rsv vaccine for pregnant women disease definition

ทำความรู้จัก “วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV” สิ่งสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้าม!

ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่หลายคนมักจะโฟกัสการดูแลสุขภาพของตนเองและลูกน้อยในครรภ์เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือการตรวจสุขภาพตามนัดหมาย

แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจมองข้ามไปนั่นก็คือ การป้องกันเชื้อไวรัส RSV ไวรัสร้ายที่เป็นตัวการสำคัญของโรคปอดอักเสบและหลอดลมอักเสบในทารกแรกเกิด โดยเฉพาะทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน ที่เมื่อติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้วอาจทำให้ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลได้1

ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ช่วยปกป้องลูกน้อยจากเชื้อไวรัส RSV ได้ตั้งแต่ลมหายใจแรก2 ในบทความนี้จึงจะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ให้มากขึ้น พร้อมเจาะลึกประโยชน์และความปลอดภัยของวัคซีน เพื่อให้คุณแม่มีความมั่นใจและสามารถปกป้องลูกน้อยได้ทันเวลา 

เชื้อไวรัส RSV คืออะไร? 

เชื้อไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus คือ ไวรัสที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะทางเดินหายใจส่วนล่างบริเวณปอดและหลอดลมฝอย3

โดยเชื้อไวรัส RSV เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือนที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์และมีทางเดินหายใจขนาดเล็ก3,4 ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดลมฝอยอักเสบ ปอดอักเสบ และอาจนำไปสู่ภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวจนถึงขั้นเสียชีวิต5 

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส RSV ในประเทศไทยมักเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยเชื้อไวรัสที่ระบาดมี 2 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ RSV-A และ RSV-B ซึ่งมีสัดส่วนการระบาดที่ใกล้เคียงกันและมีความรุนแรงไม่แตกต่างกัน6,7

เชื้อไวรัส RSV สามารถติดต่อกันได้ง่ายและรวดเร็วผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจของผู้ติดเชื้อ เช่น น้ำมูก น้ำลาย รวมถึงการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น ของเล่น ลูกบิดประตู หรือโต๊ะ8 

ด้วยความรุนแรงของเชื้อไวรัส RSV ที่เกิดขึ้นในทารกและเด็กเล็ก การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่ก่อนคลอดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ทารกแรกเกิดปลอดภัยจากเชื้อไวรัส RSV ตั้งแต่ลมหายใจแรก2 

ทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ถึงควรรับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV? 

เนื่องจากปัจจุบันการติดเชื้อไวรัส RSV ยังไม่มียารักษาโดยตรง8 การเสริมสร้างเกราะป้องกันให้ลูกตั้งแต่ก่อนคลอดด้วยการรับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ขณะตั้งครรภ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดอาการรุนแรงให้กับลูกน้อยได้ตั้งแต่ลมหายใจแรก2  

โดยวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ที่แนะนำให้ใช้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ได้แก่ วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ชนิด bivalent RSVpreF หรือเรียกง่ายๆ ว่า วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ชนิด 2 สายพันธุ์2 

แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รับวัคซีนชนิดนี้ในช่วงอายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันและส่งผ่านภูมิคุ้มกันทางรกไปยังทารกในครรภ์ ช่วยให้ทารกมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่แรกเกิดและได้รับการปกป้องจากเชื้อไวรัส RSV ได้นานถึง 6 เดือนแรกของชีวิต2 

วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ที่ใช้ในประเทศไทยมีกี่ชนิด? 

ปัจจุบันวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและใช้ในประเทศไทยมีด้วยกัน 2 ชนิด2 ดังนี้ 

  • วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ชนิด 2 สายพันธุ์ ประกอบไปด้วยสายพันธุ์ A และ B สามารถใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์ และผู้ใหญ่อายุ 18 ขึ้นไป9  
  • วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ชนิด 1 สายพันธุ์ ประกอบด้วยสายพันธุ์ A เพียงชนิดเดียวและมีสารกระตุ้นภูมิ สามารถใช้ได้ในผู้ใหญ่อายุ 50-59 ปีที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงตั้งครรภ์2,12 

วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ในคุณแม่ตั้งครรภ์มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน? 

หลังจากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ในช่วงอายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์ วัคซีนจะส่งผ่านภูมิคุ้มกันทางรกไปยังทารกในครรภ์และช่วยป้องกันให้เด็กปลอดภัยจากเชื้อไวรัส RSV ได้ตั้งแต่ลมหายใจแรกจนถึง 6 เดือนแรกของชีวิต2

โดยข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์จะช่วยลดความเสี่ยงการป่วยรุนแรงในเด็กทารกจากเชื้อไวรัส RSV ได้ถึง 81.8% ในช่วง 90 วันแรกหลังคลอด และยังคงมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 69.4% ในช่วง 180 วันแรกหลังคลอด ส่วนด้านการลดการติดเชื้อไวรัส RSV ที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลพบว่าลดได้ 57.1% ในช่วง 90 วันแรก และ 51.3% ในช่วง 180 วันแรก2 

ดังนั้นการที่คุณแม่ตั้งครรภ์รับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็จะช่วยปกป้องลูกน้อยและลดโอกาสป่วยหนักจากเชื้อไวรัส RSV ได้ถึง 80% ในช่วง 3 เดือนแรก และยังคงได้รับการปกป้องต่อเนื่องไปถึง 6 เดือนหลังคลอด2 

วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ไหม? 

ปัจจุบันวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับอนุญาตให้ใช้แล้วมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนแล้วพบว่า วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น การคลอดก่อนกำหนด รวมถึงไม่พบผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์10 

นอกจากนี้ ข้อมูลจากการใช้จริงของวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ยังพบว่าผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมีอัตราต่ำมาก โดยส่วนใหญ่เป็นอาการที่ไม่รุนแรง เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ และมีผื่นแดงบริเวณที่ฉีด11 

อย่างไรก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีนทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าการรับวัคซีนเหมาะสมและปลอดภัยกับสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ 

วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV มีผลข้างเคียงในคุณแม่ตั้งครรภ์ไหม? 

หลังจากคุณแม่ตั้งครรภ์รับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ชนิด 2 สายพันธุ์ อาจเกิดผลข้างเคียงได้เล็กน้อย โดยผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ หรือปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายได้เองภายใน 2-3 วัน2 

เช่นเดียวกับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ชนิด 1 สายพันธุ์ ที่มักมีผลข้างเคียงคล้ายคลึงกัน ได้แก่ ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดข้อ แต่ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV ชนิด 1 สายพันธุ์ ไม่สามารถใช้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยเพียงพอในกลุ่มนี้12 

วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ถือเป็นอีกหนึ่งเกราะป้องกันสำคัญที่ช่วยปกป้องลูกน้อยจากเชื้อไวรัส RSV ได้ตั้งแต่ลมหายใจแรก2 ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์อย่าลืมปรึกษาแพทย์เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้กับลูกน้อยให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส RSV 

 

PP-A1G-THA-0309  

บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด   

1 อาคารพาร์ค สีลม ชั้น 27 ห้อง 2701-2704 และ 2707-2708 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 โทรศัพท์ 02-761-4555

*โปรดปรึกษาแพทย์/เภสัชกรเพิ่มเติมหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคหรือการใช้ยา

Scroll to Top