมในการวางแผนการเสริมหน้าอก
ขั้นตอนการเสริมหน้าอก
หลังจากวางแผนการเสริมหน้าอกล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเสริมอกโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนหลักๆ ในการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน มีดังต่อไปนี้
- แพทย์จะทำการวาดตำแหน่งการวางซิลิโคน ซึ่งจะตกลงกับผู้ใช้บริการก่อนแล้วว่าจะใส่ซิลิโคนใตใต้กล้ามเนื้อหน้าอก หรือเหนือกล้ามเนื้อ
- วิสัญญีแพทย์จะให้ยาสลบเพื่อรอรับการผ่าตัด
- แพทย์อาจสอดกล้องหรือผ่าตัดทางปานนม ใต้ราวนม หรือใต้รักแร้ จากนั้นจะดูเส้นเลือดและอวัยวะภายในจากหน้าจอ เพื่อให้สามารถใส่ซิลิโคนในตำแหน่งที่วาดไว้ได้อย่างแม่นยำ
- เมื่อใส่ซิลิโคนเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการเก็บบาดแผล หากเป็นแผลเล็กๆ บริเวณปานนม จะทำให้แผลดูเป็นธรรมชาติ สังเกตเห็นได้ยาก แต่หากเป็นแผลใต้ราวนมหรือใต้รักแร้ แผลอาจมีขนาดใหญ่กว่าแผลที่ปานนม จึงต้องใช้เวลาเก็บแผลและพักฟื้นนานกว่า
- สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากฟื้น โดยศัลยแพทย์จะเป็นผู้ตรวจเช็กความเรียบร้อยสวยงามให้อีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการปฏิบัติอาจมีความแตกต่างจากนี้ โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศัลยแพทย์ผู้ให้บริการ ซึ่งจะอธิบายให้เข้าใจตั้งแต่ก่อนรับการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอก
“พลอยทำหน้าอกได้แค่วันเดียว ก็ออกมาข้างนอกได้แล้ว รู้สึกสบายมาก จะใส่สายเดี่ยวก็มั่นใจมากกว่าเดิมเยอะเลย” พลอยเปิดใจหลังจากเสริมหน้าอก
การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากหากดูแลไม่ดี ซิลิโคนเคลื่อนที่ หรือแผลอาจติดเชื้อได้ ดังนั้นควรทำตามข้อควรปฏิบัติต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด
- งดยากลุ่มแอสไพริน วิตามิน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง รวมถึงอบซาวน์น่าเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์
- ไม่ควรอาบน้ำในระยะ 1 สัปดาห์แรกของการผ่าตัด เนื่องจากแผลยังไม่แห้งสนิท ในระหว่างนี้ให้เช็ดตัวทำความสะอาดสม่ำเสมอ แต่ไม่ต้องทำแผลด้วยตัวเองจนกว่าจะถึงนัดตรวจตามที่แพทย์นัด
- ไม่ควรยกของหนักหรือออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวกล้ามเนือบริเวณอก ในช่วง 1 เดือนหลังจากผ่าตัด
- ไม่ควรใส่ยกทรงโครงเหล็ก แต่ให้ใส่เป็นสปอร์ตบรา ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อช่วยประคองอกให้อยู่ทรง
- ควรนวดหน้าอกตามคำแนะนำของแพทย์ มักจะเริ่มในสัปดาห์ที่ 2 หลังจากผ่าตัด ทำต่อเนื่องทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาที หรือตามแพทย์สั่ง อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้โพรงที่ใส่ซิลิโคนหดตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของเต้านมแข็ง
- ควรเปลี่ยนผ้าพันแผลตามที่แพทย์แนะนำ โดยพันแบบเต้านมหลังจากหายใจออก เพื่อให้ผ้าพันแผลไม่หลวมเกินไป เวลาหายใจเข้าออกตามปกติ
สำหรับผู้ที่มีประสบการทำหน้าอกที่ Apex Medical Center อย่างคุณพลอย เธอบอกว่า “หลังจากทำหน้าอกได้ 1 เดือน รู้สึกดีและประทับใจมากๆ เลยค่ะ ไม่เจ็บเลย ใครบอกว่าทำหน้าอกแล้วเจ็บเหมือนโดนรถบรรทุกทับ ไม่จริงเลยค่ะ ตอนนี้รู้สึกสบายและมั่นใจมากๆ”
อย่างไรก็ตาม ผิวหนังบริเวณที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจมีอาการบวมช้ำได้ตามปกติ แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากพบความผิดปกติใดๆ ที่แพทย์ยังไม่ได้แจ้งให้ทราบ ก็สามารถปรึกษาแพทย์ทันที ดังนั้นสิ่งสำคัญคือควรสังเกตอาการหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกอย่างละเอียดและต่อเนื่อง
อยากแก้ไขขนาดหน้าอกด้วยวิธีศัลยกรรมทั้งที ต้องเลือกให้ดีและปลอดภัยที่สุด คำนึงถึงทั้งเรื่องวัสดุที่จะต้องอยู่ในตัวคุณไปอีกนาน ความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำหัตถการ ความสะอาด ได้มาตรฐานของสถานเสริมความงาม การเลือกทำหน้าอกที่ Apex Medical Center จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง