Default fallback image

ใครว่าคนอายุน้อยไม่เป็นสมองเสื่อม เช็กด่วนสัญญาณเสื่อมก่อนวัย!

ภาวะสมองเสื่อมพบบ่อยในคนสูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป แต่คนอายุน้อยกว่านั้นก็เป็นสมองเสื่อมได้ จากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะปัญหาสุขภาพ พันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนสมอง 

แล้วสมองเสื่อมในคนอายุน้อยมีสัญญาณเตือนอะไรบ้าง สังเกตได้ยังไง ถ้าไปตรวจจะเจอไหม รักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ หายหรือเปล่า ไปดูกัน!     

สมองเสื่อมคืออะไร ช่วงวัยไหนสมองเสื่อมได้บ้าง 

ภาวะสมองเสื่อม หรือโรคสมองเสื่อม (Dementia) เป็นคำกว้าง ๆ เรียกกลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานของสมองเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สูญเสียความทรงจำ การคิด การตัดสินใจ การรับรู้ การพูด รวมถึงบุคลิกภาพ พฤติกรรม และอารมณ์ จนกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ประจำวัน

สาเหตุที่ทำให้สมองเสื่อมมาจากความผิดปกติของเซลล์สมองที่ฝ่อลง เซลล์สมองถูกทำลาย หรือสูญเสียเซลล์สมองไป ทำให้สมองเริ่มลดประสิทธิภาพการทำงานลงเรื่อย ๆ โดยมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งอายุที่มากขึ้น หรือเกิดจากปัจจัยทางสุขภาพอื่น ๆ

โดยปกติ ภาวะสมองเสื่อมมักเกิดกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะช่วงอายุ 65 ปีขึ้นไป ยิ่งอายุมาก ความเสี่ยงของโรคยิ่งสูงขึ้น แต่ก็เกิดกับคนอายุน้อยได้เช่นกัน พบได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 14–65 ปี หรือเรียกว่า ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย (Younger onset dementia) 

สาเหตุของสมองเสื่อมก่อนวัย 

ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยพบได้มากถึง 8% จากผู้ป่วยสมองเสื่อมทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงาน สาเหตุและปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะสมองเสื่อมในคนอายุน้อย แทบไม่ต่างกับสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ เช่น

  • โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นชนิดของโรคสมองเสื่อมที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเซลล์สมองบางส่วนตายไป มีผลให้การส่งสารสื่อประสาทลดลง ผู้ป่วยจะสูญเสียความทรงจำและการเรียนรู้ อาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป
  • เส้นเลือดในสมองผิดปกติ (Vascular dementia) มักเกิดกับคนที่มีโรคเกี่ยวข้องกับเส้นเลือด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบตัน ส่งผลให้สมองส่วนความคิดและความจำสูญเสียไป
  • โรคทางสมอง เช่น สมองส่วนหน้าเสื่อม (Frontotemporal dementia) สมองเสื่อมจากลิววีบอดี (Dementia with Lewy bodies: DLBD) และโรคโพรงน้ำในสมองโต
  • พันธุกรรม คนในครอบครัวมีประวัติสมองเสื่อมตอนอายุน้อย ๆ  จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้มากกว่าคนทั่วไป
  • การติดเชื้อที่สมอง เช่น เชื้อเอชไอวี เชื้อซิฟิลิส หรือเชื้อโควิด–19 
  • อุบัติเหตุหรือการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ มีเลือดออกในสมองมาก่อน เนื้องอกในสมอง 
  • การขาดวิตามินบางตัว เช่น วิตามินบี 1, 6, หรือ 12 วิตามินอี วิตามินดี และโฟเลต หากขาดเป็นเวลานานอาจทำให้เซลล์สมองเสื่อม
  • การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ แอลกอฮอล์จะไปยับยั้งการดูดซึมของวิตามินบี 12 หากดื่มเป็นระยะเวลานานหรือดื่มปริมาณมากอาจทำลายสมองส่วนต่าง ๆ ได้
  • การสูบบุหรี่ เป็นปัจจัยเสี่ยงของภาวะหลอดเลือดสมองตีบ
  • ฮอร์โมนผิดปกติ เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำผิดปกติ
  • ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางประเภท โดยเฉพาะยาที่มีผลกระทบต่อความทรงจำ เช่น ยานอนหลับ ยาลดการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ  

สังเกตก่อนสาย สัญญาณสมองเสื่อมก่อนวัย

เช่นเดียวกันกับสาเหตุ ผู้ป่วยสมองเสื่อมในคนอายุน้อยและคนสูงอายุมักมีอาการคล้ายกัน ทั้งด้านความจำ การตัดสินใจ การใช้ภาษา การรับรู้ การจดจ่อ พฤติกรรม และอารมณ์ 

โดยสัญญาณสมองเสื่อมก่อนวัยในระยะเริ่มแรกอาจสังเกตได้จากอาการต่อไปนี้

  • มีปัญหาความทรงจำในระยะสั้น เช่น ลืมว่าวางของไว้ที่ไหน ลืมสิ่งที่ต้องทำในชีวิตประจำวัน ลืมนัดหมายสำคัญ
  • พูดไม่รู้เรื่อง ติดขัด ต้องหยุดพูดกลางคันเพื่อคิดคำพูด เลือกคำไม่ถูก เรียงลำดับคำผิด 
  • สับสนเวลา วันที่ สถานที่ จำหน้าคนที่เพิ่งเจอกันไม่ค่อยได้
  • อารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว เศร้าซึม ฉุนเฉียวง่าย วิตกกังวลมากขึ้น
  • ไม่สนใจกิจกรรมหรือสิ่งที่เคยชอบทำ ไม่อยากออกไปข้างนอก พบปะเพื่อนฝูงหรือครอบครัว
  • พฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ ทวนคำตอบ ถามคำถามหรือเล่าเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีสมาธิ
  • การตัดสินใจแย่ลงหรือไม่ดีเหมือนเก่า ใช้เวลานานกว่าจะตัดสินใจได้ กลัวการเรียนรู้หรือเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ

บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยมักไม่ทันสังเกตสัญญาณสมองเสื่อมที่เกิดขึ้น อีกทั้งอาการอาจคล้ายกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่มักพบบ่อยในหมู่วัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า โรคเครียด โรคทางจิตเวช โรคหลอดเลือด หรือโรคสมองต่าง ๆ

หากมีอาการเข้าข่าย อาการที่เกิดขึ้นกระทบต่อการใช้ชีวิต หรือคนรอบข้างสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติไปของผู้ป่วย จึงควรเข้ารับการประเมินและวินิจฉัยจากแพทย์อย่างละเอียด 

ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยตรวจได้อย่างไร

เริ่มต้นจากแพทย์จะซักประวัติสุขภาพ ประเมินความรุนแรงของอาการและระยะเวลาที่เกิด ตรวจร่างกาย รวมถึงต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากญาติหรือคนใกล้ตัวผู้ป่วยประกอบการวินิจฉัย 

เนื่องจากสมองเสื่อมเกิดได้จากหลายสาเหตุ แพทย์ต้องอาศัยการตรวจหลากหลายวิธี เพื่อช่วยให้วินิจฉัยได้ชัดเจนขึ้น และตัดความเป็นไปได้ของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่คล้ายกัน เช่น 

  • การทำแบบทดสอบ เพื่อประเมินภาวะสมองเสื่อม และแบบประเมินภาวะทางอารมณ์และจิตใจ เช่น แบบประเมิน Mini-Mental State Examination (MMSE) แบบประเมิน Montreal Cognitive Assessment (MoCA) หรือแบบประเมิน Thai Mental State Examination (TMSE)
  • การตรวจเลือด และการตรวจทางห้องปฏิบัติ เช่น การวัดระดับวิตามินหรือฮอร์โมนในร่างกาย ดูการทำงานของต่อมไทรอยด์ ตับ หรือไต การตรวจทางพันธุกรรม การเจาะน้ำไขสันหลังกรณีเข้าข่ายการติดเชื้อที่สมองต่าง ๆ 
  • การสแกนสมองด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อหาความผิดปกติในสมอง เช่น การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Scan) การตรวจ PET Scan หรือการตรวจคลื่นไฟฟ้า (EEG) 

ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยรักษาหายหรือเปล่า

การรักษาภาวะสมองเสื่อมจะแตกต่างกันไปตามแต่ละสาเหตุ บางสาเหตุรักษาได้ หากรักษาได้ทันท่วงทีก็ยิ่งเพิ่มโอกาสกลับมาเป็นปกติ เพราะถ้ารักษาช้า สมองถูกทำลายไม่มาก อาจเกิดความทุพพลภาพได้ แต่บางสาเหตุรักษาไม่ได้ ทำได้เพียงชะลออาการ 

ภาวะสมองเสื่อมที่เกิดจากโรคหรือภาวะที่รักษาให้หายขาดได้ แพทย์จะเน้นรักษาต้นเหตุเป็นหลัก เช่น เนื้องอกในสมอง การขาดสารอาหาร โรคหลอดเลือดสมอง ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โรคติดเชื้อในสมอง หรือผลข้างเคียงจาการใช้ยา

ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยควรดูแลสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยง หรือควบคุมโรคต้นเหตุตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก กินอาหารที่มีประโยชน์ งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา

ภาวะสมองเสื่อมกลุ่มที่รักษาไม่ได้ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็งสมองระยะลุกลาม หรือโรคสมองเสื่อมชนิดอื่น ไม่สามารถหยุดกระบวนการเสื่อมของสมองได้ จะรักษาแบบประคับประคองอาการด้วยการใช้ยา 

นอกจากนี้ แพทย์อาจให้เข้ารับการบำบัด หรือฝึกกระตุ้นสมองจากกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และการรับมือให้กับญาติที่เข้ามาดูแลผู้ป่วยด้วย

สมองเสื่อมไม่เพียงพบได้ในคนสูงอายุ แต่ในคนอายุน้อยก็พบได้เช่นกัน โดยเฉพาะในหมู่วัยทำงานที่อาจหลงคิดว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นมาจากความเครียด ซึมเศร้า และไม่ดูแลตัวเองให้ดี  

หากเริ่มมีปัญหาด้านความจำ การคิด การพูด พฤติกรรมและอารมณ์เปลี่ยนเร็ว หรือมีปัญหาในการทำงาน ไม่มีสมาธิจดจ่อ จนคนรอบข้างสังเกตได้ นี่อาจเป็นเวลาที่ควรไปปรึกษาแพทย์บ้างแล้ว

จะพูดอะไรนึกไม่ออก เมื่อกี้วางของไว้ตรงไหนก็จำไม่ได้ ถ้ามีอาการแบบนี้บ่อย ๆ อย่ารอช้า รีบหา แพ็กเกจตรวจสมอง ก่อนจะสาย ที่ HDmall.co.th โปรดี มีส่วนลดครบ!

Scroll to Top