อยากมีชีวิตดี สารเคมีในสมองต้องสมดุล scaled

อยากมีชีวิตดี “สารเคมีในสมองต้องสมดุล”

การที่คนเรามีอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล สมาธิสั้น เครียด นอนไม่หลับ บางทีเราอาจจะคิดว่า อาการเหล่านี้เกิดจากสภาพอารมณ์และจิตใจที่แปรปรวน แต่รู้ไหมว่า หลายครั้งความผิดปกติทางจิตใจก็มีสาเหตุมาจากการที่ “สารเคมีในสมองขาดความสมดุล” 

สมองเป็นอวัยวะที่มีความซับซ้อนมากและมีหน้าที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุม การรับ-ส่งข้อมูลของระบบประสาทต่างๆ หน้าที่นี้ยังมีสารเคมีในสมองเป็นตัวแปรร่วมสำคัญ หากสารเคมีในสมองไม่สมดุลอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจที่กระทบชีวิตประจำวันได้

สารเคมีในสมองคืออะไร?

สารเคมีในสมองมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “สารสื่อประสาท” หรือ “Neurotransmitters” ซึ่งเป็นสารที่เซลล์ประสาทสร้างขึ้นจากเซลล์ประสาท เพื่อใช้ส่งกระแสประสาทจากเซลล์ประสาทหนึ่งไปยังอีกเซลล์ประสาทหนึ่ง หรือเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาทและเซลล์ที่ตอบสนองต่อสัญญาณประสาท เช่น เซลล์กล้ามเนื้อ

เมื่อเซลล์ประสาทถูกกระตุ้น กระแสประสาทจะไหลไปตามเส้นประสาทเหมือนกระแสไฟฟ้าจนเมื่อไปถึงปลายประสาท กระแสประสาทจะกระตุ้นให้ปลายประสาทให้หลั่งสารสื่อประสาทออกมาเพื่อให้ไปจับกับ ตัวรับ (receptor) บนเซลล์ประสาทปลายทาง

เมื่อเซลล์ปลายทางถูกกระตุ้นก็จะส่งกระแสประสาทต่อไปเรื่อยๆ โดยสารสื่อประสาทอาจมีฤทธิ์กระตุ้น หรือยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาทก็ได้

โดยปกติระบบประสาทจะมีการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้สารสื่อประสาทกระตุ้น หรือยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาทมากเกินไป โดยวิธีการดังนี้

  • ที่ปลายประสาทจะมีตัวรับที่ตรวจสอบว่า เซลล์ประสาทต้นทางหลั่งสารสื่อประสาทออกมาเพียงพอหรือไม่ ถ้าสารสื่อประสาทออกมามากแล้ว ก็จะยับยั้งเซลล์ประสาทต้นทางให้หยุดส่งกระแสประสาท
  • มีการเก็บกลับสารสื่อประสาทไว้ที่ปลายประสาทของเซลล์ต้นทางเพื่อให้หยุดการกระตุ้นเซลล์ปลายทาง และสามารถนำสารสื่อประสาทมาใช้ในครั้งต่อไปได้
  • ส่วนสารสื่อประสาทที่หลงเหลืออยู่ จะถูกย่อยทำลายโดยเอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้น

กลไกเหล่านี้ช่วยให้สารสื่อประสาทเกิดความสมดุลและสามารถส่งกระแสประสาทได้เป็นปกติถูกต้อง

สารเคมีในสมองที่สำคัญมีอะไรบ้าง?

ในสมองเรามีสารเคมี หรือสารสื่อประสาทอยู่มากมายหลายชนิด ยกตัวอย่างสารเคมีในสมองชนิดที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรา ได้แก่

  • แอซิทาลโคลีน (Acetyl choline) เป็นสารที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ การควบคุมพฤติกรรม ความจำ สมาธิ การเรียนรู้ ความสนใจ และการตัดสินใจ
  • โดพามีน (Dopamine) ได้ชื่อว่า “สารแห่งความสุข” ซึ่งจะปล่อยออกมาเมื่อเรารู้สึกพึงพอใจ สนุกสนาน เช่น ได้รับประทานอาหารที่ชอบ ได้ออกกำลังกาย รวมถึงเวลาที่เรามีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดพามีนจะช่วยให้เรากิจกรรมนั้นๆ ได้ไม่รู้เบื่อ
  • นอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) หรือ นอร์อดรีนาลิน (Noradrenaline) จะหลั่งออกมาเมื่อเกิดความกลัวและเครียด เพื่อกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจและเพิ่มความดันโลหิต ทำให้เซลล์ได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้น สำหรับเป็นพลังงานในการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ นอกจากนี้ร่างกายจะหลั่งนอร์เอพิเนฟรินปริมาณสูงในตอนเช้า เพื่อกระตุ้นให้เรารู้สึกตื่นตัวและพร้อมสำหรับกิจกรรมในวันใหม่
  • ซีโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารที่ควบคุมสภาพอารมณ์ ความรู้สึกเจ็บปวด ความหิว การหายใจ การนอนหลับระยะตื้น และพฤติกรรมอื่นๆ หากระดับสารซีโรโทนินต่ำจะส่งผลต่ออารมณ์โดยตรงคือ ทำให้วิตกกังวล ก้าวร้าว ซึมเศร้า
  • กาบา (GABA) เป็นสารสื่อประสาทชนิดที่ยับยั้งกระแสประสาท ทำให้สมองที่ได้รับการกระตุ้นเกิดสมดุลและผ่อนคลายลง
  • เอนดอร์ฟิน (Endorphin) เป็นสารที่ออกฤทธิ์คล้ายสารเสพติด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หายจากความเจ็บปวด สร้างความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม พึงพอใจ จะหลั่งออกมาเมื่อในขณะออกกำลังกาย รู้สึกตื่นเต้น หรือมีเพศสัมพันธ์

ปัจจัยที่ทำให้สารเคมีในสมองไม่สมดุล

สารเคมีในสมองไม่สมดุลคือ การที่สารสื่อประสาทแต่ละชนิดมีระดับมาก หรือน้อยผิดปกติ ซึ่งมักเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อว่า ปัจจัยน่าจะมาจากสิ่งต่อไปนี้

  • พันธุกรรม
  • การเลี้ยงดู
  • ลักษณะนิสัย
  • บุคลิกภาพ
  • ความเครียด
  • การใช้สารเสพติด
  • มีฮอร์โมนแปรปรวน

เมื่อสารเคมีในสมองไม่สมดุลจะเกิดอะไรขึ้น?

หากสารเคมีในสมองไม่สมดุล จะส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ ดังนี้

  • หากมีแอซิทาลโคลีนต่ำ จะทำให้มีสมาธิสั้น ความจำไม่ดี โดยเฉพาะความจำระยะสั้น นอนไม่หลับ
  • หากมีนอร์เอพิเนฟรินต่ำ จะทำให้เซื่องซึม ขาดความตื่นตัว ไม่กระตือรือร้น แต่หากมีนอร์เอพิเนฟรินสูง จะทำให้กระวนกระวาย วิตกกังวล และนอนไม่หลับ
  • หากมีโดพามีนต่ำ จะทำกล้ามเนื้อเกร็งกระตุกและมีอาการสั่น เช่น ในโรคพาร์กินสัน รวมถึงรู้สึกซึมเศร้า อ่อนแรง
  • หากมีโดพามีนสูงเกินไป จะทำให้เกิดโรคทางจิตเภท มีความคิดฟุ้งซ่าน ควบคุมสติไม่ได้ คลุ้มคลั่ง เหมือนการเสพยาบ้า หรือเฮโรอีน
  • หากมีกาบาต่ำ สมองจะคิดฟุ้งซ่านโดยขาดการยับยั้ง วิตกกังวล ควบคุมความคิดไม่ได้ จนไปถึงมีอาการชักกระตุก
  • หากมีซีโรโทนินต่ำ จะทำให้มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ ขาดความเชื่อมั่น อารมณ์แปรปรวน และอาจถึงขั้นทำร้ายตัวเองได้ ซึ่งผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามักพบว่า เกิดจากการมีซีโรโทนินต่ำ
  • หากมีซีโรโทนินมากเกินไป อาจมีอาการทางจิต คลุ้มคลั่ง ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ซึ่งหากเป็นในเด็ก อาจเกิดภาวะปัญญาอ่อน หรือออทิสติกได้

ทำอย่างไรให้สารเคมีในสมองสมดุล?

  • ดูแลสภาพร่างกายและจิตใจ โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด
  • ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายและเพิ่มการหลั่งสารสื่อประสาท เช่น ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงระบบประสาท เช่น ผักใบเขียว ข้าวซ้อมมือ ที่มีวิตามินบีสูง จมูกข้าวที่มีกาบาสูง หรืออาหารเสริมบำรุงสมอง เช่น สารสกัดใบแปะก๊วย
  • ทำกิจกรรมฝึกสมองบ่อยๆ เช่น เล่นดนตรี เล่มเกม
  • อย่าเก็บตัว ควรออกไปพบปะผู้คนบ้าง
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดทุกชนิดเพราะส่งผลร้ายแรงต่อระบบประสาท
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ
  • หากเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น โรคซึมเศร้า หรือโรคทางจิตเภท จะต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่องร่วมกับการบำบัดสภาพจิตใจ

เมื่อไหร่ก็ตามที่สารเคมีในสมองไม่สมดุล ทำให้การส่งสัญญาณประสาทขาดๆ เกินๆ เหมือนกระแสไฟฟ้าตก เมื่อนั้นการทำงานของสมองก็จะไม่เต็มประสิทธิภาพและยังส่งผลต่อระบบประสาทส่วนอื่นๆ รวมถึงสภาพจิตใจด้วย

ดังนั้นเมื่อรู้สึกว่า ตนเอง หรือคนใกล้ชิด อาจประสบปัญหาสารเคมีในสมองไม่สมดุล ควรลองปรับพฤติกรรมดังที่แนะนำ หรือไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษา หรือการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด


ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. พิสุทธิ์ พงษ์ชัยกุล


ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top