การรับประทานอาหารไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพ แต่ยังสามารถส่งผลกระทบต่อกลิ่นตัวได้เพราะอาหารบางชนิดอาจทำให้ร่างกายผลิตกลิ่นไม่พึงประสงค์จากการย่อยและดูดซึมสารต่างๆ บทความนี้เราจะพาไปดูว่าอาหารอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นตัวพร้อมวิธีแก้ปัญหากลิ่นตัวที่ทำได้ง่ายๆ เห็นผลจริง
สารบัญ
สาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวมีอะไรบ้าง?
กลิ่นตัวเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทั้งภายในร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งสาเหตุหลักๆ จะมี ดังนี้
- เมื่อเหงื่อสัมผัสกับแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังก็ส่งทำให้เกิดกลิ่นตัวได้
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
- อาหารหรือครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะกระตุ้นการผลิตเหงื่อมากทำให้เกิดกลิ่น
- หากไม่อาบน้ำหรือทำความสะอาดร่างกาย จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรีย ซึ่งสามารถทำให้เกิดกลิ่นตัว
- การใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศจะทำให้เหงื่อจับอยู่ที่ผิวหนังและไม่ระเหยออกส่งผลทำให้กลิ่นเกิดตัวขึ้นได้
- โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน, โรคไตหรือการมีความผิดปกติในระบบเผาผลาญ
- ยาบางประเภทยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยาที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้กลิ่นตัวเปลี่ยนไป
6 อาหารที่กินแล้วทำให้มีกลิ่นตัว
1. กระเทียม: กระเทียมจะมีสารซัลเฟอร์ ซึ่งเมื่อร่างกายย่อยสลายมันจะปล่อยกลิ่นแรงที่สามารถออกมาทางเหงื่อและลมหายใจ ทำให้มีกลิ่นตัวที่ค่อนข้างชัดเจน
2. หัวหอม: หัวหอมจะมีสารซัลเฟอร์เช่นเดียวกับกระเทียม ซึ่งเมื่อย่อยสลายจะปล่อยกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาทางเหงื่อและลมหายใจ
3. เนื้อแดง: เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เป็นโปรตีนที่ย่อยยาก และการย่อยโปรตีนในเนื้อแดงสามารถสร้างสารประกอบที่มีกลิ่นแรงออกมา ซึ่งส่งผลทำให้เกิดกลิ่นตัวได้
4. อาหารรสจัด: การรับประทานรสจัดที่มีส่วนประกอบอย่างพริกหรือขิง จะกระตุ้นต่อมเหงื่อทำให้เหงื่อออกมากขึ้น ซึ่งทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ค่อยดื่มน้ำหรือร่างกายระบายความร้อนไม่ดี
5. อาหารที่มีโปรตีนสูง: อาหารที่มีโปรตีนสูงอย่าง เนื้อสัตว์, ไข่หรือผลิตภัณฑ์จากนม ก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ เพราะโปรตีนสูงสามารถส่งผลให้เกิดการหมักหรือการย่อยที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากการย่อยโปรตีนในร่างกาย
6. แอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์สามารถกระตุ้นการผลิตเหงื่อและทำให้เหงื่อมีลักษณะออกมาเป็นกลิ่นที่แปลกจากเหงื่อธรรมดา บางครั้งอาจมีความกลิ่นเหมือนแอลกอฮอล์ติดอยู่ในร่างกาย
วิธีแก้ปัญหากลิ่นตัว ลดเหงื่อ แบบเห็นผลจริง
- รักษาความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ: การอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 2-3 ครั้ง จะช่วยลดการสะสมของเหงื่อและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวได้
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด: ควรหลีกเลี่ยงการกินลดอาหารรสเผ็ดและเครื่องเทศ เช่น พริก, ขิง, หอม, กระเทียม เป็นต้น ซึ่งอาหารเหล่านี้สามารถกระตุ้นการผลิตเหงื่อ ทำให้กลิ่นตัวรุนแรงขึ้นได้
- เลือกกินอาหารที่ไม่ทำให้เกิดกลิ่นตัว: เลือกกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมไปด้วยวิตามิน C, A และ E เช่น ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว (ส้ม, กีวี) หรือผักใบเขียว จะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลและลดกลิ่นตัว และสมุนไพรบางชนิด เช่น ใบสะระแหน่, มะกรูด, หรือชาดำ ช่วยลดกลิ่นตัวได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัว: การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารระงับเหงื่อ เช่น อลูมิเนียมคลอไรด์ จะช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัวได้ดีและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย
- ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ลดกลิ่นตัว: การฉีดโบท็อกซ์ที่รักแร้สามารถลดเหงื่อที่ออกมาจากต่อมเหงื่อได้โดยการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการหลั่งเหงื่อ ซึ่งวิธีนี้เห็นผลรวดเร็วและอาจช่วยให้กลิ่นตัวลดลงได้มาก การฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่บางคนอาจมีผลข้างเคียงจากการฉีด เช่น รู้สึกระคายเคืองที่บริเวณที่ฉีด
บอกลากลิ่นตัวเหม็น! ด้วยโปรแกรมโบท็อกซ์รักแร้ที่จะช่วยลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ให้คุณมั่นใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง จองผ่าน HDmall.co.th พร้อมรับโปรโมชั่นส่วนลดราคาพิเศษและบริการเช็กคิวทำนัด ฟรี คลิกเลย!