วัคซีนเป็นเกราะป้องกันให้ร่างกายลูกแข็งแรงขึ้น นอกจากวัคซีนพื้นฐานที่เด็ก ๆ ได้รับอยู่แล้ว ยังมีวัคซีนเสริมหรือวัคซีนทางเลือกที่ผู้ปกครองสามารถให้ลูกได้รับเพิ่มเติมได้ แล้ววัคซีนเสริมจำเป็นกับเด็กเล็กวัย 1–3 ขวบไหม? ฉีดแล้วซ้ำซ้อนหรือเปล่า? บทความนี้มีคำตอบมาฝาก
สารบัญ
วัคซีนเสริมเด็ก คืออะไร แตกต่างยังไงกับวัคซีนพื้นฐาน
วัคซีนพื้นฐาน หรือวัคซีนหลัก (Compulsory vaccines) เป็นวัคซีนที่กำหนดมาแล้วว่าเด็ก ๆ ทุกคนควรฉีดตามแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันโรคที่สำคัญและเป็นปัญหาสาธารณสุขในประเทศไทย
ส่วนวัคซีนเสริมเด็ก หรือวัคซีนทางเลือก (Optional vaccines) เป็นวัคซีนที่ผู้ปกครองตัดสินใจเลือกให้ลูกฉีดเพิ่มเติมนอกเหนือจากวัคซีนพื้นฐานตามแผนของกระทรวงสาธารณสุข เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนตับอักเสบเอ วัคซีนอีสุกอีใส และวัคซีนไอพีดี (IPD) เป็นต้น
ถ้าลูกไม่ฉีดวัคซีนเสริมได้ไหม
วัคซีนเสริมเด็กเป็นทางเลือกสำหรับผู้ปกครองที่อยากเสริมความแข็งแกร่งให้ลูกน้อย ถ้าไม่ฉีด ก็ไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่การฉีดวัคซีนเสริมจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่วัคซีนพื้นฐานไม่ครอบคลุม หรือป้องกันโรคที่มีความเสี่ยงสูงในบางพื้นที่
อีกทั้งวัคซีนเสริมหลายชนิดมีการพัฒนาให้มีผลข้างเคียงลดลง จึงอาจใช้ฉีดแทนวัคซีนป้องกันโรคพื้นฐานบางตัวได้ด้วย เช่น วัคซีนรวม DTP ชนิดไร้เซลล์ (DTaP) ซึ่งใช้ป้องกันโรคคอตีบ–บาดทะยัก–ไอกรน มีผลข้างเคียงน้อยกว่าวัคซีนรวม DTP ชนิดทั้งเซลล์ (DTwP)
วัคซีนเสริมเด็ก 1–3 ปี มีอะไรบ้าง ฉีดแบบไหน ฉีดกี่เข็ม
- วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ เจ อี ชนิดเชื้อตาย ฉีด 3 เข็ม เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน เข็มถัดไปฉีดห่าง 1–4 สัปดาห์ และ 1 ปี ตามลำดับ
- วัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก หรือวัคซีน EV71 (Enterovirus Type 71 Vaccine) เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ไปจนถึงอายุไม่เกิน 6 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน
- วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ เอ ชนิดเชื้อตาย ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6–12 เดือน หากเป็นเชื้อเป็น ฉีด 1 เข็ม เมื่ออายุ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป
- วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป เข็มแรกแนะนำให้ฉีดในช่วงอายุ 1 ปี–1 ปี 6 เดือน และเข็มที่ 2 ฉีดห่างกัน 1–3 เดือน ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ
- วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด–คางทูม–หัดเยอรมัน–อีสุกอีใส (MMRV) เป็นวัคซีนเข็มรวมที่ทดแทนการฉีดวัคซีนรวมโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน กับวัคซีนอีสุกอีใส แบบเข็มแยก ฉีดได้ในเด็กอายุ 1–12 ปี
- วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ฉีดปีละ 1 ครั้ง ในช่วงก่อนเข้าสู่หน้าฝนหรือหน้าหนาว เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ควรได้รับ 2 เข็ม ห่างกัน 1–2 เดือน
- วัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส หรือวัคซีนไอพีดี เด็กเล็กจะมีวัคซีน 2 ชนิด ตามจำนวนสายพันธุ์ของเชื้อ ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์–5 ปี ฉีดทั้งหมด 1–4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับช่วงอายุที่เริ่มฉีด
วัคซีนเสริมเด็กมีผลข้างเคียงไหม ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีนอย่างไร
การฉีดวัคซีนเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยหลังฉีด แต่อาการจะหายได้เองภายใน 1–3 วัน เช่น อาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีดวัคซีน มีไข้ อ่อนเพลีย และปวดศีรษะ
หลังฉีดวัคซีนควรรอดูอาการลูกที่สถานพยาบาล ประมาณ 30 นาที เมื่อกลับบ้านแล้ว สามารถดูแลลูกตามอาการ เช่น หากมีอาการปวดบวมให้ประคบเย็น มีไข้สูงให้เช็ดตัวลดไข้ และรับประทานยาลดไข้
อย่างไรก็ตาม หากพบอาการแพ้รุนแรง โดยเฉพาะอาการต่อไปนี้ ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที
- มีไข้สูง
- หายใจลำบาก หายใจมีเสียงวี้ด
- เกิดผื่นลมพิษ
- ใบหน้า ปาก มือ หรือเท้ามีอาการบวม
- มีอาการผิดปกติทางสมอง เช่น ซึม อ่อนแรง หรือชัก
- หมดสติ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลทันที
การฉีดวัคซีนเสริมให้เด็ก ๆ เป็นการเสริมความแข็งแกร่งต่อโรคต่าง ๆ เพิ่มเติม หากไม่ฉีด ก็ไม่ก่ออันตรายต่อร่างกาย จึงเหมาะสำหรับเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือมีความจำเป็น คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษากับแพทย์ก่อนได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อย
สนใจ แพ็กเกจฉีดวัคซีนเด็ก พร้อมเปรียบเทียบราคาจากคลินิก และรพ. ใกล้บ้าน รวบรวมมาไว้ให้แล้วที่ HDmall.co.th จองราคาพิเศษได้ก่อนใคร